<<
กรกฏาคม 2550
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
31 กรกฏาคม 2550

บันทึกการอ่าน มังกรสอนลูกสาว

นางสาวรัญชิดา พฤกษชาติวุฒิ
เลขที่ 39 ม.6/6
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า




1. เมื่อลูกต้องเจออันธพาล
การป้องกันตัวเอง ก็คือการทำให้ตัวเองต้องเสียหายน้อยที่สุด ถ้าหากคนร้ายต้องการเงินก็ให้เขาไป ยกตัวอย่างเช่นถูกจับตัวเรียกค่าไถ่และแจ้งความก็อย่ากระโตกกระตาก ผู้ประสบเหตุไม่ด่าว่าคนแม้แต่คนเดียว แล้วเป็นฝ่ายผูกมิตรกันอีกด้วย จึงทำให้รอดมาได้ ปัญหาคือ แล้วถ้าคนร้ายข่มขืนล่ะ ก็ควรช่วยตัวเองให้พ้นมาได้ แต่ความจริงคือเราต้องมีความคิดเป็น ไม่โวยวายและหาทางออกให้ได้.

2. ลูกจ๋าอย่าร้องไห้
คนเราอาศัยอะไร จึงสามารถทนต่อความตายของตนเองได้? อาศัยประสบการณ์ที่เคยเห็นความตาย ตั้งแต่เล็กจนโตแค่นั้นเอง ดังนั้นชีวิตคนเราก็ต้อง มี เกิด แก่ เจ็บ ตาย การตายเป็นสิ่งที่ไม่น่ากลัวหรอก เพราะทุกคนเกิดมาก็ต้องตายทั้งนั้น ถ้าเราเห็นคนเจ็บไข้ได้ป่วย โดยเป็นคนที่เราสนิทคุ้นเคยกันดี ก็อย่าไปร้องไห้เสียใจให้เขาเห็น เพราะจะทำให้เขารู้สึกไม่ดีได้.

3. ลองเปลี่ยนมุมมองดูซิ!
ความคิดสร้างสรรค์คืออะไร? ความคิดสร้างสรรค์มักจะแสดงถึงมุมมองต่างๆ ที่เป็นลักษณะของผู้สร้างเอง มุมมองก็เหมือนการวาดภาพจากโจทย์ บางครั้งเราอาจจะคิดว่า ตัวเองเป็นคนไม่ดี ไม่น่าเชื่อถือ แต่ถ้าเรามองกลับไปอีกมุมๆหนึ่งนี้แล้ว มันอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ อาจจะมีเรื่องราวดีๆ ในมุมมองใหม่ๆก็ได้.

4. เมื่อเราตกที่นั่งลำบาก
การที่เราคิดว่าความคิดของตัวเองนั้น เป็นความคิดที่ถูกต้อง อาจนำมาซึ่งความผิดพลาดได้ เมื่อเราตกอยู่ที่นั่งลำบาก ฉะนั้นเราต้องมีความแข็งแกร่ง อดทน เข้มแข็ง ต่อเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเรา ความสามัคคีก็เป็นส่วนสำคัญมาก ไม่ควรจะมีใครโทษใคร ไม่มีใครตำหนิใคร และอีกอย่างภายใต้สถานการณ์อันเลวร้าย เราควรจะมีสติ นี่แหละจะเป็นสิ่งดีของเรา.

5. ราศีของใครเหมาะสมกันที่สุด
คนทุกคนในโลกใบนี้เหมือนเป็นเพื่อนเราด้วยกันทั้งนั้น คนทุกคนต่างมีปมเด่นและปมด้อย สิ่งที่เราปกพร่องอาจจะเป็นสิ่งที่คนอื่นพร้อมอยู่แล้วก็ได้ สิ่งที่คนอื่นบกพร่องก็เป็นสิ่งที่เราถนัดที่สุดก็ได้ และเมื่อต่างฝ่ายต่างช่วยเหลือมซึ่งกันและกัน อาจจะประสบผลสำเร็จก็ได้ ซึ่งคนเกิดราศีเมถุนเป็นคนที่เฉลียวฉลาด ทำให้เปลี่ยนใจง่าย ซึ่งตรงข้ามกัน คนที่มีจิตใจแน่วแน่ เพราะฉะนั้นเขาจึงเหมาะสมกันและอยู่ด้วยกันได้.

6. ปากหวานไม่หวาน?
คนที่รู้จักพูดจะไม่ใช้น้ำเสียงตำหนิผู้อื่น ลองคิดดูว่าถ้าคนเราใช้น้ำเสียงตำหนิผู้อื่น เขาจะคิดยังไง อาจจะทำให้เขารู้สึกไม่ดีกับเราได้ เพราะฉะนั้นเราควรพูดจาดีทั้งต่อหน้าและลับหลัง จะทำให้เราเป็นที่ปากหวานและจิตใจดี ในสายตาผู้อื่นได้.

7. กระบวนการกำราบสิว
การมีสิวก็เหมือนกับยานยนต์ออกเดินทาง วัยรุ่นหนุ่มสาวผิวหนังจะเอิบอิ่ม ทำให้ผิวต้านนอกดูเต้งตึง ทนหนาวได้ดีกว่า และไม่เป็นรอยย่นเหมือนคนที่มีอายุแล้ว เพราะฉะนั้นการที่เรามีสิวถือเป็นเรื่องดี เพราะเราจะได้รู้ว่าเรายังเป็นหนุ่มสาววัยรุ่นอยู่.

8. ล้มตรงไหน ลุกขึ้นตรงนั้น
การแข่งขันไม่ว่าจะเป็นแข่งขันอะไรก็ตาม ย่อมมีแพ้ชนะแล้วแต่ความสามารถของเรา แต่ถ้าเราเป็นฝ่ายชนะเราก็ไม่ควรดูถูกฝ่ายแพ้และว่าเขาไม่เก่งหรืออะไรก็ตาม แต่ถ้าเราเป็นฝ่ายแพ้เราก็ไม่ควรที่จะดูถูกตัวเองว่าตัวเองว่าเราไม่เก่ง ไม่มีความสามารถ หากเราล้มเราก็ควรลุกขึ้นสู้ ไม่ใช่แค่เรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว ต้องลุกขึ้นสู้กับทุกๆเรื่อง.



9. จะหันกลับไปทำไม
ความผิดพลาด เมื่อมันผ่านไปแล้ว มันจะเป็นความจริงที่เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้เลย แต่ถ้าหากได้เรียนรู้จากมัน นับจากนี้จะไม่ประมาทอีกเป็นครั้งต่อไป ไปต้องเหลียวหลังกับไปมองมันอีก.

10. ถามตัวลูกเอง
ถ้าเราพบผู้อื่นไม่ให้เกรียติเรา ถ้าเราอยากให้ผู้อื่นเอาจริงเอาจังกว่านี้ เวลาที่ทั้งสองฝ่ายร่วมงานกันทั้งเราและเขา สิ่งแรกที่ต้องนึกก็คือ เกรียติของตัวเอง ผู้อื่นจะเคารพเราทั้งเรื่องงานและเรื่องอื่นๆด้วย.

11. เจ็บไข้ได้ป่วย เหมือนฝนในฤดูใบไม้ผลิ
การเจ็บป่วยเป็นเรื่องที่ช่วยเหลือไม่ได้ ไม่มีใครป่วยแทนกันได้ ปกติต้องป้องกันตัวเองไม่ให้ป่วย แต่ถ้าป่วยจริงๆเราก็ต้องยอมรับมัน เราจะต้องปรับตัวเข้าหามันไปพร้อมๆกันด้วย ไหนๆถ้าป่วยไปแล้วก็ต้องรักษาตนเอง โดยการกินยาหรือพักผ่อน เพื่อให้หายจากอาการป่วย เพราะฉะนั้นเรื่องการป่วยไม่ใช่เรื่องน่าเศร้า มันจะน่าเศร้าต่อเมื่อเราทำตัวเองให้เศร้าลงไปเอง.

12. ตาแก่อัปลักษณ์
บางครั้งคนที่น่าตาแก่อัปลักษณ์ บางคนมีทั้งความรู้ ความสามารถมากกว่าคนน่าตาธรรมดาซะอีก คนเราไม่ควรจะดูที่น่าตาต้องดูความรู้ ความสามารถของเขาด้วย ถ้าคนน่าตาแก้อัปลักษณ์อย่าง อลีน กรีนสแปน เกิดขึ้นดอกเบี้ยขึ้นมา ทำให้คนน่าตาธรรมดาลำบากรู้ไหม เพราะฉะนั้นเราไม่ควรดูคนที่น่าตาควรจะถูก.

13. ลองดูสักครั้ง ก็จะสำเร็จ
เพราะฉะนั้นเมื่อเราทำอะไรไม่สำเร็จ ก็อย่าถอดใจก่อน ควรลองใหม่ดูอีกสักครั้ง สักวันหนึ่งเมื่อเราหมดหวัง อย่างท้อแท้ลองอีกครั้ง เพราะเรื่องบางเรื่องไม่ใช่เรื่องที่ลำบากอะไรเลย เราต้องมีความอดทนจึงจะสำเร็จ.

14. ลูกรู้จักความรักไหม ?
ความรักต้องเกิดจากการรับผิดชอบ ถ้าเรามีความรักเราจะต้องเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาก ไม่ใช่เพียงแค่จะรักเท่านั้น ถ้าเราจะรักใครสักคน เราต้องคิดให้ดีว่าเราจะทำอะไรเพื่อเขาได้ไหม มันก็คือการรับผิดชอบอย่างหนึ่ง.

15. คุณหนู คุณหนู อย่าโมโห
การโมโหไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่ถ้าเราโมโหมากเกินไป จะทำให้เรารู้สึกไม่ดี ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ถ้าเราโมโหจะทำให้เราแสดงอาการไม่ดีต้อผู้อื่นได้ ฉะนั้นเราจะต้องควบคุมสติของเราไว้ให้ได้.

16. ถึงแม้ลูกชอบ แต่ลูกห้ามทำ
เรื่องบางเรื่องต่อให้เราคิดว่าถูกต้องหรือชอบทำก็ตาม ถ้าเป็นเรื่องถูกต้องก็เป็นสิ่งที่ดีไป แต่ถ้าหากเราชอบแต่เรื่องที่เราชอบมันเป็นเรื่องที่ไม่ดี เราก็ห้ามทำ เพราะบางครั้ง เรื่องที่เราชอบอาจทำให้คนอื่นเดือดร้อนได้.

17. ใครจะได้ที่หนึ่งเสมอไป
การเติมโต คือการเรียนรู้ต่างๆ การเป็นผู้ใหญ่จะรู้จักเลือกในสิ่งต่างๆ ในโลกใบนี้มีเรื่องที่รับไหวและรับไม่ไหว บางครั้งเราอาจจะครั้งขันกับอะไรสักอย่าง ที่เรารู้ว่าเราทำได้สุดท้ายผลที่ออกมาคือการผ่ายแพ้ ในโลกใบหนึ่งไม่มีใครได้ที่หนึ่งเสมอไปหรอก ถ้าเราคิดว่าเราเก่งก็ต้องมีคนที่เก่งกว่าเราอีก เรื่องบางเรื่องเราต้องทำใจ.

