ไดอารี่ของบลัดดี้มันเดย์ เขียน ณ.วันที่ 21/09/06

เอ้าอืมเขียนอะไรดีหว่า จะเขียนเรื่องการเมืองก็ไม่ได้ (ฮ่าๆเนื่องด้วยข้าพเจ้า
ไม่รู้เรื่องอะไรเลย แถมยังมีป้ายเตือนห้ามเขียนด้วยอ่ะ)โอเคดังนั้นก็คงเขียน
เรื่องของคนทำมะดาๆ ที่ทำอะไรทำมะดาๆก็แล้วกัน (อ้าวเฮ้ยแล้วมันจะ
น่าอ่านไหมเนี่ย เดี๋ยวมาดูกัน)

ก็เคยสงสัยตัวเองอยู่เหมือนกันว่า"ตกลงเรามาทำบ้าอะไรอยู่ที่นี้ว่ะเนี่ย" ทั้งๆที่เราก็มีชีวิตที่ค่อนข้างสะดวกสบายอยู่ที่บ้านเฮา หนังก็มีให้ดูเพียบ
เพื่อนก็ตรึม การงงการงานก็...เรื่อยๆ จนเมื่อสักครึ่งปีที่แล้ว ทางญาติ
ห่างๆที่มีบริษัทขนส่งอยู่กวางโจว มีขอเสนอแนะมาว่า ลองให้เราไปอยู่ทาง
นู้นบ้างสิเพื่อจะได้มีโอกาสและลู่ทางใหม่ๆบ้าง เราก็ "เออเว้ย ภาษาจีน
น่าสนว่ะ แต่ไม่เอาดีกว่าอ่ะ ขี้เกียจ" เราก็ไม่อยากเท่าไหร่หรอก
แต่พณ.ท่านผู้ปกครองอยากให้เราไปมากๆ (สงสัยว่าท่านรำคาญเรา
ที่อยู่ใกล้ๆ ฮ่าๆ)เราเลยก็คิดว่า "เอาว่ะ ไปก็ไป"

การมาอยู่ที่นี่ เกือบทุกสิ่งก็เป็นไปตามที่คาดคิดไว้ ต่างเมืองต่างถิ่น พูดคุย
กะใครก็ยากหลาย ทำให้เรารู้สึกอยากกลับสุดๆ (ทั้งๆที่มาแค่ไม่กี่อาทิตย์)
แต่ท่านแม่ก็ให้กำลังใจว่า เฮ้ยมันก็เรื่องธรรมดาแหละ อยู่ที่อื่นมันก็ต้อง
เป็นอย่างนี้แหละ สำคัญอยู่ที่สิ่งที่เรามุ่งหวังเอาไว้ตอนแรกนั้นมัน
ยังเป็นสิ่งที่เราต้องการรึเปล่า (โอ้ท่านแม่ พูดเหมือนนักปราชณ์ลย)
เราก็เลย.....เอาน่ะทดลองสองเดือนก่อน เดี๋ยวค่อยว่ากัน

จากวันนั้นมาก็ผ่านมาอีกสี่เดือนแล้ว (กลับไปบ้านเฮาเดือนนึง เพื่อเตรียม
ตัวมาอยู่ยาวตอนนี้แหละ) เรารู้สึกว่ามันก็คุ้มนะที่ได้มาทำอะไรๆที่มันอยู่
นอกกรอบความคาดหมายของตนเอง เราไม่นึกว่าไอ้เราน่ะ ที่แทบไม่เคย
ออกนอกตัวจว.กทม.เลย จะได้มานั้งพิมพ์ไอ้บล็อคเนี้ยอยู่กวางโจว เรา
ไม่รู้น่ะว่าคนบางคนอาจจะอ่านบล็อคนี้แล้วคิดว่า "ปัดโธ่ แค่เนี้ยยย
ไปกวางโจวแล้วทำเป็นตื่นเต้นนน" แต่เราคิดว่าไอ้แค่เนี้ยแหละ ที่ทำให้
มนุษย์้ทำมะดาอย่างเรา ได้เติบโตขึ้นในแบบทำมะดาๆอย่างเรา ฮ่าๆ


