Me and Myself : ขอให้รักจงเจริญ
ยังจำความประทับใจในหนังเรื่อง Me&Myself ของพงษ์พัฒน์ได้อย่างแม่นยำ หลังจากที่พระเอกรู้ว่า จริงๆแล้วตัวเองเป็นกระเทย และไม่อยากจะให้นางเอก อายชาวบ้าน ที่เป็น เมียกระเทย พระเอกจึงตัดสินใจกลับภูเก็ต โดยที่นางเอกก็ไม่ได้สนใจใยดีที่จะรั้งเอาไว้ อาจจะด้วยทั้งคู่ยังสับสนว่าจะอยู่กันในสถานะไหนดี อีกทั้งสังคมรอบตัวจะว่างอย่างไร โดยเฉพาะนางเอก ที่จะต้องรับว่าแฟนตัวเองเป็นกระเทย ยอมรับว่า ตัวผมเองในขณะที่ดู ก็พยายามคิดว่าหนังจะหาคำตอบให้เรื่องนี้อย่างไร ด้วยตัวผมเองก็รู้สึกจนใน ปัญญา ที่จะหาทางออกให้กับหนังจริงๆ แต่สุดท้าย คนทำหนังเรื่องนี้ก็หาทางออกและคำตอบที่แยบยลให้กับหนังเรื่องนี้ เป็นคำตอบที่ไม่จำเป็นต้องใช้ สมองตอบ แต่ใช่ หัวใจ ล้วนๆ และเป็นที่มาของสิบห้านาทีสุดท้ายของหนัง ที่ทำให้หนังเรื่องนี้เปลี่ยนจากเกรดบีขึ้นมาเป็นหนังเกรดเอแล้วมานั่งอยู่ในทำเนียบหนังในหัวใจผมได้
หนังเริ่มตอบด้วยการที่ให้ หลานชาย ของนางเอก ที่นางเอกรักมาก แต่งหน้าด้วยลิปสติกเลอะๆเทอะๆ (แบบเด็กแต่ง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความไร้เดียงสาของเด็ก) แล้วเดินออกมาบอกว่า จะไปอยู่กับพระเอก นางเอกก็ตอบกลับว่าไปไม่ได้ เจ้า หลานชาย ก็ถามกลับไปว่า ทำไม่ไม่ได้ล่ะครับ หรือเพราะน้าแทนเป็นกระเทย โตขึ้นถ้าผมเป็นอย่างน้าแทน น้าอุ้มจะยังรักผมไหม
ยอมรับครับคำตอบนี้ได้ไปสะกิดต่อมน้ำตาของผมให้แตกแล้วก็เริ่มสะกิดต่อม หัวใจ ผมให้ทำงานมากกว่า สมอง ความรัก มันมีรูปร่างเป็นอย่างไรผมไม่อาจจะมองเห็นหรือจับต้องได้ได้ แต่ขณะนั้น ผมรู้สึกได้ครับ หากคนเรา รัก ใครสักคน ไม่ว่าจะเป็น ความรัก พ่อแม่ น้าหลาน พี่น้อง ชายหญิง ชายชาย หญิงหญิง หรือใดๆก็ตาม หากเรา รักจริง ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร เราจะเลิกรักเขาหรือครับ ผมว่า วินาที ที่คำตอบนี้ออกมาจากปากหลานชาย กำแพงทางความคิด ที่นางเอกสร้างไว้กั้นตัวเองจากความรักให้พระเอกมันได้ถูกทำลายลง
นางเอกจึงเดินทางไปหาพระเอก พร้อมกับคำถามเดียวในใจ และเป็นคำถามเดียวที่นางเอกถามพระเอก เพื่อต้องการจะรู้ โดยไม่สนคำตอบอื่นที่ไม่ตรงกับคำถาม แทนยังรักอุ้มอยู่ไหม แม้พระเอกจะตอบคำถามด้วย คำตอบที่พระเอกคอยตอกย้ำตัวเองอยู่ตลอดเช่น มันจะเป็นไปได้หรือครับ ก็ผมเป็นอย่างนี้แล้ว โลกนี้ไม่ได้มีเราอยู่เพียงสองคน แต่คำถามของนางเอกก็ยังเป็นเหมือนเดิมคือ รักไหม
แค่นั้นแหละครับ จริงๆ วินาทีนั้นผมก็คิดว่า มนุษย์เราจะไปคิดอะไรให้ยุ่งยากมากมาย คำว่า เราเข้ากันไม่ได้ มันเป็นคำตอบสำหรับ คำถามเพื่อสถานะทางสังคมในอนาคตระหว่างกัน ส่วนคำถามของสถานะทางหัวใจก็คือ เรายังรักกันไหม
บางทีก็อาจจะดีนะครับ ถ้าเราจะลองพยายามที่จะไม่แคร์สถานะทางสังคมบ้าง ถ้าหากสถานะทางสังคมมันจะทำให้สถานะทางหัวใจเราย่ำแย่
รักจริง มันไม่มีข้อแม้หรอกครับ
Create Date : 12 ตุลาคม 2550 |
Last Update : 12 ตุลาคม 2550 9:46:13 น. |
|
4 comments
|
Counter : 516 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Ayodia IP: 137.132.3.7 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:10:14:25 น. |
|
|
|
โดย: Sth Sweet IP: 58.9.29.248 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:10:34:14 น. |
|
|
|
โดย: เจ้ลี่ IP: 203.121.175.111 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:15:50:18 น. |
|
|
|
โดย: challot IP: 203.156.81.81 วันที่: 12 ตุลาคม 2550 เวลา:17:18:39 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ขอสงวนลิขสิทธิ์ งานเขียน/ภาพ/รูปถ่าย/ข้อความ/ผลงานเพลง ทุกชนิดในบล๊อก ตามพระราชบัญญัติ ลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ห้ามคัดลอก เผยแพร่ หรือดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาต
ยกเว้น งานเขียน/ภาพ/รูปถ่าย/ข้อความ/ผลงานเพลง ที่อ้างอิงแหล่งที่มา ที่ไม่ใช่โดยผู้ใช้นามแฝง BobJims (เจ้าของบล็อก)
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|