18. ไม่ไปโรงเรียน ดีจริงๆ
ตอนเด็กๆเราไม่ชอบที่จะไปโรงเรียน ด้วยเหตุผลหลายอย่าง เล่น คิดถึงบ้าน กลัวคุณครูหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ถ้าเราโตขึ้นเราจะรู้ว่าเราเรียนไปเพื่ออะไร ทำไมต้องเรียน เด็กๆมักจะไม่เข้าใจในสิ่งเหล่านี้ แต่อีกไม่นานถ้าโตขึ้นก็จะรู้ว่า สิ่งที่เราไม่ชอบตอนเด็ก โตมาเราก็จะรู้

19. ความรักที่เป็นฝ่ายให้
ความรักที่เป็นฝ่ายให้ เป็นความรักที่บริสุทธิ์มากเลยที่เดียว มีหลายแบบ เช่น การให้ความสุขแก่คนแก่คนเฒ่า มันเป็นความรักที่น่าประทับใจมากเลยที่เดียว การให้เป็นสิ่งที่สวยงามไม่แบ่งแยกชนชั้นและอายุ.

20. หลังสิ้นเสียงปืนในรั้วโรงเรียน
วัยรุ่นในฤดูใบไม้ผลิ กำลังบาน กำลังน่ารัก ทำให้อดไม่ได้ที่จะวิ่งไปสู้อากาศ สัมผัสความรู้สึกสดชื้นของความอบอุ่น ที่เหมือนกับดอกไม้กำลังผลิบาน วัยรุ่นมีความคิดเป็นของตัวเอง เพราะคิดว่าเราโตแล้ว หรือไม่ก็เชื่อเพื่อนมากกว่าพ่อแม่ด้วยซ้ำไป วัยรุ่นจะทำอะไรที่ไม่คิดจึงทำให้สิ่งที่ไม่ดีในภายหลัง.

21. ทำไมเขาไม่หย่า
การหย่าร้างไม่ใช้เรื่องแปลกอะไรนัก แต่ต้องใช้ความเข้าใจให้มาก บางครั้งลูกบางครอบครัวอาจจะไม่เข้าใจว่าทำไมพ่อแม่ต้องหย่ากัน ลูกบางคนอาจจะรับในสิ่งนี้ได้ บางคนอาจจะรับไม่ได้ แต่มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก ก็แค่อธิบายให้ลูกเข้าใจ ว่าเป็นเป็นเรื่องของพ่อแม่.

22. เมื่อเขามีสีหน้าไม่ดี
ถ้าเรารู้ว่าเขาสีหน้าไม่ดี เราควรที่จะทำให้เขาไม่รู้สึกเคลียด เพราะมันจะทำให้เขามีอะไรเกดขึ้นได้ บางครั้งที่สีหน้าเขาไม่ดีเกิดจากอะไรหลายๆอย่าง เช่น เขาอาจจะปวดหัว มีอะไรที่ร้อนใจก็ได้ ถ้าเขาสีหน้าไม่ดีเราก็ดูจากสีหน้า ก็รู้แล้วว่าเขาเป็นอะไร.

23. หนังสือของลูกมีวิญญาณไหม?
ของทุกอย่างย่อมมีวิญญาณเป็นของตนเอง ยิ่งของเก่าๆที่ผ่านการใช้งานมานาน เพราะของที่ใช้มานานก็เหมือนคนที่รู้อะไรนานๆ แล้วรู้อะไรมากๆ ไม่ว่าจะ เปียโน พูกัน หนังสือ และอื่นๆก็ตาม ล้วนมีวิญญาณทั้งนั้น.

24. กระต่ายป่ากลับบ้านแล้ว
อะไรสักอย่างที่อยู่กับเราไม่ได้ก็ไม่ควรจะบังคับหรือยื้อมันเอาไว้ เพราะมันอาจจะเกิดผลไม่ดีต่อสิ่งๆนั้นก็ได้ และก็จะทำให้เราไม่สบายใจ เหมือนกับที่เอากระต่ายมาเลี้ยงเล่นกัน.

25. เมื่อพระผู้เป็นเจ้าทรงลืม
คนบางคนลำบากมากกว่าเราอีก แต่เขามีความอดทน จึงทำให้เขาประสบผลสำเร็จได้ ยกตัวอย่างเล่น คุณครูคนใหม่ ตามหาเด็กชายที่หายไป ต้องทำทุกวิถีทางให้เด็กชายกลับมาถึงแม้จะเหน็ดเหนื่อยไม่มีเงินก็ตาม เขาก็หาวิถีนั้นจนได้ เพราะเจอผู้อำนวยการช่วยเหลือเขาจึงได้พบกับเด็กชายอีกครั้ง.

26. ความรักไม่มีวันแก่ชรา
ความรักของพ่อแม่เหมือนทุกๆอย่าง บางครั้งเราอาจจะมองว่าพ่อไม่รักเรา พ่อไม่สนใจเรา พ่อให้เงินเราน้อย แต่จริงๆไม่ใช้หรอก พ่อทั้งเหน็ดเหนื่อย ท้อแท้ และรักเราอยากทำทุกอย่างเพื่อเรา แต่เขาไม่แสดงออกทางคำพูดก็ได้ พ่อคนไหนล่ะ จะพูดอยู่ทุกวัน ทุกเวลา ว่าพ่อรักลูก พ่อจะแสดงความรักออกจากใจของพ่อว่ารักลูกขนาดไหน ความรักของพ่อไม่มีวันแก่ชราหรอก พ่อรักลูกตลอดไป.


