周杰伦 - 退後 (Jay Chou - Step Back) พร้อมเนื้อเพลง, พินอิน และคำแปล




สำหรับใครที่เป็นขาประจำบล็อคของผู้เขียน ได้โปรดอย่าเข้าใจผิดว่าได้เข้ามาผิดบล็อคหรืออย่างไร พอดีอารมณ์ครึ้มว่าอยากจะอัพอะไรที่เกี่ยวกับเพลงบ้าง เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ แล้วก็อย่าตกใจอีกว่าทำไมถึงตัดสินใจอัพเพลงเจย์ โชว์ละเนี่ย (บล็อคเพลงบล็อคที่แล้วยังเป็นวงจากแสกนดิเนเวียนอย่าง Shout Out Louds อยู่เลย โอ๊ะแม่เจ้า ) อย่าได้ดูถูกเฮียเท่ง เทิดเถิง เอ้ยเจย์ โชว์น่ะ เราว่าเค้าเป็นนักดนตรีที่มีฝีมือเป็นอันดับต้นๆ ของเอเชียเลยก็ว่าได้ ถ้าใครได้ดูเรื่อง Secret ที่เฮียแกเล่นเอง กำกับเอง ทำดนตรีเอง เจ็บเอง (ไม่มี) ก็จะเห็นว่าความสามารถของเค้า มันยังมีที่ว่างอีกเยอะ ให้เค้าพัฒนาไปได้อยู่อีก ถึงแม้ว่าจะมีคนบอกอยู่เป็นประจำว่า ขนาดคนใช้จีนกลางเอง ยังฟังเฮียแกร้องไม่รู้เรื่องเลย คือมันก็มีส่วนจริงน่ะ แต่ผู้เขียนว่า มันก็ไม่ใช้สิ่งที่สำคัญที่สุด ในการฟังเพลงเพลงหนึ่งให้เพราะน่ะ แล้วอย่าว่าแต่เพลงจีนเลย เพลงฝรั่งบางเพลง ถ้าไม่ตั้งใจฟังให้ดี ใครละจะไปรู้ว่านักร้องเค้าพึมพำอะไรออกมา (อย่าง Feedback ของเคุณจเน็ต แจ็คสันเนี่ย ผู้เขียนยังเข้าใจผิดมาตั้งนานเลยว่า เค้าร้องว่า feedback feedback ไม่ใช่ bingbang bingbang )


อย่างเพลงที่เอามาให้เพื่อนบล็อคฟังก็เหมือนกัน เนื้อเพลงที่มี คือจริงๆแล้วมันโคตะระเน่าเลย แต่ด้วยท่วงทำนองที่ลงตัว เมโลดี้หวานๆ ท่อนฮุ๊คติดปากคนฟัง และเอ็มวีที่ประทับใจจ๊อดอย่างนี้ มันก็สมควรแล้ว ที่เค้าจะถูกขนานนามเล่นๆว่า "ทั่นประธานโชว์" เลย ความจริงแล้ว เอ็มวีนี้ก็มีความหลังเหมือนกัน สมัยตอนที่อยู่กวางโจว ได้นั่งดูเอ็มวีนี้ในทีวี ตอนนั้นไม่เข้าใจอะไรซักนิดเดียว แต่ด้วยเนื้อเรื่องมันดู universal มากๆ และเข้าใจง่ายดี มันก็เลยเป็นจุดกำเนิดจุดเล็กๆ ที่ให้เราตั้งใจที่จะเปิดดิกหาความหมายของเนื้อเพลง (ซึ่งพอรู้แล้ว ก็....เน่าได้ใจ ) จริงๆมันก็มีอีกเพลงของ Guang Liang ที่ชื่อว่า Tong Hua (Fairy Tale) ที่ทั้งเพราะ งดงาม แถมเอ็มวีก็ซาบซึ้งน้ำตาคลอ แต่เห็นว่าเพื่อนบล็อคเจ้าอื่นๆ ได้ cover เพลงนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ก็เลยตัดสินใจลงเพลงนี้แทน


ปล. ขออภัย ถ้าแปลแล้วจะทำให้คนที่อ่านภาษาจีนได้หงุดหงิด เพราะหลายๆประโยคก็ยังงงๆอยู่ว่ามันหมายฟามว่าไงว่ะ ก็เลยเอาตามความเข้าใจของผู้เขียนเองละกันน่ะ





周杰伦 - 退後
Jay Chou - Step Back

天空灰得像哭过
tian kong hui de xiang ku guo
ท้องฟ้าดูเป็นสีเทาเหมือนกับเพิ่งร้องไห้

离开你以后
li kai ni yi hou
หลังจากที่จากคุณมา

並沒有更自由
bing mei you geng zi you
ฉันก็ไม่ได้มีอิสรภาพเลย

酸酸的空氣
suan suan de kong qi
บรรยากาศที่ขมขื่น

嗅出我们的距离
xiu chu wo men de ju li
มาจากความห่างไกลของเรา

一幕锥心的结局
yi mu chui xin de jie ju
ฉากจบที่ใจปวดร้าว

像呼吸般无法停息
xiang hu xi ban wu fa ting xi
เหมือนกับการหายใจ ไม่มีทางหยุดยั้ง

抽屉泛黄的日记
chou ti fan huang de ri ji
ไดอารี่สีเหลืองในลิ้นชัก

榨乾了回憶
zha gan le hui yi
กดทับความทรงจำของเราไว้

那笑容是夏季
na xiao rong shi xia ji
รอยยิ้มของเธอเปรียบดังความสดใสในฤดูร้อน

你我的过去
ni wo de guo qu
ความหลังของเราสองคน

被順時針的忘记
bei shun shi zhen de wang ji
ถูกลืมเมื่อกาลเวลาได้ผ่านไป

缺氧过后的爱情
que yang guo hou de ai qing
เสมือนความรักที่ขาดอากาศ

粗心的眼泪是多余
cu xin de yan lei shi duo yu
ไม่ต้องเสียน้ำตาไป

我知道你我都没有错
wo zhi dao ni wo dou mei you cuo
เพราะว่าผิดที่ฉันเอง

只是忘了怎么退后
zhi shi wang le zen me tui hou
เราแค่ลืมที่จะก้าวถอยหลัง

信誓旦旦给了承诺
xin shi dan dan gei le cheng nuo
เราสัญญากันไว้อย่างใจมั่น

却被时间扑了空
que bei shi jian pu le kong
แต่เวลาทำให้มันสูญเปล่า

我知道我们都没有错
wo zhi dao wo men dou mei you cuo
เพราะว่าผิดที่ฉันเอง

只是放手会比较好过
zhi shi fang shou hui bi jiao hao guo
บางทีการปล่อยมันไปอาจจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด

最美的爱情回忆里待續
zui mei de ai qing hui yi li dai xu
ความรักที่ดีที่สุดนี้ มันจะดำรงอยู่ในความทรงจำของฉันตลอดไป


Create Date : 22 เมษายน 2551
Last Update : 22 เมษายน 2551 22:11:36 น. 11 comments
Counter : 13336 Pageviews.

 
ต๊กกะจายย เข้ามาดูเจโชวววววววววว ฮิ้ววว

ทำไมเธอมะบทความลงหนังสืองะ


โดย: Bernadette วันที่: 22 เมษายน 2551 เวลา:22:42:46 น.  

 
เจย์ โจวนี่เป็นศิลปินจีนที่ผมที่ผมชอบที่สุดในเอเชียเลยละครับ

ฝีมือแกดีจริง


โดย: P Q BOY วันที่: 22 เมษายน 2551 เวลา:23:01:23 น.  

 
อืมมม... คราวนี้มาแปลก ภาษาไทย+เจย์ โชว์แฮะ น่าสนๆ

ป.ล. ส่วน blog เราก็ไม่ได้อัพซะที ว่างอาทิตย์ละสองวันก็เอาแต่นั่งๆ นอนๆ อยากเขียนอยู่ แต่ขี้เกียจเริ่มจัง


โดย: Moonlight Mile IP: 72.75.148.29 วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:1:45:06 น.  

 
- เออเนื้อมันเน่าจิงๆแต่เพลงไม่รุ้จะเปนไงอะนะ ผมฟังลำบางอิ๊บอ๋ายว่ะพี่ เน็ตเต่าง่ะ.

- เจ โชว์ก็เคยฟังนะ แต่แค่ผ่านๆอะ ไม่ค่อยชอบแนวนี้เท่าไร่อะพี่แต่ยอมรับว่าฝีมือเค้าดีจิง เค้ามาเมืองไทยครั้งนั้น เคยพูดไว้ว่า ..อัลบั้มต่อๆ มาจะนำเครื่องดนตรีไทย "ระนาด" ไปใช้ในงานของเขาด้วย ไม่รู้ว่า มีหรือเปล่านะฮะไม่ได้ติดตาม ...แต่ถ้าเป็นจิงคงดีอะเนอะ..

- เปลี่ยนบรรยากาศบ้างก็ดีอะพี่ เข้ามาทีไร อ่านลำบากทุ๊กทีไป - -* 555 แต่ถ้าเป็นบล็อกเพลง ไม่ว่าภาษาไหนก็อ่านออก ที่เค้าเรียกว่า "ภาษาดนตรี" ล่ะมั้ง หุหุ


โดย: haro_haro วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:9:37:51 น.  

 
แบร์
ลงหนังสือเค้าก็ขายไม่ออกพอดีสิ 55+

P Q BOY
เห็นด้วยครับผม

Moonlight Mile
สวัสดี แหมนานๆมาที กลับมาไทยรึยังละเนี่ย แล้วจะรออ่านน่ะ

ฮาโร่
55+ มันก็เน่างี้แหละ เพลงพาสาอังกิดหลายๆเพลงก็ไม่แพ้กันละน่ะเราว่า เฮียเจย์แกเล่นได้หลายเครื่องดนตรีอะน่ะ แต่ดูแกจะถนัดเปียโนที่สุดแหละ เด๋วเอาไว้จะอัพบล็อคเพลงของวงที่เราชอบอีกวงอย่าง F.I.R. อะน่ะ


โดย: บลัดดี้มันเดย์ย์ย์ IP: 124.120.63.156 วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:10:59:05 น.  

 
เอามีดมาแทงกันเลยดีกว่า
มาเรียกพี่เจย์ ว่าเท่ง เถิดเทิง

...เราชอบนะ
แม้จะไม่ได้ตามทุกชุด แต่ก็ซื้อดีวีดีมาดูคอนเสริท
ซื้อซีดีที่มีเอ็มวีมาดู ริงโทนก็(เคย)เป็นเพลง ye ye Pao De Chai..(เขียนถูกป่าวเนี่ย หุหุ) และก็แค่ติดตามงานหนังของแก...เท่านั้นเอง...ไม่ได้กรี๊ดมากหรอก..555 ที่สำคัญ..มือพี่เจย์สวยมากๆ..เลิฟเลิฟ

มีแปลเพลงก็ดีนะ เพราะเราไม่เคยรู้เลยว่าเพลงแกพูดถึงอะไร..หุหุ


โดย: renton_renton วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:14:02:21 น.  

 
ปอลอ..ชื่อบริษัทที่เราทำงานอยู่ ชื่อ ไอเอฟอาร์ อ่ะ


โดย: renton_renton วันที่: 23 เมษายน 2551 เวลา:14:03:55 น.  

 
แจ้งข่าวกันตรงนี้เลยแล้วกัน

The Diving Bell and the Butterfly จะเข้าฉายในเทศกาลหนังฝรั่งเศส

พยายามหาทางไปดูให้ได้นะ

//www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A6543966/A6543966.html


โดย: จูริง วันที่: 24 เมษายน 2551 เวลา:5:58:17 น.  

 
"ทั่นประธานโชว์" จริงๆ เห็นด้วย

หนังข้างบล็อก Good night Good luck ถ้าหนังยาวกว่า 80 นาที ต้องเหนื่อยมากๆ แน่ค่ะ เพราะตอนดูก็รู้สึกเหมือนกันว่า นี่ผ่านไปเหมือนนานกว่า 80 นาที


โดย: อั๊งอังอา IP: 124.121.227.89 วันที่: 24 เมษายน 2551 เวลา:13:32:48 น.  

 
เจย์โชว์เล่นหนังดีดีเยอะเหมือนกาลลล อ่า


โดย: Bernadette วันที่: 24 เมษายน 2551 เวลา:13:58:19 น.  