ปล.ถ้าจะให้คิดถึงอะไร ก็คงคิดถึงไอ้น้องปิ๊ตตี้ตัวนี้ละ ก็อยากเอามาด้วยนะ
แต่...พระเจ้า แถวๆที่เราอยู่มีร้านอาหารร้านนึง ที่มีรูปอาหารแปะโชว์อยู่
ไอ้เราก็มองดูว่ามีอะไรดูน่ากินบ้าง อืมม...ไก่ อืมม...เนื้อวัว
อืมม............เฮ้ยหมาาาา เนื้อหมาาาา โถเราก็คิดว่าจะไม่กินกัน
แล้ว แต่ดันยังมีให้เห็นกันอีก (สงสัยน้องปิ๊ตตี้มาคงไม่รอด ฮ่าๆๆ)





 

Create Date : 21 กันยายน 2549
11 comments
Last Update : 21 กันยายน 2549 22:59:48 น.
Counter : 1034 Pageviews.

 

เอ้าๆๆแวะๆไปหัวข้ออื่นกันบ้าง ไปอ่านบล็อคภาษาปะกิตที่เขียนได้มั่ว
และอ่านไม่รู้เรื่องของเราได้ ฮ่าๆ (ยังไม่ได้อัฟสักอันเลย...)



 

โดย: BloodyMonday 21 กันยายน 2549 23:06:07 น.  

 

สวัสดีค่ะ ไดอารี่ของบลัดดี้มันเดย์ แวะมาอ่านจ้า

 

โดย: tanoy~ตะนอย 21 กันยายน 2549 23:17:58 น.  

 

น้องหมานอนได้สุดๆ มาก ท่าทาง คงจะบอกเป็นนัยๆ ว่า sexy ไหมจ้า 5555555




ปล. มีเพลงเพราะๆ มาให้ลองฟังด้วยครับผม ว่างๆ ลองไปฟังดูนะครับ

 

โดย: เข็มขัดสั้น 21 กันยายน 2549 23:52:30 น.  

 

ตะนอย
แวะมาอ่านอย่างเดียวเหรองับ ไม่เม้นอะไรเลยเหรอ.....ล้อเล่นนะคับ แค่กด (โดยตั้งใจหรือบังเอิญ) มาที่ผมก็แต๊งค์หลายแล้วครับ

เข็มขัดสั้น
เจ้าปิ๊ตตี้มันชอบยอมแพ้แบบนี้แหละครับ พอมันนอนแบบนี้ทีไรผมก็จะ
ชอบเหวี่ยงมันแบบเล่นโบว์ลิ่งไปไกลๆอะครับ มันก็จะวิ่งกลับมานอนหน้า
ผมอีกที ผมก็ทำอีกที มันก็กลับมาอีกที จนไม่ใครหรือตัวหนึ่งเหนื่อยเลิก
ไปอ่ะ (โอ้ยคิดคึงมากกว่าเพื่อนอีกนะเนี่ย)

 

โดย: BloodyMonday On Da Move IP: 211.139.145.21 22 กันยายน 2549 0:15:06 น.  

 

เอ่อ คุณคะ หมาน่อยนะคะ มะใช่บูมเมอร์แรง
ที่ขว้างไปยิ่งแรงยิ่งกลับมาเร็วอ่ะ......ฉงฉานหมาน่อ

เราอิจฉานะ ที่นายได้มีโอกาสเปลี่ยนแปลงสถานที่ทำงานอ่ะ โดยเฉพาะการย้ายไปต่างประเทศ เมืองจีนดูจากแผนที่ก็ดูไม่ไกล แต่ก้อใช้ว่าจะเดินไปได้ซะเมื่อไหร่

