ลมหนาวที่ใต้ถุนบ้าน
ลมหนาวที่ใต้ถุนบ้าน

สมใจแหงนหน้าขึ้นมองเพดานซึ่งเป็นพื้นเรือนพร้อมกับสมรักพี่สาว สองพี่น้องมีเพียงเสื้อฝ้ายสีขาวหม่นๆ ขาดวิ่นเป็นเครื่องนุ่งห่ม ทั้งขาและแขนกลายเป็นขุยแตกลายเพราะอากาศอันหนาวเหน็บ ลมเย็นยะเยือกพัดผ่านร่างของสองพี่น้องขณะยืนนิ่งอยู่บนพื้นดินเย็นเฉียบ ใต้ถุนบ้านที่มีเพียงตะเกียงไฟเก่าๆ ให้แสงสว่าง เสียงขวดเหล้าล้มลงกระแทกกับพื้นไม้ดังอยู่บนบ้าน ก่อนที่น้ำใสๆ จะรินไหลลงผ่านรูเล็กๆ ของพื้นเรือนลงมาสู่พื้นดินเบื้องล่าง

เสียงของพ่อร้องโวยวายด้วยอาการมึนเมาจากฤทธิ์เหล้าขณะที่สมรักวัยสิบห้าปีฉวยเอามือของสมใจน้องสาวมาจับไว้แน่น สองพี่น้องยังคงแหงนหน้าขึ้นมองร่างอันผอมโซที่ห้อยโตงเตงอยู่บนขื่อ ผ้าขาวม้าสีซีดของพ่อรัดแน่นจนลิ้นของสมรโผล่พ้นริมฝีปากออกมา ดวงตาเรียวเล็กของเธอเหม่อมองลงมายังร่างของลูกสาวทั้งสอง คอที่ถูกรัดแน่นเอนพับมาทางซ้าย มองดูคล้ายตุ๊กตาผ้าที่สมรักเคยทำให้สมใจเล่น ลมหนาวพัดมาอีกครั้งพร้อมกับเสียงว่าวธนูที่ดังแว่วมาจากท้องนา ไม่นานต่อจากนั้น ชาวบ้านก็แห่กันมาที่บ้านหลังเล็กๆ ของเธอ ทั้งบ้านสว่างโร่ด้วยตะเกียงไฟของแต่ละคนที่วางไว้บนแคร่ใต้ถุนบ้าน ร่างของแม่ถูกนำมาวางบนแคร่ตัวนั้น มีเสียงร้องไห้ เอะอะ โวยวาย ของพวกผู้ใหญ่จนสมใจต้องเอามือปิดหู ก่อนที่สมัยผู้เป็นน้าสาวจะคว้าร่างเธอมากอดไว้แน่น


เมื่อแม่ล้มป่วยลง...

สมใจก็ไม่ได้กินแกงปลาช่อนของโปรดเธออีกเลย มีเพียงแค่แจ่วปลาร้าและคั่วตั๊กแตนกับแมลงอื่นๆ ที่เธอกับพี่สาวไล่จับได้ตามท้องไร่ท้องนา วันไหนโชคดีหน่อยก็จะได้ปลาเล็กปลาน้อยสักถ้วยมาทอดหรือแกงกินกัน

อาจจะเป็นเพราะแม่ที่ล้มป่วย ทำให้พ่อขาดกำลังใจในการทำงาน พ่อเป็นจับกัง ทำงานที่โรงสีในเมือง ทุกเย็นที่กลับมาบ้านมา พ่อมักจะมีขนมติดมือมาฝากเธอและพี่สาวรวมทั้งสมปองน้องสาวด้วยเสมอ แต่นับจากที่แม่ล้มป่วยลง พ่อก็ต้องคอยดูแลแม่ ทำให้ขาดงาน ขนมที่เธอและลูกอีกสองคนเคยกินก็ไม่เคยได้ลิ้มลองมันอีกเลยนับจากนั้น พ่อกลับมาทำสวนและไม่กลับไปเป็นจับกังอีกเลย

พ่อบอกว่าจะปลูกพริก หอม กระเทียม และถั่วลิสง หลังจากไถดินเรียบร้อยสมใจกับสมรักก็ทำการหวานเมล็ดพริก ปักหัวหอม กระเทียมและถั่วลิสงลงดิน เมื่อเสร็จจากงานในสวนแล้วจึงรีบกลับไปดูแลแม่และทำงานที่บ้าน ระหว่างนั้นพ่อก็จะไปออกหาปลาเพื่อนำมาทำเป็นอาหารเย็น ในระยะแรกที่แม่ป่วย ครอบครัวของสมใจยังคงเป็นครอบครัวที่อยู่กันอย่างปกติสุขดี

สมาชิกทั้งหมดในบ้านนอนรวมกันในบ้านที่เป็นพื้นโล่ง มีเพียงฝากระดานที่สานด้วยไม่ไผ่เล็กๆ กั้นไว้ตรงมุมห้อง สำหรับผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า นับจากที่แม่ล้มป่วยลงจนอาการเริ่มหนักขึ้น สมใจก็ไม่เคยเห็นพ่อของเธอนอนโอบกอดแม่อีกเลย ไม่แน่ใจว่าแม่จะรู้สึกเช่นไร แต่พ่อดูหงุดหงิดและใบหน้าเต็มไปด้วยความตึงเครียด

ในคืนหนึ่งตอนที่น้องและสมรักเผลอหลับไป...

