ไปเที่ยว Raily Beach กันค่ะ วันนี้มาทำงานโรงแรมวาง Contract Rate ให้กับ Agent แถวกระบี่ เลยถือโอกาสข้ามฝั่งไปสำรวจหาดไร่เลย์กันดีกว่า หาดอ่าวนางจุดที่เราต้องข้ามไปฝั่งไร่เลย์ค่ะ ต้องขึ้นเรือหางยาวที่นี่ ตอนข้ามเราเป็นคนไทยพี่เขาพิเศษให้ คนละ 100 บาท เป็นค่าข้ามค่ะ เดินทางด้วยเรือหางยาวประมาณ 25 นาที ภาพระหว่างทางค่ะ ก็จะมีเรือหางยาว วิ่งไป มา บริการลูกค้าไม่ขาดระยะเลย  ในที่สุดเราก็มาถึงค่ะ หาดไร่เลย์สวยงามได้ดังใจจริง ๆ เลย  น่าเสียดายจังที่มีเวลาแค่ 4 ชม. สำหรับครั้งนี้ เรือหางยาวจะหมดก่อน 6 โมงเย็น หากหลังจากนั้น ต้องเป็นเหมากลับค่ะ  นี่ภาพแต่บริเวณที่เพิ่งมาถึงน่ะค่ะ ฝั่งนี้เค้าเรียกไร่เลตะวันออกค่ะ  มาถึงก็งง ๆ นิดหน่อยเนื่องแต่ดีที่คนแถวนี้น่ารัก มีน้ำใจ จุดน่าสนใจอีกจุดเป็นอีก ด้านนึง คือฝั่งไร่เลย์ตะวันตกค่ะ ฝั่งไร่เลย์ตะวันตก จะมีหาดที่สวยงามกว่านี้ และก็ยังมีจุดที่นักท่องเที่ยวชอบไปปีนเขากันด้วยล่ะ ป้ายนี้ต้องจำไว้ดีดีค่ะ โฆษณาในตัวเลย เพราะเป็นทางที่เราต้องเดินเพื่อ ให้ทะลุไปถึงฝั่งไร่เลย์ตะวันตก  ทางเดินไปก็ปลอดภัยค่ะ หายห่วงเนื่องจากเป็นพื้นที่โรงแรม ก็จะมีป้ายบอก ทางตลอด เพราะเป็นทางสาธารณะไปซ่ะแล้ว  ระหว่างทางก็ขอเสียมารยาทแอบถ่ายรูปห้องพักเขาซ่ะหน่อย  ทางเดินระหว่างทางค่ะ จะเป็นลักษณะแบบนี้หมด เป็นทางเดินน่ะค่ะ ไม่มีรถผ่าน  ตามทางเดินใช้เวลาเท่าที่เดินเองน่ะค่ะ ประมาณ 20 นาทีค่ะ  แดดออกอยู่ดีดี ฟ้าก็มืดซ่ะงั้น ไม่น่ะ อุตส่าห์ข้ามมาอย่าทำร้ายกันอย่างนี้  ขนาดมืดฝนแต่โชคดีค่ะที่ ยังไม่ตก ภาพยังสวย  ได้เวลาเดินต่อแล้วค่ะ เผื่อไปยังจุดที่ลูกค้าชอบมาปีนหน้าผากัน เรียกว่าอ่าวพระนางค่ะ ทางเดินเลียบไปแบบนี้ค่ะ ตลอดแนวเลย  อยุ่ดีดีก็เห็นเจ้านี่ตกใจถามพี่เค้ารถอะไรหว่า ไหงมาอย่างนี้ ที่ไหนได้ เป็นรถรับแขกค่ะ เพราะบางครั้งลูกค้ามาลงเรือหางยาว เลยเป็นรถขนกระเป๋า  ลูกค้ากลับมาจากทริปฝั่งอ่าวน้ำเมา  นี่เลยค่ะ ตั๋วสำหรับลูกค้าจะไปอ่าวน้ำเมา  ในที่สุดก็มาถึงบริเวณทางเข้า เพื่อเดินทางไปยังอ่าวพระนาง  ทางเดินจะเป็นช่องทางเดินระหว่างเขา ธรรมชาติมาก ๆ เลยค่ะ  เนื่องจากอบอ้าวฝนแต่ทางเดินบริเวณนี้ไม่ร้อนเลยค่ะ เย็นเพราะก้อนหินของภูเขา  ป้ายบอกไกด์ Line ค่ะ  ใช้เวลาเดินทางตรงนี้ ไม่เกิน 15 นาทีก็จะมาทะลุตรงจุดปีนเขาพอดี โชคดีจังฟ้าฝั่งนี้เริ่มเปิดแล้ว  