คบคนมันต้องใช้เวลา >>>>>>>>>>>> ไม่เหมือนเลือกซื้อเสื้อผ้าจะได้ดูที่ยี่ห้อ
Group Blog
 
<<
เมษายน 2551
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
10 เมษายน 2551
 
All Blogs
 

เช้าวันที่สอง ที่กระบี่ >>>>>> เกาะลันตา<<<< Krabi Lanta>>>>

<<<< Click here! เพื่ออ่านวันแรกที่กระบี่<<<<

เมื่อคืนนอนหลับสบาย
แต่เพื่อนผมมันบ่นว่านอนไม่หลับเลย เพราะว่า "ผมนอนกรน" lol
ขอโทษนะเพื่อนๆ 55555555555

เมื่อคืนมาถึงที่พัก ซะดึกเลยไม่มีโอกสถ่ายบรรยากาศรอบๆที่พัก งั้นวันนี้ต้องตื่นมาแต่เช้าเพื่อดูบรรยากาศกันดีกว่า



>>ไปดูบรรยากาศทั้งหมดที่นี้<<<
ตื่นมาแต่เช้าก็หิวครับ ก็ต้องหาอะไรกินแถวๆนั้น
มองหาซ้าย ก็ไม่มีร้านค้า เดินไปไกลหน่อย เพื่อนผมก็บ่น
เมื่อคืนมาเดินยังมีตลาดโต้รุ่ง อยู่เลย



แต่เช้านี้เงียบดีแท้
ก็เลยแวะมากินต้มเลือดหมูกัน ร้านชื่ออะไรไม่แน่ใจจะถ่ายต้มเลือดหมูก็ไม่ทันกินหมดไปแล้ว อิ่มแล้วกองทัพก็เคลื่อนที่ได้

ตกลงกันว่าวันนี้จะไปที่กาะลันตาใหญ่กันเพราะสืบเนื่องจาก มีรถเป็นของตัวเอง(เครียดอีกครั้ง )
ก่อนกลับมาเอารถที่จอดไว้ใกล้ๆที่พัก ก็มองเห็นวัดสวยๆที่บันได ทอดขึ้นไปตามไหล่เขาหมายตาเอาไว้แล้วเพราะชอบ สีฟ้า

อ้าว กองทัพเดินทาง ว่าแต่ขับไปทางไหนก็ งง รู้แต่ว่าลงไปทางใต้ โน้นแหละครับ เส้นทางก็จะผ่าน สระมรกต(ที่จะต้องเลี้ยวเข้าไปอีก) ตกลงว่าถ้ากลับมาได้ไม่เย็นมากจะแวะ แต่.... อะไรๆ ก็ คาดไม่ถึง

ระหว่างทางก็ ถกเถียงเรื่องราคาค่าแพเรือที่จะพาเราข้ามไปเกาะลันตาน้อย แล้วต่อไปเกาะลันตาใหญ่

มาจอดที่ตารางราคาก็ ดูไม่ทันหรอกครับ ยื่นเงินไปให้เลย 500 ไม่พอก็คงต้องเพิ่มเงิน( เพราะไม่รู้ราคาจริงๆ )




ตกลง ค่าเสียหาย 126 บาทครับ 70+50+3+3 เป็นยังไงมายังก็ไปสอบถามเจ้าหน้าที่กันเอง

แพเรือ ออกเดินทางแล้วแหละครับ ไม่รู้สึกว่าเรือแล่นแล้วเพราะเครื่องยนต์ เสียดังมาก จอดอยู่ก็ดัง ไม่นานเกินรอก็มาเทียบท่า ของเกาะลันตาน้อย แค่มองเห็นน้ำทะเลตรงนี้ก็ ใส สวย เขียว น้ำน่าเล่นเป็นที่สุดแล้ว

