มีนาคม 2549

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
31
 
 
ประวัติของสุนัขพันธุ์เซ็นต์เบอร์นาร์ด


ถึงแม้ว่าต้นกำเนิดที่แท้จริงของเซ็นต์เบอร์นาร์ดจะไม่ปรากฎแน่ชัด แต่ลักษณะบางอย่างของสายพันธุ์ทีโดดเด่น ประกอบการคาดเดาอย่างมีเหตุผล ก็สามารถอธิบายถึงพัฒนาการของสายพันธุ์ที่สวยงามนี้ได้ดีที่สุด



อารามและสถานที่พักแรมถูกสร้างในปี ค.ศ. 980 โดย BERNARD DE MENTHON นักบวชนิกายออกัสติน สิ่งปลูกสร้างเหล่านี้ตั้งอยู่ในบริเวณทางผ่านของเทือกเขาแอลป์ระหว่างอิตาลี และสวิสเซอร์แลนด์ ตำนานเกี่ยวกับการเป็นวีรบุรุษในการช่วยเหลือชีวิตคนเดินทาง ทำให้ได้รับการเรียกขานว่า THE GREAT SANT BERDNARD PASS ที่นี่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 8,000 ฟุต ปกคลุมไปด้วยหิมะ มีเพียง 2 - 3 เดือนในหนึ่งปีที่เป็นฤดูร้อน หรือจะเรียกให้ถูกต้องเรียกว่า เป็นช่วงที่อบอุ่นที่สุด การเดินทางด้วยเท้าไปยังสถานที่แห่งนี้ หรือการเดินทางผ่านเส้นทางนี้ค่อนข้างอันตราย การเดินทางด้วยเท้ายากลำบากมากในช่วงอากาศหนาวเหน็บและมีพายุหิมะ คนเดินทางมักพบกับความตาย แต่หากว่าใครสามารถผ่านหนทางที่ยากลำบากนั้น ก็จะพบกับสถานที่พักแรมที่มีนักบวช และสุนัขที่มีความสามารถพิเศษของพวกเขา




ไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับเซ็นต์เบอร์นาร์ดในช่วง 700 ปีแรก ของการมีชีวิตอยู่ของพวกมัน เรื่องราวช่วงนั้นคงเต็มไปด้วยการสร้างสายพันธุ์ หลักฐานชิ้นแรกที่มีปรากฏให้เห็นคือ รูปวาด 2 รูป ในปี 1695 ซึ่งมีผู้อ้างว่าเป็นของจิตรกรชาวอิตาลี่ ชื่อ SALVATORE ROSA



แต่ละรูปจะแสดงสุนัขขนสั้น มีโครงสร้างดี มีศีรษะเป็นเอกลักษณ์ หางยาว ตัวหนึ่งเป็น SPLASH COATED ในขณะที่อีกตัวหนึ่งเป็น MANTLE COATED จากรูปภาพ ศาสตราจารย์ ALBERT HEIM สรุปว่า เป็นสายพันธุ์ที่น่าจะมีอยู่มาแล้ว 25 ปี ดังนั้นช่วงเวลาต้นกำเนิดของเซ็นต์เบอร์นาร์ด น่าจะอยู่ราวๆ ค.ศ. 1660 - 1670
สุนัขได้ถูกเพาะพันธุ์อย่างต่อเนื่องในสถานที่พักแรม ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1660 จนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1695 ที่รูปถูกวาดขึ้น เป็นไปได้ว่าสุนัขเหล่านี้เป็นรุ่นลูกหลานของสุนัขพันธุ์ STIFF STYLE ASIATIC ที่ถูกนำมาโดยทหารโรมันในช่วงสงคราม สุนัขในหุบเขานี้มีอยู่นานนับศตวรรษ โดยไม่มีใครรู้จักว่าเป็นสายพันธุ์ที่พิเศษ และสุนัขเหล่านี้ได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ในสถานที่พักแรม