มาอยู่กะคนอื่นๆที่มะได้พูดภาษาเราอย่างที่เราเคยคุ้น แรกๆก้อคอเหวอและออกแนวเหงาหงอยแหละ แต่ก้ออย่างที่แม่นายว่าอ่ะแหละ เดี๋ยวก้อคุ้นเคย เด๋วก้อขี้คร้านจะอยากกลับบ้าน เชื่อดี้

ป่าว เราไม่เคยไปอยู่ที่ไกลๆแบบนี้หรอก.......ทั้งหมดที่ว่ามาก้อ เดา เอาอ่ะ 555+

ขอให้มีฟามสุข ทุกเมื่อเชื่อวัน
กอทอมอ ก้อยังเหมือนเดิมแหละ เหตุการณ์(เกือบ)ปกติ

 

โดย: renton_renton 22 กันยายน 2549 7:26:08 น.  

 

เหตุการณ์ที่นี่ยังปกติดีจ้า มีความสุขกันดี กะหนุ่ม ๆ นายทหารที่นาน ๆ ทีจะเห็นเยอะ ๆ แบบนี้ (เหมือนเค้ามาเที่ยวกรุงเทพกันเลย)

คิดถึงน้องปิ๊ตตี้ล่ะซี้ น่ารัก + เซ็กซี่จริง ๆ แฮะ แต่ถ้าเอาไปโน่นคงไม่รอด

ปล. เขียนไทยแบบนี้ก็ดีจ้า อ่านง่ายดี

 

โดย: unwell 22 กันยายน 2549 8:23:42 น.  

 

เรนตั้น
เฮ้ยเราว่าเดาถูก เดี๋ยวเราก็อยากกลับบ้านแล้ว แต่ยังไงก็ขอให้อย่าง
น้อยเราได้ทำอะไรที่นี้ให้มันสำเร็จซะอย่างก่อน(ไม่ว่าเรื่องงานหรือภาษา)
หลังจากนั้นค่อยมาว่ากันใหม่ ฮ่าๆๆ

อันเวน
น้องปิ๊ตตี้เราเป็นหมาฝรั่งเศสเชียวน่ะ จากPetitเพี้ยนมาเป็นปิ๊ตตี้
ซะงั้น ส่วนเหตุการณ์ที่ได้ยินว่าปกติแล้ว ก็ถือว่าโล่งอกนะครับ
เพราะตอนแรกเราคิดไว้ว่า ฝั่งโน้นคงไม่ยอมทางนี้แน่ (ก็คงเข้า
ใจนะคับ)

 

โดย: BloodyMonday 22 กันยายน 2549 12:30:21 น.  

 

First time ที่บล็อคนี้ .... .... .... ....สวัสดีคร้าบบบบ
ยินดีที่รู้จักนะ

 

โดย: stawahna (stawahna ) 22 กันยายน 2549 13:36:26 น.  

 

stawahna
โหเราไปที่บล็อคแล้ว ทำไมหุ่นเราไม่เป็นแบบนั้นบ้างฟร่ะ ยังไงก็ขอให้มีฟามสุขนะคับ

 

โดย: BloodyMonday 22 กันยายน 2549 14:11:10 น.  

 


 

โดย: stawahna (stawahna ) 23 กันยายน 2549 0:23:52 น.  

 

แหะ แหะ มาอีกรอบ

มาชวน มาขู่ ให้แวะไปฟังเพลงพี่เจมส์จ่ะ

 

โดย: renton_renton 23 กันยายน 2549 1:59:18 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


BloodyMonday
Location :
Imaginationland, Valley of Bliss China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






-= M & M in Nutshell =-


Gentlemen Broncos (2009)


You could have brain tumor by watching this contaminated turd. Nothing in Gentlemen Broncos pays off, it’s incoherent mess, and chock-full of incredibly annoying characters. You will not only loath this movie, but it also makes you want to punch someone who responsible for this abomination in the face.