จุดปีนเขาค่ะ  ว้าวสวยงามใช่มั้ยค่ะ แดดเริ่มออกแล้วด้วย สุดยอดจริง ๆ อันดับแรกต้องเดินไปจุดนี้ก่อนเลยค่ะ ได้แต่พนมมือขอพร เพราะไม่ได้เตรียม ปลัดขิกไปด้วย  จะขอเล่าเรื่องราวตำนานเริ่มต้นของ อ่าวพระนางกันคร่าว ๆ น่ะค่ะ "เรื่องราวตามตำนานเริ่มต้นจาก ครอบครัวตายมดึงต้องการมีลูกจึงไปวิงวอนขอ ให้พญานาคประทานลูกให้ พญานาคตอบตกลงแต่ก็ตั้งเงื่อนไขว่าหากครอบครัว ตายมดึงมีลูกสาวจะต้องให้แต่งงานกับลูกชายของตน กาลต่อมาครอบครัว ตายมดึงได้มีลูกสมความปรารถณาเป็นลูกสาวชื่อว่านาง นางเติบโตขึ้นจากความ รักตามประสาหนุ่มสาวกับลูกชายตาวาปราบชื่อว่า บุญ ในที่สุดครอบครัวตายมดึง และครอบครัวตาวาปราบจึงจำเป็นต้องจัดงานแต่งงานให้กับนางและบุญทั้งๆที่ไม่ เต็มใจ เมื่อพญานาคทราบข่าวก็โกรธแค้นที่ครอบครัวตายมดึงไม่รักษาสัญญาที่ ว่าจะให้ลูกสาวแต่งงานกับลูกชายของตน ในวันแต่งงานพญานาคจึงจำแลงกาย เป็นมนุษย์เข้าอาละวาดแย่งชิงตัวนาง ฤาษีซึ่งบำเพ็ญตบะได้ออกมาห้ามปรามแต่ ก็ไม่เป็นผล สุดท้ายฤาษีจึงสาปทุกอย่างให้กลายเป็นหิน เรือนหอให้กลายเป็น ถ้ำพระนาง ข้าวเหนียวกวนกลายเป็น สุสานหอย ข้าวของเครื่องใช้ต่างๆกลายเป็น เกาะหม้อ เกาะทัพ และเกาะอื่นๆในเขตใกล้เคียง ส่วนพญานาคได้กลายเป็นเขา หางนาค ในปัจจุบัน " เป็นประวัติที่น่าสนใจดีจัง หลายคนที่เป็นคนพื้นที่บอก มาที่เนี่ยขอเรื่องคู่ครอง แล้วจะสมหวังด้วยล่ะ อิอิ เราไปต่อกันดีกว่าน่ะค่ะ มาชมความงามของหาดไร่เลย์ ฝั่งตะวันตกกันดีกว่าค่ะ  ต้อง Test ทรายซ่ะหน่อยว่านิ่มรึเปล่า อิอิ  เป็นไงค่ะ ฟ้าฝนเป็นใจ หาดทรายขาวนวล  ก่อนหน้านี้ยังมืด พอ แดดออกก็ร้อนได้ใจมากค่ะ คนเราเนี่ยล่ะน้าาา ไม่พอดีเลย  อีกรูปสวย  ลืมบอกไปว่าฝั่งตรงข้ามเป็นสี่เกาะทะเลแหวกค่ะ กำลังหาโอกาสไปให้ได้เลย  นี่ค่ะ ธุรกิจแนวใหม่ พี่คนนี้แน่มากเลย ไม่มีร้านไหนแย่งขายด้วย  ยังพอมีเวลาถ่ายรูปอีกนิดหน่อยก๋อนกลับไปฝั่งตะวันออก  น้ำสีเขียวมรกตเลย รับรองว่ามารอบหน้ายังไงก็ต้องมานอนค้างซ่ะแล้ว  เดินบริเวณหน้าหาดตะวันตกยังไงก็ต้องให้ความสนใจกับโรงแรมนี้ค่ะ เพราะน่า พักมาก ทุกอย่างค่อนข้างจะ เป็นส่วนตัว  มาดุร้านอาหารเค้าซ่ะก่อน  นี่อีกมุม  ส่วนนี่เรือรับลูกค้าค่ะ  และนี่อีก รถรับลูกค้าค่ะ มันได้ Full Option ขนาดนี้ เพราะคืนเป็นหมื่นเลยล่ะ  เนื่องจากเรามาในช่วง Low Season สภาพอากาศเลยไม่ดี แต่ หาดทรายไม่ เปลี่ยนเลย ถ้าช่วย พ.ย. เป็นต้นไป จะสวยยย กว่านี้อีกแน่เลยยย  มุมนี้สวยค่ะ ถ้ามีโอกาสพัก เพราะพระอาทิตย์จะตกตรงนี้พอดี  สงสัยคงจะต้องได้เวลากลับจริง ๆ แล้วล่ะ เพราะ มืดมาอีกแล้ว ตอนกลับก็แค่ย้อนกลับทางเดิมน่ะค่ะ ระหว่างทางก็เจอนักท่องเที่ยวพักเหนื่อยกัน  เดินกลับทำไมเร็วกว่าขามาน้าาา  ออกมาจากถ้ำแล้วก็เก็บรูประหว่างทางอีกหน่่อย สำหรับฝั่งตะวันออก    จากนั้นก็กลับทางเดิมทะลุทางเดินของโรงแรมค่ะ  โผล่ออกมาจากฝั่งตะวันตก มาเจอตะวันออก ดูลมสิค่ะ  เนื่องจากขากลับเรือหางยาวคนยังไม่ครบลำ เลยต้องรอ เลยเข้าทางขอสำรวจ บริเวณแถวนี้กันหน่อย เพราะขามามัวแต่รีบไปถ้ำพระนาง บริเวณชายหายฝั่งเรือตะวันออกมีร้านอาหาร กับ โต๊ะทัวร์ไม่ค่อยมาก ถ้าเทียบกับฝั่งอ่าวนางหรือกระบี่ ส่วนราคาก็ไม่เบาเลยค่ะ Internet เท่าที่ถามก็ นาทีละ 2 บาท แต่ก็ต้องเข้าใจค่ะ ด้วยความที่มันเป็นเกาะ อะไรก็ไม่ง่ายเลย  ตารางเรือ ตารางทัวร์ค่ะ  เห็นแล้วใช่มั้ยค่ะ ว่าฟ้ามืดแค่ไหน แต่โชคดีเราเดินทางกลับด้วยสวัสดิภาพค่ะ  คิดว่าจะไปอีกแน่นอน รอบนี้ก่อนไป คงต้องเช็คสภาพอากาศก่อน เพราะอยากได้ภาพสวย ๆ.....  ได้เวลา Bye Bye หาดไร่เลย์กันแล้วค่ะ  ขอบคุณที่ติดตาม Blog น่ะค่ะ ^^ Ben
@3kkk
ใช่ค่ะ คิดอยู่ว่าจะไปอีกเหมือนกัน อยู่เกาะลันตา พอไปไร่เลย์ ชอบหาดฝั่งนั้นเข้าซ่ะแล้ว สวยมาก โดย: ข้าวหมก
 วันที่: 5 กันยายน 2556 เวลา:20:24:26 น. |
ข้าวหมก
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?] ชื่อ เบญจมาศ ค่ะ เรียก เบญ ก็ได้ ทำงานโรงแรมที่เกาะลันตาค่ะ เป็นครั้งแรกสำหรับการหัดเขียน Blog มันช่วยได้มากเลยค่ะ บางครั้ง คนเราอาจมีเรื่องราวมากมายที่เราอยากจะปลดปล่อย แต่มันยากเกินไป ที่จะเรียบเรียงออกมาเป็นคำพูด พอนานไป จน บางครั้งเราเอง อาจเผลอลืม ลืมไป จน ฝังมันไว้ในใจ.... เชื่อว่า ทุกสถานที่ จากทุกความทรงจำ จากทุกความรู้สึก สามารถทำให้เราเก็บมันไว้อย่างมีคุณค่าได้ โดยที่เราจะไม่มีวันลืม คิดบวกไว้น่ะค่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว.... Group Blog All Blog
Friends Blog
MY VIP Friend                              |
||||||||||||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||||||||||||
หาดนี้เคยไปหนหนึ่ง ฝรั่งเยอะกว่าคนไทยซะอีกนะครับ
คิดถึงกระบี่อยากกลับไปอีก