|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
Engine Stop!!!
หากอารมณ์ของคนเปรียบได้กับเครื่องยนต์กลไก ในเวลาที่คนเรานอนหลับเครื่องยนต์นั้นคงเดินอย่างสงบ คงที่และราบเรียบ แต่เมื่อใดที่เราตื่นขึ้นมาพร้อมกับความรีบเร่งในยามเช้า เครื่องยนต์นั้นคงเร่งรอบหมุนฟันเฟืองเร็วขึ้นตามจังหวะของชีวิต เมื่อใดที่เราเศร้า เครื่องยนต์ของเราคงแทบหยุดเคลื่อนไหว ไร้กำลังขับเคลื่อนต่อไปข้างหน้า หมุนช้า...
ช้าลงเรื่อยๆ จนในสักวันมันคงจะหยุดลง
วันนี้... เครื่องยนต์ของฉันสะดุด ไอเสียที่ออกมาเป็นสีเทาหม่นคล้ายกับจะเตือนอะไรบางอย่าง แต่ฉันหรือจะสนใจ
ทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วว่าการควบคุมเครื่องยนต์ที่พยายามให้ราบเรียบของฉันมันเริ่มสั่นคลอนด้วยการกระทำที่ไร้ความยับยั้งชั่งใจของตนเอง คิด... แต่ไม่ตรึกตรอง มอง... แต่ไม่เห็นแจ้ง
จนเมื่อมารู้ว่าเครื่องยนต์ของฉันมันเริ่มทำงานรวน เครื่องยนต์ของฉันเริ่มผิดปกติ เครื่องยนต์ของฉันกำลังส่งเสียงคำราม ชีวิตของฉันกำลังกรีดร้อง
ฉันคงให้อภัยตัวเองหากนี่เป็นการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของตัวฉันที่ทำให้เครื่องยนต์ตนเองมีอันต้องรวนเร แต่มันไม่ใช่ เครื่องยนต์นี้เคยพังมาแล้ว เครื่องยนต์นี้เกือบใช้การไม่ได้อีกต่อไป แล้วอย่างไรเล่า
เฝ้าถนอมบำรุงรักษามันมากี่ปีกว่ามันจะกลับมาขับเคลื่อนได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิม
สุดท้าย ฉันก็ทำมันอีกครั้ง ทำให้เครื่องยนต์ของฉันเข้าไปสู่ความเสี่ยง การเคลื่อนไหวของเครื่องยนต์ที่ช้าหรือเร็วตามจังหวะชีวิตของฉันมันไม่เคยผิดจังหวะหรือสะดุดอีกเลยหลังจากที่ฉันซ่อมให้มันกลับมาได้อีกครั้ง มันไม่เกเรอีกเลย ด้วยการบำรุงป้องกันรักษาการทำงานและประสิทธิภาพของมัน
ไม่ยอมแม้แต่จะให้มีสารแปลกปลอมใดๆ เข้ามาทำให้การทำงานของตัวเครื่องมันรวนได้
หลังจากที่เคยปล่อยให้มันโดนทำร้ายมาแล้วครั้งหนึ่ง...
จำได้ว่ามันหนักหนาสาหัสเพียงไรในครานั้น แต่ความรุนแรงของมันกลับถูกปล่อยปละละเลยจากตัวฉันเอง คนที่ควบคุมการเคลื่อนไหวของจังหวะเครื่องยนต์...
ฉันเอง... คนที่เร่งกำลังของเครื่องยนต์จนสุดแล้วโดนแรงฉุดลงมาอย่างกระทันหัน
ลองคิดดูสิ... หากวันหนึ่ง เรากำลังอยู่หลังพวงมาลัยรถยนต์ แป้นบังคับห้ามล้อและคันเร่งอยู่เพียงแรงสัมผัสปลายเท้า คุณกำลังมีความสุขกับการใช้กำลังขับเคลื่อนสูงสุดของเครื่องยนต์โดยไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
ลองคิดดูสิ
สิ่งที่ตาคุณเห็น... ทางที่ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา ไร้สิ่งกีดขวาง ถนนราบเรียบ จุดหมายปลายทางที่คุณไม่สนใจว่ามันจะถึงช้าหรือเร็ว คุณเพียงกระหยิ่มยิ้มย่องและเหยียบคันเร่งจนจมมิด เข็มความเร็วรอบจะพุ่งทะยานไปจนถึงขีดบอกระดับสูงสุด ระดับของหน้าปัดม์ความเร็วจะถูกดันให้สู่ตัวเลขสูงเพียงใด คุณก็ไม่คิดแม้แต่น้อย... ไม่ได้หยุดคิดแม้แต่น้อยว่าหากมีสิ่งกีดขวางเล็กๆ สีกอย่างหลุดเข้ามาขวางหน้าคุณแล้วจะเกิดอะไรขึ้น
ด้วยความเร็วสูงสุดที่คุณวิ่ง ด้วยแรงขับเคลื่อนทั้งหมดที่โหมใส่ลงไป...
