Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2553
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28 
 
24 กุมภาพันธ์ 2553
 
All Blogs
 

เหตุปัจจัย ..... อย่างไร ?






 

Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2553
44 comments
Last Update : 21 มีนาคม 2553 19:22:30 น.
Counter : 1198 Pageviews.

 

ตอนนี้ ยังไม่ได้เริ่ม เป็นเหตุ ไหน เลย ครับ อิอิ กำลังพยายาม ครับผม ขอบคุณครับ ทำให้เริ่มคิดครับท่าน

 

โดย: Pongpeeg IP: 203.144.144.165 25 กุมภาพันธ์ 2553 20:13:31 น.  

 

ภาพสวยครับ ลายเส้นนุ่ม อีกนิด ก็สวยครับ

 

โดย: love only IP: 203.144.144.165 25 กุมภาพันธ์ 2553 20:29:19 น.  

 

อรุณสวัสดิ์ค่า

แล้วจะมารอฟังคำเฉลยนะคะ :)

 

โดย: ลูกยิ้ง IP: 203.144.144.165 26 กุมภาพันธ์ 2553 8:38:53 น.  

 

อืม ดี เนอะ ได้หยุดคิด เนอะ ขอบคุณค่ะ

 

โดย: MaiKa IP: 203.144.144.165 26 กุมภาพันธ์ 2553 18:35:36 น.  

 

นั่นสิ อะไร เพราะเหตุ หรือ ปัจจัย....

 

โดย: pani IP: 112.142.6.107 26 กุมภาพันธ์ 2553 18:52:11 น.  

 


อิอิ เสันเรียบร้อยไปมางคะ

 

โดย: JomJam IP: 115.67.207.158 27 กุมภาพันธ์ 2553 6:08:43 น.  

 

นั่นซิ อะไร คือ เหตุ อะไร คือ ปัจจัย ?????????แล้วจะมาดูคำตอบ ค่า..........

 

โดย: Omale IP: 203.144.144.165 27 กุมภาพันธ์ 2553 9:56:08 น.  

 

ท่าน Pongpeeg ครับ เช่นกัน เริ่มคิด แล้วก็จะเริ่มพยายามครับ

ท่าน love only ครับ ก็จะพยายามอีกนิดครับ

ขอบคุณท่าน ลูกยิ้ง ครับ ช่วยกันให้ คคห.นะครับ ทุกท่านเป็น ผู้ศึกษา อยู่ครับ

ขอบคุณท่าน MaiKa ครับ ผมก็ต้องรีบหยุดครับ ก่อนที่ เวลา มันจะช่วยหยุดผม

ท่าน pani ครับ น่าจะมีเหตุ และ เหตุปัจจัย ว่างั้นมั๊ยครับ

ขอบคุณท่าน pani ที่สนับสนุนให้เป็นคนเรียบร้อยครับ

ขอบคุณท่าน Omale ครับ ช่วยกันตอบซิครับ ช่วยกัน ปล่อยผมคนเดียวได้ไงครับ

 

โดย: bigjinbook IP: 58.9.229.89 27 กุมภาพันธ์ 2553 15:00:01 น.  

 

คือแบบนี้ครับ...

ได้ฟัง การปาฐกถาธรรม ของ ท่านอาจารย์ เสถียร โพธินันทะ
(ในสมัยท่านยังมีชีวิตอยู่ ท่านได้ชื่อว่า เป็น ตู้พระไตรปิฏกเคลื่อนที่ เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ยุวพุทธิกะสมาคมแห่งประเทศไทย)
(ท่านที่สนใจ คงหาประวัติท่าน หรือ อ่าน ฟัง ปาฐกถาธรรม ของท่านได้โดยการหาในอินเตอร์เนต หรือ หาใน google ได้ครับ)

ปาฐกถาธรรม ของท่านเรื่อง ปฏิจสมุปบาทธรรม

จับใจความตามประสาผมเองได้ว่า..ท่านเปรียบเทียบ...เสมือนหนึ่ง เมล็ดมะม่วง

ที่รู้แน่ ว่า ถ้าได้รับน้ำ ปุ๋ย การบำรุงรักษาที่ดี

อนุมานได้ว่า จะเป็น ต้นมะม่วง ใบมะม่วง และ ผลมะม่วง ในที่สุด

แต่ถ้าขาด ปัจจัย สนับสนุน ก็ไม่ได้ออกต้นออกใบ ได้ ผล ออกมา

ถ้าเป็นการประมาณ ผมว่า ต้องปฏิบัติปฏิปทาตาม มรรค มีองค์ 8 ครับ

ผลก็จะประกฏออกมาตามสภาวะธรรม และภูมิธรรม ที่ปฏิบัติได้

ท่านให้ตั้งหวังสูงไว้ก่อน เพราะผลออกมา มักจะน้อยกว่าที่ตั้งไว้ครับ

คคห.ส่วนตัวนะครับ อย่างผมนี่ มักจะสนใจที่ ผล

แต่ละเลยที่ เหตุ เช่น อยากได้ความสงบในสมาธิ แต่ ประมาทเรื่อง ศีล

เรียนชี้แจงเพื่อทราบครับ

 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.165 27 กุมภาพันธ์ 2553 15:23:21 น.  

 

ขอบคุณครับ ที่อธิบาย ขอบคุณอีกครั้ง ครับ

 

โดย: love only IP: 124.120.83.216 27 กุมภาพันธ์ 2553 17:33:14 น.  

 

เรียนท่าน love only



มีอย่างไร ก็กรุณาเสนอชี้แนะด้วยครับ


ขอบคุณมากครับ

 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.165 27 กุมภาพันธ์ 2553 17:40:09 น.  

 

ดีมากๆเลยครับ

 

โดย: -- IP: 124.122.19.248 28 กุมภาพันธ์ 2553 14:14:56 น.  

 

เมื่อปล่อยวางได้แล้ว กระมังคะ?

 

โดย: บุยบุย 1 มีนาคม 2553 12:57:35 น.  

 

เรียนท่าน บุยบุย

*เมื่อปล่อยวางได้แล้ว* ถูก แล้วก็ ผิด ครับ


ปล่อยวาง ถูก เพราะ เมื่อปฏิบัติธรรม ปฏิบัติพระกรรมฐาน ย่อมจะต้อง ปล่อย..วาง ภาระกิจต่าง ๆ ทั้งหลาย ทั้งปวงครับ

ผิด เพราะว่า เพราะว่า บุญกิริยา ต่างหาก ที่ได้จากการกระทำ เช่น การทำบุญ ทำทาน ถือศีล ปฏิบัติสมาธิ บ้าง จะเป็นปัจจัย ส่งผล ให้เมื่อละอัตภาพนี้แล้ว ไปเป็น เทพยดา เทพบุตร เทพธิดา ครับ

ถ้าได้ ฌาน ได้ สมาบัติ ก็จะได้เป็น พระพรหม ใน พรหมโลก

ละสังโยชน์ 3 เบื้องต่ำได้ ก็เป็น พระโสดาบัน

ละสังโยชน์ เบื้องสูงได้ ก็ได้เป็น พระสกิทาคามี พระอนาคามี และ พระอรหันต์ ตามลำดับครับ


ตะนี้...ก็จะว่าเรื่อง ปล่อยวาง ต่อไปนะครับ


เด็กทารกเกิดมาได้ไม่กี่วัน เวลากำมือ จะกำแน่นมาก ๆ

ถ้าเด็กทารก เกิดกำ ถ่านไฟร้อน ๆ เข้า

เด็กจะรู้จักปล่อยวาง ทิ้งไป หรือเปล่าครับ

คำตอบ ก็คือ ไม่ เด็กแสบร้อน ร้องเสียงดัง แต่จะกำแน่นแบบนั้น

เพราะ ไม่รู้จัก ปล่อยวาง (ไม่รู้จะปล่อยวางอะไร)

ถ้าเด็กโตขึ้น พอรู้ว่า ถ่านไฟแดง ๆ มันร้อน มันเจ็บ เด็กก็จะรู้จักทิ้งไป

จะให้ ปล่อยวาง หรือ ทิ้ง มันก็ต้องมีสาเหตุครับ ให้ ปล่อยวาง หรือ ทิ้งไป แล้วจะ ปล่อยวาง หรือ ทิ้งไป ได้อย่างไร....

