Mint's world.
|
|||
ใบหม่อนตั้งใจเดินทางมายังรีสอร์ทของปลายฟ้าด้วย เพราะอยากมาดูให้เห็นกับตาว่ารีสอร์ทแห่งใหม่ของเธอนั้นน่าอยู่เพียงใด สองสาวกำลังนั่งอ่านหนังสือนอกระเบียง บนห้องสวีทที่ปลายฟ้าเปิดให้ใบหม่อนเข้าพักเป็นคนแรก ฝ่ายใบหม่อนนั้นก็เอาแต่นั่งดูกระเป๋าและเสื้อผ้าคอเล็กชั่นใหม่ ส่วนปลายฟ้าหลังจากอาบน้ำอาบท่าเสร็จก็รีบตรงมายังตู้กระจกใบเล็ก ที่ใส่เจ้างูน้อยสีรุ้งตัวใหม่ที่เพิ่งซื้อมาได้ไม่นาน
หญิงสาวนั่งชันเข่า ก่อนยื่นหน้าเข้าไปใกล้ตู้กระจก งูตัวนี้เป็นสายพันธุ์เดียวกับที่เธอเคยมอบให้กับธันย์ แต่ตัวมันยังเล็กกว่ามาก “ทำอะไรน่ะปลายฟ้า... อย่าบอกนะว่ากำลังคุยกับงู” ใบหม่อนทักขึ้นอย่างยิ้มๆ สายตายังคงจับจ้องกับนิตยสารตรงหน้าโดยหารู้ไม่ว่าเพื่อนรักของเธอกำลังเพ่งจิต ประสานสายตากับงูในตู้กระจก พลันนั้น... มือเรียวสวยก็ค่อยๆ กำแน่นเข้าหากัน ใบหน้าขาวเนียนเครียดขรึมบีบคั้นด้วยความโกรธเคือง ก่อนหยัดกายลุกขึ้นยืนและมองเหยียดไปทางประตูห้อง “เป็นอะไรไปฟ้า...ดูทำหน้าทำตาเข้าสิ” ใบหม่อนลุกขึ้นยืนก่อนวางนิตยสารลงบนโต๊ะ ปลายฟ้าเดินไปหยิบเอากระเป๋าถือใบเล็ก ก่อนตรงไปยังประตูห้อง “จะไปไหนฟ้า” ใบหม่อนเดินตาม ก่อนคว้าแขนอีกฝ่ายไว้ “ไปตามพี่ธันย์กลับมา...” ปลายฟ้าว่าเสียงกระแทก ใบหม่อนนิ่วหน้าด้วยความงุนงง รีบปราดไปยืนขวางอีกฝ่ายไว้ “ก็ไหนเธอบอกว่าคุณธันย์นั่งวาดรูปอยู่หน้ารีสอร์ทไง จะไปตามเขากลับมา...พูดแปลกๆ” “ใครว่า... นังนั่นมันล่อให้พี่ธันย์ไปหามัน ฉันจะไปตามพี่ธันย์กลับมา” ปลายฟ้าแกะมือใบหม่อนออก ก่อนผลักประตูห้องออกไป ขณะที่ผู้เป็นเพื่อนรีบกระหืดกระหอบวิ่งตามปลายฟ้าไปอย่างติดๆ เมื่อมาถึงโรงพยาบาล ธันย์ก็รีบตรงดิ่งไปหาหญิงสาวทันที หากแต่ก็ได้รับคำตอบจากพงศกรว่าพิมพ์วารีนั้นหลับใหลไม่ได้สติเพราะไข้ขึ้นสูง หมอบอกว่าเธออาจเป็นปอดบวมได้ “ทำไมพิมถึงคิดสั้นได้... เพราะผมเป็นต้นเหตุใช่มั้ย ผมทำให้คุณพิมต้องเป็นแบบนี้” ธันย์กัดฟันแน่น ได้แต่ทอดมองหญิงสาวที่นอนซมอยู่บนเตียงคนไข้อย่างรู้สึกผิด “เรายังไม่รู้สาเหตุนะธันย์ รอให้คุณพิมเธอฟื้นก่อน รอให้เธอพร้อมแล้วเราค่อยคุยกัน” พิศลย์แทรกขึ้นเบาๆ เพื่อปลอบใจเพื่อนหนุ่มก่อนที่พงศกรจะถอนหายใจฟุดฟิดใส่ เดินหนีออกมาสูดอากาศที่หน้าตึกเพราะกลัวว่าจะระงับอารมณ์ไม่อยู่ และขณะที่สองหนุ่มกำลังเดินตามออกมานั้น สายตาพงศกรก็เหลือบไปเห็นปลายฟ้าที่กำลังเดินดุ่มๆ ตรงมาหาด้วยสีหน้าและแววตาอันเดือดพล่าน “พี่ธันย์อยู่ไหน... เพื่อนของแกเอาพี่ธันย์ของฉันไปไว้ที่ไหน” ปลายฟ้าตะคอกถามเมื่อมาหยุดอยู่ตรงหน้าพงศกร “มาที่นี่ทำไม จะมาฆ่ากันให้ตายเลยใช่มั้ย...” พงศกรขึงตาใส่ ก่อนที่ธันย์จะปราดเข้ามาขวางปลายฟ้าไว้ เมื่อหญิงสาวได้พบหน้าชายหนุ่ม จึงมองเขาด้วยสายตาน้อยเนื้อต่ำใจ “พี่ธันย์หนีฟ้ามาทำไม หนีฟ้ามาหาพิมพ์วารีใช่มั้ย...” “ฟ้า... พี่ไม่ได้หนีนะ พี่แค่มาเยี่ยมคุณพิมเท่านั้น คุณพิมเธอไม่สบาย” “เขาเกี่ยวข้องอะไรกับเรา ทำไมพี่ธันย์ต้องมาหาเขาด้วย เราสองคนกำลังจะหมั้นกันนะคะ พี่ธันย์จะเอายังไงกันแน่ พี่ธันย์รักใครกันแน่...” ความในใจที่เก็บซ่อนไว้ในส่วนลึกสุดของหัวใจถูกถ่ายทอดออกมาจนหมด มันทำให้ธันย์ต้องนิ่งค้างพูดอะไรไม่ออก รู้สึกจุกอยู่ที่อกและลำคอ หัวใจอันสับสนบีบคั้นรุนแรงเกินจะบรรยาย “ไม่ตอบ... ก็แสดงว่ารักเขามากกว่าฟ้า” หญิงสาวเอ่ยเสียงสั่นเครือ หยดน้ำตาไหลรินลงอาบแก้มเนียนขาวที่แดงก่ำ ดวงตาอันแสนเจ็บช้ำของปลายฟ้า ทำให้ธันย์มิอาจกล้าสบสายตา “แล้วพี่ธันย์จะต้องเสียใจ... พี่ธันย์จะต้องเสียใจที่ทำกับฟ้าแบบนี้” ปลายฟ้าสะบัดตัวหนีและเดินละลิ่วหนีไป ธันย์ได้แต่ทอดมองเธอเดินจากไป เสียงหัวใจบอกให้รีบวิ่งตามเธอไป หากแต่อีกเสียงกับบอกให้หยุดยืนอยู่ตรงนี้ รออยู่ตรงนี้จนกว่าพิมพ์วารีจะฟื้นจากพิษไข้... โดย: ผีเสื้อสีดำ วันที่: 16 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:43:33 น.
ปลายฟ้าขับรถกลับมาที่รีสอร์ท แต่ขณะกำลังไขกุญแจห้องก็กลับถูกร่างหนาล็อกตัวไว้จากด้านหลัง ก่อนผลักเธอให้เข้าไปภายในห้องนอน และหันมากดล็อกห้องขณะที่หญิงสาวได้แต่ยืนอึ้งด้วยความตกใจ
“วิศรุต...” ปลายฟ้าผงะออกด้วยความกลัว วิศรุตจ้องมองดวงหน้าขาวเนียนตรงหน้าพร้อมกับยิ้มเหยียด “จะตามไปหาเขาทำไม... เห็นแล้วใช่มั้ยว่าเขาไม่ได้รักคุณ คุณจะหลอกตัวเองไปถึงไหน” “แล้วมายุ่งอะไรเรื่องของฉัน ออกไปเดี๋ยวนี้นะ...คุณไม่มีสิทธิ์มาทำอย่างนี้กับฉันที่นี่” “ทำไมผมจะไม่มีสิทธิ์ ผมจะทำอะไรกับคุณก็ได้...” เขาขบกรามแน่น ก่อนตรงปรี่เข้าไปผลักร่างเล็กจนล้มลงยังเตียงนอนด้านหลัง ก่อนจะโถมร่างทาบทับปลายฟ้า ตรึงแขนทั้งสองข้างของเธอไว้จนหญิงสาวไม่สามารถขยับไปไหนได้ “ปล่อยฉันนะวิศรุต... คุณมันบ้า คุณมันเลว เลวยิ่งกว่าสัตว์เดรัจฉาน...” คำท่าดอนั้นยิ่งทำให้ดวงตาคมกริบกลายเป็นสีแดงฉานดุจเปลวเพลิง “ถ้าผมมันเป็นสัตว์เดรัจฉาน แล้วคุณล่ะ... คุณมันก็เลวเหมือนผมน่ะแหละ อย่าคิดนะว่าผมจะปล่อยให้ไอ้ธันย์มันได้ครอบครองตัวคุณง่ายๆ” วิศรุตปล่อยมือออกจากท่อนแขนกลมกลึง ก่อนเอื้อมลงมาฉีกเสื้อเชิ้ตสีชมพูผืนบางจนกระดุมหลุดออกจากกัน ปลายฟ้าทั้งดิ้นรนและกรีดร้อง หากแต่ก็มิอาจสู้แรงชายหนุ่มได้ หยดน้ำตารินไหลพร่างพรูลงมาเป็นสาย เมื่อโครงหน้าคมคายซุกไซ้ไปบนซอกคอเนียนขาว ไล่เลื้อยเรื่อยลงมาสู่เนินอก เคล้นคลึงไปทั่วทั้งร่างกายด้วยตัณหาที่เข้าครอบงำ “ช่วยด้วย... พี่ธันย์... ช่วยฟ้าด้วย...” หญิงสาวสะอื้นไห้ สองมือยังคงดันแผงอกหนานั้นไว้สุดแรง แต่ก็มิอาจทัดทานแรงปรารถนาของวิศรุตได้ หัวใจดวงน้อยถูกย่ำยีไม่มีชิ้นดี มันย่อยยับป่นปี้ไปพร้อมกับเรือนร่างที่ถูกกระทำอย่างไร้ความปราณี... โดย: ผีเสื้อสีดำ วันที่: 16 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:43:48 น.
