|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
|
เมื่อต้องหนีน้ำ...จึงรู้ว่าชีวิตเรานี้ช่างมีขยะมากมาย
หลายสัปดาห์ก่อน พื้นที่บ้านของฉันได้รับเกียรติเป็นพื้นที่เสี่ยงภัย..แล้วขยับฐานะเป็นเขตภัยพิบัติฉุกเฉินอย่างสง่างามในเวลาต่อมา..ยามนั้นแม้ไม่ได้ยินว่า "อพยพเถิดครับ.." แต่กระแสน้ำที่ไหลท่วมขึ้นอย่างต่อเนื่อง ก็บอกเป็นนัยให้พวกเราเตรียมไสหัวออกจากบ้านไปให้เร็ว
ในเวลาอพยพไม่กี่ชั่วโมง และการที่เราต้องเลือกหยิบของสำคัญที่สุดไปเท่านั้น ฉันก็ค้นพบว่าฉันมีสมบัติที่เลือกหยิบได้แค่กระเป๋าเดินทางใบเดียว ซึ่งมีแค่ทรัพย์สินเงินทอง เอกสารสำคัญ เสื้อผ้าไม่กี่ชุด ข้าวของที่อยู่ในบ้านล้วนเป็นของที่ไม่มีความจำเป็นในชีวิตเลยแม้แต่น้อย
ฉันมองข้าวของในบ้านที่มีอยู่มากมาย แต่เป็นของที่เราตีค่าในวันนั้นว่าพร้อมที่จะให้สายน้ำพัดพาไป หรือปล่อยให้พังพินาศไปได้อย่างไม่นึกเสียดาย ข้าวของต่าง ๆ มีตั้งแต่ เครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ฯลฯ ซึ่งไม่มีของพวกนี้ เราก็มีชีวิตอยู่ได้ อีกทั้งเสื้อผ้ามากมายหลายตู้ ซึ่งชีวิตจริงเราใส่เสื้อผ้า 2 -3 กี่ชุดก็พอแล้ว ฉันยังมีของบ้า ๆ บอ ๆ ซุกซ่อนอยู่เต็มบ้านมากมายเหลือเกิน
วันที่น้ำท่วมบ้าน ฉันว่าเป็นวันที่เราทุกคนได้บทเรียนที่มีคุณค่า สายน้ำทำให้เราตระหนักชัดเจนว่า เราได้สะสมขยะไว้มากมายเหลือเกินในชีวิต แท้จริงชีวิตไม่ต้องการอะไรมากมายเลย ข้าวของที่เราซื้อหามาเก็บไว้ หลายอย่างเป็นของไม่จำเป็น และส่วนใหญ่เป็นของเกินจำเป็น
ที่ทำให้ฉันคิดหนักก็คือ มีบางคนแทบจะยอมสละชีวิตไม่ยอมหนีจากบ้านที่น้ำท่วมสูงระดับอันตราย เพราะต้องการรักษาสมบัติหรือขยะเหล่านั้นไว้ให้ถึงที่สุด
"ห่วงบ้าน ห่วงของ ห่วงรถ และห่วง..สารพัดจะห่วง" คำตอบเหล่านี้แหละที่น่าเป็นห่วง...เพราะแท้จริงแล้ว ชีวิตที่มีความสุขที่สุด..คือชีวิตที่ไม่มีห่วง..
Create Date : 24 พฤศจิกายน 2554 |
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2554 16:00:06 น. |
|
3 comments
|
Counter : 918 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: แมวดำอำมหิต วันที่: 7 ธันวาคม 2554 เวลา:10:12:08 น. |
|
โดย: kengreal วันที่: 14 ธันวาคม 2554 เวลา:23:53:35 น. |
|
| |
|
แมวดำอำมหิต |
|
|
|
|
ดูข่าวแล้วก็ขำๆ คนแก่บางคนไม่ยอมออกจากบ้านห่วงทีวี ห่วงตู้เย็น ก็ถ้าชีวิตไม่เหลือซะแล้ว ทีวี ตู้เย็นนั้นเราจะได้ใช้ จะได้ดูมันอีกไหมเล่า