ตราบถ้ายัง เห็น และ รู้สึกว่า สรรพสิ่งในโลกนี้ ยังน่ารื่นรมณ์ หรือ สวยงาม

ยากนะครับ ที่จะ ปล่อยวาง หรือ ทิ้งไป


พูดถึง เรื่องเด็กทารกกำมือ แล้ว จำได้ว่า...


เคยได้ฟังจากซีดี ของ _/\\_ หลวงพ่อวัดท่าซุง_/\\_

ท่านเปรียบเทียบ ให้ฟัง ง่าย ๆ ถึง การปฏิบัติพระกรรมฐาน (ปฏิบัติทางด้านสมาธิ) ไว้ว่า...

จะต้องมี อิทธิบาท 4 ครบถ้วน และ เต็มที่

(จับพระกรรมฐานบทใดแล้ว ต้องจับให้เหมือนเด็กทารก กำมือแน่น ยังไงก็ไม่ปล่อย)

ครบถ้านอย่างไร พระเดชพระคุณท่าน ยกตัวอย่างให้ฟังง่าย ๆ ว่า....

1. ฉันทะ มีความรู้สึก เหมือน ชายหนุ่ม กับ หญิงสาว เพิ่งรักกันใหม่ ๆ มีความรู้สึก ชอบพอ พอใจ คิดถึงกันอยู่ตลอดเวลา เหมือนอย่าง นึกเห็นหน้ากันอยู่ตลอดเวลา

2. วิริยะ เหมือนตอน ชายหนุ่ม กับ หญิงสาว รักกันใหม่ ๆ ถึงอยู่ห่างไกลกันแค่ไหน ก็มี ความเพียร พยายาม ที่จะไปหากัน เพื่อจะได้ไปพบกัน

3. จิตตะ ท่านเปรียบเหมือน มารดาแม่ลูกอ่อนที่ ใจจดใจจ่อ อยู่แต่กับลูกน้อย ไม่ว่าทำอะไร ก็จะคิดถึง และ เวียนที่จะเข้ามาดูลูกน้อยอยู่ตลอดเวลา

4. วิมังสา เมื่อ ชายหนุ่ม กับ หญิงสาว รักกันใหม่ ๆ ก็จะ เพียรพยายาม คิดหาวิธี ให้ฝ่ายตรงข้ามชอบ

ขอบคุณครับ



 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.165 2 มีนาคม 2553 9:11:22 น.  

 

แล้วถ้ายังติดเที่ยว ตืดความรื่นรมย์

ต้องทำยังไงคะ??

 

โดย: ลูกยิ้ง IP: 203.144.144.164 2 มีนาคม 2553 9:43:00 น.  

 

ท่านคิดว่า "ภพภูมิใหม่"มีหรือไม่

 

โดย: สังขารไม่เที่ยง IP: 203.144.144.164 2 มีนาคม 2553 22:16:17 น.  

 

เรียนท่าน สังขารไม่เที่ยง


ท่านสังขารไม่เที่ยงถามว่า " วันพรุ่งนี้ " มีหรือไม่

ขอตอบว่า มี ครับ


ถ้าไม่เชื่อว่า ภพภูมิใหม่ มี วันพรุ่งนี้ ก็คงไม่มีหรือเปล่าขอรับ

 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.165 3 มีนาคม 2553 10:06:57 น.  

 

นั่นสินะครับ

 

โดย: m"O"daLiTy 3 มีนาคม 2553 10:08:59 น.  

 

เรียนท่านลูกยิ้ง


ติดเที่ยว เป็น อบายมุข ครับ

ติดความรื่นรมณ์ น่าจะเป็น นิวรณ์ หรือเปล่าครับ

(นิวรณ์ แปลว่า เครื่องกั้นความดี)



ติดเที่ยว ติดรื่นรมณ์ จิต เสวย อารมณ์อันวิจิตร ต่าง ๆ

ก็ต้องพยายามให้มากขึ้นนะขอรับ

เพราะ การปฏิบัติ ต้องการ อารมณ์ ความสงบ ไม่ใช่หรือขอรับ

 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.165 3 มีนาคม 2553 10:12:57 น.  

 

สวัสดี ท่าน m"O"daLiTy ครับ

 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.165 3 มีนาคม 2553 10:15:43 น.  

 

น่าจะมีวิธีปฎิบัติ ด้วย ก็ดีครับ บางครั้ง หาทางออก ยาก ครับ เรื่องแบบนี้

 

โดย: love only IP: 203.144.144.164 6 มีนาคม 2553 14:24:23 น.  

 

เรียนท่าน love only ครับ


วิธีปฏิบัติ กระผมขอเรียนเป็นแบบนี้นะครับ ว่า.....

วิธีไหนก็ได้ สำนักไหนก็ดี ที่ทำให้ตัวเรา ระงับ นิวรณ์ 5 ได้ ดีทั้งหมดครับ

ทั้งนี้เพราะต้องขึ้นอยู่กับ จริต อัธยาศัย ของเราเอง ที่จะรับฟังข้อธรรมอันไหน เข้าใจได้ง่าย

ได้รับฟังกับครูบาอาจารย์ท่านใด ที่เราฟังแล้ว ถูกอัธยาศัย

เพราะที่จะฟังกันรู้เรื่อง ก็น่าจะต้องมาการ ติดตามกันมา ครับผม

ไม่เคยติดตามครูบาอาจารย์กันมา ฟังไงก็ไม่รู้เรื่อง ไม่เข้าใจครับ

 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.164 7 มีนาคม 2553 13:46:11 น.  

 

คคห ด้านบน บรรทัดที่ 2 ก่อนบรรทัดสุดท้าย พิมพ์เร็วไปครับ

เพราะที่จะฟังการรู้เรื่อง ก็น่าจะต้องมีการ (พิมพ์เป็น มาการ) ติดตามกันมา

ถือว่าคุยกันนะครับ พิมพ์ผิดตกบกพร่องบ้าง ให้อภัยกันด้วยครับ

 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.164 7 มีนาคม 2553 13:52:51 น.  

 

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...

 

โดย: nompiaw.kongnoo 8 มีนาคม 2553 17:17:53 น.  

 

ชีวิตของมนุษย์เป็นไปตามพรหมลิขิตใช่ไหมคะ ขอความกระจ่างค่ะ

 

โดย: ทางสายเอก IP: 203.144.144.165 8 มีนาคม 2553 20:43:51 น.  

 

สวัสดีท่าน nompiaw.kongnoo ครับ

สวัสดีท่าน ทางสายเอก ครับ


เรียนท่าน ทางสายเอก


พรหมลิขิต น่าจะแปลว่า พระพรหมกำหนดไว้

คงเอามาจากเพลง เย้ยฟ้าท้าดิน
(ซึ่งเป็นเพลง ยุคก่อน generation ผมนะครับ)

ในเนื้อเพลง มีข้อความว่า...พรหมลิขิตขีดเส้นเกณฑ์ชะตา....

แล้วในเพลง ก็มี ข้าขอลิขิตชีวิตข้าเอง..ไม่เกรงดินฟ้า..


พระพรหม อยู่บน พรหมโลก ซึ่งมีระยะเวลา นานแสนนาน

เมื่ออยู่นานเข้า ถูกสถาปนาให้เป็น ผู้สร้าง ท่านก็รับ (เพราะเป็นศักดิ์ศรีใหญ่โต)

แต่พระพรหมท่านยังมี อันญาน แปลว่า มีสิ่งที่ไม่รู้


เพราะฉะนั้น จึงไม่มี พรหมลิขิต


แล้วในเนื้อเพลงที่กล่าวข้างต้น ข้าขอลิขิตชีวิตข้าเอง..ไม่เกรงดินฟ้า

ใครคิดแบบนั้น คงเป็นเพราะ กรรมดี กำลัง ส่งผล

ถึงได้ ผยอง ได้ขนาดนั้น

แต่ถ้าเมื่อไรที่ กรรมชั่ว ส่งผล

ความทุกข์ ก็จะเกิดขึ้น แล้วก็จะ ดิ้นรน เพื่อออกจากความทุกข์ นั้น ๆ

แต่จะไม่สามารถ ดิ้นรน ออกได้ จนกว่า สภาวะทุกข์ จะหมดไปเอง


คำโบราณ มีว่า อย่าอวดเก่งกับผี อย่าอวดดีกับพระ


อย่าอวดเก่งกับผี ก็เพราะ ผียังไงก็เก่งกว่าวันยังค่ำ

อย่าอวดดีกับพระ ก็เพราะ ท่านมีศีลบริสุทธิ์กว่าเราแน่นอน

 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.164 9 มีนาคม 2553 11:19:20 น.  

 

พระพุทธศาสนานี้


องค์สมเด็จพระประทีปแก้ว ทรงเป็น กรรมวาที วิริยะวาที

ทรงตรัสว่า กรรมมีอยู่ ผลของกรรมมีอยู่

ความเพียรมีอยู่ ผลของความเพียรมีอยู่


เพราะฉะนั้น น่าจะเรียกว่า กรรมลิขิต มากกว่าครับ

 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.164 9 มีนาคม 2553 11:25:21 น.  

 

อันนี้เกี่ยวกันนะครับ

ผมจะขอชี้แจงเกี่ยวกับ นรก สวรรค์ พรหมโลก แบบนี้...


1. นรก สวรรค์ พรหมโลก ที่มีอยู่จริง ได้ณาน สมาธิ หรือ ตายแล้ว ถึงจะไปได้

2. นรก สวรรค์ ที่เป็น อารมณ์ ปรากฏทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ

...เป็นที่มาของ สวรรค์ในอก นรกในใจ

...ได้อารมณ์ที่เพลิดเพลิน ก็เหมือนขึ้นสวรรค์

...เจออารมณ์ที่เป็นความทุกข์ ความเดือดร้อน ก็เหมือนตกนรั

3. นรก สวรรค์ ที่มากันในรูป วัตถุ

...เช่น ได้อำนาจยศศักดิ์ ทรัพย์สิน บริวาร ก็เปรียบเหมือนขึ้นสวรรค์

...แต่ถ้า ติดคุก ติดตาราง ก็เหมือน ตกนรก


ชื่งไม่ว่า ท่านจะสมัครใจ เชื่อข้อไหน ก็ไม่ได้ทำให้สถานะของพระพุทธศาสนา หวั่นไหว

 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.164 9 มีนาคม 2553 11:44:21 น.  

 

สำหรับท่านที่ เชื่อถือ ในข้อที่ 1.


ผมจะขอแนะนำ เทวตานุสติกรรมฐาน
(นึกถึงคุณความดีที่ทำให้เป็น เทวดา และ อานุภาพของเทพยาดา)

อานุภาพของเทวดา มีอยู่

เทพยาดาที่ รุ่งเรืองด้วยฤทธิ์ มีอยู่

ท่านสามารถที่จะ จัดกรรม ให้ความดีส่งผลถึงท่านก่อน กรรมชั่ว ที่ ถึงเวลาส่งผล


โดยส่วนตัว ผมเชื่อครับว่า การบนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีผล

(ถ้าท่านมีกรรมดีที่เคยกระทำมา พอที่จะส่งผลให้ท่านรับก่อนได้)





 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.164 9 มีนาคม 2553 11:56:22 น.  

 

เรียนถามท่านจขบ.ค่ะ

สมมติว่าเรามีกรรมชั่วให้ต้องรับ 10 กรรมดีอีก 10

ถึงเวลากรรมชั่วกำลังจะส่งผลก่อน เช่น ครั้งนี้ต้องโดนเต็มๆ10

แล้วเราไปบนบานขอให้แคล้วคลาด

ท่านคิดว่าการจัดลำดับกรรมจะเปลี่ยนไป...ให้กรรมดีมาส่งผลพร้อมกับกรรมชั่ว กรรมชั่วอ่อนกำลังลง

หรืออย่างไรคะ

 

โดย: ลูกยิ้ง IP: 58.11.58.149 9 มีนาคม 2553 13:00:56 น.  

 

สวัสดี ท่าน ลูกยิ้ง ครับ


ขอบคุณที่ถามครับ แล้วจะหาเป็น blog ขึ้นไว้อีก เกี่ยวกับเรื่องนี้...


นี้เป็นเรื่องของ อจินไตย ครับ

อจินไตย มี 4 อย่าง


1. พุทธวิสัย วิสัยของ พระพุทธเจ้า

2. ฌานวิสัย วิสัยของ ผู้ได้ฌาน

3. กัมมวิบาก ผลจาก กรรม

4. โลกจินดา ความคิด เรื่องโลก เช่น โลกมาจากไหน


เราก็ไม่อาจที่จะ ประมาณ อานุภาพ แห่ง เทพยาดา ได้ครับ


คำตอบ ก็คือ ได้แน่นอนครับ ที่กรรมดีจะส่งผลให้ก่อน

คนเราแต่ละคน เกิดมา ไม่รู้กี่ชาติ ต่อกี่ชาติ แล้ว

มีการสั่งสมทั้ง กรรมดี กรรมไม่ดี ครับ

 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.164 9 มีนาคม 2553 13:45:41 น.  

 

เรียน ท่าน ลูกยิ้ง


กรรมชั่ว ไม่ได้อ่อนกำลังลง นะครับ

แต่หมายถึง เสวย กรรมดี ก่อน

เหมือนอย่างกับตอน ตาย แล้ว นึงถึง กรรมดีไว้

กรรมดี ก็จะส่งผลให้ ขึ้นสวรรค์ ก่อน

พอหมด บุญวาสนา นั้น กรรมชั่ว ก็จะดึงลงนรก


อย่างเช่น ต้องผ่าน สำนักท่านพระยายมราช

ท่านพระยายมราช ท่านเป็นพรหม ท่านก็จะถาม ว่าเคยทำความดีใดไว้บ้าง

พอเรานึกได้ ท่านก็จะส่งให้ไป เสวยผลของกรรมดี ก่อน

ถ้า นึกไม่ได้ ท่านก็ต้องปล่อยให้ เป็นไปตาม ผลของกรรม


ท่านไม่ได้เป็น ผู้ส่งคนลงนรก นะครับ

ไป นรก สวรรค์ ขึ้นอยู่กับ กรรม (การกระทำของบุคคลคนนั้นเองครับ)

 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.164 9 มีนาคม 2553 13:57:38 น.  

 

ขอบคุณค่ะ อธิบายได้เข้าใจดี

เรื่อง กรรม เป็นเรื่องอจินไตย...แต่ขอถามต่ออีกนิด ตามความเห็นของจขบ.แล้วกันนะคะ

สมมติอีกค่ะ...สมมติ

ถ้าเราทำกรรมฆ่าสัตว์ไว้มาก ผลกรรมจะส่งให้ต้องถูกรถชนตาย

การบนบาน หรือ ทำกรรมดีใหม่มากๆ จะส่งผลให้เราอาจตายช้าลง (เสวยกรรมดีก่อน) แต่ยังไงก็ต้องถูกรถชนตายยังงั้นหรือคะ

จะมีทางทำให้ไม่ถูกชนตาย (อาจแค่บาดเจ็บ)ได้ไหม

 

โดย: ลูกยิ้ง IP: 203.144.144.165 9 มีนาคม 2553 14:29:32 น.  

 

เรียน ท่าน ลูกยิ้ง


เอาเป็นว่า ถ้า อกุศลกรรม ที่เกิดจาก ปานาติบาท ส่งผลให้ถึง ฆาต ด้วยการ ถูกรถชนตาย ก็คงต้องรับกรรมอันนั้นแหละครับ

กรรมดี กรรมไม่ดี แม้แต่ เศษเล็ก เศษน้อย ส่งผลหมดครับ


เพราะเป็น ปัญหา ระหว่าง ตัวบุคคล


อย่างเช่น ท่านหลวงนฤบาล บุรีรักษ์ (โรงแรมผี ฉายอยู่ครับ)


แกเป็น เจ้ากรรมนายเวร จะทำบุญอย่างไร หรือ ขอขมา อย่างไร ก็ไม่ยอมรับ

แต่ ถ้า พระเชียงแสน ยังอยู่นะครับ

หรือ มีติดตัวไว้ หลวงนฤบาล อาจเข้าใกล้ตัวไม่ได้


 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.164 9 มีนาคม 2553 15:03:43 น.  

 

ทุกท่านก็ควรมี พระเครื่อง ติดตัวบ้างนะครับ
(หลวงนฤบาล จะได้ไม่เข้าใกล้)

อาจผ่อนเหตุร้าย หนัก เป็น เบา ได้นะครับ

(พระเครื่องที่มี ประสบการณ์ มีผู้แสวงหากันเยอะ ถึงได้ราคาแพงไงครับ)


ท่านมีเปรียบเทียบไว้อีกแบบนะครับ...


ความดี เปรียบเสมือน สุนัขสีขาว

ความไม่ดี เปรียบเสมือน สุนัขสีดำ


เราเลี้ยงไปเลี้ยงมา สุนัขสีดำเกิดตัวใหญ่กว่าสุนัขสีขาว

สุนัขสีดำ ก็จะกลับมาทำร้ายเราได้

ถ้าสุนัขสีขาว ตัวโตกว่า เวลาสุนัขสีดำจะเข้ามาทำร้าย


สุนัขสีขาว ก็จะ ป้องกันเราได้ครับ




 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.164 9 มีนาคม 2553 15:09:36 น.  

 

เอ่อ...อ้า...เอิ่ม....เปรียบกับหลวงนฤบาลเลยหรือคะ

^_____________________^""

 

โดย: ลูกยิ้ง IP: 203.144.144.164 9 มีนาคม 2553 15:21:44 น.  

 

จะแยกเป็น 2 ประเด็น ในคำถามของท่าน ลูกยิ้ง นะครับ


1. การบนบาน

2. การทำความดี


จะเกิดการบนบานศาลกล่าว ต่อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือ เทพยดา

หมายถึง เหตุกำลังจะเกิดขึ้น จะทำอะไร สำเร็จหรือไม่

กำลังประสบกับสภาวะเดือดร้อนต่าง ๆ สุขภาพร่างกาย การทำมาหากิน ที่อยู่อาศัย การศึกษา


นี่แหละ ถึงจะเกิด การขอ หรือ การบนบาน ขึ้น


แล้วขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้เราพ้นจากสภวะที่ไม่ชอบใจเหล่านี้


อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับ ท่านไปขอถูกที่ถูกทางหรือไม่

ขอกับเทวดา เทพยดา ที่มี อานุภาพ เพียงพอหรือไม่ครับ


การกระทำความดี ก็เหมือนกับตัวอย่างเรื่อง สุนัขสีขาว สุนัขสีดำ ครับ

ก็สามารถ ผ่อนหนักเป็นเบา ได้ครับ




 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.164 9 มีนาคม 2553 15:22:42 น.  