เธอสะดุ้งตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะเสียงตึบตับของอะไรบางอย่างที่ดังกระทบกัน เด็กสาวขยี้ตาไปมาด้วยอาการงัวเงีย แสงจันทร์ขึ้นสิบสามค่ำสาดลอดฝาเรือนเข้ามา สมปองนอนหลับสนิท แต่ถัดมานั้นพ่อกลับเอาทั้งร่างคร่อมตัวแม่ไว้ ร่างกายของพ่อเปลือยเปล่า แผ่นหลังสีน้ำตาลเข้มและแขนอันแข็งแรงเต็มไปด้วยมัดกล้ามจากการทำงานหนัก โสร่งที่พ่อใส่หลุดลุ่ยลงไปกองที่ปลายเท้า ขณะที่ร่างกายท่อนล่างขยับเข้าไปกระทบกับร่างของมารดาเป็นจังหวะ

สมใจเอามือคลำที่หน้าอกตัวเองเบาๆ เมื่อเดือนที่แล้วเธอเริ่มรู้สึกว่ามันขยายใหญ่ขึ้นอย่างผิดปกติ ยิ่งได้เห็นภาพตรงหน้าก็ยิ่งทำให้เด็กสาววัยสิบสองปีสงสัย ใบหน้าดำคล้ำอันเต็มไปด้วยไรหนวดเขียวขรึมของพ่อ ก้มลงซุกไซ้หน้าอกของมารดา ราวกับว่ามันเป็นผ้าเช็ดหน้าราคาแพง หรือแพรพรรณที่กลิ่นหอมรัญจวนใจ สมใจย่นคิ้วกับพฤติกรรมแปลกประหลาดตรงหน้าด้วยความฉงนสนเท่ห์ เมื่อความง่วงประดังประดาเข้ามา เด็กสาวก็ผล็อยหลับไปอย่างไม่รู้ตัว


หลังจากที่แม่ล้มป่วย...

สมใจก็แอบลืมตาตื่นขึ้นมากลางดึกแทบจะทุกคืน แต่เด็กสาวก็ต้องประหลาดใจระคนสงสัย เมื่อพ่อกับแม่ไม่ได้ทำในสิ่งที่เธอหมายจะได้เห็นอีกสักครั้ง แม่ยังคงนอนนิ่งภายใต้ผ้าห่มผืนหนา ส่วนพ่อก็ไปนอนอีกฟากใกล้กับสมรักพี่สาว และนับจากวันนั้นมา พ่อกับแม่ก็คุยกันน้อยลง แม่พยายามจะทำงานในบ้านแต่ร่างกายที่อ่อนแอก็ทำให้แม่ต้องนอนอยู่กับที่ นานๆ ครั้งถึงจะออกมาช่วยสมใจตำข้าว หรือช่วยสมรักหุงหาข้าวปลาบ้าง

พ่อมาติดเหล้าก็ในตอนที่แม่อาการทรุดหนักลง อาจเพราะความเหนื่อยจากงานที่ไร่เลยทำให้พ่อเบื่อที่จะดูแลแม่ อีกทั้งค่ายาที่ต้องซื้อหามาให้แม่กินทุกสัปดาห์ สมใจและสมรักต่างรู้ดีว่าเงินที่พ่อมีอยู่เริ่มลดน้อยถอยลงทุกทีแล้ว

“ฉันจะเอาแตงไปขายที่ตลาด พรุ่งนี้เช้าพี่ไปกับฉันนะ” สมใจกระซิบบอกสมรักเมื่อหลับตาลงนอนได้ไม่นาน สองพี่น้องนอนฟังเสียงกรนฟอดๆ ของบิดาที่สลบไสลเพราะฤทธิ์เหล้าคละเคล้ากับเสียงของว่าวธนูที่ลอยมาตามสายลมยามดึกสงัด

“แล้วบอกพ่อรึยัง ?” สมรักถามเสียงกระซิบ ขยับร่างเข้ามาใกล้น้องสาวมากขึ้น

“ฉันกะว่าจะบอกวันนี้แหละ แต่พ่อเมาเสียก่อน รถโดยสารจะมารอที่หน้าหมู่บ้านตอนตีสอง ฉันบอกให้น้าสมัยมาเรียกฉันที่บ้าน ไว้พอสายๆ เราขายเสร็จแล้วค่อยบอกพ่อ พวกชาวบ้านแถวนี้เขาก็รู้ว่าฉันจะไปขายแตงพรุ่งนี้”

“เอาอย่างนั้นเลยเหรอใจ แต่พี่เป็นห่วงแม่ เอ็งไปกับน้าสมัยเถอะ พี่จะอยู่บ้าน” สมรักบอกน้องสาวด้วยความเสียดาย หากไปด้วยกันสองคนคงจะได้เงินกลับมาหลายสิบบาท แต่เธอเป็นพี่ก็ต้องคอยดูแลความเรียบร้อยของที่นี่ ยิ่งถ้าพ่อเกิดตื่นขึ้นมาแล้วไม่พบเธอกับสมใจเลยก็ยิ่งจะเป็นเรื่องใหญ่


ตีสองแล้ว...

สมใจสะดุ้งตื่นขึ้นเพราะเสียงเรียกของน้าสมัยที่ยืนรออยู่หน้าบ้าน เด็กสาวรีบดีดตัวลุกขึ้นจากเตียงนอน วิ่งไปคว้าเอาเสื้อกันหนาวตัวเก่าสีทึบ ก่อนลงบันไดไป รีบจับเอาตะกร้าหวายสองใบที่มีแตงกวาหลายสิบลูกวางไว้จนเต็ม และเดินตามนางสมัยไปยังหน้าหมู่บ้านด้วยความตื่นเต้น นี่เป็นครั้งแรกที่สมใจจะได้ไปขายของที่ตลาด เด็กสาวทั้งรู้สึกดีใจและตื่นเต้นระคนกันไป หากขายได้ดี เธอก็จะตื่นตั้งแต่ตีสองไปขายแบบนี้ทุกวัน เพื่อจะได้มีเงินค่ายาให้แม่ ค่าปุ๋ยสำหรับใส่สวนพริก กระเทียมและถั่วลิสงของพ่อ หากแม่เธอหายดี พ่อก็คงจะมีกำลังใจและเลิกกินเหล้าอย่างที่เป็นอยู่


สมใจกลับบ้านมาพร้อมกับเงินเกือบสองร้อยบาท นั่นถือว่ามากพอดูสำหรับนักขายมือใหม่เช่นเด็กสาว กว่ารถโดยสารจะออกก็กินเวลาไปเกือบเจ็ดโมงเช้า สมใจได้แต่หวังว่าพ่อจะเข้าใจเธอ และทุกอย่างที่บ้านจะเรียบร้อย ป่านนี้พี่สมรักคงกำลังทำกับข้าวให้สมปองและแม่กิน พ่อก็คงออกไปสวนแต่เช้าเหมือนเคย

หากแต่เมื่อสมใจกลับมาถึงบ้านพร้อมกับตะกร้าหวายที่ว่างเปล่าสองใบแล้ว เธอกลับเห็นพี่สาวนั่งกอดเข่าอยู่บนแคร่คนเดียว คนที่หุงหาทำกับข้าวกลับเป็นสมปองวัยเก้าขวบ สมใจมองหาร่างของบิดาแต่ก็ไม่พบ เมื่อเดินเข้ามาใกล้ๆ ร่างสมรักจึงได้กลิ่นคาวเลือด

“พี่เป็นอะไร ?” สมใจแตะที่แขนพี่สาวเบาๆ ใบหน้าเด็กสาววัยสิบห้าปีเงยขึ้นสบสายตาน้องสาว คราบน้ำตาที่เปรอะเปื้อนใบหน้าของพี่สาวทำให้สมใจย่นคิ้ว ก่อนที่จะก้มลงมองผ้าซิ่นเก่าๆ ที่มีโลหิตสีแดงฉานเปรอะเปื้อน

“พี่เป็นเลือดเหรอ?... เจ็บท้องมากเหรอถึงร้องไห้ เดี๋ยวฉันจะไปต้มยาให้กินนะ แล้วพ่อออกไปสวนแล้วใช่ไหม ปวดแค่นี้ถึงกับร้องไห้เลยเหรอพี่...”
สมใจบ่นอุบอิบไปตามประสา ตรงเข้าครัวไปช่วยสมปองหุงหาข้าวปลาก่อนต้มยาสมุนไพรมาให้สมรักได้ดื่ม พอเสร็จแล้วจึงรีบไปดูแลมารดาและรีบห่อข้าวห่อน้ำไปให้พ่อที่คงนั่งรอข้าวเช้าอยู่ที่สวน

สมใจวางปิ่นโตไว้บนแคร่ในเถียงนา มองหาร่างบิดาอยู่สักพักจึงเห็นว่ากำลังลอยคออยู่ในสระที่ขุดไว้เลี้ยงปลา เด็กสาวรีบวิ่งไต่ไปบนคันแทนาก่อนจะมาถึงขอบสระในที่สุด

“พ่อจ้ะ...ฉันเอาข้าวมาให้ วางไว้อยู่ที่เถียงนะ เดี๋ยวฉันกลับเข้าบ้านไปซักผ้าก่อน ใกล้จะถึงเพลจะพาพี่รักออกมาพรวนดินในแปลงพริก” สมใจพูดพร้อมกับหอบหายใจด้วยอาการเหนื่อย ชายวัยห้าสิบที่ลอยคออยู่ในสระเพ่งมองใบหน้ากลมเกลี้ยงของเด็กสาวแน่นิ่ง ดวงตาสีดำเข้มของบิดาที่จ้องเขม็งมาอย่างไม่วางตาทำให้สมใจต้องย่นคิ้วขณะที่เขาค่อยๆ ว่ายเข้ามายังฝั่งและลุกขึ้นจากผิวน้ำที่ลึกเพียงเอว

สมใจจ้องมองแผ่นอกสีคร้ามแดดและหน้าท้องแข็งเกร็งของบิดา เมื่อร่างนั้นเดินขึ้นจากน้ำมาอย่างช้าๆ เด็กสาวก็รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า ขณะที่สองตาเพ่งมองไรขนสีดำอ่อนๆ ที่ไล่จากใต้สะดือของบิดาลงไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ...

