หากเอ่ยคำว่าAECหรือ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เชื่อว่าเวลานี้คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธว่าไม่รู้จักเพราะทุกหน่วยงานรวมถึงทุกประเทศในอาเซียนต่างตื่นตัวลุกขึ้นมาเตรียมความพร้อมรับการรวมตัวของกลุ่มในประเทศอาเซียนที่จะมีการเปิดการค้าเสรีในปี 2558 ที่จะถึงนี้ และไม่ใช่เพียงแค่ภาคธุรกิจ แม้กระทั่งภาคการศึกษาประเทศไทยก็ให้ความสำคัญไม่แพ้กันโดยจะเห็นว่าทุกมหาวิทยาลัยต่างเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับหลักสูตรเพื่อผลิตนักศึกษาที่มีคุณภาพให้ก้าวไปสู่การทำงานจริงในยุคของ AEC และที่น่าจับตามองมากที่สุดในตอนนี้คือ มหาวิทยาลัย หอการค้าไทย ปัจจุบันมีการเปิดหลักสูตรใหม่ขึ้นมาหลายหลักสูตรอาทิ เศรษฐศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิชาโลกาภิวัตน์ทางการเงินศึกษา M.Econ. (Financial GlobalizationStudy) เพื่อเตรียมความพร้อมในการก้าวไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่จะถึงในอีก3 ปีข้างหน้านี้ เรียกว่า เป็นยุคแห่งการเรียนใหม่ที่ไม่ใช่แบบเดิมอีกต่อไป

เตรียมความพร้อมสู่AECเวทีโลก

ในวันนี้เราได้มีโอกาสไปพูดคุยกับ คุณนฤมลขรภูมิ หรือ เรียกสั้นๆ ว่า พี่เปิ้ล ศิษย์เก่าก้นกุฏิ จากคณะวิทยาศาสตร์สาขา สถิติประยุกต์ รุ่นที่ 4 ปีการศึกษา 2530 แห่งมหาวิทยาลัย หอการค้าไทยปัจจุบันเป็นเจ้าของธุรกิจไอที ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดระนอง โดยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ บริษัท ระนองคอมพิวเตอร์ จำกัด พี่สาวคนสวยของเราได้มาบอกเล่าถึงการเตรียมความพร้อมให้กับธุรกิจของตนเองเช่นกันเธอให้เหตุผลว่าถ้าหากไม่ก้าวให้ทันโลกธุรกิจที่ทำอยู่ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใดก็ตามก็จะหยุดอยู่กับที่หรือไม่ก็ถอยหลัง

“ในขณะนี้ทุกคนกำลังตื่นตัวกับการที่ประเทศไทยจะก้าวสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ในอีก 3 ปีข้างหน้าพี่เปิ้ลก็คิดว่ามหาวิทยาลัยหอการค้าไทยได้เตรียมความพร้อมสำหรับหลักสูตรการศึกษาที่จะทำให้นักศึกษาที่ได้เข้ามาเรียนเมื่อจบออกไปแล้วก็เป็นที่ต้องการของตลาดมีความพร้อมในการทำงานได้ในอนาคตและธุรกิจของพี่เปิ้ลที่ทำอยู่ก็มีการเตรียมความพร้อมในเรื่องของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปีที่ผ่านมาบริษัทพี่ก็ได้มีการจัดอบรม การทำแผน และข้อกฎหมายของ AEC ในการเตรียมความพร้อม พี่ยังได้ไปประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่าไปศึกษาดูตลาดแล้วพี่คิดว่าเป็นการดีมากเลยที่ตอนนี้ม.หอการค้าไทย ได้มีหลักสูตรที่เกียวกับเรื่อง AEC เพราะเราจะได้เรียนรู้ข้อกฎหมายสังคม วัฒนธรรมของประเทศที่เป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ก็จะเป็นการรู้เขารู้เราก่อนที่เราจะดำเนินธุรกิจอะไรก็แล้วแต่เป็นการเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าไปสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนที่ใกล้จะมาถึงในเร็วๆนี้”

จากพี่สู่น้องUTCCคือ ความผูกพัน

และนี่เองคือเหตุผลสำคัญว่าทำไมเราจึงจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการศึกษาโดยเฉพาะช่วงการเรียนในมหาวิทยาลัย หากเราต้องการทำงานที่ดีและประสบความสำเร็จในชีวิตจึงจำเป็นต้องเลือกเรียนในหลักสูตรที่ข้ากับยุคของนวัตกรรมแห่งการเรียนรู้ในเรื่องนี้พี่เปิ้ลบอกเล่าให้ฟังด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่าเราควรเลือกเรียนในสิ่งที่ตัวเองรักและถนัด เหมือนอย่างเช่นเธอก่อนที่จะก้าวมาเป็นเจ้าของธุรกิจส่วนตัว ได้ทำงานที่บริษัทการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ในตำแหน่ง System Analysis ถึง 4 ปี  ก่อนตัดสินใจเปิดบริษัทของตนเองซึ่งเธอกล่าวว่าการที่ก้าวมาถึงจุดนี้ได้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย ที่ให้วิชาความรู้และยังคงผูกพันและแลกเปลี่ยนความรู้กันอยู่เสมอจนถึงปัจจุบัน

“ย้อนกลับไปประมาณ24 ปีที่แล้ว ในตอนนั้นคณะวิทยาศาสตร์เป็นคณะที่เพิ่งเปิดใหม่ พี่เปิ้ลเป็นรุ่นที่4 ก็ยังมีโอกาสเจอกับรุ่นที่ 1 ซึ่งตอนนั้นก็จะมีสาขา คอมพิวเตอร์, สถิติประยุกต์,คณิตศาสตร์ หลังจากเรียนได้ 2 ปี ก็มีสาขาที่เปิดใหม่คือ FoodScience ตอนเรียนก็จะค่อนข้างสนุกอยู่กันเหมือนครอบครัวทั้งอาจารย์ที่สอนและรุ่นพี่รุ่นน้อง นอกจาการสอนวิชาความรู้แล้วยังสอนการใช้ชีวิตประจำวันด้วยก็รู้สึกผูกพันกับที่นี่มากปัจจุบันก็ยังมีการติดต่อกันอยู่ คุณภาพการศึกษาที่หอการค้าไทยถือว่าค่อนข้างดีพี่รู้สึกภูมิใจมากหลังจากจบที่นี่แล้วได้ทำงานกับ การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทยถือว่าเป็นบริษัท TOP10 ของประเทศ “

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ อ่านแล้วพอจะเป็นแนวทางในการเรียนต่อหรือทำธุรกิจต่อไปบ้างมั้ยคะ งานนี้ถ้าใครกำลังมองหาที่เรียนอยู่ล่ะก็มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งนะคะ หากใครสนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02-697-6767-1 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.utcc.ac.th นะคะ