OH...MY GOD!!!! ท่องเที่ยวเวียดนามแซงหน้าไทย

ขณะที่กำลังนั่งข่าวออนไลน์ไปเรื่อยๆ ก้อไปเจอะกับข่าวนี้เข้า เห็นแล้วตกกะใจเหมือนกันนะเนี่ยว่า เราจะต้องตามหลังเวียดนามแล้วเหรอ อ่านแล้วสลดใจอย่างแรง อยากให้ทุกคนหันหน้ามาพัฒนาประเทศกันได้แล้ว เพราะไม่งั้นอะเราจะไม่พัฒนาขึ้นเลย


ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 19 กรกฎาคม 2553

ผวา!ท่องเที่ยวเวียดนามแซงหน้าไทย ทุนต่างชาติขนเงิน"สร้างรร.-ขยายฐาน"ยอดพุ่ง44%

เอกชนท่องเที่ยวหน่าย "รัฐบาลอภิสิทธิ์" สุด ๆ หลังถูกลอยแพแผนกอบกู้รายได้จากพิษวิกฤตการเมือง เปรียบเทียบนโยบายไทยสวนทาง "เวียดนาม" รัฐออกโรงเคลื่อนเต็มร้อย กลุ่มนักลงทุนต่างชาติกว่า 44% แห่ปักธงลุยเปิดโรงแรมใหม่ใช้เป็นฐานขยายธุรกิจยาว


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลุ่มอิสระและกลุ่มสมาชิกสมาคมท่องเที่ยวในประเทศ สมาคมนำเข้านักท่องเที่ยวต่างชาติ สมาคมโรงแรมไทย สมาคมสายการบินในเมืองไทย โดยส่วนใหญ่กล่าวทำนองเดียวกันถึงนโยบายของรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ใส่ใจขับเคลื่อนการท่องเที่ยวของประเทศอย่างแท้จริง

ประเมินได้จากมาตรการเยียวยาและแผนฟื้นฟูรายได้หลังวิกฤตความวุ่นวายทางการเมืองยุติ ทั้งที่เป็นอุตสาหกรรมติด 1 ใน 2 ที่ทำรายได้หลักเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ มีแรงงานกว่า 4 ล้านคน กำลังเผชิญปัญหาที่ไม่ได้ก่อขึ้นเอง มาจากความขัดแย้งกันทางการเมืองล้วน ๆ แต่ธุรกิจทั่วประเทศต้องมาแบกรับความเดือดร้อนแถมรัฐบาลยังเมินเฉย ปล่อยให้แก้ไขกันเอง แตกต่างจากเวียดนาม ลาว กัมพูชา


นายชนินทร์ โทณวณิก ประธานกรรมการบริหารเครือดุสิตอินเตอร์ กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า การท่องเที่ยวของประเทศไทยแพ้ สปป.ลาวเสียอีก โดยเฉพาะหลังวิกฤตการเมืองคลี่คลาย มาผนวกกับนอกฤดูท่องเที่ยว (low season) ธุรกิจโรงแรมทั้งเชนและท้องถิ่นต้องหาทางอยู่รอดด้วยวิธีแข่งกันลดราคาห้องพักลงถึง 50% ต่อเนื่องยาวถึงสิ้นเดือนกันยายนนี้

นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย กล่าวด้วยความระอาใจว่า เคยมีโอกาสเข้าไปอธิบายที่ประชุมคณะรัฐมนตรีรับรู้ถึงความเดือดร้อนและจำเป็นของเอกชนต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนอนุมัติให้สถาบันการเงินรัฐปล่อยเงินกู้แค่ 5,000 ล้านบาท แก่ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดใหญ่ซึ่งเดือดร้อนมากต้องนำเงินไปรักษาสภาพคล่อง เนื่องจากประเทศยังมีพระราชกำหนดบริหารประเทศในภาวะฉุกเฉิน นักท่องเที่ยวต่างชาติหยุดเดินทางเข้าไทยเปลี่ยนไปประเทศอื่นแทน แต่ผลสุดท้ายพอเดินพ้นจากห้องประชุมรัฐบาลก็ไม่ฟังเหตุผลใด ๆ เลย เห็นเป็นเรื่องไม่สำคัญเช่นเดิม

องค์การเดินทางและท่องเที่ยวโลก (World Travel and Tourism Council : WTTC) เปิดเผยว่า ขณะนี้เวียดนามเป็นประเทศยอดนิยมด้านการท่องเที่ยวเติบโตเร็วที่สุดติดอันดับ 4 ของโลก มาตั้งแต่ปี 2551 จนถึงปัจจุบัน ท่ามกลางเศรษฐกิจโดยรอบขยับอย่างช้า ๆ

ล่าสุดเมื่อกลางเดือนกรกฎาคม 2553 เวียดนามเปิดเผยผลวิจัยอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของเวียดนามว่า การลงทุนทางด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพขยายตัวรวดเร็ว นำไปสู่แสงสว่างในอนาคตจะสามารถเพิ่มรายได้ขึ้นเป็น 2 เท่า ปี 2557 ตั้งเป้าต้องถึง 8,700 ล้านเหรียญสหรัฐ

เนื่องจากมีปัจจัยสร้างความประหลาดใจมากมาย ตั้งแต่ปี 2552 ต่อเนื่องถึงขณะนี้มีกลุ่มทุนและนักพัฒนาธุรกิจโรงแรมและบริการท่องเที่ยวจากต่างประเทศขยายการลงทุนเข้ามาเปิดโครงการในเวียดนามคิดเป็น 44.7% ของการลงทุนทั้งหมด บวกกับภาคเอกชนทำโปรโมชั่นต่อเนื่อง รัฐบาลสนับสนุนการขับเคลื่อนท่องเที่ยวเต็มที่ โดยมีการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดมาแรงจากไมซ์ (meeting-incentive-convention- exhibition : MICE) เป็นตัวเร่งสำคัญ

รัฐบาลเวียดนามยังมีนโยบายให้หน่วยงานภาครัฐใช้โอกาสปี 2553 สร้างอีเวนต์ให้มีความแตกต่างจากทุกปี ผนวกจุดขาย ปีการท่องเที่ยวแห่งชาติคู่กับงานฉลอง 1,000 ปี THANG LONG ในฮานอย จะยิ่งส่งผลเชิงบวกกับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เป็นพยานการเติบโตอย่างยั่งยืน

โดยมีกลุ่มนักลงทุนระดับนานาชาติเป็นผู้เล่นหลักผนึกกำลังเข้ามาร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการ อีกทั้งยังมีแผนเลือกเวียดนามเป็นฐานขยายธุรกิจ

ผลวิจัยระบุด้วยแนวโน้มปี 2555 เรตติ้งของเวียดนามจัดเตรียมแนวทางแผ่ขยายศักยภาพด้านท่องเที่ยวในตลาดโลก โดยอาศัยฐานข้อมูลมาวิเคราะห์ ระหว่างสถิติการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวรายได้ การเก็บข้อมูลเทรนด์ตลาด การพัฒนา พื้นที่การแข่งขันที่ได้รับความสนใจจากลูกค้าและนักลงทุนได้ดีกว่าคู่แข่ง

ประการสำคัญที่สุด เวียดนามมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้นเมื่อผลวิจัยสรุปอย่างชัดเจนถึงอนาคตอันสดใสในอีก 5 ปีข้างหน้า ระหว่างเตรียมตัวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เวียดนามจะเป็นประเทศอันดับ ต้น ๆ ที่เต็มไปด้วยโอกาสดึงดูดลูกค้ากับนักลงทุนและมีความท้าทายในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้ยิ่งใหญ่มากขึ้น

Create Date : 19 กรกฎาคม 2553 Last Update : 19 กรกฎาคม 2553 10:33:25 น. Counter : 1076 Pageviews.		0 comments
Share Tweet