การปฏิบัติหน้าที่ช่วยชีวิตคน ได้เริ่มประมาณปี ค.ศ. 1700 ก่อนหน้านั้น เข้าใจว่าสุนัขเหล่านี้ทำหน้าที่เฝ้าระวังและอยู่เป็นเพื่อนนักบวช ระหว่างฤดูหนาวอันยาวนานที่ปกคลุมด้วยหิมะ ไม่มีหลักฐานถึงการร่วมต้นช่วยชีวิตคนของสุนัขเหล่านั้น แต่คาดว่าน่าจะเริ่มจากการติดตามนักบวชไปลาดตระเวณภูเขา หลังเกิดพายุหิมะ เพื่อค้นหานักเดินทางที่สูญหาย หรือติดอยู่ในหิมะ นักบวชได้ค้นพบว่าสุนัขเซ็นต์เบอร์นาร์ด มีสัญชาตญาณยอดเยี่ยมเกี่ยวกับหิมะถล่ม นักบวชจึงให้สุนัขเหล่านี้ติดตามพวกเขาไปด้วย เมื่อต้องเดินทางด้วยเท้าไปในที่เสี่ยงภัย บางที่สุนัขอาจจะเรียนรู้วิธีการช่วยเหลือชีวิตคนจากนักบวช จนในที่สุด สุนัขตัวผู้จะถูกส่งออกไปเป็นกลุ่ม ๆ ละ 2 - 3 ตัว เพื่อค้นหาผู้สูญหายหรือได้รับบาดเจ็บ (นักบวชคิดว่ามันเป็นงานหนักเกินไปสำหรับสุนัขตัวเมีย)



บ่อยครั้งที่สุนัขพบคนถูกฝังในหิมะ มันจะขุดจนเจอและกระตุ้นให้นักเดินทางตื่น และนอนแนบร่างกายนักเดินทาง เพื่อให้ความอบอุ่นหากเขาไม่สามารถขยับตัวได้ ขณะที่สุนัขตัวอื่นจะวิ่งกลับไปที่สถานพักแรม เพื่อบอกข่าวแก่นักบวชให้ออกมาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ส่วนคนที่สามารถเดินได้จะถูกนำทางโดยสุนัข เพื่อกลับไปยังสถานพักแรม สัญชาตญาณในการขุดหิมะช่วยเหลือ และการกระตุ้นให้ตื่น ยังคงมีอยู่ในสายเลือดของสุนัขเซ็นต์เบอรนาร์ดตราบจนกระทั่งทุกวันนี้ การที่สุนัขต้องทำงานเป็นทีม นักบวชจึงจำเป็นต้องคัดสรรสายพันธุ์ที่ไม่มีความก้าวร้าว เพราะพวกมันจะรุกรานซึ่งกันและกัน รวมถึงไม่เป็นมิตรต่อนักเดินทางด้วย ทำให้สุนัขพันธุ์นี้มีลักษณะทางอารมณ์ที่ดีเยี่ยมซึ่งถูกคัดสรรให้มีไว้ในสายพันธุ์ตั้งแต่ยุคเริ่มต้น และสืบทอดยาวนานนิ่งอยู่ในสายเลือดจนปัจจุบัน



ระหว่างฤดูหนาวปี ค.ศ. 1816,1817และ1818 มีพายุหิมะที่ THE GRESS SAINT BERNARD PASS ที่รุนแรงมีสุนัขหลายตัวหายสาบสูญขณะทำงาน ทำให้เซ็นต์เบอร์นาร์ดที่สถานพักแรมมีแนวโน้มจะสูญพันธุ์ ทำให้มีเรื่องเล่าเกิดขึ้นว่าคณะนักบวชพยายามที่จะรักษาสายพันธุ์ไว้ โดยนำสุนัขลักษณะที่มีความใกล้เคียงในบริเวณหุบเขามาผสมพันธุ์ สุนัขที่กล่าวถึงคือ ENGLISH MASTIFFS แต่ในเรื่องนี้ไม่ได้มีหลักฐานยืนยันไว้



ในปี ค.ศ. 1830 นิวฟาวแลนด์ได้ทำการทดลองผสมพันธุ์ 3 การทดลอง ที่สถานพักแรม การผสมข้ามสายพันธุ์ในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากการกำเนิดสายพันธุ์ 160 ปี และจากนั้นอีกหลายปีมีแต่การใช้งานสุนัขขนสั้น นักบวชให้เหตุผลว่า ขนยาวน่าจะป้องกันความหนาวเย็นให้กับสุนัขได้ เป็นความคิดที่ผิดอย่างมหันต์ เพราะน้ำแข็งเกาะอยู่บนขนที่ยาวระหว่างการเดินบนภูเขาหิมะ น้ำหนักของน้ำแข็งที่สะสมอยู่บนขน ทำให้สุนัขเดินทางลำบาก และส่งผลให้การทำงานไม่มีประสิทธิผล ในที่สุด นักบวชไม่สามารถใช้สุนัขขนยาวในการช่วยเหลือชีวิตคนได้ นักบวชจึงหันกลับมาใช้สุนัขพันธุ์ขนสั้น และเริ่มแจกจ่ายสุนัขเซ็นต์เบอร์นาร์ด ที่ขนยาวออกไป เมื่อลูกสุนัขโตขึ้นชาวสวิสที่นำไปผสมกับสุนัขของพวกเขาเอง ซึ่งส่งผลให้เกิดลูกสุนัขที่มีทั้งขนสั้น และขนยาว ซึ่งการคัดเลือกสายพันธุ์ทำโดยชาวสวิสผู้หลงไหลในสุนัขสายพันธุ์นี้



ช่วงระยะเวลานั้น สายพันธุ์นี้ยังไม่ได้รับการตั้งชื่อ มันถูกจดจำว่าเป็นสายพันธุ์ที่โดดเด่นของชาวสวิส นักเดินทางและคนรักสุนัขชาวอังกฤษ เรียกพวกมันว่า ALPINE MASTIFF สุนัขสถานพักแรม หรือ SAINT BERNARD MASTIFF สุนัขของนักบวช บ้างก็เรียกพวกมันว่า สุนัขภูเขา สุนักแห่งอาราม หรือสุนัขแห่งเทือกเขาALPINE



ชาวสวิสจำนวนมากเรียกพวกมันว่า สุนัข BARRY เพื่อเป็นเกียรติให้กับสุนัขตัวหนึ่งของสถานพักแรมที่ชื่อ BARRY DER MENSCHENRETTER ที่ช่วยเหลือนักเดินทางมากกว่า 40 ชีวิต ตลอดชีวิตการทำงานของมัน BARRY เสียชีวิตลงในปี ค.ศ.1814 และประวัติของมันได้รับการจารึกไว้ในพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติเบอร์น ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ จนสุดท้ายในปี 1880 ก็ตกลงสุนัขพันธุ์นี้ว่า SAINTBERNARD ประวัติการขยายสายพันธุ์นอกสถานที่พักแรม เริ่มปี 1855 ในสวิสเซอร์แลนด์ โดยความพยายามของ HEINRICH SCHUMCHER ซึ่งเป็นผู้เผยแพร่หนังสือเกี่ยวกับเซ็นต์เบอร์นาร์ดเล่มแรก และพัฒนาสายพันธุ์ตามแบบของสถานพักแรม เพราะต้องการให้ลักษณะพิเศษที่มีอยู่ในตัวสุนัข คงอยู่ตลอดไป ชาวอังกฤษมีความต้องการสุนัขที่มีความสามารถพิเศษเช่นนี้อย่างมาก จึงมีการขยายพันธุ์ไปทั่วทุกหนแห่ง แต่ผู้คนจำนวนมากไม่มีความรู้เกี่ยวกับลักษณะดั้งเดิมของสายพันธุ์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายกับสายพันธุ์อย่างมาก เพื่อที่จะรักษาสายพันธุ์ดั้งเดิมเอาไว้ จึงมีการก่อตั้ง THE SWISS KENNEL CLUB ขึ้นในปี ค.ศ. 1883 และสร้างมาตรฐานสายพันธุ์ขึ้นครั้งแรกในปี 1884




ชาวอังกฤษได้นำเข้าสุนัขพันธุ์นี้ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1820 แต่ไม่ได้รักษามาตรฐานสายพันธุ์เดิมมากเท่านักบวชหรือผู้เพาะพันธุ์ชาวสวิส เซ็นต์เบอร์นาร์ดของอังกฤษจึงมีลักษณะที่แตกต่างกับสุนัขในสถานพักแรม ชาวอังกฤษจึงได้เขียนมาตรฐานสายพันธุ์เองในปี ค.ศ. 1877 แต่ก็ยังคงลักษณะสายพันธุ์เดิมอยู่บ้าง ต่อมาทั้งเซ็นต์เบอร์นาร์ดจากอังกฤษและสวิสเซอร์แลนด์ ต่างก็ถูกส่งออกไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก โดยทั้งสองสายพันธุ์นี้ใช้ชื่อเดียวกัน จึงเกิดการถกเถียงกันเกี่ยวกับลักษณะที่ถูกต้องของมาตรฐานสายพันธุ์และสิทธิความถูกต้องชอบธรรมในการเป็นเจ้าของสายพันธุ์ จนในปี ค.ศ.1886 การประชุมผู้แทนนานาชาติเกิดขึ้นที่กรุงบรัสเซลล์ เพื่อถกกันในประเด็นนี้ แต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ และเมื่อมีการประชุมอีกครั้งในปีถัดมา ที่ซูริค ได้ข้อสรุปว่า มาตรฐานของสวิสจะถูกนำไปใช่ทุกแห่งในโลกยกเว้นที่อังกฤษ

ปัจจุบันมีมาตรฐานสายพันธุ์ของเซ็นต์เบอร์นาร์ดอยู่ 3 แบบ ได้แก่ มาตรฐานของสวิสเซอร์แลนด์เก่าฉบับปรับปรุง ซึ่งใช้ในสหรัฐอเมริกา มาตรฐานฉบับอังกฤษ และมาตรฐานฉบับสวิสเซอร์แลนด์ ปรับปรุงโดยประกาศ FCI ในปี ค.ศ.1993 สมาคมเซ็นต์เบอร์นาร์ดแห่งสหรัฐอเมริกา คงไว้ซึ่งมาตรฐานสายพันธุ์ของสุนัขสถานพักแรมในหุบเขาแอลป์อย่างถูกต้อง ในปัจจุบันเกือบทั่วโลกยอมรับในมาตรฐานสายพันธุ์ของสมาคม ที่มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อยจากมาตรฐานสวิสดั้งเดิม ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวที่เซ็นต์เบอร์นาร์ด คลับ ออฟ อเมริกา ยอมรับได้



ยาวนานนับพันปีของการพัฒนาสายพันธุ์ รูปร่างลักษณะหลายอย่างของสุนัขพันธุ์เซ็นต์เบอร์นาร์ดได้เปลี่ยนแปลงไป มีการพัฒนาสายพันธุ์โดย BREEDER ที่รักและหวงแหนสุนัขพันธุ์นี้ พยายามคัดเลือกลักษณะที่ดีให้คงอยู่ ปรับปรุงข้อด้อยของสายพันธุ์ให้เหลือน้อยที่สุด หรือหมดไป แต่หนึ่งสิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง คือจิตวิญญาณของเซ็นต์เบอร์นาร์ด ยักษ์ใหญ่ใจดี นักบุญแห่งหุบเขาแอลป์ สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นและจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป




Create Date : 29 มีนาคม 2549
Last Update : 5 เมษายน 2549 17:47:19 น.
Counter : 6266 Pageviews.

16 comments
  
น่ารักมากๆค่ะ
โดย: ตูน IP: 203.113.45.228 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:12:52:12 น.
  
น่ารักดีๆๆๆ
โดย: Bell IP: 61.7.147.141 วันที่: 24 ตุลาคม 2550 เวลา:9:58:07 น.
  
ชอบมากค่ะอยากเลี้ยง
ท่าทางที่ดูใจดีเป็นเอกลักษณ์
โดย: berny IP: 58.9.142.133 วันที่: 24 สิงหาคม 2551 เวลา:21:23:59 น.
  
ชอบมากเลยอ่ะ

น่ารักมากเลย

อยากได้แต่

ไม่มีเงินซื้อ อิอิ
โดย: .......... IP: 58.181.157.122 วันที่: 29 มิถุนายน 2552 เวลา:10:58:57 น.
  
น่ารักมากๆๆคะอยากได้แต่ที่บ้านเลียงบางแก้วไว้ 3 ตังแล้วคะ
โดย: yuiyuyee IP: 118.172.200.201 วันที่: 29 กรกฎาคม 2552 เวลา:19:11:28 น.
  
นารักมากๆ
โดย: เท่งค้ะ IP: 192.168.1.116, 203.172.219.235 วันที่: 5 สิงหาคม 2552 เวลา:11:45:39 น.
  
