The Hospital เกมชีวิต..ลิขิตหัวใจ 4 ทุ่มครึ่ง ทุกวันศุกร์ ช่อง 3
Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2550
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
6 พฤษภาคม 2550
 
All Blogs
 
☆Fast-5☆




59.7






ปีที่แล้วน้ำหนักเพิ่งจะ 53 kg. เอง
ขึ้นมา 7 โล .. จิตตกเลย
ทนไม่ได้ ต้องลดแล้ว เฮ้อ กว่าจะคิดได้





รีบไปทำงาน กลับมาเข้าคลับลดความอ้วนเลย
ไม่ได้เข้านานแล้ว (คิดว่าตัวเองผอม)
เจอสูตรนี้อ่ะ







The Fast-5 Diet and the Fast-5 Lifestyle


The Fast-5 Diet (ฟาสต์ไฟว์) และ The Fast-5 Lifestyle (วิถีชีวิตแบบฟาสต์ไฟว์) คือวิธีลดและควบคุมน้ำหนักทางเลือกใหม่ที่ทำได้ง่าย สามารถทำได้ไปตลอดชีวิต ฟาสต์ไฟว์ไม่มีการจำกัดปริมาณและประเภทของอาหาร ไม่มีการนับแคลอรี ไม่ต้องใช้ยา ไม่ต้องกินอาหารสูตรพิเศษ ไม่ต้องเสียเงินค่าสมาชิก ไม่ต้องเสียเงินซื้อหนังสือ ทุกอย่างอยู่ที่เวลา ทุกอย่างอยู่ที่ตัวคุณเอง อยู่ที่การปล่อยให้ร่างกายของคุณตอบสนองต่ออาหารในแบบที่มันควรจะเป็นตามธรรมชาติ

ฟาสต์ไฟว์ไม่ใช่วิธีอดอาหารเพื่อการลดน้ำหนัก เป็นคนละเรื่องกันโดยสิ้นเชิง ฟาสต์ไฟว์เพียงแค่ขยายช่วงเวลาอดอาหารประจำวันของเราทุกคน นั่นก็คือเวลานอนหลับนั่นเอง พร้อมทั้งขยายช่วงเวลาระหว่างมื้ออาหารออกไปแล้วให้เราไปกินอาหารแค่ภายในช่วงใดช่วงหนึ่งของวันเท่านั้น

ฟาสต์ไฟว์ไม่ใช่สูตรอดอาหารเร่งลัดเพื่อการลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน ดังนั้นฟาสต์ไฟว์คงไม่สามารถช่วยให้ใครสามารถลดน้ำหนัก 1 - 10 กิโลกรัมได้ภายในระยะเวลาอันสั้น แต่ฟาสต์ไฟว์เป็นโครงการลดและควบคุมน้ำหนักในระยะยาว ฟาสต์ไฟว์ต้องการเวลา ไม่สามารถทำๆ หยุดๆ คุณต้องทำฟาสต์ไฟว์จนเป็นวิถีชีวิต จึงจะได้ผล

แต่ฟาสต์ไฟว์คือวิธีลดและควบคุมน้ำหนักโดยใช้วิธีธรรมชาติ เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุด้วยการสร้างความสมดุลย์ในการใช้พลังงานของร่างกาย ฟาสต์ไฟว์ช่วยให้คุณกินอาหารน้อยพร้อมกับนำพลังงานสะสมในรูปไขมันมาใช้ ทำให้พลังงานที่รับเข้าไปจากอาหารสมดุลย์กับพลังงานที่ร่างกายนำออกมาใช้เพื่อการดำรงชีวิตประจำวัน เมื่อระบบนี้เกิดความสมดุลย์เราก็จะไม่อ้วน


วิธีปฏิบัติ


ภายใน 1 วันที่มี 24 ชั่วโมง ให้คุณเลือกช่วงกิน (Eating Window) จำนวน 5 ชั่วโมงตรงส่วนไหนก็ได้ของวันที่เหมาะสมสอดคล้องกับวิถีชีวิตของคุณ เช่น 6.00 – 11.00, 9.00 – 14.00, 15.00 – 20.00, 17.00 – 22.00 และที่เหลืออีก 19 ชั่วโมงของวันเรียกว่าช่วงอด (Fasting Period) ตัวอย่างช่วงกินที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนทั่วไปก็เช่น 17.00 – 22.00 เพราะเป็นเวลาเลิกงาน

