ในบทความนี้ทีมงาน NotebookSPEC ก็เลยจะขอนำเสนออีกหนึ่งโน้ตบุ๊คที่มีความน่าสนใจไม่แพ้กันเลย กับ Lenovo ThinkPad X250 ที่เป็นในส่วนของ Ultrabook รุ่นล่าสุดเพื่อการใช้งานระดับมืออาชีพจากทาง Lenovo ซึ่งมีชื่อเสียงใน ThinkPad X Series กันมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยที่ยังอยู่ใน IBM อยู่ โดย Lenovo ThinkPad X250 จัดเป็นโน้ตบุ๊คดีไซน์บางเบาขนาดหน้าจอ 12 นิ้ว มาพร้อมความละเอียด Full HD และสเปกภายในก็เป็นชิปประมวลผล Intel Core i รุ่นล่าสุด สนนราคาเริ่มต้นก็ใกล้เคียงกันกับ Apple MacBook Airซึ่งเพื่อความชัดเจนอย่างที่สุด ก็เลยแบ่งเป็น 5 สิ่งที่ทำให้ Lenovo ThinkPad X250 น่าซื้อมาใช้งานมากกว่า Apple MacBook Air ครับ โดยมีดังต่อไปนี้

1. มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows ลิขสิทธิ์

ทำให้ผู้ที่จำเป็นต้องใช้งาน Windows ไม่ต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อไปหาซื้อ Windows แท้ (และไม่จำเป็นต้องติดตั้ง Windows เถื่อน) ก็สามารถใช้งานได้ทันที รวมไปถึงยิ่งถ้าใครใช้งานเอกสารผ่านโปรแกรม Microsoft Office อยู่เป็นประจำอยู่แล้ว ก็รองรับได้สมบูรณ์แบบ ต่างจาก Microsoft Office ที่ใช้งานผ่าน Mac OS ที่ต้องบอกว่าเหมือนทาง Microsoft วางยา Apple เพราะซอฟต์แวร์ไม่สามารถใช้งานได้เต็ม 100% เสียที รวมไปถึงโปรแกรมและไฟล์ต่างๆ ก็เข้ากับคนส่วนมากได้เป็นอย่างดี เอาเป็นว่าตรงจุดนี้  Lenovo ThinkPad X250 ตอบโจทย์มากกว่านั่นเอง

2. ใช้งานได้ยาวนานกว่า 20 ชั่วโมง

อย่างที่หลายๆ คนทราบกันอยู่แล้ว ว่า Apple MacBook Air นั้นสามารถใช้งานได้ยาวนานกว่า 12 ชั่วโมงด้วยกัน จากการที่ทาง Apple อัดแบตเตอรี่ความจุสูงลงไป รวมไปถึงชิปประมวลผลก็เป็นแบบประหยัดพลังงานพิเศษ และตัวระบบปฏิบัติการ OS X เองก็บริหารพลังงานได้เป็นอย่างดี แต่เดี๋ยวก่อนในส่วนของ Lenovo ThinkPad X250 ก็มีความเจ๋งที่ไม่แพ้กัน ดีไม่ดีจะเหนือกว่าด้วย จากกที่ได้ติดตั้งแบตเตอรี่ไว้สองก้อน ส่งผลให้ Lenovo เคลมว่าใช้งานได้ยาวนาน 20 ชั่วโมงเลยทีเดียว (ใช้งานจริงก็น่าจะลดลงมาหลายชั่วโมงอยู่) เหมาะมากๆ สำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ทีเดียว