เท่มากๆ
โดย: ใบตองกุง IP: 203.172.201.66 วันที่: 7 สิงหาคม 2552 เวลา:12:52:48 น.
  
ชอบมากๆผมเลี้ยงตัวนึงที่บ้านครับ
โดย: ko IP: 202.142.193.98 วันที่: 3 กันยายน 2552 เวลา:12:07:01 น.
  
ที่บ้านเลี้ยงไว้1ตัว มันน่ารักมาก และก็แสนรู้ด้วยค่ะ ตอนนี้กำลังหาตัวเมียมาผสมพันธ์อยู่ ใครที่มีตัวเมียแล้วอยากได้ลูกก็ติต่อได้ที่0854482274
โดย: แอนจร้า IP: 172.16.80.90, 119.42.101.134 วันที่: 23 กันยายน 2552 เวลา:13:07:42 น.
  
แพงไหมครับเนี้ย

หมาในฝันผมเลยนะครับ

น่าจะแพงน่าดูเลย

..*-*...
โดย: bluezaza36@hotmail.com IP: 192.168.1.108, 110.164.236.192 วันที่: 21 ตุลาคม 2552 เวลา:17:23:43 น.
  
โครตชอบมากๆๆๆๆๆๆๆๆ
โดย: อาร์ม IP: 119.42.76.190 วันที่: 31 สิงหาคม 2553 เวลา:12:17:02 น.
  
อยากถามเรื่องโรคของหมาพันธุ์นี้ค่ะ...คือที่บ้านเลื้ยงไว้ 1 คู่ อายุ 7 ขวบ มีลูก1คอก 8 ตัว แข็งแรงขายหมดแล้ว..ตอนนี้ตัวผู้น่าจะใกล้จากไปแล้วค่ะ..เมื่อ 6 เดือนก่อนเค้าเป็นกระดูกงอกที่ขาซ้ายต้องตัดเพราะหมอเกรงว่าจะเป็นเชื้อมะเร็งกระดูก..ตอนนี้เป็นอีกคิดว่าขาขวาหน้าที่เหลือแต่ขาหลังทั้งสองกลับไม่มีแรงทั้งที่เมื่อ3วันก่อนก้อวิ่งตามตัวเมียพันธุ์พิทบูลอยู่ ตอนนี้เค้าลุกก้อล้มปากกระแทกจนเลือด ไม่ทราบว่าใครพอจะทราบหรือมีประสบการณ์ว่าหมาเป็นเหมือนกัน..ตอนนี้เหมือนหัวใจจะสลายตามเค้าเพราะอยู่ด้วยกันมาตลอดบางวันอยู่กับเค้า20 ชม./วันทำใจไม่ได้เลยกับเหตุการณ์นี้สงสารเค้ามากเหลือเกินค่ะ ขอบคุณที่มีช่องว่างให้...ขอบคุณค่ะ gunnutkamon@hotmail.com
โดย: แม่หมา IP: 124.121.144.103 วันที่: 17 กันยายน 2553 เวลา:5:02:15 น.
  
อยากเลี้ยงจังเลย......อิอิแต่ถ้า....
สอบได้ที่1......จะขอให้น้าซื้อให้ค่ะ
โดย: มินิ IP: 125.26.102.157 วันที่: 23 เมษายน 2554 เวลา:17:52:05 น.
  
น่ารักม๊าก มาก
โดย: เมย์ IP: 113.53.182.67 วันที่: 15 มิถุนายน 2554 เวลา:10:20:44 น.
  
ถ้าใครถามว่าแพงไหมถ้าเป็นลูกเซนต์เบอร์นาร์ดขอบอกว่าอย่างต่ำ8000บาท
โดย: poppy IP: 202.91.19.171 วันที่: 22 กรกฎาคม 2554 เวลา:21:34:41 น.
  
ชอบมากกกกกกกกกกไม่ค่อยเห็นมีขายเลยจาซื้อได้ที่ไหนอะค่ะ
โดย: น้องกัญ IP: 192.168.1.103, 180.183.58.200 วันที่: 1 มกราคม 2555 เวลา:21:51:53 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bear in mind
Location :
เชียงใหม่  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



TANTAWAN SAINT HOME

สนใจติดต่อ คุณตาน

โทร 0-5344-9099

08-1783-7792
  MUSIC CAFE : LUN LA