ชายวัยห้าสิบที่ยังคงมีร่างกายบึกบึนยืนเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ต่อหน้าบุตรสาววัยสิบสองปี แววตาของชายแก่คุกรุ่นด้วยตัณหาที่ท้วมท้น เครื่องหมายอันแสดงถึงความเป็นชายค่อยๆ ขยับเขยื้อนลุกชันขึ้นมาราวกับมีชีวิต สมใจได้แต่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ เด็กสาวมองร่างกายของบิดาก่อนหันไปจ้องหน้าผู้เป็นพ่อด้วยสีหน้าซีดเผือด

“หยิบผ้าขาวม้ามาให้พ่อหน่อย...” น้ำเสียงเรียบขรึมเอ่ยสั่ง เด็กสาวเหมือนหลุดออกมาจากภวังค์ รีบตะลีตะลานส่งผ้าขาวม้าผืนบางให้กับบิดาด้วยมือสั่นระริก สมใจจ้องมองทุกอิริยาบถของผู้เป็นพ่อด้วยความฉงนสนเท่ห์ เหตุไฉนเธอจึงรู้สึกแปลกประหลาดใจ ทำไมหัวใจเธอต้องเต้นแรง ทำให้ต้องรู้สึกร้อนวูบวาบ ทำไมพ่อต้องมองเธอแบบนั้น... ทำไม...


สมรักหน้าซีดลงไปทันทีที่สมใจบอกให้เธอไปทำงานที่สวนช่วยพ่อเพียงคนเดียว โดยบิดาสั่งให้สมใจดูแลแม่ที่บ้านและทำอาหารเที่ยงไว้รอ สมรักแอบไปร้องไห้ในห้องน้ำก่อนรีบคว้าเอาหมวกขาดๆ เสื้อแขนยาว เดินดุ่มๆ จากไปโดยทิ้งความสงสัยให้กับน้องสาวที่นั่งมองเธออยู่เบื้องหลัง และหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา สมรักก็ร้องไห้ทุกวัน...


อีกไม่ถึงชั่วโมงก็จวนจะถึงเวลาที่สมใจจะต้องตื่นไปขายแตงที่ตลาดแล้ว หากแต่วันนี้เด็กสาวกลับสะดุ้งตื่นขึ้นมาก่อนเวลา สมใจเบิกตาโพลงขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงสะอื้นไห้ของมารดา เมื่อหันหน้าไปก็ต้องได้สบสายตากับหญิงผู้ให้กำเนิดที่นอนน้ำตารินไหลอยู่ข้างๆ เธอ ริมฝีปากซีดเผือดของแม่เม้มแน่นเข้าหากัน สมใจจ้องหน้ามารดาด้วยความตกใจก่อนที่หูจะได้ยินเสียงครางต่ำๆ ของผู้ชายที่ดังอยู่ใต้ถุนบ้าน

สมใจหันร่างมานอนตะแคงอีกทาง ขยับที่นอนพับออกและแนบหน้าลงกับพื้นไม้เย็นจัด เพ่งสายตาผ่านรูเล็กๆ ของแนวพื้นเรือนสู่แคร่ตัวย่อมที่ตั้งอยู่ใต้ถุนบ้าน

เด็กสาวย่นคิ้วอย่างแปลกใจเมื่อแลเห็นร่างกายอันเปลือยเปล่าปราศจากอาภรณ์ใดๆ ของบิดา ทั้งที่ข้างล่างนั้นหนาวเหน็บจับใจ แขนอันแข็งแรงของพ่อยันร่างตัวเองไว้ขณะที่มีใครอีกคนอยู่เบื้องล่าง เอวและก้นของชายวัยห้าสิบที่อยู่ระหว่างขาเรียวยาวของคนข้างล่างขยับไปมา...

บ้างเชื่องช้า บ้างรัวเร็ว...

มือของผู้ถูกควบคุมถูกพ่อยึดไว้แน่น เมื่อหัวของพ่อก้มลงโลมเลียกับซอกคอและเรือนร่างท่อนบน สมใจจึงได้เห็นใบหน้าที่อัดแน่นไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวและหยาดน้ำตาของเธอผู้นั้น

สายตาของสองพี่น้องประสานกันแน่นิ่ง...

สมรักกำลังร้องไห้ หากแต่ไม่มีเสียงร้องรำพันเล็ดลอดออกมาจากไรฟันของเด็กสาววัยสิบห้าปีแม้แต่น้อยเลย สมใจได้ยินแต่เสียงหน้าแข้งของบิดากระทบกับเข้ากับท่อนขาขาวเนียนของพี่สาวเป็นจังหวะผสมปนเปกับเสียงว่าวธนูยามดึก ร่างกายของเด็กสาวชาวาบราวกับว่าไร้ความรู้สึกไปชั่วขณะ เธอสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวและเสียใจในแววตาของสมรักผู้เป็นพี่สาว...


หลังจากผ่านเหตุการณ์วันนั้นไปได้หนึ่งวัน...

แม่ก็ผูกคอตาย เป็นครั้งแรกที่สมใจได้เห็นคนตายเต็มสองตาแบบนี้ ซ้ำร้ายศพที่เธอได้เห็นเป็นศพแรกก็ยังเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดเธออีก ไม่มีใครรู้ว่าทำไมแม่ถึงคิดปลิดชีวิตตัวเองเช่นนี้ น้าสมัย พวกผู้ใหญ่ในหมู่บ้านต่างก็ถกเถียงกันอย่างหาข้อสรุปไม่ได้ แต่สำหรับเด็กผู้หญิงทั้งสามคนในบ้านนี้ พวกเธอได้สูญเสียคนที่รักที่สุดในชีวิตไป และสมรักก็พอจะมองเห็นชะตากรรมที่ตัวเองจะได้รับต่อไปในอนาคตขึ้นมาอย่างลางๆ แล้ว

หลังจากงานศพมารดา สามพี่น้องก็มานอนกอดกันท่ามกลางฤดูหนาวอันแสนเย็นยะเยือก สมรักโอบกอดร่างสมปองน้องสาวคนสุดท้องไว้แน่นขณะที่สมใจก็เอามือกอดร่างสมรักไว้อย่างหวงแหนเช่นกัน ทั้งเธอและพี่สาวก็ได้แต่เฝ้าภาวนาว่าขอให้ราตรีกาลคืนนี้ผ่านพ้นไปให้เร็วที่สุด หากแต่เสียงฝีเท้าที่เดินขึ้นบันไดมานั้นมันก็ทำให้สมรักต้องสะดุ้งเฮือก เด็กสาวกอดร่างน้องสาวทั้งสองไว้แน่นทั้งน้ำตา ผ้าห่มผืนบางถูกมือหนาของบิดากระชากออกมาในที่สุด

ชายผู้คลุ้มคลั่งขาดสติด้วยฤทธิ์เหล้ายึดข้อมือน้อยๆ ของสมรักไว้ ก่อนเหวี่ยงร่างเด็กสาวมายังกลางเรือน สมรักร้องไห้กระซิกด้วยความกลัว สมปองที่ลืมตาตื่นขึ้นมาพอดีรีบโผเข้ากอดสมใจด้วยความตกใจ

ผู้เป็นพ่อถอดเสื้อแขนสั้นตัวเก่าออกช้าๆ ...

ปลดผ้าขาวม้าและโยนใส่หน้าสมใจที่นั่งกอดน้องสาวอยู่มุมห้อง ก่อนค่อยๆ ปลดตะขอกางเกงออก ใบหน้าดำคล้ำมันเยิ้มจดจ้องมองเรือนร่างอวบอัดของผู้เป็นลูกที่เพิ่งแตกเนื้อสาว มือหนาของพ่อกระชากเสื้อสมรักจนขาดวิ่น และถึงผ้าถุงเด็กสาวออกมาจนถึงปลายเท้า เอามืออีกข้างปิดปากร่างที่ขัดขืนไว้ขณะที่อีกมือจับขาทั้งสองให้แยกออกจากกันก่อนดันร่างเข้าโถมทับเรือนกายของเด็กสาว

สมปองจ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความตกตะลึงถึงขีดสุด ขณะที่สมใจได้แต่นั่งตัวแข็งทื่ออย่างทำอะไรไม่ถูก เธอจะวิ่งลงไปบอกสมัยดีมั้ยหนอ ? หากทำเช่นนั้นแล้วพ่อจะตีพี่สมรักกับสมปองรึเปล่า? แล้วถ้าหากเธอไปบอกคนอื่น พ่อจะถูกพวกเขาต่อว่ามั้ย? สิ่งที่พ่อทำอยู่ตอนนี้มันผิดหรือไม่? แต่พ่อก็ทำให้พี่สมรักต้องร้องไห้นี่... พ่อกำลังทำให้เธอกับพี่กลัว พ่อทำแบบนั้นกับแม่ได้ แต่ไม่ใช่ทำกับพี่สมรักแบบนี้...


หลังจากเหตุการณ์คืนนั้น...

สมรักก็ถูกบิดาเรียกไปหาที่ชายทุ่งอีกครั้ง แต่คราวนี้สมใจตามไปด้วย เด็กสาวตัดสินใจว่าหากพ่อทำแบบนั้นกับพี่สาวเธออีก สมใจจะวิ่งไปบอกพวกชาวบ้านที่มาเลี้ยงวัวแถวนั้นให้ได้รู้กัน

“วันนี้ข้าอยากกินแกงเห็ด เอ็งช่วยไปหาเห็ดในป่าหน่อยสินังใจ” บิดาสั่งขึ้นเสียงเรียบขณะที่ทั้งหมดกำลังนั่งพรวนดิน ดายหญ้าในแปลงหอมที่เริ่มแตกยอดออกมาจากหัว สมใจหันไปมองหน้าของสมรักอย่างกังวล แต่เมื่อถูกบิดารบเร้าจึงต้องรีบคว้าเสียมเดินหายเข้าป่าไป

เด็กสาวแอบอยู่หลังพุ่มไม้ที่ชายป่า ทอดสายตาไปยังสวนหอมและกระเทียมด้วยความหดหู่ ท่ามกลางแสงแดดอันร้อนแรง บิดาเธอก็ฉุดกระชากร่างสมรักให้นอนแผ่ราบกับผิวดินกลางสวน เสียงร้องไห้ของพี่สาวดังคละเคล้ากับเสียงคำรามฮึดฮัดของชายวัยห้าสิบที่กำลังสุขสมกับตัณหาและกามารมณ์ที่เข้าครอบงำจิตใจจนมิอาจแยกแยะผิดชอบชั่วดีได้อีกต่อไป