3. แข็งแกร่ง ทนทานตามสไตล์ ThinkPad + ประกัน 3 ปี Onsite Service

เชื่อได้ว่าชื่อเสียงในเรื่องของความทนทานจากโน้ตบุ๊คตระกูล ThinkPad คนส่วนมากก็คงรู้ดีกันอยู่แล้ว กับการโครงสร้างด้านในตัวเครื่อง (Roll Cage) จะเป็นแม็กนีเซียมอัลลอยด์ที่จะช่วยในเรื่องของความแข็งแรงเมื่อเครื่องตกกระแทก ส่งผลให้ลดความเสียหายภายในอย่างฮาร์ดดิสก์ หรือเมนบอร์ดลงได้ แต่ภายนอกนั้นจะใช้เป็นลักษณะพลาสติกที่แข็งแรงทนทานเป็นพิเศษ รวมไปถึง Lenovo ThinkPad X250 ยังทนทานแรงดันต่ำ – สูง อุณหภูมิร้อนเย็นกว่าปกติอีกด้วย นอกจากนี้น้ำหกใส่แป้นคียบอร์ดก็สามารถระบายออกไปได้ ส่วนงานประกอบยังเนี๊ยบสุดๆ มั่นใจว่าไม่พังหรือเสียได้ง่ายๆ แน่นอน และที่สำคัญที่สุดกับการรับประกันถึง 3 ปี พร้อมบริการ Onsite Service

4. คีย์บอร์ดแม่นยำ, TrackPoint ควบคุมได้ดั่งใจ

คีย์บอร์ดของ Lenovo ThinkPad X250 เป็นแบบ AccuType Keyboard ที่เป็นข้อเด่นที่คีย์บอร์ดที่ออกแบบมาให้มีรูปทรงโค้งปากยิ้มด้านใต้ตัวเครื่องเติมลงมาเล็กน้อยเพื่อลดโอกาสพิมพ์ผิดพลาดได้ ซึ่งเมื่อใช้งานจริงแล้วก็ถือว่าทำได้ดี โอกาสพิมพ์ผิดพลาดลดลงมาก ตอบสนองกับการพิมพ์ แบบงานเอกสารได้ดีพอสมควร แต่อย่างไรก็ดีตัวแป้นมีการเว้นระยะห่างที่แคบกว่าปกติอาจทำให้ต้องปรับตัวสักเล็กน้อย แต่เมื่อใช้งานไปสักระยะก็คุ้นเคยได้ไม่ยาก ที่สำคัญคือมีไฟคีย์บอร์ดด้วย ส่วน TrackPoint ก็ใช้งานแทนทัชแพดแทนเมาส์ได้อย่างสบายๆ (ถ้าใช้คล่องแล้วอ่ะนะ)

5. พอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน มี Fringerprint ด้วย

นับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กันเลย สำหรับพอร์ตเชื่อมต่อต่างๆ ของโน้ตบุ๊ค จากการที่ Lenovo ThinkPad X250 มาพร้อมพอร์ตที่ค่อนข้างครบครันทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น VGA และ mini Display Port ไว้เชื่อมต่อการแสดงภายนอก, พอร์ต USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ต, Smartcard Reader ไว้รองรับสมาร์ทการ์ด, Card Reader สนับสนุน SD Card, มีพอร์ต RJ45 ทำให้ต่อสาย LAN ได้ทันทีแบบไม่ต้องง้อตัวแปลงเลย เรียกได้ว่ามากกว่าส่วนของ Apple MacBook Air อยู่หลายส่วนทีเดียว ที่สำคัญกับความปลอดภัยในการเข้าใช้งาน ยังได้มีการติดตั้ง Fringerprint มาให้ในตัวอีกด้วย

คงได้เห็นกันชัดๆ แล้วนะครับ กับ 5 สิ่งที่ทำให้ Lenovo ThinkPad X250 น่าซื้อมาใช้งานมากกว่า Apple MacBook Air แต่อย่างไรก็ต้องบอกว่าขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนด้วยว่า Lenovo ThinkPad X250 หรือ Apple MacBook Air ตอบโจทย์การใช้งานมากกว่ากัน โดยถ้าใครหวังที่ใช้ OS X อยู่แล้ว (หรือใช้เป็นส่วนมาก) ทาง Apple MacBook Air ก็คงน่าซื้อมาใช้งานมากกว่า ส่วนถ้าใครจะหาโน้ตบุ๊คบางๆ เบาๆ ประสิทธิภาพดีมาใช้งาน ยิ่งเน้นส่วนของงานเอกสาร Office ด้วยแล้วล่ะก็ Lenovo ThinkPad X250 ต้องเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียวครับ