ไปเรียนโทที่อังกฤษมาเป็นเวลา หนึ่งปีกับอีกสามเดือน ขอพูดว่านี่แหละคือ "ชีวิต" เจออะไรเยอะมาก ทั้งประสบการณ์ที่ดีและไม่ดี มีหลากหลายความรู้สึก เหงา เศร้า คิดถึง กลัว เสียใจ สนุก หัวเราะ เหนื่อย ทั้งหมดคือบทเรียนที่มีค่า ในวันที่ต้องเดินทางกลับไม่อยากกลับเลยจริงๆ แต่ชีวิตมันจะต้องดำเนินต่อไป ที่เกริ่นมาซะยืดยาวไม่ใช่อะไรหรอก แค่อยากบอกกับคนที่ยังลังเลว่าจะไปดีรึป่าวให้ไปเถอะ เชื่อเจ้ อย่าได้ลังเล แล้วเราจะได้รู้ว่า ตรงที่ๆเรายืนอยู่ตอนนี้มันแค่ส่วนเล็กๆของชีวิตเท่านั้น ออกไปเติมเต็มกันเถอะ ^^ และก็อยากจะบอกคนที่ไปแล้ว เจอความเหงา จะบอกว่าคุณไม่ได้เหงาคนเดียว ทุกคนที่ต้องจากบ้านจากเมืองมา จะเก่งแสนเก่งแค่ไหนก็ต้องเหงากันทั้งนั้น เพียงแต่ใครที่ปรับตัวเข้ากับสิ่งใหม่ได้เร็วก็จะสนุกเร็ว แล้ววันที่ต้องเดินทางกลับบ้าน คุณจะรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก :)) เอาล่ะ ขอเริ่ม เล่าเลยละกันว่าไปทำอะไรมาบ้าง

ไปเรียนต่อโทคณะ Business and Economic Forecasting ที่มหาลัย Kingston University ตอนนั้นที่ตัดสินใจเลือกเพราะ เป็นมหาลัยที่มีคนไทยไม่เยอะมาก จะได้ฝึกภาษาได้อย่างเต็มที่            (แต่ก่อนกลับมาเจอกองทัพคนไทยเป็นโขยงเลยจ้า ของเค้าดีจริง) Kingston University มี 4 Campus เราเรียน Penryn Road Campus เป็น Campus ที่ใกล้กับ Kingston town center มาก สามารถเดินไปได้ (ถ้าอยู่ไทยเราคงจะเรียกแท๊กซี่อ่ะเพราะขี้เกียจ 55 +) ที่นี่หมดสิทธิ์ เรียกแท๊กซี่ เพราะ แพง และ เพือนฝรั่งอาจจะมองว่า ปัญญาอ่อนได้ เพราะไกลกว่านี้มันก็เดิน == ไซส์มันไม่เท่ากันนี่หว่า แถมเรายังเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง พวกมันจับเราห้อยหัวได้สบายๆเลยทีเดียว หึหึฃ

เนื่องจากคลาสที่เรียนไม่มีคนไทยเลย และกลุ่มที่รุ่นราวคราวเดียวกันซึ่งมีอยู่ 4-5 คน ก็มีเราเป็น ผญ คนเดียวจึงโดนแกล้งบ่อยครั้ง ตอนหลังมี ผญ คนนึงมาลงเรียนแต่ดั๊น ลงเป็น part time ซะนี่ อารมณ์เสีย !!!!! เอาไว้วันหลังจะเล่าถึงเพื่อนๆในห้องให้ฟัง ตอนนี้ขอแนะนำสถานที่ใน Kingston สักนิดนึงละกันนะ

Kingston อยู่ติดริมแม่น้ำ Thames ชิวมากกกกกกกกก สามารถมานั่งจิบเบียร์เย็น ทั้งใน Pub และ นอก Pub โดยเฉพาะช่วง Summer

เดินไปเรื่อบๆจะมีม้านั่งให้นั่งชมวิว ดูผู้คนเดินไปเดินมา ตอนกลางวันเราชอบซื้อ Milk Shake ไปนั่งดื่มแล้วก็ชิวไปเรื่อยๆ :)) เป็นความสุขอย่างนึง

เด็กๆออกมากเล่นน้ำกันใหญ่หลังจากผ่านหน้าหนาวที่สุดแสนจะหนาวไป เดินเลยเด็กน้อยไปก็จะเจอตลาดสดของ Kingston ซึ่งจะเปิดเฉพาะวันหยุด บรรยากาศครึกครื้นมากค่ะ

สุดท้ายขอแชร์ สัญลักษณ์ของเมือง Kingstonค่ะ

เป็นมือใหม่หัดเล่าเรื่อง ยังไม่ค่อยเก่งเท่าไหร่ แต่เอาไว้วันหลังจะมาแชร์ สถานที่ต่างๆ ในอังกฤษและประเทศอื่นๆในยุโรปอีกนะคะ ....