รถใช้บริการเยอะเหมือนกันครับ เทียบท่าก็เหมือนจะแย่งชิงดำ ทำไมก็ไม่รู้ เจ้ารถขนสับปรดคันนั้น รีบน่าดู คงกลัวส่งสินค้าไม่ทันมั้งครับ แย่งชาวบ้านไปเรื่อย

ขึ้นฝั่งก็เลี้ยวขวา ไปเรื่อยๆ จะเจอ สามแยก็เลี้ยวซ้าย ก็เจอแพเรือไปเกาะลันตาใหญ่ ซึ่งค่าเสียหายต่างๆ เราซื้อตั้งแต่ครั้งแรกแล้ว เพราะว่า ตอนแรกผมก็ยื่นตั๋วไปทั้งหมด เจ้าหน้าที่เก็บตั๋วบอก อีกส่วนใช้ที่อีกแพ( 55555 บ้านนอกมากเลยผม)



เหมือนตู้เก็บค่าผ่านทางร้างๆๆ ผิดกล ไม่มีคนหรือไง ก็ไม่รู้ แต่ก็มีคนยืนรอที่ท่าเก็บคูปองแหละครับ

พอขึ้นเกาะลันตาใหญ่ก็ จะเจอตำรวจถามไถ่ อะไรเล็กน้อยเพื่อให้ทราบว่าเราไม่ได้ขนยาบ้ามาขาย(มั้ง) แต่ทำไมหลอกว่าขากลับรถไม่เยอะ ไม่รู้เหมือนกัน

มาถึงเกาะลันตาใหญ่แล้วก็ เลี้ยวซ้าย ตกลงจะไปที่ประภาคารท้ายเกาะ ที่เห็นบอกว่า ระยะทาง 26 กิโลเมตร โห้ เกาะลันตาใหญ่ทำไมใหญ่จริงๆ เลย

แต่ก็ หลงไปหลงมาจะเขาถ้ำอะไรไม่รู้ ลงไปสอบถามบอกว่าเดินไป 20 นาทีใช้วเวลาชมถ้ำ ประมาณ 1 ชั่วโมง ไม่ไหว ถอยกลับมาดีกว่าสรุปเราขับถ่าย Point view เพื่อนบอกว่าเรามาผิดทาง ถ้าจะไปประภาคารท้ายเกาะ อีกเส้น แต่เพื่อนอีกคน บอกว่ามาเส้นนี้ถูกแล้ว
เพราะว่าอยากจะไป LANTA TOWN ขับไปจนเหมือน เป็นป่าไม่มีน้ำทะเลเลยก็ เอะใจกันกลับรถกันอีกรอบ ถาม ชาวบ้าน เขาบอกว่า เลยมาแล้ว ให้เลี้ยวตรงโต๊ะสนุ๊กเกอร์ 4 แยก(แต่ไม่มีไฟแดง)

เราก็เลยมาอีก หันหลังกลับอีก เพราะมองไม่เห็นโต๊ะสนุ๊กสักตัว ก็ ลองเลี้ยวมาทางซ้าย(หลังจากกลับรถรอบสอง ถ้ามาเจอ สี่แยกนี้ก็เลี้ยวซ้ายครั้งแรกก็จบ)



เริ่มเห็นตัวเมืองแล้วครับ โล่งใจ เห็นน้ำทะเลด้วย มีประภาคารเล็กให้ ดีใจกันก็ ขับรถเลี้ยวซ้ายไปดูความเป็นตัวเมืองเก่า สวยงามดี แต่ถ้าไม่มีรถเลยถนนจะสวยมากครับ

กลับมาจอดรถที่สนามฟุตบอลเล้กๆ ก็เดินถ่ายรูป ในใจนะอยากไปถ่ายตรงสะพานไกลๆๆ แต่ว่าร้อนมากไม่ไหวเลยครับ หิวด้วย จะเที่ยงแล้ว ก็ ถ่ายรูปกันไปก่อนครับ แก้หิวได้



อยู่บริเวณ วงเวียน กลาง LANTA TOWN แล้วก็จะขับรถไปหาอะไรกิน วนออกมาผ่านที่ทำการเกาะลันตา ก็กะแค่ถ่ายรูปด้านหน้า มองเข้าไปมีป้ายชื่อ เรือไม้เก่าๆ ก็เดินเข้าไปอีก เดินๆเข้าไป เก็กท่าจะถ่ายรูป น้องที่ทำงานที่นั้นก็ เชิญชวนให้เราดูพิพิธภัณฑ์ ราคา 20 บาทต่อคน เพื่อนผมก็ ต่อ แต่น้องเขาบอกว่าราคานี้ถูกแล้ว

ก็เข้าไปดูกันเถอะครับ เริ่มแรกจากชั้นแรกก็เป็น อวสานของเตาถ่านครับ มันน่าสนใจดี แล้วก็แวะออกมาซื้อโปสการ์ด กันสักนห่อย ว่าจะออกไปกันแล้ว ไหนๆๆ ก็ไหนๆๆ มีชาวต่างชาติมาดูด้วยครับ แต่ขอบอกว่าพอเดินเข้าไปชั้นสอง ผมกับเพื่อน ก็เดินถ่ายรูป วนไปวนมา ประมาณ 1/2 ชั่วโมง เข้ามี วีดิทัศน์ ให้ดู ผมไม่ได้ดูหรอกครับ แต่ชาวต่างชาติเหมือนกับสนใจมาก



ชื่นชมกันสมอุราแล้วก็หิวซิครับ ขับรถออกมา กลับมาทางเดินที่หลงมาทางนี้ แล้วก็เลี้ยวซ้าย ครับ เริ่มเห็น ชายหาดเป็นระยะ สุดลูกหูลูกตา ตอนนี้เริ่มหิวเป็น สองเท่า เลี้ยวซ้ายมาได้เห็นวิวทะเล ร้านนี้แล้วกัน จอดๆๆๆ เอ่อ เบรคๆๆๆ



นั่งร้านนี้แหละไม่คิดอะไรมากแล้ว จะเข้าห้องน้ำด้วย
เงียบสงบดี แต่เจ้าของร้านจะดีใจไหมหนอ เป็นผมเศร้าใจตาย ก็ตกลงสั่งกระเพราทะเลมากินดีกว่า มองไปเห็นคลื่น สบายตาแต่ทำไมน้ำไม่ใสเหมือนตอนมองเห็นที่เกาะลันตาน้อยเลย

กินๆๆๆ กันก่อนแล้วค่อยว่ากัน บรรยากาศดีมากครับ ถ้าร่มรื่นกว่านี้หน่อยจะให้ เต็ม 10 เลย



ไม่รู้ค่าเสียหายเท่าไหร่กันแน่ แต่เพื่อนผมบอกว่า 700 กว่าบาท จริงเท็จแค่ไหน ไม่รู้ครับ อ๋อ พวกผมจะเอเงินไว้กองกลาง คนละ 1000 บาท ครับ หยิบจ่ายได้เลย ไม่ต้องคิดมาก หมดก็เติม(แต่ห้ามหมด)

ก็สอบถามน้องเขาว่าจะไปประภาคารท้ายเกาะไกลไหม เขาบอกว่า ประมาณ 10 กิโลเมตร สอบถามเรื่องเล่นน้ำ ถ้าพวกผมจะเล่นน้ำที่นี้ คิดค่าใช้จ่ายอะไรหรือเปล่า
ทางร้านมีบริการน้ำสะอาดให้ฟรีไม่คิดงินครับ ก็เก็บไปพิจารณา แล้วก็ขับรถไปเรื่อยๆ ไกลจัง ถนนเริ่มไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ผ่าน โรงงแรมพิมาลัย ด้วยครับ สวยดี แต่ แพงไปสำหรับผม ก็ ขับรถต่อ ชักจะลำบาก มากขึ้นมีคนขับมอเตอร์ไซด์สวนมา สอบถามว่า จะไปประภาคารท้ายเกาะ ทางเป็นยังไง

น้องเขาบอกว่า แย่กว่านี้อีกครับ กรรม!!! VIOS เขาจะพังไหมครับ ก็ เลยเปลี่ยนแผน อยากเล่นน้ำทะเลกันด้วย วนกลับมาที่ร้านอาหารร้านเดิมครับ ได้เล่นน้ำสมดั่งตั้งใจ บ่ายก็จริงผต่ตอนลงเล่นน้ำ มีเมฆมาช่วยครับ ไม่ร้อนเท่าไหร่



ลงเล่น้ำได้ประมาณ 45 นาที ก็ พอแก่ใจตอนนี้ก็ 15.00 น.กว่าแล้ว รีบกลับกันดีกว่า อาจจะได้แวะ สระมรกตถ้ามีเวลา (หวัง ได้แต่หวัง....)

ขากลับเหมือนว่าแพเรือ ทำงานน้อยลำผมข้ามจากเกาะลันตาใหญ่ไม่นาน แต่มาติดที่เกาะลันตาน้อยจะข้ามไปฝั่งนานมากครับ
รถบางคนทนไม่ไหวก็ แซงคิว แบบคันนี้ครับ



ผมติดอยู่ที่เกาะลันตาน้อย ประมาณ ชั่วโมงเศษได้เลย ได้กินมะม่วง ที่ชาวบ้านเอามาขาย ระหว่างรอคิวด้วยครับ
กว่าจะถึงฝั่งได้ ก็ เกือบ 18.00 น.และมองเห็นรถที่มารอ
ลงแพเรือ ข้ามไปเกาะลันตาน้อยเยอะมาก ครับ หลายกิโลเมตรเลย จะได้ข้ามกันอีกโมง ถ้าใครจะก็แนะนำให้ค้างคืนที่เกาะลันตาใหญ่ก็ดีครับแต่
น้องที่ร้านอาหารบอกว่า ค่าห้อง ธรรมดา 800 บาท/คืน แอร์ 2400-2800/คืน ครับ พอดียังไงๆ ก็ต้องกลับมานอนที่เมืองกระบี่ครับ เลยไม่ได้แวะสระมรกตเลยครับ

กลับเข้าถึงตัวเมืองก็เกือบ 20.00 น.ครับเดินไปหาอาหารกิน แถวตลาดโต้รุ่งอาหารไม่ค่อยอร่อยเลยครับ
แต่ก็กินหมดครับ ทำไงได้คนมันเหนื่อย เฮ้อ เหนื่อยดีแท้ชีวิตหลังพวงมาลัย

พรุ่งนี้ ต้องไปเที่ยวสระมรกตให้ได้ครับ เห็นภาพต้องบอกว่า อยากกลับไปอีกนะครับ

>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

<<< Click here! เพื่อดูรูปการเดินทางทั้งหมดครับ>>>




 

Create Date : 10 เมษายน 2551
1 comments
Last Update : 10 เมษายน 2551 10:49:19 น.
Counter : 1408 Pageviews.

 

สวัสดีค่ะแวะมาชมก่อนนะค่ะ เดียวมีเวลาจะมาอ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการเดินทางต่อค่ะ

 

โดย: paerid 10 เมษายน 2551 15:03:20 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


redPoTatO
Location :
text Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชีวิตคนเรามันสั้น ไม่ต้องแกล้งทำเป็นไม่รู้
เบื่อก็ไปเที่ยวกัน เอากำลังใจบ้างคนไทย!!

ณ วันนี้ก็นับถอยหลังให้กับเวลาที่ เหลืออยู่เพราะ

หนี้กำลังจะท่วมหัว....

[ บางครั้งกล้าคิด แต่ไม่กล้าทำ ก็คนมันกลัวงะ ]

Click เพื่อส่งหลัง ไมค์ ติดต่อ redPoTatOที่นี่ ครับ





Friends' blogs
[Add redPoTatO's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.