[ TravelHolic TBA 2014-2015 ] " นากายา สวนผึ้ง " ปล่อยกายให้ธรรมชาติโอบกอด
สวัสดีครับ
กลับมาอีกครั้งกับรีวิวในโครงการ TBA หรือ Thailand Boutique Awards ซึ่งเป็นโครงการประกวดสุดยอดโรงแรมบูติคซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ของโครงการแล้วครับ
TravelHolic ตอนที่ 13 นี้จะพาไปอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรีกันฮะ ที่สวนผึ้งมีรีสอร์ทอยู่เยอะแยะมากมายแล้วก็มีโรงแรม-รีสอร์ทที่เข้าร่วมประกวดในโครงการฯหลายแห่งเหมือนกันครับ ที่ๆผมจะพาไปนี้รับรองว่าคนที่เคยไปเที่ยวสวนผึ้งต้องเคยเห็นรีสอร์ทแห่งนี้กันแทบจะทุกคนแน่ๆ ที่นี่ชื่อว่า " นากายา รีสอร์ท " เป็นรีสอร์ทเล็กๆอยู่ทามกลางธรรมชาติ ตามผมมาครับ เดี๋ยวจะพาไปชมกัน ..
ผมเองได้รับมอบหมายให้ไปเยือนโรงแรมที่เข้าประกวดในโครงการ TBA นี้ทั้งหมด 6 แห่งครับ ที่นากายานี้เป็นรีสอร์ทที่ 4 ที่ผมมีโอกาสได้ไปเยือน ถ้ายังไม่ได้ชมรีวิวโรงแรมที่ผ่านมาตามกันไปได้ครับ 1. สิงหมนตรา ลานนาบูติคสไตล์ เชียงใหม่
2. Makka มรรคา เชียงใหม่
3. แรมริมนา RAMRIMNA PRIVATE POOL VILLA AND ORGANIC FARM
ตามไปชมรีสอร์ทที่ 4 ในโครงการฯ ของผมได้เลยฮะ แน่นอนครับ คนที่เคยไปสวนผึ้งทุกคนน่าจะเคยแวะเที่ยว The Scenery Vintage Farm หรือ The Scenery Resort เก่านั้นเอง นากายา รีสอร์ท ที่เราจะไปมีรั้วอยู่ติดกับ The Scenery เลยฮะ เห็นมั๊ยครับผมบอกแล้วว่าแทบทุกคนต้องเคยเห็นรีสอร์ทนี้แน่ๆ ทางเข้าจะอยู่ตรงป้าย The Scenery ที่เห็นนี้เลยครับ พอสุดป้ายก็เลี้ยวเข้าไปที่ลานจอดรถเล็กๆได้เลย
เลี้ยวเข้าลานจอดมาก็จะเห็นทางเข้าโรงแรมครับ จะอยู่ข้างๆกับที่ขายตั๋วเข้า The Scenery เลย
ด้านหน้านี้เป็นทั้งแผนกต้อนรับและร้านกาแฟเล็กๆแถมมีอาหารจานเดียวง่ายๆให้บริการด้วยครับ
เข้าไปด้านในกันดีกว่า ..