ชนมันตรงๆ หรือหักหลบ?
ด้วยความเร็วสูดสุดของเครื่องยนต์ที่คุณนั่งอยู่ในนั้น เครื่องยนต์ที่คุณเป็นคนควบคุมมันเอง เครื่องยนต์ที่คุณกำหนดทิศทางและความเร็วอยู่เบื้องหลังพวงมาลัย
ไม่ว่าจะเลือกทางไหน คุณต้องเจ็บตัวแน่นอน เพียงแต่คุณจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้เท่านั้น
แล้วหากว่าคุณสามารถหลบหลีกสิ่งนั้นได้ แล้วต่อไปข้างหน้าล่ะ?
รอยไหม้ของยางที่พื้นถนนยังคงอยู่แต่คุณผ่านมันมาได้ ใจคุณเป็นอย่างไร แต่ใจของฉันมันเริ่มหวาดระแวง แต่ฉันคิดจะผ่อนฝีเท้าลงมาหรือไม่นั้น ฉันยังคงเหยียบคันเร่งต่อไปเพราะความคะนอง ไม่กลัว
ถึงแม้ครั้งหนึ่งจะเกือบสุญเสียการทำงานเครื่องยนต์นี้มาแล้ว แต่ก็ยังสามารถฟื้นกลับมาได้ใช่ไหม แล้วฉันจะกลัวทำไม หากมันพังก็ซ่อมใหม่... ใช่หรือเปล่า
หัวที่เต็มไปด้วยท่วงทำนองปลุกเร้า ดังวนเวียนอยู่ในสมองจนไม่สามารถเติมสิ่งที่เรียกว่า สติ เข้าไปได้ เสียงอื้ออึงเร้าใจแทรกซึมไปในทุกท่วงทำนอง เท้าที่เหยียบจมคันเร่ง มือที่หมุนพวงมาลัยด้วยจังหวะกระแทกกระทั้น มุมปากที่ยกยิ้มอย่างเหิมเกริม
เสียงเครื่องยนต์ที่เร่งรอบในทุกจังหวะของการขยับไหว
เพียงเสี้ยววินาทีของการตัดสินใจเท่านั้น... เพียงเสี้ยววินาที
อะไรบางอย่างวิ่งตัดหน้าการเคลื่อนไหวไร้ขอบเขตของเครื่องยนต์
มือที่จับพวงมาลัยแน่นสั่นไหว เท้าเหยียบเบรคกระทันหัน รถยนต์ที่แล่นมาอย่างเร็วจี๋ถูกห้ามล้อดึงให้หมุนคว้าง กลิ่นยางไหม้และควันจากการเสียดสีลอยคละคลุ้ง
พลันในหัวสมองของฉันฉายย้อนถึงอดีตที่เครื่องยนต์เคยหยุดมาก่อน!!!
เหมือนตกจากที่สูงทั้งที่ยังยืนอยู่บนพื้นดิน เลือดในกายเย็นเฉียบเสมือนไร้ซึ่งชีวิต ปลายนิ้วทั้งสิบชาจนไม่รู้สึกใดๆ ความเจ็บปวดที่หนาวเหน็บค่อยแทรกซึมเข้ามาช้าๆ จากความเย็นเยียบค่อยแผ่ซ่านเข้ามากดที่กลางอก
ปวด...
จนผิวหน้ารู้สึกได้ถึงน้ำอุ่นๆ ที่ไหลออกมาจากดวงตาพร่ามัวทั้งสองข้าง
หัวสมองมึนงงเกินกว่าจะคิดหรือสั่งการให้ร่างกายขยับเขยื้อน
ไร้การทรงตัว ไร้การเคลื่อนไหว
เครื่องยนต์ที่หยุดนิ่ง ร่างกายที่หยุดนิ่ง หัวใจที่... หยุดนิ่ง
หากแต่ว่าครั้งนั้น เครื่องยนต์ของฉันยังคงเหลือค่าที่ผ่านการทดสอบ ชีวิตของฉันแค่ผ่านการทดสอบ อาจเสีย อาจต้องซ่อม แต่สุดท้ายมันก็ผ่านมาได้
เครื่องยนต์สามารถกลับมาขับเคลื่อนได้อีกครั้ง
หัวใจ... กลับมาเต้นตามจังหวะชีวิตขึ้นลงได้ดังเดิม
รถยนต์ของฉันในตอนนี้หยุดนิ่ง ควันที่เกิดจากแรงบดล้อรถยนต์กับพื้นถนนที่ร้อนระอุค่อยๆ จางลงไปตามเวลา ถึงแม้ว่ารถยนต์ของฉันมันจะจอดอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกไม่ควรนัก แต่มันยังคงอยู่ มันยังคงอยู่บนพื้นถนน ฉันเพียงแค่เสียขวัญ แต่ฉันยังมีลมหายใจอยู่
เพียงวูบหนึ่งในสิ่งที่ยังอยู่ในส่วนลึก... ความเจ็บปวดจากความผิดพลาดบนถนนที่ฉันใส่คันเร่งเดินหน้าไม่ยั้งในครานั้นมันหลั่งไหลเข้ามาจนเหน็บหนาวไปทั่วร่าง...
เครื่องยนต์ของฉันยังร้อนระอุ และรอเพียงการสั่งการจากตัวฉัน สมองของฉัน
ฉันอาจต้องใช้สติ วูบเดียวเท่านั้นที่ขีดเส้นชีวิตและการเดินทางบนถนนสายนี้ ถนนที่สวยงามและหลอกล่อยั่วยวนให้เราหลงใหลในความเร็วอันแสนระทึกใจ
ถ้าหากว่าอุปสรรคที่ขีดขวางฉันเมื่อครู่มันใหญ่โตกว่านี้ล่ะ หากมันเป็นขอนไม้ใหญ่ที่ล้มลงมาขวางหน้ากระทันหันล่ะ
เครื่องยนต์ของฉันจะยังกลับมาทำงานได้ไหม มันจะยังคงสภาพเดิมได้ไหม
หรือว่ามันจะบิดเบี้ยวแตกหักจนไม่สามารถซ่อมมาใช้งานได้อีกต่อไป...
มือเย็นเฉียบขาวซีดทั้งสองข้างค่อยกลับมามีสีเลือดและเพิ่มอุณหภูมิอีกครั้ง... ฉันเคลื่อนมันไปประจำตรงตำแหน่งของพวงมาลัย เตรียมกำหนดทิศทางของชีวิตต่อไป เท้าของฉันแตะลงแผ่วเบาบนพื้นคันเร่งอย่างไม่แน่ใจ รอการกำหนดความเร็วในการเคลื่อนที่ไปข้างหน้า
ดีหรือ... ที่เราจะเคลื่อนที่ต่อไปในเส้นทางที่แสนจะยั่วยุให้เกิดความเหิมเกริมนั้นอีกครั้ง
หรือเราจะกลับรถ กลับไปสู่อีกเส้นทางหนึ่งที่ปลอดภัยกว่า... เดินทางไปในหนทางที่มีจุดหมายชัดเจนอยู่แล้วเบื้องหน้า ทุกอย่างเป็นตามที่คิดไว้ ดำเนินต่อไปจนกว่าเครื่องยนต์จะหมดอายุการทำงานตามที่ออกแบบมาไว้ หรือ...
เลือกที่จะเล่นกับเส้นทางตื่นเต้นเร้าใจที่ไม่รู้ว่ามันจะจบลงตรงไหน จะจบลงแบบใด กับความเสี่ยงว่าเครื่องยนต์ของฉันจะทำงานต่อได้อีกนานเท่าไร วันนี้ พรุ่งนี้ หนึ่งปี หรือตลอดไป วัดใจว่าฉันจะสามารถควบคุมทิศทางและการเคลื่อนไหวเมื่อเจออุปสรรคเหล่านั้นได้หรือไม่
ฉันยังคงคิดอยู่... เครื่องยนต์กำลังรอการตัดสินใจของคนที่อยู่เบื้องหลังพวงมาลัยอย่างฉันอยู่
ฉัน... จะต้องตัดสินใจ
Create Date : 24 เมษายน 2552 |
Last Update : 25 เมษายน 2552 0:33:27 น. |
|
3 comments
|
Counter : 763 Pageviews. |
|
|
|
โดย: อมิธีสท์ วันที่: 24 เมษายน 2552 เวลา:23:50:04 น. |
|
|
|
โดย: ปณาลี วันที่: 26 เมษายน 2552 เวลา:11:40:01 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ชลบุรี Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]
|
ไม่ใช่คนเลว แต่ไม่ใช่คนดี ไม่ใช่คนมีน้ำใจ แต่ไม่ได้เห็นแก่ตัว ไม่ใช่คนใจร้าย แต่ไม่ใช่ผู้หญิงใจดี ไม่ได้ต่อต้านใคร แต่ไม่ใช่คนยอมคน รับรู้ในตัวตน และไม่สนใครจะว่าอย่างไร รู้จักให้อภัย แต่ไม่ใช่ไม่รู้จักแค้น เป็นผู้หญิงแท้ที่ชอบโชว์แมน แต่ความจริงแสนจะอ่อนโยน O_o!!!
~ สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 ~
ฝากคำทักทายไว้ด้วยจิ...รักตายเลย
ShoutMix chat widget
BestChild ในคอลัมน์นักเขียนรับเชิญ ลายปากกา 2009 BestChild ในคอลัมน์ "ลายรัก" ลายปากกา 2010
|
|
|
|
|
|
|
เเวะมาส่งกำลังใจค่ะ