เข้ามารายงานตัว ช่วงนี้เบี้ยวไม่ค่อยได้มาอัพบล็อกเท่าไร ไม่อยากโทษดินฟ้าอากาศอะไรมากหรอกครับ คงเป็นเพราะค่อนข้างขี้เกียจและก็ค่อนข้างเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมอย่างอื่นมากกว่าด้วย เช่นการเที่ยว การกิน และอื่น ๆ กลับมาอยู่เมืองไทยก็มีข้อดีคือแต่ละวันจะต้องทำอะไรหลาย ๆ อย่างน่ะครับ ทำให้หายจากอาการติดเน็ต เพราะแค่ออกนอกบ้านไปซื้อของหรือทานข้าว มันก็กินเวลาเป็นวัน ๆ แล้ว รถติดในกรุงเทพฯ นี่ก็เป็นเรื่องธรรมชาติเลย ไม่ควรบ่นเนอะ เพิ่งกลับจากบ้านที่ต่างจังหวัดมา ตอนนี้รู้สึกว่าอยากอยู่ต่างจังหวัดมากกว่ากรุงเทพ ฯ เพราะอากาศดีกว่า ข้าวของราคาถูกกว่า ไม่เสียเวลาในการเดินทาง ชีวิตไม่เหนื่อยเหมือนชาวกรุง ... มาวันนี้จะสรุปเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชีวิตผมในช่วงนี้แล้วกันครับ จะได้รู้ว่าเป็นยังไงกันบ้าง 1. เมื่อวานผมเพิ่งพาคุณแม่ไปซื้อคอมพิวเตอร์ Notebook ที่ห้างพันทิพ รู้สึกว่าเดี๋ยวนี้คอมพิวเตอร์มันราคาถูกลง ๆ และก็คุณภาพดีขึ้นทุกที เป็นสิ่งดีที่ได้เจอในเมืองไทยครับ (หนนี้กลับมารู้สึกว่าราคาสินค้าต่าง ๆ ใน กทม มันแพงขึ้นจากก่อนผมไปเมื่อสองปีก่อนมาก อาจจะเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้นสูงในตอนนี้ ) สาเหตุนึงที่คุณแม่ผมเขาอยากซื้อคอม ฯ ก็เพราะว่า เขาเห็นว่าผมกำลังนั่งทำงานสำคัญชิ้นหนึ่ง ซึ่งมันก็อาจจะจำเป็นต้องใช้คอมพิวเตอร์ คือตอนนี้ผมไม่มีคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของตัวเองที่จะสามารถสะดวกทำงานแบบทั้งวันตามใจฉันได้ เมื่อบินกลับไปเรียนต่อเมื่อไรก็ส่งคืนคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ให้คุณแม่เอาไว้ใช้งานต่อไป 2. งานที่ผมพูดถึงคือโปรเจกการเขียนหนังสือ เนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตนักเรียนต่างแดนและเรื่องราวต่าง ๆ รอบตัว โดยจะเอาส่วนหนึ่ง (หรือหลาย ๆ ส่วน) มาจากบล็อก จริงๆ มันก็ได้รับการจุดประกายจากบล็อกนั้นแหละครับ โดยเพื่อนของผมคือคุณปิ่น ปรเมศวร์ บรรณาธิการมือทอง มีความคิดที่จะพิมพ์หนังสือเรื่องราวเบา ๆ จากบล็อกต่าง ๆ ของเขาเองขึ้นมาเล่มหนึ่ง เป็นบล็อกในรูปแบบหนังสือ (ผมก็ยังนึกไม่ออก แต่คุณปิ่นเขามี idea นี้อยู่ในหัวค่อนข้างชัดเจนแล้ว ) คุณปิ่นคงจะเห็นว่าผมน่าจะมีเวลาว่างในช่วงปิดเทอมนี้ ก็เลยชวนให้มาเขียนเกี่ยวกับบล็อกของผมด้วย โดยจะให้เน้นเกี่ยวกับเรื่องการเรียน การศึกษา การเตรียมตัวต่าง ๆ นานา ในแบบที่ผมชอบเล่านั้นแหละครับ อันนี้ก็เป็นโปรเจคที่ผมจะต้องทำให้เสร็จภายในเดือนนี้ (เหลืออีกยี่สิบวัน หวังว่าคงจะเรียบร้อยทันกำหนด ) โดยถ้าหนังสือของผมสามารถทำได้ไม่มีปัญหา ก็น่าจะวางคู่กับของคุณปิ่น ปรเมศวร์ได้ในช่วงเดือนตุลา ฯ ที่จะถึงนี้ เป็น Blogger series แต่คนละรูปแบบแตกต่างกันนะ ของคุณปิ่นนี่เขาจะเป็นแนว Blog-Book ซึ่งผมก็ยังไม่เคยเห็นมาก่อนเหมือนกัน แต่คิดว่าคงจะแปลกตาน่าอ่าน ส่วนของตัวผมเองจะเป็นแนว ๆ กึ่งบทความ เน้นด้านการศึกษา เรียงตามลำดับตั้งแต่เรื่องการเรียน การหาทุน การสมัครมหาวิทยาลัย เป็นแนว conventional edutainment ผสม how to อาจจะมีพวกซุบซิบแวดวงวิชาการ ทั้งไทยและเทศ (แบบซ้อเจ็ด ฮาๆๆ) โดยจะเอาพวกเรื่องตลก ๆ ใส่ลงไปด้วย อย่างเช่นเช่นเรื่องคนบ้าสถาบัน ที่ได้ฟังมาวันนี้ เพิ่งคุยกับคุณ ฮวด ฮงฮวย เขาเล่าเรื่องรุ่นพี่คนหนึ่งที่เพิ่งจบ ป.เอก มีพฤติกรรมบ้าสถาบันมากเป็นที่เลื่องลือปนขำขัน ของเหล่านิสิต ( มีพฤติกรรมตลก ๆ เช่นที่หน้าห้องจะติดชื่อ-สกุล เขา ต่อด้วยวุฒิ เช่น อ. แฮรี่ พอร์ตเตอร์, ป.เอก (ฮอกวอร์ต) หรือเวลารับโทรศัพท์ก็จะ ผมแฮรี่ ฮอกวอร์ตครับ อะไรประมาณนั้น ฟังแล้วก็ชอบ เพราะตลกดี (ไม่รู้คนอื่นจะตลกด้วยหรือเปล่านะ) ช่วงเวลาที่อยู่เมืองไทย ผมได้ลองเยี่ยมเยียนตลาดหนังสือดู ก็พบหนังสือที่น่าสนใจหลายเล่ม รู้สึกช่วงนี้หนังสือธรรมะเริ่มมาแรงนะครับ โดยเฉพาะงานของคุณดังตฤณ พี่ที่น่าเคารพของชาวเวปลานธรรม ตีรับการพิมพ์หลายสิบครั้งเลย ทั้ง เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน (ดีมากนะ น่าจะลองหามาอ่านดู) เจ็ดเดือนบรรลุธรรม กรรมพยากรณ์ วิปัสสนานุบาล ทางนฤพาน ฯลฯ ผมเห็นคนไทยอ่านหนังสือแนวนี้กันมากก็ดีใจ อย่างน้อยก็มีคนใฝ่ดีมากขึ้น หรือมองในอีกแง่ คือคนเราอาจจะกำลังต้องการที่พึ่งทางใจมากขึ้น ในโลกที่มีอันตรายรอบด้านอย่างยุคนี้ ( อันนี้ไม่ได้หมายถึงพุทธศาสนาเท่านั้น สำหรับศาสนิกชนท่านอื่นที่เชื่อถือและศรัทธาในแนวการทำความดีตามหลักศาสนาของตน ก็น่าชื่นชมเช่นเดียวกัน) หนังสือขายดีเล่มอื่น ๆ ส่วนใหญ่ก็เป็นหนังสือประเภทชีวิตดารา เห็นคนโน้นคนนี้ออกหนังสือกันใหญ่เลย ที่ได้ลองอ่านดูก็มีของคุณมังคุด คุณอธิป นานา คุณสิเรียม ฯลฯ และก็ขายดีด้วย แต่ก็ไม่น่าแปลกใจเท่าไร ส่วนหนังสือจำพวกชีวิตต่างแดน ก็เห็นพวกศิษย์เก่าพันทิปหลายท่านเลย ในอดีตที่ผ่านมาก็เห็นของ Dr.แหยม ทรงยศ สีจร , Kingston Hill, ส้มไดอารี่ แต่ผมเคยอ่านแบบซื้อแค่ของ Dr.แหยม ลองอ่านเล่น ๆ ก็เพลิน ๆ ดี ส่วนหนังสือของผมถ้าขายพอจะมีรายได้ ก็จะเอาเป็นทุนต่อไปให้กับเพื่อน ๆ บล็อกเกอร์ท่านอื่น ๆ ที่มีฝีมือในการเขียน แต่ยังขาดสปอนเซอร์ เพื่อที่จะได้ออกหนังสือของตัวเองได้ต่อไปในอนาคต อันนี้เป็นโปรเจค Blogger Series ของคุณปิ่น ปรเมศวร์ และคุณภิญโญ ไตรสุริยธรรมมา แห่งค่าย Open เขาคิดกัน 3. ช่วงนี้กิจวัตรประจำตัวของผมก็ยังเหมือนเดิม คือตื่นเช้ามาก็วิ่งประมาณ ชั่วโมงนิด ๆ ถ้าไม่ตื่นเช้าก็วิ่งตอนเย็น ส่วนกลางวันถ้าไม่นั่งทำงานอยู่บ้าน ก็ออกไปเดินห้างบ้าง ไปเจอเพื่อน เจอญาติพี่น้อง เย็น ๆ ก็มีนัดทานข้าวนอกบ้านบ่อย วิถีชีวิตคนเมืองสมัยใหม่ เขาเป็นแบบนี้ จะนัดเจอ นัดคุยกันที แทนที่จะไปพบปะนั่งคุยกันที่บ้าน ก็ต้องมานัดเจอกันที่ร้านอาหาร แถมถ้าจะเอาให้คุยกันแบบนาน ๆ แบบถึงลูกถึงคน ก็ต้องนี่เลย บุพเฟ่ต์ ช่วงนี้ผมทานอาหารจำพวกบุพเฟ่ต์บ่อย เรียกว่าท้องไม่แน่นตึง ก็ไม่ลุกกันล่ะ ขนาดวิ่งทุกวันน้ำหนักยังขึ้นเลยครับ ตอนนี้น้ำหนักผมขึ้นมาได้ประมาณหนึ่งกิโลแล้ว ถ้าขืนยังกินอย่างนี้ต่อไป แถมยังไม่ได้ออกกำลังกายคงไม่แคล้วต้องสมบูรณ์แน่ ๆ เห็นวิถีชีวิตของคนเมืองหลวงแบบนี้แล้วหายสงสัยว่าทำไมเพื่อนฝูงของผมที่ทำงานทำการกัน ถึงได้เป็นหนุ่มหุ่นลงพุงกันอย่างรวดเร็ว ช่วงนี้ผมจะเริ่มเก็บตัวเขียนหนังสือละครับ ยังไงก็สวัสดีทุกท่านนะ ไว้จะค่อย ๆ ทะยอยเอาตอนที่เกี่ยวข้องกับบล๊อกมาลงให้อ่านกันเป็นระยะ ๆ ขอให้ทุกท่านโชคดี   Create Date : 09 กรกฎาคม 2548 7 comments Last Update : 9 กรกฎาคม 2548 15:34:28 น. Counter : 665 Pageviews. Share Tweet

แฮรี่ พอตเตอร์ธาตุไฟแตกหลังเข้าเว็บ misterpolice.com ๕๕๕   โดย: ฮ ฮฮ IP: 61.91.169.5 9 กรกฎาคม 2548 15:45:48 น.

รออ่านนะคะ   โดย: yodmanud^ying IP: 86.129.115.67 10 กรกฎาคม 2548 0:37:42 น.

รออ่านเช่นกันค่า ^^ ...   โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) 10 กรกฎาคม 2548 18:13:54 น.

จะรออ่านเหมือนกันค่ะ เออ..ว่าแต่คุณ B.F.Pinkerton ได้ไปเดินแถว มธ. ท่าพระจันทร์ รึยังค่ะ ตอนนี้สนามบอลกำลังถูกปรับปรุงใหม่อยู่ค่ะ ทำสนาม ทำทางวิ่งใหม่ค่ะ และก็รวมถึงที่จอดรถบริเวณรอบๆ สนามบอลด้วยค่ะ   โดย: Rainbow Gecko IP: 202.28.181.7 11 กรกฎาคม 2548 8:47:53 น.

ไม่ได้แวะมาซะนาน สบายดีนะค่ะ   โดย: พี่เจี้ยวค่ะ (sutida_jeaw ) 11 กรกฎาคม 2548 10:20:46 น.

ไปแล้วครับ ใช่ๆ ผมเห็นลู่วิ่งเหมือนกัน คิดว่าถ้า่เสร็จก็คงจะดูดีนะ ปีนี้รับปริญญา 5 สิงหา ฯ ใช่ไหมครับ   โดย: B.F.Pinkerton 11 กรกฎาคม 2548 10:26:06 น.

โดย: ? man IP: 202.5.87.24 26 สิงหาคม 2548 20:41:52 น.