"Wall in your heart!"
Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
9 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 
ฝันที่อยากไป...อังกฤษนะ...ไม่ใช่อเมริกา อ้าว...ต้องทำวีซ่าด้วยเหรอ

ตอนเด็ก ๆ เคยคิดว่าชาตินี้คงจะไม่มีประสบการณ์เดินทางไกลไปรับประสบการณ์นอกประเทศที่แตกต่างดอก เหตุผลหนึ่ง คือ เรามักจะเจียมและสำเนียกตัวเองค่อนข้างต่ำว่า "มันไม่มีวันหรอก" ฉันจะเอาเงินมากมายก่ายกองไปได้อย่างไรกัน

โตขึ้น บทเรียนพร้อมกับแบบทดสอบใหม่ ๆ ก็ยิ่งมากขึ้น จากที่ไม่เคยคิดว่าคงจะไม่เคยไปนอกประเทศ ก็มีพม่าเป็นประเทศแรก ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่เพียงการเดินข้ามฝั่ง ก็สุขใจแล้วนะ จะได้กลับไปคุยได้ว่า ตรูไปต่างประเทศมาแล้วนะเฟ้ย

ต่อมาเมื่อทำงานก็มีโอกาสติดตามรัฐบาลไปมาเลเซียด้วยการนั่งรถยนต์ผ่านรัฐเคดาห์ เอกสารการเดินทางพัฒนาขึ้นมาเป็นแบบ Boarding Pass วุ้ย...ตื่นเต้นจัง เกือบ ๆ เหมือนจะได้ไปเมืองนอกแระ (เมืองนอกของเราคือมีพาสปอร์ตล่ะ) เห็นบ้านเมืองเป็นระเบียบเรียบร้อย ต่างจากเมืองไทยจังเลย

หากจะพูดว่าแล้วครั้งไหนเล่าที่เสมือนว่าได้ไปเมืองนอกเมืองนาด้วยการผ่าน ตม.ที่สนามบิน มีการใช้พาสปอร์ตพร้อมประทับวีซ่า แบบว่า ตรูไปเมืองนอกจริง ๆ ไม่ได้โม้เนี่ย เห็นจะเป็นทริปการไปสัมภาษณ์ผู้นำองค์กรระหว่างประเทศสถาบันหนึ่ง ไป 4 วัน นั่นคือ การบินไปกัวลาลัมเปอร์นี่แหละค่ะ

เคยคุยกับเพื่อนว่า หากจะต่อปริญญาโทและได้รับทุนก็อยากจะไปเรียนที่อังกฤษหรือแถบยุโรป เพราะว่าเราชอบตึกเก่า ๆ วัฒนธรรมเก่า ๆ แต่มันก็แค่ฝัน

อย่าพูดถึงความฝันเลย มาพูดถึงปัจจุบันและความจริงที่อเมริกา ประเทศที่ไม่เคยคิดอยากไปกันดีกว่า

วันนั้นประมาณกลางปลายเดือนกันยายน 2549 ท่านผู้ใหญ่นายหนึ่ง โทร.มาบอกว่าได้รับทุนไปอเมริกาให้เตรียมตัวโดยด่วน จะเดินทางเดือนมกราคม 2550 โอ้แม่เจ้า ช่วงนั้นชีวิตตกวิบากกรรมเรื่องหนี้สินเต็มประดา ได้ยินครั้งแรกลูกตาหมุนเป็นค่าเงินดอลลาร์กันเลยทีเดียว (ตรูจะประหยัดจะเก็บเงินมาใช้หนี้ได้บ้างก็คราวนี้แหละ)

แทนที่จะดีใจว่าได้รับทุนไปได้ความรู้ ดั้นเจือกคิดแต่เรื่องเงิน

ก็สารภาพจริง ๆ นี่หน่าว่าคิดแบบนั้นจริง ๆ

ขั้นตอนต่อไปเราก็ต้องจัดเตรียมเอกสารเพื่อไปติดต่อสถานทูตเพื่อขอวีซ่านักเรียน (F1) โดยการย้ายตรูดตัวเองไปนั่งที่ห้องไกลบ้านอยู่ตลอดสองถึงสามเดือน ได้เว็บบล็อกคุณ Susie และความรู้จากผองเพื่อนห้องไกลบ้านมากมาย
เอกสารของเราทำให้เชื่อมั่นได้ว่าตรูจะไม่ไปไหน ยังไงก็ต้องกลับมาตายรังที่ประเทศของเราแน่นอน แต่ก็ยังหวั่น ๆ อยู่บ้างว่าวีซ่าเมกาไม่หมูแน่ ๆ

วันไปสัมภาษณ์ถึงหน้าสถานทูตที่ ถ.วิทยุ ประมาณ 07.00 น. โอ้แม่เจ้ากาลี ประชากรมาจากไหนกันเนี่ย ทะลักมาจนนอกรั้วเลยรึ

ไม่เป็นไร ชุดพร้อม (ใส่ชุดเต็มยศอันพึงจัดหาได้) เอกสารพร้อม เดินไปให้สาวมดแดง (ใส่เสื้อสีแดง) ตรวจเอกสารกันเบื้องต้น ด่านนี้เขาจะเช็กวันและเวลาสัมภาษณ์ว่ามีชื่อตรงตามวันหรือไม่

ผ่านด่านแรกต้องไปเจอ รปภ.ข้างในอีก ด่านนี้อนุญาตให้เอาเฉพาะเอกสารกับเงินติดตัวไปเท่านั้น สำหรับข้าวของอื่น ๆ ขออนุญาตริบไว้ประเดี๋ยว

เดินไปสักแป๊บ ชมนกชมไม้เย็นใจ ก็จะเจอโต๊ะเช็กเอกสารความเข้มข้นปานกลาง เขาจะเน้นตรวจพวกการกรอก DS 156-158 มีแก้ไขบ้างเล็กน้อย หลังจากนั้นก็ไปซื้อซองไปรษณีย์ ไว้สำหรับส่งพาสปอร์ต (พร้อมวีซ่า) มาให้เรา

และแล้วก็มาถึงด่านตรวจเอกสารขั้นเข้มข้น ด้วยการให้บัตรคิว ถามว่าจะเลือกสัมภาษณ์ภาษาอะไร อิฉันเลือกภาษาบรรพบุรุษค่ะ ช่วงนี้เอกสารที่เตรียมไปดึงออกเสีย 50%

ไฮไลท์มันอยู่ตรงนี้ค่ะ ในห้องสัมภาษณ์ขนาด 200-300 คน กำลังรอสัมภาษณ์ตัดสินชะตาชีวิตผ่านหน้าต่างเล็ก ๆ มีคนชี้ขาดอยู่ด้านใน (พูดเวอร์ ๆ ไปงั้นแหละ--ก็มันเหมือนมานั่งรอพิพากษาจริง ๆ นี่)

อิฉันได้สัมภาษณ์กับแหม่มช่อง 9 ค่ะ เลขมงคลจัง บอกกับตัวเองว่า สงสัยเราโชคดีนะเนี่ย

เข้าไปด้วยหัวใจเต็มร้อย เอกสารตรึม แต่ก็ไม่วายถูกบั่นทอนด้วยคำถามหักหาญน้ำใจ เชอะ...มั่นใจอย่างเดียว คำตอบต้องหนักแน่น ชัดเจน ตรง กระชับ แหม่มหัวทองคนนี้ ต้องยอมสิโรราบมอบวีซ่านักเรียนเกรดเอมาให้ชั้นซะดี ๆ

ได้ไหมล่ะ ถ้าไม่ได้คงไม่มานั่งหัวฟูทำงานที่กลางมหาสมุทรแปซิฟิก ณ รัฐฮาวายอยู่นี่หร้อก


Create Date : 09 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 27 กุมภาพันธ์ 2550 14:57:51 น. 7 comments
Counter : 487 Pageviews.

 
รออ่านต่อนะคะ


โดย: อ้วนล่ำฯ (อ้วนล่ำดำสิวหิวตลอด ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:15:30 น.  

 
อุ๊ย เหยื่อท่านแรกเลย

ขอบพระคุณนะคะ ต๊ายเขียนไม่เป็นประสาเลยค่ะ เขียนเหมือนคนง่วงนอน

ขอบพระคุณนะคะที่กรุณาเข้ามา


โดย: biebie999 วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:41:25 น.  

 
คิดถึงบรรยากาศตอนไปสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาเหมือนที่คุณเล่าจังค่ะ แต่ก็ผ่านมาได้อย่างดี

ดีใจด้วยนะคะที่ได้ไปเที่ยวอเมริกา เอารูปขึ้นให้ดูด้วยสิคะ


โดย: smo วันที่: 21 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:16:24:59 น.  

 
คุณ smo คะ ตื่นเต้นเนอะตอนไปสัมภาษณ์อ่ะ ตกประหม่าอยู่เหมือนกันค่ะ

ส่วนเรื่องรูปสัญญาเลยค่ะว่า ถ้าว่างจากงานจะมาเขียนเรื่องไปเที่ยวให้ฟังกันนะคะ

สัญญา ๆๆ


โดย: biebie999 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:1:41:09 น.  

 
ป้าติ๋วก็ชอบไปเที่ยวบ้านเมืองเก่าๆ ที่เคยเป็น
แหล่งอารยธรรมของโลก
ที่มีศิลปวัฒนธรรมเก่าๆ เช่นกันค่ะ

สำหรับประเทศในแถบเอเซียก็ฝันว่าอยาก
ไปเที่ยวที่บาหลีสักครั้ง เพราะชื่นชอบสไตล์
การจัดตกแต่งบ้านและสวนแบบบาหลีนั่นเอง

ยังไงก็ขอให้คุณ biebie ได้ไปท่องเที่ยวในยุโรป
ตามที่ฝันไว้ด้วยนะคะ
และสำหรับทริปฮาวายนี้ ก็ขอให้มีความสุขและสนุก
กับการทำงานมากๆ ค่ะ ..


โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight ) วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:13:11:18 น.  

 
ขอบพระคุณนะคะป้าติ๋ว

หนูก็ชอบสวนแบบบาหลีเหมือนกันค่ะ นี่หน้าบ้านหนูก็เอาม่านบาหลีมาลง หนูชอบมาก ๆ ตอนนี้อยากกลับบ้านแล้วล่ะค่ะ อยากไปดูต้นไม้

ถ้าเลือกได้อยากไปยุโรป (แต่ไม่ใช่ไปเรียนหรือไปอบรมนะคะ) แหะ ๆ อยากไปเที่ยวจังเลยค่ะ


โดย: biebie999 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:9:50:40 น.  

 
จะไปทำวีซ่าไปอังกิดค่ะวันจันทร์นี้เอกสารพร้อมทุกอย่างแต่กังวลอยุ่สองเรื่องค่ะคือ 1.เงินในธนาคารมีแค่หมื่อนเดียวแต่ไม่ต้องใช้จ่ายอะไรเลยค่ะเพราะแฟนออกให้หมดเลยมีหนังสือรับรองด้วยค่ะ2.อยากทราบว่าทางสถานฑูตใช้ภาษาอะไรในการสัมภาษคะ คัยทราบช่วยตอบทีนะคะกังวลมากๆเลยค่ะภาษาอังกฤษก้อพูดได้ค่ะแต่ช้านิสนึง
โอกาสที่วีซ่าจะผ่านมีมากน้อยแค่ไหนคะ ส่วนเรื่องการจองตั๋วเครื่องบินนี่ต้องจองก่อนไปทำวีซ่าไหมคะเพราะแฟนบอกว่าไม่ต้องจองเพราะถ้าจองแล้วจ่ายเงินไปแล้วถ้าทำวีซ่าไม่ผ่านเราก้อจะไม่ได้เงินคืนจิงไหมคะ ทำวีซ่า visit ค่ะไปพักบ้านแฟน 6 เดือนค่ะยังไม่เคยไปเลยค่ะ แต่แฟนอยากให้ไปดูบ้านของเค้าก่อนเพราะในอีกไม่นานจะแต่งงานกันแล้วไปอยุ่ที่อังกฤษค่ะ ช่วยตอบด้วยนะคะ
หรือส่งอีเมลให้หนูด้วยค่ะ amcookie_uk@hotmail.com
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ


โดย: คุ๊กกี้ค่ะ IP: 117.47.242.46 วันที่: 11 มิถุนายน 2553 เวลา:19:49:43 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

biebie999
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




"Erised stra ehru oyt ube cafru oyton wohsi"

"I show not your face but your hearts desire"
"ฉันไม่ได้แสดงภาพใบหน้าของคุณ แต่แสดงถึงความปรารถนาภายในใจ"

"เราเข้าใจว่าความรักของแม่และลูก เป็นความรักแบบหาที่สุดมิได้ แต่ความรักแบบคู่รัก เป็นความรักที่ช่วยหล่อเลี้ยงการดำเนินชีวิต"

พล่าม
เวลานี่ไวเหลือเกิน เผลอแป๊บ ๆ ก็ 36 แล้ว ชีวิตที่ผ่านมาได้ทำในสิ่งที่อยากทำมาเกือบหมดแล้ว สิ่งที่อยากทำล้วนเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากความรู้สึกในวัยเด็ก

ทุกครั้งที่แหงนมองฟ้า เห็นเครื่องบิน ตอนเด็กคิดว่าเราไม่มีทางขึ้นได้หรอก เพราะที่บ้านไม่มีเงิน

อยากขึ้นเฮลิคอปเตอร์ ก็ได้ขึ้น

อยากไปต่างประเทศ ก็ได้ไป

อยากไปเที่ยวบ้าง ก็ได้ไป

อยากนั่งรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน ก็ได้นั่ง

อยากบวชพราหมณ์ ก็ได้บวช

อยากวาดรูป ก็ได้ทำ

อยากมีบ้านของตัวเอง ก็ได้มี

ชีวิตที่เหลือตอนนี้ ขอปลดหนี้ให้หมดก่อนตายและอยากทำให้แม่สบายกว่านี้

นั่งเพลิน ๆ ถามตัวเองว่าเรามาถึงช่วงปลายทางหรือยัง บางทีก็ตอบว่ามาถึงแล้ว ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แต่อีกใจก็ยังอยากรู้ต่อไปอีกว่า ในอนาคตจะมีอะไรให้ได้ตื่นเต้นอีกไหม

หากเปรียบเป็นกราฟ ชีวิตเราตั้งแต่เกิดมีสูงมีต่ำและติดลบ ปัจจุบันนี้กราฟเป็นเส้นเรียบ ๆ ไม่สูงไม่ต่ำ แต่...ก็ไม่แน่นะ อาจจะเป็นเส้นตรงที่มีองศาต่ำลงก็ได้

เรียนรู้ตัวเองเมื่ออายุครบ 32
รักครอบครัว / รักแม่ / รักสันโดษ / ไม่ชอบสังคม / ขอมีเพียงเพื่อนที่เรียกว่ามิตรแท้สัก 1 คน ก็พอ / ความรักคือความผูกพันและการให้อภัย / เราสามารถอยู่คนเดียวได้ทั้งวันโดยไม่พูดกับใคร / ไม่สนใจคำนินทาใด ๆ รอบข้าง / ไม่ทนกับคนที่เราไม่อยากอยู่ด้วย

บ้าต้นไม้ / เลี้ยงสุนัข / ฟังเพลง POP, Jazz, Classic / คลั่งงานศิลปะ / อ่านหนังสือ / ชอบเสียงกีตาร์ / ไม่บ้าแฟชั่น / ไม่ชอบเสียงดัง / ชอบทำสมาธิ / ไม่ชอบแชต / ไม่ชอบคุยโทรศัพท์ / โลกส่วนตัวสูง / เพื่อนน้อย / อารมณ์ขัน / ดูหนังตลก / ชอบทำกับข้าว / ไม่ชอบล้างจาน / กลัวการขึ้นเครื่องบิน / ไม่ดื่มกาแฟ / ไม่ชอบบุหรี่ / ไม่ชอบดูละคร / ชอบกินผักผลไม้ / ไม่ชอบความเร็ว / ไม่เสแสร้งแกล้งโกหก / ไม่ชอบคนพูดปดปกปิด / ไม่ชอบเล่นเกม!

.....ขอใช้ชีวิตแบบสมถะ แบบนี้ตลอดชีวิต
Friends' blogs
[Add biebie999's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.