สมใจหันหลังเดินเข้าป่า กำด้ามเสียมในมือไว้แน่น ขณะที่สายตามองหาเห็ดที่อาจขึ้นอยู่ตามโคนไม้ เด็กสาวสัญญาว่าจะไม่ยอมให้พ่อรังแกเธอแบบนี้แน่ หรือหากมันเกิดขึ้น พ่อก็ต้องชดใช้ให้กับสิ่งที่พ่อได้ทำลงไป


คืนนี้สมใจรู้สึกตงิดใจยังไงพิกล...

เด็กสาวลืมตาตื่นขึ้นเมื่อใกล้ถึงเวลาตีสอง เห็นร่างอันเปลือยเปล่าของบิดานอนแผ่หลาอยู่บนที่นอนที่มารดาเธอเคยนอน สมปองยังคงนอนหลับปุ๋ยข้างๆ เธอ หากแต่สมใจกลับไม่เห็นร่างสมรักผู้เป็นพี่สาว ด้วยความกังวล เด็กสาวจึงรีบหยัดกายลุกขึ้นและสาวเท้าเดินลงบันไดสู่ชั้นล่าง เมื่อปลายเท้าเหยียบลงยังพื้นดินเย็นเฉียบลมหนาวก็พัดกรูเข้ามาใส่ร่างอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว

สมใจกอดอกไว้แน่น ค่อยๆ หันมาทางใต้ถุนบ้าน ตรงขื่อคาที่ร่างของมารดาเคยห้อยโตงเตงโดยมีผ้าขาวม้าเก่าๆ ของพ่อรัดคอไว้แน่น ปรากฏเป็นร่างของเด็กสาววัยสิบห้าปี กำลังโอนเอนไปมาตามแรงลม เป็นเสมือนภาพที่เกิดขึ้นซ้ำรอยภาพเดิมที่สมใจได้เห็นก่อนหน้านี้ เด็กสาวเดินไปหาร่างของพี่สาวราวกับร่างที่ไร้วิญญาณ ดวงตาเรียวเล็กของสมรักก้มมองลงยังเบื้องล่าง ราวกับว่ากำลังจ้องมองสมใจอยู่ เด็กสาวแนบใบหน้าลงกับข้อเท้าของพี่สาว หยดน้ำตาพร่างพรูลงมาเป็นสาย ไหลเปื้อนแก้มทั้งสองข้างและหยดลงสู่ปลายเท้าเย็นเฉียบไร้ชีวิตของสมรัก

เมื่อนางสมัยมายังบ้านเพื่อเรียกสมใจให้ไปขายแตงที่ตลาดเหมือนเคย ทุกคนในหมู่บ้านจึงรู้เรื่องว่าสมรักผูกคอตายตามมารดาไปอีกคน ตะเกียงไฟหลายอันที่ตั้งไว้บนแคร่ทำให้ใต้ถุนบ้านไม้หลังเล็กๆ สว่างโร่ขึ้นมา และศพของสมรักก็ถูกวางไว้บนแคร่ตัวเดียวกันนั้น


พ่อหายเมาแล้ว...

และเลิกกินเหล้านับแต่เสร็จจากงานศพของสมรัก แต่นั่นไม่ได้หมายความว่านิสัยอันดิบเถื่อนชั่วร้ายในตัวพ่อจะจางหายไป มันยังคงถูกเก็บซ่อนเอาไว้ รอเพียงจังหวะและโอกาสเหมาะๆ เท่านั้นเอง

“เดี๋ยวพี่จะเอาข้าวไปให้พ่อที่สวนนะ” สมใจบอกกับสมปองน้องสาววัยเก้าขวบขณะจัดสำรับกับข้าวใส่ปิ่นโต

“พี่ใจ...แล้วพ่อจะทำแบบนั้นกับพี่รึเปล่า...” น้องสาวเอ่ยถามน้ำเสียงหดหู่ สมใจก้มหน้างุด กระพริบตาถี่ๆ และเดินจากไปโดยไม่ได้ตอบคำถามของน้องสาว เด็กสาวจ้องมองท้องนาเบื้องหน้า หัวใจเต้นระรัวเมื่อนึกถึงสิ่งที่เธอกำลังจะเผชิญต่อจากนี้ เธอจะทำเช่นไรหากพ่อทำแบบนั้นกับเธอ... เธอจะยอมให้พ่อทำแบบนั้นหรือ?

“ฉันวางปิ่นโตกับข้าวไว้บนแคร่ในเถียงนาแล้วนะพ่อ” เด็กสาวตะโกนบอกบิดาที่ง่วนอยู่ในสวน เมื่ออีกฝ่ายชูคอขึ้นมองจึงรีบวิ่งดุ่มๆ กลับบ้านไปอย่างไม่คิดชีวิต เมื่อจวนจะถึงบ้านสมใจจึงผ่อนความเร็วลงก่อนจะหยุดยืนหอบหายใจ หากแต่เด็กสาวก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว เธอรอดแล้ว... เธอไม่ต้องถูกพ่อจับแก้ผ้ากลางสวนเหมือนกับพี่สมรักแบบนั้น หากแต่ว่าแล้วคืนนี้เล่า ?... เธอจะผ่านพ้นคืนนี้ไปได้ยังไงสมใจ


ตั้งแต่ทิ้งตัวลงนอนเด็กสาวก็มิอาจข่มตาหลับได้เลย หากแต่เธอก็แปลกใจที่บิดาไม่มีทีท่าว่าจะสนใจเธอเลยแม้แต่น้อย สมใจรอจนกระทั่งถึงเวลาตีสองจึงรีบตะลีตะลานวิ่งลงบันไดบ้าน ไปเตรียมข้าวของรอน้าสมัยเหมือนเช่นเคย หากแต่ขณะที่กำลังนั่งรอบนแคร่ใต้ถุนบ้านอยู่นั้น มือหนาของใครบางคนก็ยื่นมาปิดปากเด็กสาวไว้แน่น

“นังสมัยมันไม่มาหรอก พ่อบอกมันเองว่าแกไม่สบาย วันนี้เลยไปขายแตงที่ตลาดไม่ได้” พ่อปิดปากสมใจไว้ก่อนกระซิบบอกที่ข้างหูผู้เป็นลูกสาวเบาๆ เด็กสาวได้กลิ่นเหม็นหืนของยาสูบจากหน้าบิดา รู้สึกขยะแขยงเมื่อไรหนวดเสียดสีเข้ากับใบหน้าและซอกคอของตน

“ขอพ่อดูหน่อยนะ...” เสื้อแขนยาวผืนเล็กถูกกระชากออกอย่างแรง สมใจรีบเอาสองมือปิดหน้าอกตัวเองไว้

“อย่านะพ่อ...” เด็กสาวค้านเสียงแข็งหากแต่แววตากลับเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“ข้าเป็นพ่อเอ็งนะ ให้กำเนิดเอ็ง เลี้ยงเอ็งมา มานี่...” บิดาคว้าเอาแขนเด็กสาวก่อนดึงร่างแน่งน้อยมาแนบตัวและโยนเธอไปบนแคร่ไม้ตัวเก่า จากนั้นจึงกระโดดขึ้นคร่อมร่างเด็กสาววัยสิบสองปีไว้

สมใจขัดขืนต่อสู้สุดชีวิต...

แต่ก็มิอาจสู้เรี่ยวแรงของผู้ชายที่แข็งแรงบึกบึนตรงหน้านี้ได้ ขาเรียวเล็กทั้งสองถูกจับแยกออกห่างขณะที่บิดาแทรกกายท่อนล่างเข้ามารัวเร็วจนเด็กสาวกรีดร้องสุดเสียง ผู้เป็นพ่อยื่นมือมาปิดปากลูกสาวไว้แน่น สมใจร้องไห้ด้วยความหวาดกลัว หยดน้ำตารินไหลลงมาจากดวงตากลมใส ขณะที่สายตาสบเข้ากับใครอีกคนที่แอบมองผ่านรู้โหว่ของไม้กระดานบนเรือน สมปองได้แต่จ้องมองภาพตรงหน้าอย่างตัวสั่นเทิ้ม มองพี่สาวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวถูกบิดาข่มเหงรังแกอย่างทำอะไรไม่ได้ สมใจรู้สึกเจ็บปวดไปทั่วทั้งร่างกาย เธอมองเห็นร่างของแม่และพี่สมรักห้อยโตงเตงอยู่บนขื่อคาตรงหน้า และมองเห็นบ่วงอันที่สามถัดจากร่างของสมรัก บ่วงสำหรับให้เธอขึ้นไปเอาศีรษะห้อยไว้และทิ้งตัวลงมา


“พี่จะเอาข้าวไปส่งพ่อที่สวนนะ” สมใจร้องบอกสมปองก่อนคว้าเอาปิ่นโตมาถือไว้ น้องสาวทำท่าว่าจะวิ่งตามมาก่อนที่เธอจะหันไปมองตาขวาง อีกฝ่ายจึงหยุดกึกอยู่แค่นั้น

ไม่นานนักสมใจก็มาถึงสวนในที่สุด เด็กสาววางสำรับอาหาร ตักข้าวใส่จานไว้ให้บิดาเสร็จสรรพ ชายวัยห้าสิบถอดเสื้อที่เปื้อนเหงื่อออกผึ่งแดดก่อนตรงมากินข้าวเช้าด้วยความหิว กินไป ก็มองหน้าลูกสาวไป...

“กินข้าวเสร็จแล้วไปถูหลังให้พ่อหน่อยนะใจ” บิดายัดข้าวคำสุดท้ายเข้าปากเมื่อพูดจบ สมใจส่งขันน้ำเปล่าให้ผู้เป็นพ่อก่อนที่เธอจะพยักหน้ารับ

“เอ็งทำแกงเห็ดอร่อยนี่หว่า เมื่อคืนเป็นยังไง เจ็บมากมั้ย?” ชายแก่หัวเราะหึๆ ในลำคอ จ้องมองหน้าอกของลูกสาวด้วยสายตาหยาบโลน สมใจก้มหน้าก้มตารีบเก็บสำรับข้าว เมื่อเสร็จแล้วจึงรีบเดินตามบิดาไปยังสระน้ำที่อยู่ไม่ไกลจากเถียงนา


พ่อปลดเปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด...

ก่อนค่อยๆ ถอดเสื้อผ้าของสมใจออกช้าๆ มือหยาบหนาทั้งสองข้างลูบไล้ไปบนเรือนร่างของลูกสาว เคล้นคลึงในส่วนที่ชายปรารถนาด้วยตัณหาราคะที่เข้าครอบงำ ก่อนที่จะรู้สึกเจ็บแปลบที่หน้าอก ส่ายตาที่จ้องมองร่างเปลือยเปล่าของลูกสาวก็เริ่มพร่าเลือน มือและเท้ารู้สึกชาขึ้นมา ก่อนจะล้มฮวบลงสู่ผืนน้ำอันเย็นเฉียบในสระ

สมรักค่อยๆ หยิบเสื้อผ้าของตัวเองที่กองอยู่แทบพื้นขึ้นมาสวมใส่อย่างเชื่องช้า ขณะที่บิดากระ:-)กระสนขึ้นมานอนริมฝั่ง หายใจพะงาบๆ อย่างกับปลาขาดน้ำ ดวงตาแดงก่ำจ้องมองใบหน้าของผู้เป็นลูกสาวด้วยความอาฆาต

“แกทำอะไรฉัน...บอกมาว่าแกทำอะไรฉัน” เสียงตะคอกนั้นไม่ได้ทำให้เด็กสาวกริ่งเกรงเลยแม้แต่น้อย สมใจยืนอยู่เหนือสระ ทอดมองร่างบิดาที่นอนอยู่แทบเท้าเธอ

“สงสัยฉันจะเผลอใส่เห็ดพิษลงไปในหม้อแกงเห็ดที่พ่อเพิ่งกินไปเมื่อกี้นี้ด้วยน่ะจ้ะ” สมใจบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนก้าวถอยหลังออกมาสามก้าว “ฉันต้องกลับไปดูน้องที่บ้าน...ไว้ใกล้จะเพลฉันจะมาส่งข้าวเที่ยงนะจ้ะ”


.....................................



Create Date : 19 ธันวาคม 2554
Last Update : 19 ธันวาคม 2554 9:08:57 น.
Counter : 591 Pageviews.

6 comments
  
หวัดดีครับ..................................
โดย: maramba1 วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:4:28:38 น.
  
VERY GOOD , GOOD JOB MAN
โดย: BUTTERFLY GIRL IP: 76.18.23.232 วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:5:23:19 น.
  
อ่านแล้วใจเหมือนจะลืมหายใจ ลุ้นอยู่เหมือนกันว่าสมใจนี่แหละจะต้องฆ่าพ่อ แต่แบบว่าไม่อยากให้สมใจเจอเรื่องนั้นก่อนเลย ฮือๆๆๆ
มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมากมายในชีวิตจริงอย่างที่เราเคยได้อ่านตามหน้าหนังสือพิมพ์ทั่วไป แต่สิ่งที่เราสงสัยมาตลอดคือ แล้วแม่..ง..ยอมให้พ่อข่มขืนซ้ำซากอยู่ได้ไงวะ
ถ้าเป็นเรา ครั้งแรกอาจไม่รอด แต่ถ้ามีครั้งต่อไป มึ..งไม่ได้ตายดีแน่นอน
สุดท้าย เขียนได้ดีมากค่ะ แล้วจะแวะมาอ่านอีกนะคะ
โดย: เสื้อสีขาวบนราวไม้ไผ่ วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:16:53:22 น.
  
ความจริงของสังคม ที่ผมพยายามจะตีแผ่ ออกมา ในอีกมุมมองหนึ่ง บางที สิ่งที่เด็กหญิงซึ่งถูกบิดาหรือคนในครอบครัวข่มขืน อาจจะมีชะตากรรมที่โหดร้ายกว่าตัวละครในเรื่องสั้น เรื่องนี้มากครับ

ขอบคุณที่มาอ่านครับ
โดย: ผีเสื้อสีดำ วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:18:51:52 น.
  
อ่านแล้วสลด อนาถ และขยะแขยงมากค่ะ
รู้สึกถึงความดำมืด น่ากระอักกระอ่วน เด็กผู้หญิงที่ไร้ที่พึ่ง
ปีศาจที่อยู่ในคราบของมนุษย์ อ่านแล้วรู้สึกป่วยจนท้องขย้อน
ที่รู้สึกแย่ขนาดนี้เพราะรู้ว่า เรื่องจริงในสังคมแย่กว่านี้อีกหลายเท่า
โดย: pearzilla IP: 97.87.4.236 วันที่: 15 กรกฎาคม 2555 เวลา:5:10:50 น.
  
ครับ
โดย: ผีเสื้อสีดำ วันที่: 16 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:55:12 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ผีเสื้อสีดำ
Location :
ศรีสะเกษ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]



จงทำในสิ่งที่คุณคิดว่า...

ทำไม่ได้
ธันวาคม 2554

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
20
21
22
24
25
26
27
28
29
30
31
 
MY VIP Friend