 

ครับ หลวงนฤบาล กะลังดังตอนนี้


เพราะเรา ๆ ท่าน ๆ ไม่เคยทราบว่า เรา ๆ ท่าน ๆ ได้กระทำอะไรไปแล้วบ้าง


ไม่ทราบว่า มี หลวงนฤบาล กี่ท่าน ที่ล้อมรอบ ๆ ตัวเราอยู่

ที่รอโอกาส จะ เอาคืน ครับ

 

โดย: bigjinbook IP: 203.144.144.164 9 มีนาคม 2553 15:31:25 น.  

 

//buddha-thushaveiheard.com/page_01.html

 

โดย: ลูกยิ้ง IP: 203.144.144.165 11 มีนาคม 2553 17:10:28 น.  

 

 

โดย: cat_mayom 11 มีนาคม 2553 20:35:15 น.  

 

วิญญาณมังครับ
มันมันก็มีอัตตา มีอัตตาก็คอยเอาแต่จะปรุงๆๆๆๆ
มันก็เลยส่งเราไปที่ใหม่เรื่อยๆ
มิรู้ง่ะ มั่วเอา แง่บๆ

 

โดย: itoursab 11 มีนาคม 2553 23:21:41 น.  

 

เปลี่ยนเน็ทแล้ว ทำไมเข้ายากกว่าเดิมแฮะ พี่คนไหนเป็นแบบนี้บ้างคะ
....................
หลับดีมีสุข ฝันแต่สิ่งสบายๆ หมดโศกหมดทุกข์เสมอนะคะ


 

โดย: ญามี่ 12 มีนาคม 2553 2:10:08 น.  

 

เราไม่รู้ว่า ครั้งก่อน ๆ โน้น ๆๆๆ เราทำอะไรไว้บ้าง เนอะ....

บางทีถ้ารู้อาจจะทำให้เราใจเสีย (จิต ตกค่ะ) ไม่เป็นอันทำ

อะไร แม้แต่ชาตินี้ข้าพเจ้าว่าเราก็ลวงละเมิดผู้ ทั้งทางกาย

วาจา ใจ มาก็เยอะ ทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ.....

ที่นี้เราจะเริ่มต้นยังไงกันดี.... มันผ่านมาแล้วไง... จะตาม

ไปเปลี่ยนใหม่ก็คงไม่ได้.....เราต้องกลับมาปัจจุบันเดี่ยวนี้

เลย เราทำอะไรได้บ้าง ไม่เกินกำลัง....

1. เปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างที่ไม่ดี ทั้งหลายเนอะ อาจทำยากนะ แต่ต้องอดทน

2.สร้าง ทาน บุญ บารมี ทำทุกอย่าง ที่ไม่เดือดร้อนเรา วันต่อวัน เลย

- ให้ทาน ตักบาตร ไปวัดทำสังฆทาน (เพื่อให้....)

- ภาวนา (เช่นการระลึกถึงบารมี แห่ง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ บิดา มารดา ครู-อาจารย์ ) ทำได้ทุกวันจะดีมาก

- สวดมนต์ เช้า (ยังทำไม่ได้ แงะ ๆๆ) - เย็น(ก่อนนอน ทำทุกคืน อย่าได้ขาด ) แผ่เมตตาไปให้สรรพสัตว์ในโลกนี้โดยไม่ประมาณ

*** ลองทำดูนะจ๊ะ จะว่ายากก็ยาก ว่าไม่ยากก็ไม่ยาก สิ่งดี ๆๆๆๆๆ จะเกิดขึ้น.... ต้องปฏิบัติเท่านั้นถึงจะรู้...




 

โดย: บนเส้นทางกลับบ้าน (บนเส้นทางกลับบ้าน ) 12 มีนาคม 2553 17:39:01 น.  

 

ให้ทานอย่างถูกต้อง1 รักษาศีล1 หลีกหนีอบายมุข6 และมีศัทธาด้วยปัญญา1 เอาแค่นี้ก่อนนะครับ กระแสธรรมก็มาแล้ว

 

โดย: sompannoi IP: 115.87.65.241 5 พฤษภาคม 2556 0:43:57 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


bigjinbook
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




Friends' blogs
[Add bigjinbook's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.