BloodyMonday Rating:



Fantastic Mr. Fox (2009)


Imagine if Akira got Live-Action treatment by... say Alfonso Cuarón, you know how awesome it might be? That’s what happened to "Fantastic Mr. Fox". Wes Anderson's auteur perfectly captured the quirkiness and blissful tone of the material. Its stop-motion technique might be a little crude and... somewhat unsophisticated, but that's the charm of it. You’ll feel like pop-up book unveiled before your eyes. This is an exceptional animation of the year.

BloodyMonday Rating:



Planet 51 (2009)


ถ้าถามว่าสนุกไหม? ก็โอเค ทุกอย่างถอดแบบมาจาก Shrek มุขที่อ้างอิงวัฒนธรรมป็อป ตัวละครสมทบที่น่าสนใจกว่าตัวเอก กราฟฟิคที่สอบผ่านฉลุย (ถ้าไม่ไปวัดกับพิกซาร์) แต่ถ้าถามว่าต้องดูไหม? ..... เอาเป็นว่าเวลาชั่วโมงครึ่ง ทำอะไรที่มีประโยชน์กว่านี้ได้เยอะแยะ

BloodyMonday Rating:



It's Complicated (2009)


รู้สึกสนุกกับการได้เห็นป้าเมอรีล เข้าโหมดแอ๊บเด็ก (อีกแล้ว) ในขณะเดียวกัน อเล็กซ์ บอลด์วิน และ จอห์น ครากินสกี้ ก็ขโมยซีนได้ตลอด แต่มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าหนังยาว 2 ชั่วโมงมีเรื่องให้เล่าแค่ 15 นาที... It's Complicated อาจเหมือนคนกินไวอากร้าแล้วเข้านอน คึกตลอดคืนแต่มันจะมีประโยชน์อะไร?

BloodyMonday Rating:



Up in the Air (2009)


Up in the Air is a blockbuster movie for people who think blockbuster movies are dumb, as it chock full of brilliantly written dialogue, and acting showcase for three talented actors (especially star-making turn by Anna Kendrick). But in the end, there's little to love, not so much story to chew on (plus disappointing third act), and no real connection to the meaning of human interaction as it intended to be.

BloodyMonday Rating:



I Love You, Beth Cooper (2009)


Cliché-ridden plot about a bunch of annoying characters get together in one idiotic circumstance, "I Love You, Beth Cooper" is shameless exploitation & biggest insult to 80s teen flicks. It's like memorizing magic trick from internet, hoping to perform like David Copperfield. Neither sense of wonder nor magic flare happens here. Only good thing is, it makes me wanna cleanse my soul with genuine 80s teen movie night marathon.

BloodyMonday Rating:



Everybody's Fine (2009)


Meh. The movie serious lack of originality & characters development. Only Robert De Niro comes out fine in this schmaltzy, "Lifetime" movie-of-the-week plot.

BloodyMonday Rating:



Paper Heart (2009)


Twee delight... That's only two words I can think of right now.

BloodyMonday Rating:



Adam (2009)


A perfect companion to Mary & Max (one of the best animation of 2009), Adam is star-crossed love story (pun intended) between Adam, Asperger's Syndrome bearer, and Beth, free spirit woman. The picture wouldn’t be this intimate without stunning performance by Hugh Dancy. On the other hand, the lack of depth on why Beth would love someone like Adam, preventing me from wholeheartedly embraces her choice in the end (which is nice & perfect but requires a leap of faith). Otherwise, this is touching romantic film, which putting its feet firmly on the ground, making the world full of hope and seems nicer place to live.

BloodyMonday Rating:



The Invention of Lying (2009)


Expected to be like “Click” or “Yes Man”, where high-concept plot turned into endless gags, with moral lesson (forcefully) shoving down your throat. But "The Invention of Lying" is thinking man’s film. The whole concept is not seeing how first lying man exploits the ability. But it's about him finding the way not to lie, in order to find genuine happiness. Great stuff.

BloodyMonday Rating:



Give ‘Em Hell Malone (2009)


This is one damn frustrating experience. It’s like watching an infant trying to stand up and walk. They would take a few steps then fall their asses. In fact, kiddie film like “Bugsy Malone” has done better job paying a tribute to film noir than this borefest.

BloodyMonday Rating:



Zombieland (2009)


ถ้าอังกฤษมีหนังซอมบี้ฮาแตกอย่าง Shaun of the Dead แล้ว ทำไมอเมริกาจะมีบ้างไม่ได้... Zombieland คือการผสมผสานระหว่างบรรดาหนังซอมบี้เก่าๆ เข้ากับทัศนคติของคนสร้างที่อาจดูหนังแนวนี้มากเกินความจำเป็น จนสามารถสร้างหนังซอมบี้ที่เข้าใจสิ่งที่ตัวเองเป็น และเล่นสนุกไปกับกฏพื้นฐานของซอมบี้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องยกความดีให้สี่นักแสดงนำ โดยเฉพาะ วู้ดดี้ ฮาเรลสัน (เขาเกิดมาเพื่อบทนี้) ที่ช่วยกันสร้างมนต์เสน่ห์ ให้กับการเดินทางในโลกไร้มนุษย์ได้อย่างเต็มที่

ถึงแม้พลังงานที่ขับเคลื่อนจะมาหมดเอาดื้อๆในองค์สุดท้าย เมื่อฉากใหญ่ในสวนสนุกถูกทำขึ้นเพื่อแสดงฉากการฆ่าซอมบี้เด็ดๆ (ซึ่งไม่ใช่จุดเด่นสำหรับเรื่องนี้เลย) แต่โดยรวมแล้วมันก็ไม่ใช่ข้อแก้ตัว ที่บรรดาแฟนซอมบี้จะมาพลาดหนังเรื่องนี้... อ้อ แล้วหนังยังมีดารารับเชิญสุดเซอร์ไพรซ์ ที่สร้างเสียงฮาที่สุดในเรื่องได้จากประโยคสุดท้ายอีกด้วย

BloodyMonday Rating:



Frequently Asked Questions About Time Travel (2009)


เมื่อเพื่อนสามคนก๊งเบียร์กันในผับแล้วเจอสาวฮ็อต (แอนนา ฟาริส) ที่อ้างว่ามาจากอนาคตจนเกิดรอยแยกของเวลา ทำให้ทั้งสามต้องท่องไปทั้งโลกในอนาคตและอดีตจนวุ่นวาย...

หนังมีไอเดียกิ๊บเก๋ ทำออกมาได้สนุกสนานสไตล์ซิตคอมอังกฤษ โดยเฉพาะการนำกฏเหล็กต่างๆจากหนังที่เกี่ยวกับการท่องเวลา (ดูเหมือนว่า Back to the Future จะเป็นแรงบรรดาลใจหลัก) มาปู้ยี้ปู้ยำอย่างเมามัน ถึงแม้ว่าตลอดเวลาการรับชมจะให้ความรู้สึก เหมือนตัวเองกำลังดูซีรี่ย์ทางโทรทัศน์ แต่มันก็คือตอนที่ฮาที่สุดของซีซั่น แถมเอฟเฟ็คที่ใช้ก็มีคุณภาพจนคาดไม่ถึง

BloodyMonday Rating:



Looking for Eric (2009)


มีความรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้มองโลกในแง่ดีเกินบรรยากาศโดยรวม จริงอยู่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่ลงเอยด้วยดีในตอนสุดท้ายนั้น สามารถสร้างความสุขและรอยยิ้มให้กับคนดู แต่จากสถานการณ์ในเรื่องและบริบทที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันยากที่จะทำใจเชื่อในสิ่งที่เห็น โดยเฉพาะพล็อตรองเกี่ยวกับปืน ซึ่งถ้าถูกตัดออกไปและหนังยังดำเนินเรื่องอย่างที่เป็นอยู่ Looking for Eric ก็น่าจะเป็นหนังฟีลกู้ดที่อบอุ่นที่สุดเรื่องหนึ่งของปีเลยทีเดียว

BloodyMonday Rating:


~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
Group Blog
 
<<
กันยายน 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
21 กันยายน 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add BloodyMonday's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.