ในช่วงกิน 5 ชั่วโมงเป็นช่วงกินอาหารประจำวัน คุณสามารถกินอะไรก็ได้ที่ต้องการจนอิ่มเต็มที่ ไม่มีการนับแคลอรี ไม่มีการจำกัดประเภทของอาหาร กินกี่ครั้งก็ได้ แนะนำให้เลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เพื่อประโยชน์สูงสุดทั้งต่อการลดน้ำหนักและกับสุขภาพ แต่ห้ามตั้งใจกินมากเกินไปแบบผิดธรรมชาติจนจุกเสียดแน่นท้องไม่สบายตัว รวมทั้งห้ามจงใจกินน้อยเกินไป เพราะจะเป็นอันตรายต่อร่างกายและจิตใจ ทุกอย่างต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความสมดุลย์

ในช่วงอด 19 ชั่วโมง (รวมเวลานอนหลับด้วย) ที่เหลือเป็นช่วงอดประจำวัน โดยให้คุณดื่มได้แค่น้ำเปล่าและเครื่องดื่มอื่นๆ ที่ไม่มีแคลอรีเช่น น้ำเปล่า กาแฟดำ ชาเปล่า เครื่องดื่มที่ใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลที่ไม่มีแคลอรี (non-nutritive sweeteners) ช่วงอด 19 ชั่วโมงคือกฎเพียงข้อเดียวของฟาสต์ไฟว์ที่มีความสำคัญที่สุด คุณต้องอดแบบ “ศูนย์แคลอรี” ให้ได้จริงๆ ตลอด 19 ชั่วโมง มิฉะนั้นจะไม่ได้ผล

ถ้าคุณนึกไม่ออกว่าในทางปฏิบัติแล้วฟาสต์ไฟว์จะออกมาในรูปแบบไหน ก็ขอให้นึกถึงพระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนที่ถือศีลแปด ซึ่งท่านเหล่านี้จะไม่บริโภคอาหารหลังเที่ยงวันจนไปถึงเช้าของวันรุ่งขึ้น ฟาสต์ไฟว์ก็มีลักษณะคล้ายๆกัน เพียงแต่ฟาสต์ไฟว์สามารถเลือกช่วงกินจำนวน 5 ชั่วโมงตรงส่วนไหนของวันก็ได้และห้ามดื่มเครื่องดื่มที่มีแคลอรีในช่วงอด 19 ชั่วโมง

แนะนำให้ออกกำลังกายตามความชอบ ตามกำลังความสามารถ ทั้งแอโรบิคและเวทเทรนนิ่ง การออกกำลังกายมีความสำคัญ เพราะจะช่วยให้ลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็วและสุขภาพโดยรวมดีขึ้น


แนวคิดของฟาสต์ไฟว์


หลักการทำงานของฟาสต์ไฟว์ก็คือ อดอาหาร 19 ชั่วโมงเพื่อลดระดับฮอร์โมนอินซูลินและเลปติน ซึ่งฮอร์โมนทั้งสองนี้คือตัวขัดขวางไม่ให้ร่างกายนำไขมันส่วนเกินที่สะสมไว้มาใช้เป็นแหล่งพลังงานหลักในการดำรงชีวิตประจำวัน เมื่อปรับตัวได้แล้ว ร่างกายคุณจะใช้พลังงานจากไขมันที่สะสมในร่างกายเป็นแหล่งพลังงานหลักในการดำรงชีวิตประจำวัน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จะเกิดความสมดุลย์ระหว่างพลังงานจากอาหารที่รับเข้าไปและพลังงานที่นำออกไปใช้เพื่อการดำรงชีวิต หากทุกอย่างถูกต้องและเป็นไปตามหลักการ คุณก็จะไม่อ้วนอีกต่อไป

การอดอาหารในฟาสต์ไฟว์ไม่ใช่เรื่องรุนแรง ไม่ใช่การทรมานตน ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับการอดอาหารเพื่อลดน้ำหนักแบบทั่วไป ไม่มีความเกี่ยวข้องกับความเชื่อในเรื่องศาสนาและจิตวิญญาณ การอดนี้ยังเป็นการช่วยลดความอยากอาหาร ซึ่งเมื่อคุณปรับตัวได้แล้ว ในช่วงอด 19 ชั่วโมงคุณจะไม่หิว ไม่มีความอยากอาหาร หรือมีบ้างนานๆครั้ง แต่ไม่รุนแรง ไม่ทรมาน แต่ระยะเวลาที่ใช้เพื่อการปรับตัวของแต่ละคนไม่เท่ากัน บางคนก็ใช้เวลาหลายสัปดาห์ แต่บางคนก็ใช้เวลาหลายเดือน ซึ่งเมื่อปรับตัวได้แล้วมันก็ได้เลย

ฟาสต์ไฟว์ใช้แนวคิดของวิทยาศาสตร์การแพทย์สมัยใหม่ด้านการชะลอวัย (Anti-aging medicine) โดยใช้วิธีที่เรียกว่า Intermittent Fasting (IF) และ Calorie Restriction (CR) ซึ่งจากการผลการทดลองในห้องปฏิบัติการเป็นเวลามากว่า 70 ปี พบว่าสัตว์ทดลองทุกชนิดมีร่างกายแข็งแรงขึ้น มีความต้านทานต่อโรคมากขึ้น มีอายุยืนขึ้น สำหรับการทดลองในมนุษย์ยังอยู่ในช่วงดำเนินการ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์ที่อายุยืนกว่าสัตว์ทดลองทั่วไป ดังนั้นจึงต้องใช้เวลา แต่ผลลัพธ์เบื้องต้นหลายอย่างที่ได้ในมนุษย์ก็เหมือนกับที่ได้ในสัตว์ทดลองเช่นกัน

การอดอาหาร 19 ชั่วโมงของฟาสต์ไฟว์ใช้หลักการของ IF วิธีกินอาหารแบบนี้ในระยะยาวแล้วจะช่วยให้คุณกินอาหารได้น้อยลงกว่าปกติประมาณ 500 กิโลแคลอรีต่อวัน ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ของ CR ด้วย นั่นเท่ากับว่า เมื่อปฏิบัติฟาส์ไฟว์จนเป็นวิถีชีวิตแล้ว คุณจะได้ผลลัพธ์ของทั้ง IF และ CR ไปพร้อมๆกัน


ผลลัพธ์ที่สามารถคาดหวังได้จากฟาสต์ไฟว์


คุณอาจจะเริ่มเห็นน้ำหนักค่อยๆ ลดลงหลังจาก 2 สัปดาห์ไปแล้วหรืออาจจะใช้เวลามากกว่านั้น และเมื่อร่างกายและจิตใจเริ่มปรับตัวได้หรือสามารถปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตแบบฟาสต์ไฟว์ได้แล้ว น้ำหนักจะลดลงประมาณ 0.46 กิโลกรัม (1 ปอนด์) ต่อสัปดาห์ หรือประมาณ 22 กิโลกรัมในหนึ่งปี

ฟาสต์ไฟว์ช่วยให้คุณสามารถควบคุมพฤติกรรมการกินอาหารของตัวเองได้อย่างเต็มที่ ช่วยให้เลิกนิสัยกินจุบกินจิบทั้งวัน กินอาหารขยะไร้สาระ กินแล้วหยุดไม่ได้ กินโดยที่ไม่หิว ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพและทำให้คุณอ้วน ฟาสต์ไฟว์ช่วยให้คุณเลือกกินแต่อาหารที่ดีมีประโยชน์กับร่างกายได้ง่ายขึ้น ช่วยให้คุณกินน้อยลงได้เองโดยธรรมชาติแบบไม่ต้องฝืน ส่งผลให้สามารถลดและควบคุมน้ำหนักได้ในระยะยาวโดยไม่ต้องใช้ความพยายามมากมายนัก

ฟาสต์ไฟว์ช่วยให้คุณมีอิสระ ทำให้คุณหลุดพ้นจากวิธีกินอาหารแบบเดิมๆ ตามตารางวันละ 3 มื้อ ช่วยให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น มีเวลามากขึ้น เพราะไม่ต้องเสียเวลาเตรียมอาหาร ไม่ต้องเสียเวลาไปกับการกินอาหาร 2 มื้อในระหว่างวัน ช่วยให้คุณมีอิสระในเรื่องการกินอาหาร ช่วยให้คุณไม่ต้องเสียความสุขในชีวิตที่ได้จากการกินอาหาร เพราะไม่มีการจำกัดประเภทและปริมาณของอาหารมากนัก อีกทั้งสุขภาพปากและฟันของคุณก็จะดีขึ้น โอกาสที่ฟันจะผุก็มีน้อยลง เพราะเหงือกและฟันได้พักไม่ต้องเคี้ยวอาหารหนักๆ ประมาณ 19 ชั่วโมงต่อวัน

ผลลัพธ์สำคัญอีกอย่างที่อาจจะได้จากฟาสต์ไฟว์ก็คือ หากปฏิบัติฟาสต์ไฟว์จนเป็นวิถีชีวิตในระยะยาว คุณอาจจะมีร่างกายแข็งแรงขึ้น มีความต้านทานต่อโรคมากขึ้น แก่ช้าลง เป็นหนุ่มเป็นสาวได้นานขึ้น อายุยืนขึ้น เพราะผลจาก IF และ CR นั่นเอง


เกี่ยวกับฟาสต์ไฟว์


ฟาสต์ไฟว์คือวิธีลดและควบคุมน้ำหนัก ถูกคิดค้นโดย นายแพทย์เบิร์ต แฮริ่ง (Bert Herring, M.D.) ชาวสหรัฐอเมริกา เขาค้นพบเทคนิคนี้และใช้กับตัวเองในปี 1995 ทำให้สามารถลดน้ำหนักได้ 20 ปอนด์ แต่หลังจากที่เขากลับไปกินอาหารตามแบบวิถีชีวิตชาวอเมริกันทั่วไป ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น 20 ปอนด์เท่าเดิม จากนั้นในอีก 10 ปีต่อมา คือในปี 2005 เขาก็ได้ใช้เทคนิคนี้กับตัวเองอีกครั้งและสามารถลดน้ำหนักได้ 20 ปอนด์ภายใน 20 สัปดาห์ และจากจุดนี้เอง คุณหมอเบิร์ตจึงได้เริ่มศึกษากลไกลการทำงานที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเทคนิคนี้อย่างจริงจัง ซึ่งเมื่อศึกษาและรู้ว่าเทคนิคนี้คงจะสามารถใช้ได้กับคนอื่นๆ เช่นกัน คุณหมอเบิร์ตจึงได้ตั้งชื่อเทคนิคนี้ว่า The Fast-5 Diet และเขียนหนังสือชื่อ The Fast-5 Diet and the Fast-5 Lifestyle และเริ่มเผยแพร่ฟาสต์ไฟว์ให้กับสาธารณชนนับแต่นั้นเป็นต้นมา

ที่มา Siamfitness

และคุณ Xoop โพสต์ไว้ที่นี่ค่ะ







อ่านดูแล้ว รู้สึกว่าโปรแกรมนี้ เหมาะกับเรา
เลือก Eating Window เวลา16.00 – 21.00
จะเริ่มพรุ่งนี้เลยวันแรก
จะไหวเปล่าไม่รู้ แต่จะพยายามจ้า






พรุ่งนี้วันแรก สู้ สู้
ต้องเลิกแวะ Coffee boy อ่ะดิ
Coffee world ห้ามเข้าด้วยนะ
อยากกินข้าวเหนียวทุเรียน
พรุ่งนี้ไปรับจตุคามวัดเขมาด้วย
เห็นเค้กที่ bg แล้วหิวอ่ะ





Create Date : 06 พฤษภาคม 2550
Last Update : 6 พฤษภาคม 2550 16:34:41 น. 6 comments
Counter : 725 Pageviews.

 
143463


โดย: yangiuyi วันที่: 6 พฤษภาคม 2550 เวลา:16:36:12 น.  

 
คนหน้าตาดี อ้วนขึ้นนิดหน่อยก้อไม่น่าเกลียดหรอกครับ


โดย: lordoflife วันที่: 6 พฤษภาคม 2550 เวลา:17:51:28 น.  

 
มาอ่านแล้วจิตตก พี่ตั๋นน้ำหนักขึ้นเหมือนกันเหรอคะ
แป๋มก็ขึ้นแต่ก็ช่างมัน ฮ่า มันยังไม่มีโอกาสจะลดเลยค่ะ

ว่าแต่ พี่ตั๋นยังชอบ เจอรี่อยู่เหมือนเดิมป่าว อิอิ


โดย: สะพานดาว วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:7:54:21 น.  

 
วิธีนี้น่าสนใจอยู่ แต่เราไม่กล้าใช้อะ แหะๆ แบบว่าเป็นพวกกินน้อย แต่กินได้เรื่อยๆ


โดย: พิมลพัทธ์ วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:12:33:05 น.  

 
ก่อนแต่งงานเราลดนน.ด้วยวิธีไลท์แอนด์โลว์คาร์บค่ะ
คือกินทุกอย่างแต่ควบคุมคาร์โบไฮเดรต
ได้ผลดีนะคะ ไม่หิวไม่อด
ไปโซ้ยบุฟเฟ่ต์หมูกะทะได้สัปดาห์ละหลาย ๆ ครั้ง(แต่ไม่กินวุ้นเส้นกับข้าว)
ตอนนั้นลดได้ 9 ก.ก. ใน 5 เดือน(ทั้งที่แอบกินไอติมบ่อย ๆ )
ตอนนี้ท้องอยู่เลยไม่ได้ทำอีก แต่น.น. ก็เพิ่มไม่เยอะ (เดือนละ 1 ก.ก.)ตัวก็ไม่อ้วนเท่าไหร่ แต่ท้องใหญ่มาก คิดว่าลูกน่าจะตัวโต
ไว้จะทำอีกทีหลังคลอด
แต่ช่วงให้นมลูกจะกินข้าวกล้องแทนข้าวขาวค่ะ
เอาสูตรมาจากหนังสือของคุณนก ชลิดา เถาว์ชาลีค่ะ


โดย: shamuneko วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:13:11:24 น.  

 


โดย: lordoflife วันที่: 7 พฤษภาคม 2550 เวลา:14:38:34 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

yangiuyi
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add yangiuyi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.