เข้ามาเช็คอินจะมีเครื่องดื่มต้อนรับเป็นน้ำกระเจี๊ยบคลายร้อนได้มากทีเดียว
บรรยากาศภายในล็อบบี้ที่เป็นร้านกาแฟเล็กๆด้วย
เจ้าบ้านรอต้อนรับ 3 .. เอ๊ะ!! 4 ตัวสิ
เช็คอินเรียบร้อยก็เข้าห้องพักกันดีกว่าครับ
"นากายา รีสอร์ท" เปิดให้บริการมาแล้วประมาณ 5-6 ปีเรียกได้ว่าเป็นรีสอร์ทชุดแรกๆของสวนผึ้งเลยก็ว่าได้ เป็นรีสอร์ทเล็กๆขนาดแค่ 10 ห้องเท่านั้นเองครับ โดยแบ่งเป็นห้องพัก 6 ห้องกับบ้านพักอีก 4 หลัง วันนี้ผมนอนบ้านที่เรียกชื่อว่า Mount ฮะอยู่ใกล้ๆกับล็อบบี้เลย เป็นบ้านแบบปูนทาสีขาวเหมือนบ้านทรงนิยมของสวนผึ้ง
ห้องชื่อ Mount รูปร่างก็เลยคล้ายๆภูเขา ห้องมีขนาดซัก 50 ตร.ม.ได้ครับ เตียงนอนขนาด 5 ฟุต มีที่นั่งอยู่ข้างเตียง อีกฝั่งเป็นชั้นวางทีวี(รุ่นเก่าไปหน่อย แต่ก็มีช่องเคเบิ้ลให้เลือกดูเยอะ) ข้างกันเป็นช่องเก็บเสื้อผ้าแต่ผมว่ามันเล็กไปนิด (หรือตัวเราใหญ่ ฮ่าๆๆ)
ปลายเตียงมีโต๊ะทำงาน พร้อมบาร์เล็กๆและตู้เย็น
ห้องน้ำขนาดใหญ่ เก๋ๆด้วยหลุมกระจกหลายหลุมเลย แถมมีอ่างเล็กๆไว้ให้แช่น้ำด้วย
เดี๋ยวพาออกไปดูรอบๆบ้างดีกว่าครับ บ้านหลังนี้ชื่อ Mu Villa ครับ น่าจะสวยเหมือนกันแต่ไม่ได้เข้าไปดูเพราะว่ามีแขกเข้าพักอยู่ฮะ
ทีนี้แวะมาดูอีกส่วนหนึ่งเป็นห้องที่อยู่รวมในอาคารในรูปเปิดชื่อห้องนี้ชื่อ Naked เป็นห้องเตียงคู่ กว้างดีครับ
อีกห้องอยู่ที่ชั้นสอง ชื่อว่า Proud เป็นห้องที่มีอ่างอาบน้ำอยู่นอกระเบียง แต่ตอนนี้กำลังปรับปรุงให้เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนอยู่ครับ
จริงๆตัวรีสอร์ทเล็กนิดเดียวครับ แต่ที่ได้เต็มๆเลยคือเมื่อเราพักที่นี่เราสามารถเดินเข้าไปที่ the scenery vintage farm ได้ตลอดเวลาที่เค้าเปิดบริการโดยไม่ต้องเสียค่าเข้าครับ (มีทางเดินเข้าฟาร์มได้เลย) วันที่ผมไปเป็นวันธรรมดาครับ คนที่มาเที่ยวก็เลยไม่เยอะเท่าไหร่ มาสวนผึ้งเสาร์-อาทิตย์ทีไรคนเป็นหนอน
จะมาถ่ายรูปแกะก็ไม่เคยได้รูปสวยๆเพราะเล่นวิ่งไปวิ่งมาตามหญ้าที่คนเอามาให้กินไปหมด วันนี้ได้ทีแล้วถึงฟ้าจะไม่เป็นใจก็เถอะ เชื่อเถอะว่าใครมาที่นี่มาถ่ายรูปจะต้องมีรูปของนากายาเป็นแบ็คกราวอยู่ข้างหลังเหมือนรูปนี้แน่นอน
พอคนน้อยก็นั่งๆนอนๆกันสบายเลยเจ้าพวกนี้
เล่นกับแกะซักพักก็เดินข้ามรั้วกลับที่พักเราดีกว่า ถ้าจะมาที่ฟาร์มบอกกับพนักงานของนากายาเค้าจะให้คูปองส่วนลดมาซื้อไอศกรีมนมแกะทานได้นะครับ
เปลี่ยนมาดูบรรยากาศยามค่ำกันบ้างครับ เงียบสงบมาเลยทีเดียว จะมีก็แต่เสียงดนตรีจากทางฟาร์มที่เปิดขับกล่อมแกะนอนเท่านั้น ฮ่าๆๆ
เค้าเตอร์เช็คอินและห้องอาหาร
ยังไม่ได้ให้ชมส่วนที่เป็นห้องพักทั้ง 6 ห้องเลยเนอะ จะแบ่งห้องพักเป็นชั้นล่าง 4 ห้องและชั้นบน 2 ห้อง ด้านหน้าเป็นบ่อเลี้ยงปลาและสนามหญ้า
ข้าวผัดอเมริกัน และไส้กรอกเยอรมันรวม เมื่อทานอิ่มก็เรียกรถกลับมาส่งที่นากายากันครับ
ตื่นเช้ามาพร้อมกับความชุ่มฉ่ำที่เพิ่งผ่านไปครับ
เช้านี้ได้นัดกับทางรีสอร์ทไว้ว่าจะให้แม่บ้านสั่นระฆังปลุกขึ้นมาใส่บาตร โดยทางรีสอร์ทจะเตรียมอาหารคาวหวานไว้ให้เราพร้อมในราคาชุดละ 50 บาท (ชุดนึงใส่ได้ 2 องค์) เราต้องเดินออกมารอพระที่ริมถนนฮะเพราะจะเดินผ่านประมาณ 6 โมงครึ่งของทุกวัน
พระมา 4 องค์ครับใส่คนละ 2 องค์รับบุญกันไป
ถ้าอยากออกกำลังกายตอนเช้าก็สามารถเอาจักรยานของทางรีสอร์ทที่มีให้บริการฟรีอยู่หลายคันออกไปปั่นได้นะครับ
หรืออยากจะนั่งอ่านหนังสือก็มีมุมให้นั่งอ่านเช่นกันฮะ
หรือจะนอนดูหนังในห้องก็มีแผ่นดีวีดีให้ยืมไปดูหลายเรื่องอยู่เหมือนกันนะครับ
แต่ผมว่าแค่นั่งเฉยๆมองวิวสูดบรรยากาศดีๆรอบๆก็เพียงพอแล้วล่ะ ได้เวลาอาหารเช้ากันแล้วฮะ อาหารเช้าของที่นี่จะเสิร์ฟถึง 10 โมงนะครับ
อาหารก็เป็น ABF ง่ายๆฮะ บทสรุป .. " nagaya " คำผสมสองคำ คำแรก naga ภาษาโบราณที่เป็นรากศัพท์ของคำว่า Naked ที่แปลว่าเปลือยในภาษาไทย ส่วนอีกคำคือ gaya ซึ่งก็คือร่างกาย สองคำรวมกันก็คือ ร่างกายที่เปลือยเปล่า ในทางคติธรรมต้องการสื่อให้เห็นถึงความจริงทางธรรมชาติที่ว่าคนเรามายังไงก็ไปอย่างนั้น มาร่างกายเปลือยเปล่าตอนไปก็ไปแบบเปลือยเปล่าเช่นกัน อีกทางนึงที่ทางรีสอร์ทอยากจะสื่อความหมายก็คืออยากให้เราเอาร่างกายมาสัมผัสธรรมชาติที่โอบล้อมอยู่รอบๆตัว ทุกๆอย่างมันจะช่วยเติมพลังให้กับเราได้นั่นเอง สำหรับนากายา อาจจะเป็นรีสอร์ทที่สร้างมานานพอสมควรตั้งแต่ยุคแรกๆที่คนเริ่มมาเที่ยวสวนผึ้งแล้วทำให้อะไรหลายๆอย่างอาจจะดูทรุดโทรมไปบ้าง ตอนนี้ทางรีสอร์ทกำลังมีการปรับปรุงและต่อเติมหลายๆส่วนอยู่ผมเลยถ่ายรูปมาไม่หมดทุกส่วน ห้องพักอาจจะดูไม่หรูหราแต่ก็สมกับราคาที่ขายดีฮะ บรรยากาศสบายๆดูเป็นกันเอง พนักงานน่ารัก และได้วิวสวยๆของฟาร์มแกะที่อยู่ตรงหน้า นับเป็นอีกหนึ่งรีสอร์ทที่ยังคงขายดีและมักจะเต็มแทบจะทุกช่วงวันหยุด เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนที่ชอบมาเที่ยวชมบรรยากาศของสวนผึ้งครับ ขอบคุณที่ติดตามจนจบรีวิวนะครับ รีวิวต่อไปผมยังคงอยู่ที่สวนผึ้งนี่ล่ะครับ ยังอยู่กับรีสอร์ทที่เข้าร่วมประกวดในโครงการ TBA อีกหนึ่งแห่งส่วนจะเป็นที่ไหนรอติดตามกันได้นะครับ ขอบคุณมากครับ ฝากติดตามแฟนเพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/travelholicbigboy นะครับ
Create Date : 26 กรกฎาคม 2557 |
Last Update : 28 กรกฎาคม 2557 19:21:55 น. |
|
4 comments
|
Counter : 1926 Pageviews. |
|
|