ธันย์ทรุดนั่งอยู่ข้างเตียง สองมือก็กุมมือของพิมพ์วารีไว้พร้อมกับลูบเบาๆ สองตาเอาแต่จ้องเรือนหน้าสีน้ำผึ้งที่บัดนี้ซีดเผือดด้วยพิษไข้ พงศกรขอตัวกลับบ้านเพื่อไปดูอาการคุณยายพันวลี ขณะที่พิศลย์ต้องเดินทางไปส่งใบหม่อนที่รีสอร์ทก่อนที่ทั้งคู่จะรีบโทร.มาหาธันย์ด้วยความร้อนใจ
“คุณปลายฟ้าเธอหายไปไหนไม่รู้ ตอนนี้คุณใบหม่อนกำลังให้พวกคนงานออกตามหาอยู่ กลัวว่าจะออกไปเดินเล่นแถวนี้แล้วพลัดตกน้ำตกท่า...” พิศลย์เอ่ยผ่านโทรศัพท์ด้วยความร้อนรน ธันย์ค่อยๆ วางมือพิมพ์วารีลงบนเตียงและลุกขึ้นยืน ก่อนสาวเท้าเดินออกจากห้อง “น้องฟ้าหายไปงั้นเหรอ? หายไปได้ยังไง...แล้วนี่ออกตามหากันดีแล้วรึยัง” “หาแล้ว... พอมาถึง ก็ไม่เจอเธอแล้ว แต่ว่ารถยนต์เธอก็จอดอยู่ที่นี่นะ ฉันถึงสงสัยไงว่าเธออาจจะออกไปเดินเล่นแถวนี้ แต่ว่านี่มันก็ค่ำแล้วนะไอ้ธันย์ หกโมงเย็นแล้ว” ธันย์นิ่วหน้าด้วยความกังวล หัวใจตอนนี้นึกไปถึงปลายฟ้าซึ่งไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีเช่นไร ไม่รู้ว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นรึเปล่า... ชายหนุ่มหันกลับมายังหน้าห้องพักคนไข้ ก่อนตัดสินใจเดินกลับเข้าไปหาหญิงสาวที่ค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ “พิม...คุณตื่นแล้วเหรอครับ ผมมาเยี่ยมนะ...เป็นยังไงบ้าง” ธันย์รีบจับมือพิมพ์วารี เมื่อหญิงสาวได้เห็นหน้าเขาก็คลี่ยิ้มด้วยความดีใจ หากแต่ว่าภายในดวงตาคู่นั้นของเธอกลับเต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าว พิมพ์วารีจ้องมองธันย์แน่นิ่ง ก่อนที่หยดน้ำตาจะรินไหลลงมาจากขอบตาร้อนผ่าว “กลับไปค่ะ... กลับไปเดี๋ยวนี้” น้ำเสียงแหบเครือนั้นทำให้ธันย์ต้องย่นคิ้ว พิมพ์วารีพริ้มตาหลับ ก่อนบีบมือธันย์และสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ “คุณกลับไปหาปลายฟ้าเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงฉัน... เธอกำลังแย่ แย่ยิ่งกว่าฉันเสียอีก...” หญิงสาวพูดทั้งที่ยังหลับตา ขณะที่หัวใจของธันย์เต้นแรงขึ้นอย่างบอกไม่ถูก พิมพ์วารีค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ประสานสายตากับเขาอย่างจริงจัง “ฉันเคยทำผิดต่อเธอ ไม่อยากจะทำให้เธอต้องเป็นทุกข์เพราะฉันอีก คุณธันย์เข้าใจใช่มั้ยคะ...” พิมพ์วารีบอกเขาด้วยสายตามุ่งมั่น ธันย์ซาบซึ้งและเข้าใจความหมายนั้นดี... และมันก็ยิ่งทำให้เขารู้สึกละอายแก่ใจจนยากจะให้อภัยตัวเองได้อีก... เขาทำให้ผู้หญิงถึงสองคนต้องมาเจ็บ ทำให้ผู้หญิงที่รักเขาสุดหัวใจต้องเจ็บปวด... โดย: ผีเสื้อสีดำ วันที่: 16 กรกฎาคม 2555 เวลา:16:45:34 น.
|
ผีเสื้อสีดำ
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?] จงทำในสิ่งที่คุณคิดว่า... ทำไม่ได้ Group Blog All Blog
Friends Blog
Link MY VIP Friend |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
พิศลย์เอ่ยขึ้นอย่างลอยๆ หลังจากที่นำตัวพิมพ์วารีส่งโรงพยาบาลเพราะอีกฝ่ายมีอาการไข้ขึ้น พงศกรที่เพิ่งละจากเตียงของเพื่อนสนิทสูดลมหายใจเข้าปอดจนสุด ดวงตามุ่งมั่นหันมาประสานสายตากับพิศลย์
“คุณต้องบอกเรื่องนี้กับคุณธันย์ ที่ยัยพิมคิดสั้นก็เพราะเขาเป็นต้นเหตุ ผมไม่สนว่าตอนนี้คุณธันย์จะกำลังมีความสุขกับปลายฟ้าอยู่รึเปล่า แต่ยังไงคุณก็ต้องบอก”
พงศกรเน้นเสียง อีกฝ่ายได้ยินดังนั้นถึงกับก้มหน้าเงียบ ก่อนเดินหนีออกมาและกดโทรศัพท์ไปหาเพื่อนรัก
เมื่อธันย์รับสาย พิศลย์ก็ไม่รีรอที่จะแจ้งข่าวครั้งนี้
“ธันย์...ฉันมีเรื่องสำคัญจะบอก เรื่องร้าย...”
ชายหนุ่มปลายสายนิ่วหน้า รู้สึกใจหายวาบขึ้นมาทันที มือซ้ายของธันย์ยังคงถือผ้าไหมลายกนกที่พิมพ์วารีให้เขามา ขณะทอดสายตาเหม่อมองบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำโขง ณ รีสอร์ทของปลายฟ้าที่บึงกาฬ
“เรื่องอะไรงั้นเหรอพิศลย์...”
“เรื่องคุณพิม... ฟังฉันให้ดีนะ เมื่อเช้านี้คุณพิมเธอกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย”
พลันนั้น... หัวใจของชายหนุ่มก็หล่นฮวบลงไปกองกับพื้น มืออันสั่นเทานั้นทำให้ผ้าไหมสีน้ำเงินเข้มผืนนั้นหลุดลอยไปกับสายลมแรง
สองตาของเขาเบิกค้าง ขณะที่พิศลย์เอ่ยบอกรายละเอียดของเรื่องที่เกิดขึ้น เขาได้แต่จ้องมองผ้าผืนนั้นปลิวไปกับสายลม ก่อนตกลงยังแม่น้ำใหญ่ รู้สึกใจหายวาบ คล้ายว่ากำลังจะสูญเสียของที่รักที่สุดไป โดยไม่มีทางจะได้มันกลับคืนมา...
“แต่ตอนนี้คุณพิมไม่เป็นอะไรแล้ว กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล...ถ้าหากแกว่าง ก็อยากให้แกมาเยี่ยมเขาสักหน่อย เผื่อว่าอะไรๆ มันจะดีขึ้นบ้าง”
พิศลย์เงียบไปครู่หนึ่ง ขณะรอฟังอีกฝ่ายว่าจะมีทีท่าเช่นไร แต่เมื่อธันย์เงียบไปนานเขาก็ยิ่งรู้สึกกังวลขึ้นมา
“ธันย์...ว่ายังไง...แกจะเอายังไงต่อไป”
“ตอนนี้คุณพิมอยู่ที่ไหน อยู่โรงพยาบาลบึงโขงหลงใช่มั้ย ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย”