10 สัญญาณที่บอกว่าคุณกินอาหารไม่เหมาะสม
1.ผมไม่เงางาม ถ้าถึงขนาดที่คุณจัด
ทรงไม่ได้เลยต้องถือว่ารุนแรงแล้วค่ะ
ทั้งนี้เป็นผลจากการขาดโปรตีนและธาตุเหล็ก
จะเห็นชัดเจนในกลุ่มคนที่เป็นมังสวิรัติหรือ
คนที่จำกัดอาหารอย่างมาก ลองกินอาหารให้มีส่วนผสมของธาตุอาหารอย่างเหมาะสม
เน้นอาหารที่มีกากใย พร้อมไปกับการออกกำลังกาย
สำหรับคนที่เป็นมังสวิรัติต้องได้สารอาหารจากพืชผัก ข้าวและถั่ว
ในอัตราส่วนที่เหมาะสม
เพื่อที่จะได้โปรตีนทดแทนจากโปรตีนจากเนื้อสัตว์ที่ขาดไปและเพิ่มเติมด้วยกะหล่ำดอกและผลไม้เปลือกแข็ง เช่น เกาลัด
ถั่วแขกและถั่วเหลือง ซึ่งดุดมไปด้วยไบโอติน สำหรับคนที่จำกัดอาหาร
แม้ว่าจะอยากผอมแค่ไหนก็ไม่ควรอดอาหารจนเกินไปค่ะ
ลองใช้วิธีฉลาดๆจำกัดอาหารแต่พอเพียง เพิ่มการออกกำลังกายอีกหน่อย
2.ผิว
หนังส่ออาการคุณเริ่มมีอาการคันที่ผิวหนัง หรือลอกเป็นขุย แม้จะไม่ใช่ช่วงหน้าหนาวบ้างไหมคะ อาการอย่างนี้อาจเป็นลักษณะของการขาดวิตามิน A
ซึ่งผักและผลไม้ที่มีสีเหลือง สีส้มหรือสีเขียวเข้ม
ล้วนแต่อุดมไปด้วยวิตามิน A เพียงพอที่จะทำให้ผิวคุณเป็นปกติ แต่ไม่แนะนำให้กินวิตามิน A เสริมที่อยู่ในรูปแบบเม็ด
เพราะการได้รับวิตามิน A โดยตรงมากเกินไปจะเป็นอันตรายได้ค่ะ 3.ข้อ
ต่อมีเสียงดังหรือปวดบริเวณข้อต่อ อาการอย่างนี้อย่าเพิ่งไป
โทษโรงข้ออักเสบ เพราะอาจเป็นไปได้ว่าคุณกินปลาน้อยเกินไป
กระไขมันประเภทโอเมก้า-3 ที่พบมากในปลา อย่างปลาแซลมอน ปลาทูน่า
จะทำให้ข้อต่อของคุณเคลื่อนไหวได้สะดวกขึ้น
ซึ่งจะช่วยให้กระแสโลหิตไหวเลียนดีขึ้น ลดอาการบวมและปวดบริเวณข้อต่อ 4.ผายลมบ่อย เป็นเรื่องจริงที่ไฟ
เบอร์มีประโยชน์ต่อร่างกาย
แต่ถ้ากินมากเกินไปหรือได้รับสารอาหารประเภทนี้เร็วเกินไป เช่น
กินถั่วหรือไม้จำพวกที่มีฝัก เช่น กระถิน ทองหลาง
ร่างกายของคุณก็จะผลิตแก๊สตามออกมามากกว่าอาหารที่ย่อยง่ายตามปกติ 5.ท้อง
ผูก เป็นอีกอาการหนึ่งที่บอกถึงการรับประมาณอาหารอย่างไม่
เหมาะสม คุณต้องได้สารอาหารพวกไฟเบอร์หรือกาหารที่มีกากใย เช่น
ผักผลไม้ต่างๆ อย่างน้อยวันละ 25 กรัม
และดื่มน้ำให้มากขึ้นด้วยวิธีแก้ปัญหานี้ง่ายๆ คือ
ค่อยๆเพิ่มสารอาหารพวกไฟเบอร์อย่างช้าๆ ถ้าคุณเคยกินแค่เพียงวันละ 10 กรัม
อย่าเพิ่มเป็น 25 กรัมในวันรุ่งขึ้น ในสัปดาห์แรกเพิ่มแค่เพียง 5 กรัม
แล้วสัปดาห์ต่อมาค่อยเพิ่มอีก 5 กรัม |
|
6.หัวใจเต้นผิดปกติ หัวใจ
ของคนเราเป็นกล้ามเนื้อที่มีการบีบตัวมากกว่า 100,000 ครั้งต่อวัน
แต่คงไม่สามารถทำงานอย่างสมบูรณ์แบบได้ตลอดเวลา
ซึ่งถ้าอยู่ๆคุณรู้สึกว่าหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติหรือเต้นๆหยุดๆโดนไม่มี
เหตุผล ถ้ามีอาการเจ็บปวดหรือหน้ามืด เวียนศีรษะด้วย ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
แต่ถ้าแพทย์พบว่าไม่มีอะไรผิดปกติ
แต่คุณก็ยังรู้สึกว่ามีอาการหัวใจเต้นผิดปกติในบางครั้ง
คุณอาจจะขาดสารอาหารพวกแมกนีเซียม หรือ โปแตสเซียมสำหรับโปแตสเซียม
ให้ดื่มน้ำส้มวันละ 2-3 แก้ว
ช่วงอาหารเช้าให้เพิ่มกล้วยเข้าไปในส่วนหนึ่งของเมนู
สำหรับแมกนีเซียมให้ทานอาหารว่างที่เป็นพวกเม็ดมะม่วงหิมพานต์
เมล็ดทานตะวัน หรือเมล็ดฟักทองและผักโขม
เป็นอีกตัวหนึ่งที่มีแร่ธาตุช่วยในการทำงานของหัวใจ 7.ขี้
ลืม อาจเป็นได้ว่าคุณขาดวิตามิน B ในการศึกษาที่ USDA Human
Nutrition Research Center in Boston
นักวิจัยพบว่าผู้ชายที่มีระดับของวิตามิน B6 B12 และ B9(โฟเลต)สูงในเลือด
จะมีความทรงจำที่ดีกว่า
จากการทดสอบพบว่าสารอาหารพวกนี้ช่วยให้สมองทำงานได้เต็มที่
และยังช่วยควบคุม homocysteine ซึ่งเป็นกรดอะมิโนชนิดหนึ่งที่อยู่ในร่างกาย
ซึ่งเป็นตัวขัดขวางการที่เลือดจะไปหล่อเลี้ยงสมองถั่วเป็นอาหารที่อุดมไป
ด้วยวิตามิน B6 และโฟเลตมากที่สุด และไม่ต้องกังวลกับการขาดวิตามิน B12
เพราะมีมากในเนื้อสัตว์และอาหารทะเล 8.Sperm น้อยลงไปมาก ถ้า
คุณกำลังพยายามที่จะมีลูก และมีปัญหาเรื่องระดับของสเปิร์มต่ำกว่าปกติ
อาจเป็นไปได้ว่าคุณขาดวิตามิน C
ซึ่งเป็นตัวสำคัญในการกระตุ้มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย
จากการศึกษาพบว่าวิตามิน C
ยังช่วยในการรักษาปริมาณและความสมบูรณ์ของตัวสเปิร์มด้วย Earl Dawson,
Ph.D., ที่ University of Texas Medical Branch ที่ Galveston
แนะนำว่าให้ผู้ชายดื่มน้ำส้มอย่างน้อยวันละประมาณ 1 ลิตรทุกวัน
โดยบอกว่าวิตามิน C
มีส่วนช่วยป้องกันสเปิร์มจากอันตรายและความเสียหายในทุกๆด้าน 9.ปวด
เหงือก ถ้าการเจ็บปวดเกิดจากการอักเสบ
ก่อให้เกิดความเจ็บปวดและปัญหาของเหงือก
แสดงว่าปากของคุณกำลังต้องการแบคทีเรียที่มีประโยชน์
ให้มาช่วยจัดการกับแบคทีเรียในปากที่มีอันตราย
ให้กินโยเกิร์ตที่มีแบคทีเรียที่เราต้องการเป็นอาหารว่างในช่วงเช้าของทุก
วัน 10.กระดูกแตก ถ้าคุณกระดูกแตกมากกว่า
2-3 ครั้งตั้งแต่โตเป็นผู้ใหญ่
อาจเป็นไปได้ว่ากระดูกของคุณอยู่ในภาวะอ่อนแอ
อาจมีสาเหตุมากจากการขาดวิตามิน D และแคลเซียม
ซึ่งเป็นตัวประกอบที่สำคัญในการสร้างกระดูก
ผู้ชายก็ต้องการแคลเซียมมากเหมือนๆผู้หญิง เพราะผู้ชายมักจะกินเนื้อมากกว่า
ซึ่งอุดมไปด้วยฟอสฟอรัส ยิ่งร่างกายได้รับฟอสฟอรัสมากเท่าไหร่
ก็ยิ่งต้องการแคลเซียมมากขึ้นเท่านั้น อาหารที่อุดมไปด้วยแคลเซียม ได้แก่
ปลาเล็กปลาน้อย กุ้งแห้ง โยเกิร์ต นมและเนยแข็ง ( ไขมันต่ำได้ก็ดี
)ลองสังเกตร่างกายตัวเองบ่อยๆนะคะ เพราะอย่างไรเสีย
หากเราดูแลตัวเองได้ดีก็ไม่ต้องถึงมือคุณหมอให้ยุ่งยากเปล่าๆ
ไหนจะเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลาด้วย ไม่คุ้มกันแน่ๆ
Free TextEditor
Create Date : 09 สิงหาคม 2553 |
Last Update : 9 สิงหาคม 2553 22:44:49 น. |
|
0 comments
|
Counter : 251 Pageviews. |
|
|