 
หนังเรื่องอะไรค่ะ ที่ประกอบเพลงนี้


โดย: kai IP: 171.7.242.23 วันที่: 18 พฤศจิกายน 2556 เวลา:21:17:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BloodyMonday
Location :
Imaginationland, Valley of Bliss China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






-= M & M in Nutshell =-


Gentlemen Broncos (2009)


You could have brain tumor by watching this contaminated turd. Nothing in Gentlemen Broncos pays off, it’s incoherent mess, and chock-full of incredibly annoying characters. You will not only loath this movie, but it also makes you want to punch someone who responsible for this abomination in the face.

BloodyMonday Rating:



Fantastic Mr. Fox (2009)


Imagine if Akira got Live-Action treatment by... say Alfonso Cuarón, you know how awesome it might be? That’s what happened to "Fantastic Mr. Fox". Wes Anderson's auteur perfectly captured the quirkiness and blissful tone of the material. Its stop-motion technique might be a little crude and... somewhat unsophisticated, but that's the charm of it. You’ll feel like pop-up book unveiled before your eyes. This is an exceptional animation of the year.

BloodyMonday Rating:



Planet 51 (2009)


ถ้าถามว่าสนุกไหม? ก็โอเค ทุกอย่างถอดแบบมาจาก Shrek มุขที่อ้างอิงวัฒนธรรมป็อป ตัวละครสมทบที่น่าสนใจกว่าตัวเอก กราฟฟิคที่สอบผ่านฉลุย (ถ้าไม่ไปวัดกับพิกซาร์) แต่ถ้าถามว่าต้องดูไหม? ..... เอาเป็นว่าเวลาชั่วโมงครึ่ง ทำอะไรที่มีประโยชน์กว่านี้ได้เยอะแยะ

BloodyMonday Rating:



It's Complicated (2009)


รู้สึกสนุกกับการได้เห็นป้าเมอรีล เข้าโหมดแอ๊บเด็ก (อีกแล้ว) ในขณะเดียวกัน อเล็กซ์ บอลด์วิน และ จอห์น ครากินสกี้ ก็ขโมยซีนได้ตลอด แต่มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหนังยาว 2 ชั่วโมงมีเรื่องให้เล่าแค่ 15 นาที... It's Complicated อาจเหมือนคนกินไวอากร้าแล้วเข้านอน คึกตลอดคืนแต่มันจะมีประโยชน์อะไร?

BloodyMonday Rating:



Up in the Air (2009)


Up in the Air is a blockbuster movie for people who think blockbuster movies are dumb, as it chock full of brilliantly written dialogue, and acting showcase for three talented actors (especially star-making turn by Anna Kendrick). But in the end, there's little to love, not so much story to chew on (plus disappointing third act), and no real connection to the meaning of human interaction as it intended to be.

BloodyMonday Rating:



I Love You, Beth Cooper (2009)


Cliché-ridden plot about a bunch of annoying characters get together in one idiotic circumstance, "I Love You, Beth Cooper" is shameless exploitation & biggest insult to 80s teen flicks. It's like memorizing magic trick from internet, hoping to perform like David Copperfield. Neither sense of wonder nor magic flare happens here. Only good thing is, it makes me wanna cleanse my soul with genuine 80s teen movie night marathon.

BloodyMonday Rating:



Everybody's Fine (2009)


Meh. The movie serious lack of originality & characters development. Only Robert De Niro comes out fine in this schmaltzy, "Lifetime" movie-of-the-week plot.

BloodyMonday Rating:



Paper Heart (2009)


Twee delight... That's only two words I can think of right now.

BloodyMonday Rating:



Adam (2009)


A perfect companion to Mary & Max (one of the best animation of 2009), Adam is star-crossed love story (pun intended) between Adam, Asperger's Syndrome bearer, and Beth, free spirit woman. The picture wouldn’t be this intimate without stunning performance by Hugh Dancy. On the other hand, the lack of depth on why Beth would love someone like Adam, preventing me from wholeheartedly embraces her choice in the end (which is nice & perfect but requires a leap of faith). Otherwise, this is touching romantic film, which putting its feet firmly on the ground, making the world full of hope and seems nicer place to live.

BloodyMonday Rating:



The Invention of Lying (2009)


Expected to be like “Click” or “Yes Man”, where high-concept plot turned into endless gags, with moral lesson (forcefully) shoving down your throat. But "The Invention of Lying" is thinking man’s film. The whole concept is not seeing how first lying man exploits the ability. But it's about him finding the way not to lie, in order to find genuine happiness. Great stuff.

BloodyMonday Rating:



Give ‘Em Hell Malone (2009)


This is one damn frustrating experience. It’s like watching an infant trying to stand up and walk. They would take a few steps then fall their asses. In fact, kiddie film like “Bugsy Malone” has done better job paying a tribute to film noir than this borefest.

BloodyMonday Rating:



Zombieland (2009)


ถ้าอังกฤษมีหนังซอมบี้ฮาแตกอย่าง Shaun of the Dead แล้ว ทำไมอเมริกาจะมีบ้างไม่ได้... Zombieland คือการผสมผสานระหว่างบรรดาหนังซอมบี้เก่าๆ เข้ากับทัศนคติของคนสร้างที่อาจดูหนังแนวนี้มากเกินความจำเป็น จนสามารถสร้างหนังซอมบี้ที่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองเป็น และเล่นสนุกไปกับกฏพื้นฐานของซอมบี้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยกความดีให้สี่นักแสดงนำ โดยเฉพาะ วู้ดดี้ ฮาเรลสัน (เขาเกิดมาเพื่อบทนี้) ที่ช่วยกันสร้างมนต์เสน่ห์ ให้กับการเดินทางในโลกไร้มนุษย์ได้อย่างเต็มที่

ถึงแม้พลังงานที่ขับเคลื่อนจะมาหมดเอาดื้อๆในองค์สุดท้าย เมื่อฉากใหญ่ในสวนสนุกถูกทำขึ้นเพื่อแสดงฉากการฆ่าซอมบี้เด็ดๆ (ซึ่งไม่ใช่จุดเด่นสำหรับเรื่องนี้เลย) แต่โดยรวมแล้วมันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัว ที่บรรดาแฟนซอมบี้จะมาพลาดหนังเรื่องนี้... อ้อ แล้วหนังยังมีดารารับเชิญสุดเซอร์ไพรซ์ ที่สร้างเสียงฮาที่สุดในเรื่องได้จากประโยคสุดท้ายอีกด้วย

BloodyMonday Rating:



Frequently Asked Questions About Time Travel (2009)


เมื่อเพื่อนสามคนก๊งเบียร์กันในผับแล้วเจอสาวฮ็อต (แอนนา ฟาริส) ที่อ้างว่ามาจากอนาคตจนเกิดรอยแยกของเวลา ทำให้ทั้งสามต้องท่องไปทั้งโลกในอนาคตและอดีตจนวุ่นวาย...

หนังมีไอเดียกิ๊บเก๋ ทำออกมาได้สนุกสนานสไตล์ซิตคอมอังกฤษ โดยเฉพาะการนำกฏเหล็กต่างๆจากหนังที่เกี่ยวกับการท่องเวลา (ดูเหมือนว่า Back to the Future จะเป็นแรงบรรดาลใจหลัก) มาปู้ยี้ปู้ยำอย่างเมามัน ถึงแม้ว่าตลอดเวลาการรับชมจะให้ความรู้สึก เหมือนตัวเองกำลังดูซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ แต่มันก็คือตอนที่ฮาที่สุดของซีซั่น แถมเอฟเฟ็คที่ใช้ก็มีคุณภาพจนคาดไม่ถึง

BloodyMonday Rating:



Looking for Eric (2009)


มีความรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มองโลกในแง่ดีเกินบรรยากาศโดยรวม จริงอยู่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ลงเอยด้วยดีในตอนสุดท้ายนั้น สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับคนดู แต่จากสถานการณ์ในเรื่องและบริบทที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันยากที่จะทำใจเชื่อในสิ่งที่เห็น โดยเฉพาะพล็อตรองเกี่ยวกับปืน ซึ่งถ้าถูกตัดออกไปและหนังยังดำเนินเรื่องอย่างที่เป็นอยู่ Looking for Eric ก็น่าจะเป็นหนังฟีลกู้ดที่อบอุ่นที่สุดเรื่องหนึ่งของปีเลยทีเดียว

BloodyMonday Rating:


~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
22 เมษายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add BloodyMonday's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.