นายอเสกข์ จารชฎา
เลขที่ 28 ม.6/6
โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาน้อมเกล้า

ชื่อหนังสือ มังกรสอนลูกสาว
ผู้แต่ง หลิว ยง
ผู้แปล อนุรักษ์ กิจไพบูลทวี

เรื่องย่อ มังกรสอนลูกสาวเป็นหนังสือที่ผู้เขียนแต่งขึ้นเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ ความรู้สึกนึกคิดของผู้ที่เป็นพ่อ ที่ต้องการจะสอนลูกสาวของตนในขณะที่เริ่มเข้าสู่วันรุ่น โดยนำปรัชญาชีวิตของจีนเข้ามาเปรียบเทียบทำ ให้ลูกสาวรู้จักการใช้ชีวิตที่ถูกต้องเหมาะสมเมื่อต้องโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เนื้อหาเป็นการใช้ชีวิตของผู้เขียนเป็นการเดินเรื่อง แบ่งออกเป็นตอน ๆ ทำให้ผู้อ่านสนุกและได้ทราบเรื่องราวประสบการณ์ต่าง ๆ ในหลายฉาก และหลายแง่มุม ดังนี้

ตอน เมื่อลูกต้องเจออันธพาล
เด็กต้องเผชิญกับคนร้ายในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป หากจะรอดจากอันตรายมาได้ก็ด้วยการอดทนอดกลั้นเพื่อมิให้ถูกทำร้าย และพยายามหาทางป้องกันตนเองให้มากที่สุด พร้อมกับสอนว่าที่สำคัญที่สุดคือชีวิตของเราเองโดยเปรียบเทียบกับสุภาษิตจีนที่ว่า “รักษาเขาเขียวเอาไว้ ไม่ต้องกลัวไม่มีฟืนเผา”


ตอน ลูกจ๋า อย่าร้องไห้
หลิว ยง มีความคิดที่จะสอนให้ลูกสาวรู้จักอดทน เข้มแข็ง เมื่อต้องเผชิญกับความเศร้า ผู้เขียนต้องการบอกลูกถึงธรรมชาติของมนุษย์ที่ต้องมี เกิด แก่ เจ็บป่วย และตายจากไป ชีวิตคนเราต้องพบกับทั้งความสุข และความทุกข์ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้


ตอน ลองเปลี่ยนมุมมองดูสิ
ผู้เขียนได้นำเอางานประกวดศิลปมาเป็นเครื่องมือในการสอนให้ลูกสาวรู้จักความคิดสร้างสรรค์ โดยการเปลี่ยนมุมมองในสายตาของตน บางครั้งคนเราจะยึดติดอยู่กับความคิดเดิม ๆ จนทำให้ขาดอิสระในการจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ที่แสดงความเป็นเอกลักษณ์แห่งตัวตนจะนำไปสู่ความสำเร็จได้ในที่สุด


ตอน เมื่อเราตกที่นั่งลำบาก
ผู้เป็นแม่เข้าใจไปเองว่าลูกจะต้องไปแสดงคอนเสริตที่วิทยาลัยดนตรีบรู๊คลิน แต่เมื่อเดินทางไปถึงกลับพบว่าไม่ใช่ที่นั่นหากแต่เป็นมหาวิทยาลัยบรู๊คลินซึ่งขณะนั้นใกล้ที่จะถึงเวลาแสดงแล้ว ทุกคนจึงต้องเสียเวลาเรียกรถคันใหม่ แต่ก็ไปทันเวลาที่ลูกสาวจะขึ้นแสดงพอดี เมื่อพ่อ แม่และลูกสาวต่างตกอยู่ในสถานการณ์ที่ลำบาก อันเกิดจากความไม่รอบคอบหรือเข้าใจไปเองก็ตาม แต่เมื่อต้องเผชิญกับความผิดพลาดดังกล่าว พ่อก็ได้สอนว่าต่างคนต้องไม่โทษกัน และกัน แต่ต้องหาทางแก้ไขให้ดีที่สุด และคราวต่อไปไม่ว่าจะทำอะไรทุกคนต้องช่วยกันตรวจดูอย่างรอบคอบ


ตอน ราศีของใครเหมาะสมกันที่สุด
คนเราเกิดมาในวันและเวลาที่แตกต่างกัน ก็ย่อมมีนิสัยใจคอที่แตกต่างกันไป โดยปกติคนเรามักจะเลือกคบคนที่มีนิสัยคล้ายกัน รสนิยมเหมือนกัน แต่หากเราต้องพบกับคนที่มีความแตกต่างทั้งเชื้อชาติ ศาสนา ให้ลองคิดพิจารณาหรือทำความเข้าใจดูใหม่จะพบว่าการคบคนที่แตกต่าง สามารถทำให้โลกของเราขยายขอบเขตไปโดยไม่รู้ตัว พ่อสอนว่าคนที่แตกต่างกันอาจเป็นคู่ที่เหมาะสมกันในที่สุดก็เป็นได้


ตอน ปากหวานไม่หวาน
เป็นการสอนเรื่องมารยาทให้กับลูกสาว เนื่องจากลูกแสดงอาการที่ไม่เหมาะสมเมื่อพ่อถามแทนที่จะตอบกลับทำท่าบุ้ยใบ้แทน พ่อคิดว่ายิ่งเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น ยิ่งมีความจำเป็นในเรื่องการสอนมารยาทของการพูดจาให้เหมาะสมโดยยกตัวอย่างสุภาษิตจีนว่า “ชี้ด้วยหน้า สั่งด้วยลม” เป็นกริยาที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง การเสียมารยาท นอกจากแสดงว่าตนเองไร้การศึกษาแล้ว ยังเป็นภัยแก่ตัวอีกด้วย


ตอน ขบวนการกำราบสิว
พ่อต้องการสอนให้ลูกสาวรู้ว่า เป็นเรื่องปกติเมื่อเข้าสู่วัยรุ่นคนส่วนใหญ่มักจะเป็นสิว แต่อย่างไรก็ตามเมื่อมีสิวขึ้นส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกายโดยเฉพาะใบหน้า เราไม่ควรเอามือไปบีบสิวเพราะจะยิ่งทำให้อักเสบ และลุกลามใหญ่โตได้ สิ่งที่ถูกคือหากเป็นมากควรไปพบแพทย์ ในที่สุดลูกสาวก็เชื่อพ่อเพราะวันต่อ ๆ มาพ่อพบว่าลูกใช้ครีมแต้มที่สิวแทนการบีบสิว พร้อมกับสอนว่าหากเลยวัยรุ่นไปแล้วสิวก็จะหายไปเองในที่สุด


ตอน ล้มตรงไหน ลุกตรงนั้น
ลูกสาวของผู้เขียนเป็นนักกีฬาสเกตน้ำแข็ง เมื่อลื่นล้มในการแข่งขันก็รู้สึกเสียใจร้องไห้ไม่หยุด หลิว ยงจึงสอนลูกว่าการแข่งขันนั้นนอกจากจะแข่งกันที่ฝีมือแล้ว ยังต้องแข่งกันที่ความอดทน ดวง และความพร้อมของร่างกาย แม้ฝีมือดี แต่ร่างกายไม่สมบูรณ์ ขาดความอดทน ก็ไม่ควรเสียใจ แต่ควรที่จะสำรวจตนเองว่าเป็นเพราะเหตุใด หากรู้จักรับมือกับความไม่สมหวังในวันนี้ได้ ก็จะก้าวไปสู่ความสำเร็จในวันต่อ ๆ ไป


ตอน จะหันกลับไปทำไม
เมื่อความไม่รอบคอบทำให้ลูกสาวผู้เขียนอ่านคำถามที่ครูออกข้อสอบไม่ละเอียด ผลคือทำข้อสอบได้คะแนนเพียงครึ่งเดียว เมื่อครูบอกเหตุผลก็โกรธไม่พอใจ หาว่าครูออกข้อสอบขี้โกงและอารมณ์เสียเรื่อยมา พ่อจึงต้องสอนลูกว่าความคิดของตนเองที่ว่าควรเป็นเช่นนี้อยู่แล้ว ทำให้เกิดความผิดพลาดมานักต่อนักแล้ว ลูกสาวควรที่จะเรียนรู้ความผิดพลาดของตนมากว่าที่จะโกรธครู ต่อไปไม่ควรประมาทเลินเล่อควรทำความเข้าใจให้ดีก่อนจึงลงมือทำ โดยยกตัวอย่างเครื่องบินที่นักบินร่อนลงในรันเวย์ที่ปิดซ่อมบำรุง ทั้งที่ทางสนามบินได้ประกาศแจ้งให้ทราบล่วง หน้าแล้วว่าให้ใช้รันเวย์อีกทางหนึ่ง เป็นเหตุให้เกิดโศกนาฏกรรมใหญ่หลวงได้เพราะความที่นักบินคุ้นเคยและไม่ทันคิดให้รอบคอบว่าได้มีการประกาศแจ้งเตือนไว้ก่อน ดังนั้นจึงควรเก็บควาผิดพลาดไว้เป็นบทเรียน และต้องไม่ไม่นำความล้มเหลวนั้นมาทำให้วันต่อ ๆ ไป ต้องล้มเหลวอีก


ตอน ถามตัวลูกเอง
เมื่ออยู่ในสังคมเราต้องพบกับการปฏิบัติจากผู้อื่นแตกต่างกันไป เมื่อลูกสาวมาบ่นให้พ่อกับแม่ฟังว่า เพื่อน ๆ ในวงออเครสตราหลายคนไม่ค่อยเอาจริงเอาจัง พ่อจึงสอนว่าหากเราอยากให้ผู้อื่นปฏิบัติต่อเราอย่างไร เราก็ควรสำรวจตนเองว่าเราปฏิบัติเช่นนั้นกับผู้อื่นหรือไม่ หากต้องการให้เพื่อนจริงจังกับการฝึกซ้อมเราก็ต้องเป็นคนเอาจริงเอาจังเช่นกัน โดยยกตัวอย่างสุภาษิตจีนว่า “คนเราต้องเคารพตนเอง ผู้อื่นเขาจึงเคารพเรา คนเราต้องเหยีดหยามตนเอง ผู้อื่นเขาจึงเหยียดหยามเรา”


ตอน เจ็บไข้ได้ป่วย
ลูกสาวรู้สึกหงุดหงิดที่ต้องเป็นไข้เมื่อถึงเวลาใกล้สอบ พ่อต้องสอนให้ลูกรู้จักยอมรับมันแต่โดยดี เพราะถ้าล้มลงแล้วเอาแต่ร้องไห้ จะไม่มีประโยชน์เลยหากไม่ยอมลุกขึ้นมาสู้ใหม่ โดยยกตัวอย่างเรื่องของพี่ชายให้ฟังว่า เคยป่วยหนักตลอดสองสามสัปดาห์ ต้องนอนอยู่ชั้นบนคนเดียว ขณะเดียวกันพี่ชายก็ใช้เวลาดังกล่าวนั้นเตรียมตัวสอบไล่ ทำให้สอบได้คะแนนเกือบเต็ม ทางมหาลัยฮาร์เวิร์ดจึงรับเข้าเป็นนักศึกษาก่อนกำหนด พ่อสอนว่านอกจากไม่มีอะไรจะสูญเสียแล้ว ยังได้ประโยชน์อย่างนับไม่ถ้วน พร้อมกับยกภาษิตจีนโบราณที่น่าฟังไว้ว่า
“ยามชราเจ็บไข้ได้ป่วย เหมือนฝนในฤดูใบไม้ร่วง ทุกครั้งหลังฝนตก อากาศก็จะหนาวขึ้นทุกที ยามเยาว์วัยเจ็บไข้ได้ป่วย เหมือนฝนในฤดูใบไม้ผลิ ทกครั้งหลังฝนตก อากาศก็จะอุ่นขึ้นทุกที”


ตอน ตาแก่อัปลักษณ์
เป็นตอนที่พ่อต้องการสอนให้ลูกสาวรู้จักมองโลกภายนอก เพราะยิ่งโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นยิ่งต้องตระหนักว่าความเปลี่ยนแปลงของโลกย่อมส่งผลกระทบมาถึงเราอย่างแน่นอน หลิว ยง ถามลูกว่ารู้จักอลัน กรีนสแปนหรือไม่แต่ลูกสาวไม่สนใจ แถมว่าแก่ และหน้าตาอัปลักษณ์ พ่อเลยต้องบอกให้รู้ว่าเขาเป็นบุคคลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก เพราะเป็นประธานคณะผู้ว่าการธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกา โดยยกตัวอย่างเรื่องการปรับดอกเบี้ยเงินกู้ธนาคารให้ลูกสาวฟังว่าหากนายอลันประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ ทำให้การจ่ายเงินกู้น้อยลง เมื่อจ่ายน้อยลงก็อาจจะทำให้เราตัดสินใจที่จะซื้อบ้านในช่วงนั้นเป็นต้น ในความเป็นจริงไม่เพียงแต่เรื่องการตัดสินใจซื้อบ้านเท่านั้นแต่ผลพวงของมันจะกระทบกันเป็นทอด ๆ เหมือนลูกตุ้มเหล็ก สามารถขยายผลไปถึงอีกซีกโลกหนึ่งได้ทีเดียว เพราะโลกทุกวันนี้สื่อสารถึงกันได้ตลอดเวลา


ตอน ลองดูอีกสักครั้ง ก็จะสำเร็จ
ลูกสาวอารมณ์เสียเมื่อเข้าอินเตอร์เน็ตไม่ได้ และยังโทษว่าพี่ชายเป็นคนทำให้เข้าอินเตอร์เน็ตไม่ได้ พ่อจึงสอนว่าให้ลองอีกสักครั้ง แต่ลูกสาวกลับหงุดหงิดและบอกกลับไปว่าเข้าไม่ได้ก็เพราะเครื่องมันเสีย ไม่นานพ่อก็พบว่าลูกคุยกับเพื่อน ๆ ทางอินเตอร์เน็ตได้แล้ว จึงเล่าเรื่องเพื่อสอนใจให้ลูกฟังว่ามีชาวไอร์แลนด์ที่อพยพไปขุดทองในเมืองที่มีการขุดทอง หลายคนพากันล้มเลิกเพราะขุดแล้วไม่พบ แต่มีชายคนหนึ่งที่พยายามทำจนถึงที่สุด ปรากฎว่าเขาพบสายแร่ที่มีความยาวลึกลงไปหลายร้อยเมตรมีทั้งแร่เงินและแร่ทอง ซ้ำยังมีความบริสุทธิ์ถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ยังเล่าเรื่องความพยายามของคนให้ลูกฟังอีกหลายเรื่องรวมทั้งประสบการณ์ของพ่อเอง แล้วสอนว่าสักวันหนึ่ง เมื่อทุกคนลงความเห็นแล้วว่าลูกหมดหวัง อย่าเพิ่งท้อแท้ ลองดูอีกสักครั้ง อาจเป็นไปได้ว่า ครั้งที่สองนี้เอง ลูกก็จะทำสำเร็จ


ตอน ลูกรู้จักความรักไหม ?
หลิว ยง ต้องการสอนให้ลูกรู้จักว่าความรักคืออะไร เมื่อครั้งลูกสาวพบว่าปลาทองที่เลี้ยงไว้นั้นตายอีกเป็นตัวที่สอง ก็ร้องไห้ฟูมฟายไปบอกพ่อ และแม่ แต่พ่อก็ถามลูกว่า ลูกรักและเอาใจใส่มันเท่าที่ควรหรือไม่ มีแต่เพียงให้อาหารมันเท่านั้น ไม่เคยเปลี่ยนน้ำ ไม่ได้จัดตู้ปลา แต่เมื่อพ่อให้อาหารปลา ก็ตำหนิพ่อว่าให้อาหารมากไป กลัวว่าปลาจะท้องแตกตายแต่ครั้นพ่อหยุดให้อาหาร ปลาก็มาตายไปอีกตัว หลิว ยง จึงสอนลูกสาวว่าความรักนั้นต้องมาพร้อมกับความรับผิดชอบ ไม่ใช่เพียงแต่หยอกเย้าเพื่อความสนุกสนาน เมื่อไม่อยากสนใจก็ทิ้งไป ความรักต้องมีความอดทน และเสมอต้น เสมอปลาย ขอให้ลูกเอาใจใส่ปลาตัวที่เหลืออยู่ให้มากขึ้น คอยเปลี่ยนน้ำ และให้อาหารมันจะดีกว่า


ตอน คุณหนู คุณหนู อย่าโมโห
พ่อสอนลูกว่ายิ่งโตเป็นผู้ใหญ่ การเก็บอารมณ์ยิ่งเป็นเรื่องสำคัญ ไม่ควรแสดงอาการโกรธหรือโมโหให้ผู้อื่นเห็น เรื่องมีอยู่ว่าลูกสาวเมื่อเริ่มเข้าสู่วัยรุ่นก็เป็นคนโมโหง่าย เรื่องที่โมโหก็ไม่มีเหตุผลเอาเสียเลย พ่อสอนว่าการเก็บอารณ์โมโหนับเป็นมารยาทในสังคมอย่างหนึ่งที่ควรปฏิบัติ แล้วยกตัวอย่างคำให้สัมภาษณ์ของนักแสดงละครบรอดเวย์ที่ในคราวที่ละครจะปิดฉากลงหลังจากที่แสดงมาเป็นเวลาถึงหกปีว่า เขาไม่ใช่นักแสดงที่หากอารมณ์ไม่ดีมาจากที่อื่น ก็มาปล่อยให้ผู้ชมในรอบนั้นต้องมาทนดูการแสดงที่แสนห่วยของเขา แต่ไม่ว่าจะดีใจหรือเสียใจมาจากไหน ร่างกายจะพร้อมหรือไม่ ป่วยไข้ไม่สบาย เจ็บคอ เสียงแห้ง แต่เขาก็จะรักษาระดับฝีมือการแสดงไว้ให้คงที่ และทุ่มเทให้เต็มร้อย ดังนั้นอะไรนิดหน่อยที่ลูกสาวก็ออกอาการ หน้างอ ปากเบ้ เป็นสิ่งที่ไม่ควรแสดงให้ใครเห็น เพราะถ้าทำเช่นนี้จนโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ จะไม่สามารถรับผิดชอบงานใหญ่ได้


ตอน ถึงแม้ว่าลูกชอบ แต่ลูกห้ามทำ
สิ่งที่เราชอบอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกกฎกติกาในสังคมก็เป็นได้ เมื่อครั้งลูกต้องทำข้อสอบภาษาฝรั่งเศส ครูให้เติมบทสนทนาลงในภาพ ลูกสาวของผู้เขียนสามารถทำได้ เพียงแต่สลับข้างจากขวาไปซ้ายแทนที่จะเป็นจากซ้ายไปขวา คุณครูเลยให้คะแนนเพียงครึ่งเดียวทำให้ฝานไม่พอใจ พ่อจึงต้องยกตัวอย่างให้ฟังเรื่องการโต้วาทีในสมัยที่พ่อเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยว่า ฝ่ายตรงข้ามถูกพ่อต้อนเข้ามุมด้วยคำพูดเพียงไม่กี่คำ แต่ปรากฎว่ากลับไม่ได้คะแนนสูงสุด เหตุผลก็เพราะ กติกาบอกไว้ว่าให้ทุกคนพูดสามนาที แต่พ่อใช้เวลาเพียงแค่สิบกว่าวินาทีเท่านั้น จึงต้องโดนหักคะแนน เรื่องนี้จึงสอนให้รู้ว่าการแข่งขันก็ดี การสอบก็ดีล้วนมีกฎกติกาแทบทั้งสิ้น หากทำไม่ถูกกติกาก็ควรถูกหักคะแนนลดหลั่นกันไป แล้วยกตัวอย่างคำพูดของชาวจีนว่า “เมื่อเข้าเมือง จงสอบถามข้อห้าม เมื่อเข้าประเทศ จงศึกษาธรรมเนียม” เพื่อสอนว่าเข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตามนั่นเอง


ตอน ใครจะได้ที่หนึ่งเสมอไป
เมื่อฝานจะต้องสอบหลายวิชาในวันเดียวทำให้เกิดความกังวล พ่อไม่ต้องการให้ลูกเครียด จึงสอนลูกว่าการเติบโตคือการเรียนรู้ที่จะจับหรือวาง การเป็นผู้ใหญ่คือการรู้จักเลือกที่จะจับ หรือวาง เพราะในโลกนี้มีทั้งเรื่องที่ทำไหว และเรื่องที่ทำไม่ไหว คนเราไม่สามารถได้ที่หนึ่งในทุก ๆ เรื่อง คนที่ตระหนักในความจริงข้อนี้ได้ จึงจะเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว แล้วยกตัวอย่างเรื่องในอดีตของพ่อว่า แต่ก่อนจะทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุดเสมอ แม้เมื่อมีงานกองโต แต่ผลปรากฎว่าทำให้งานเกิดความผิดพลาดเพราะความเร่งรีบ นอกจากนั้นยังเหนื่อยกายอีกด้วย ดังนั้นสิ่งที่ควรจะเป็นก็คือเมื่อถึงคราวต้องเผชิญสถานการณ์ที่ต้องทำอะไรพร้อมกันหลาย ๆ อย่าง จงเลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งให้ดีที่สุดก็เพียงพอ


ตอน ไม่ไปโรงเรียน ดีจริง ๆ
เรื่องนี้พ่อต้องการบอกลูกว่า สัญชาติญาณจะสอนให้คนเราปฏิบัติสิ่งที่ถูกต้องในที่สุด เมื่อถึงวันหนึ่งที่หิมะตกหนัก ลูกบอกว่าดี เพราะไม่อยากไปโรงเรียน อาจเป็นเพราะว่าการสอบเยอะเกินไป การบ้านเยอะเกินไป หรือวิชาที่เรียนน่าเบื่อก็ตามที แต่เมื่อมอบอิสระให้เข้าจริง ๆ แล้ว ภายหลังลูกอาจจะเป็นฝ่ายขอไปโรงเรียนเอง พ่อสอนว่าคนเรานั้นต้องใช้ชีวิตอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งเหล่านี้เสมอ ความน่าพิสมัยของชีวิตเรานั้นก็อยู่ที่ความขัดแย้งกันเองระหว่างการ”เคลื่อนไหว” กับการ”อยู่เฉย” นี่เอง ดังนั้นสิ่งมีชีวิตก็จะดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดของตนเอง


ตอน ความรักที่เป็นฝ่ายให้
เมื่อครั้งที่ครอบครัวต้องไปร่วมงานที่ศูนย์คนชรา ซึ่งมีงานจัดเลี้ยง และการแสดง โดยมีเด็กชาวจีนในระดับมัธยมปลายมาช่วยเสิร์ฟ พ่อบรรยายภาพให้ลูกเห็นว่าเพราะความรักความเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน ซึ่งในงานดังกล่าวก็มีคนชราชาวอเมริกันมาร่วมงานด้วย พ่อบรรยายว่าชาวจีนรุ่นหลัง ๆ มักจะแสดงความมั่นใจในตัวเองสูงสุดในบรรยากาศงานเช่นนี้ แม้ในยามปกติจะเป็นเด็กที่ดื้อและเกเรแค่ไหน แต่หากมีโอกาสได้แสดงวัฒนธรรมอันทีงามของประเทศแม่ให้กับชาวตะวันตกเมื่อไหร่ พวกเขาก็จะกลายเป็นเจ้าบ้านน้อย ๆ ในทันที เมื่อทุกคนเป็นฝ่ายให้ก็คงไม่มีใครที่คิดจะรังเกียจเหยียดผิวอีกต่อไป


ตอน หลังสิ้นสียงปืนในรั้วโรงเรียน
ปัญหาเด็กในโรงเรียนไฮสกูลที่โรงเรียนซานตานาพกปืนมาโรงเรียน ต่อมาได้ก่อเหตุรุนแรงยิงเพื่อนบาดเจ็บ และตายไปหลายคนนั้น ทำให้โรงเรียนอื่น ๆ ตัดข่าวแจกให้นักเรียนอ่าน สาเหตุมาจากนักเรียนคนที่ก่อเหตุ ถูกเพื่อนล้อ และรังแกอยู่เสมอ พ่อสอนให้ลูกรู้ว่าแท้ที่จริงแล้ว เพื่อนนักเรียนด้วยกันอาจมีส่วนทำให้เหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ดังนั้นนอกเหนือจากการติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยในโรงเรียนเพื่อป้องกันเหตุรุนแรงแล้วนั้น นักเรียนควรจะเอาใจใส่เพื่อนซึ่งกันและกัน เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกแตกแยกขึ้นในกลุ่ม เพราะถ้าไม่มีคนถูกรังแก ไม่มีคนถูกเหยียดหยาม ไม่มีคนถูกกีดกันรังเกียจ ไม่มีคนอาฆาตแค้น มีแต่ความรัก ความเอาใจใส่แล้ว คงป้องกันเหตุการณ์ร้าย ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในโรงเรียนได้


ตอน ทำไมเขาไม่หย่า ?
เมื่อลูกสาวมีมุมมองว่าชีวิตคู่หากไม่สมหวังก็ควรจะเลิกกันไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรือเรื่องที่ต้องอดทน แต่หลิว ยง มีมุมมองว่าการหย่าร้างยังคงเป็นสิ่งที่ไม่ควรให้เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าเด็กกำพร้าจะไม่แปลกแยกในสังคมปัจจุบันก็ตามที พ่อสอนว่าบนหนทางชีวิตคู่ ต้องมีความหวัง มีความอดทน เพราะจะทำให้ผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ ผู้เขียนไม่อยากให้ลูกมองความสำคัญของการมีชีวิตคู่เป็นเรื่องเล็กน้อย และมองความรักระหว่างสามี ภรรยาในแง่ร้ายมากจนเกินไป หากคนเราไม่สามารถมั่นใจกับความรักของตนเองได้ ก็คงไม่สามารถวาดหวังกับอนาคตอันยาวไกลได้


ตอน เมื่อเขามีสีหน้าไม่ดี
หลิว ยง ถามความรู้สึกประทับใจของลูกสาวที่ได้ดูภาพยนตร์ร่วมกันเรื่องหนึ่ง เพื่อจะสอนลูกสาวว่าบางครั้งการที่คนรอบข้างอารมณ์เสียใส่เรา อาจไม่ได้ตั้งใจแต่เป็นเพราะ คนๆ นั้นหงุดหงิดจากเรื่องอื่น ซึ่งเป็นเพียงความรู้สึกชั่วครั้งชั่วคราว และอารมณ์ของคนเรานั้นก็มีขึ้น ๆ ลง ๆ เป็นธรรมดา บางครั้งคนนั้นอาจจะกำลังไม่สบาย หากคิดได้เช่นนี้นอกจากเราจะไม่โกรธเขาแล้ว เรายังจะเห็นใจเขา และช่วยปลอบโยนเขาด้วย สรุปก็คือหากมีคนทำไม่ดีต่อลูกฝาน ไม่ใช่เพราะลูกเป็นคนไม่ดี แต่ว่าเป็นเพราะพวกเขากำลังมีปัญหาของตัวเอง


ตอน หนังสือของลูก มีวิญญาณไหม?
พ่อต้องการสอนให้ลูกสาวรู้ว่าของสิ่งใดที่เราใช้อยู่เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นเปียโน หนังสือ ภู่กัน สิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นย่อมเกิดความผูกพันกับเรา เปรียบเสมือนมีวิญญาณอยู่ในสิ่งของเหล่านั้น ในอนาคต หลิว ยง ต้องการให้ลูกสาวได้อ่านหนังสือที่ตนเขียนเพื่อลูกจะได้สัมผัสถึงความเป็นตัวตนของผู้เป็นพ่อ และลูกจะได้ใส่ความรู้สึกรักและผูกพันลงไปในหนังสือของพ่อที่ลูกได้อ่าน


ตอน กระต่ายป่ากลับบ้านแล้ว
พ่อพบลูกกระต่ายป่าโดยบังเอิญ จึงจับมาเลี้ยงในบ้าน ลูกสาวก็รู้สึกชอบและอยากจะอวดเพื่อน ๆ แต่เนื่องจากเป็นกระต่ายป่ามันจึงไม่ยอมกินอะไร เมื่อถามคนสวน ๆ ก็แนะนำว่าลูกกระต่ายป่าต้องให้แม่มันดูแล วันหนึ่งมันจะมาให้นมลูกแค่สี่ครั้งเท่านั้น แต่ถ้ากลับมาแล้วไม่เจอลูกมันก็จะไม่กลับมาอีกเลย ในที่สุดพ่อต้องเอากรงกระต่ายที่ลูกสาวเคยเลี้ยง ถอดฝาครอบออก แล้วนำลูกกระต่ายป่าไว้ข้างใน และนำไปทิ้งไว้บนสนามหญ้า ปรากฎว่าลูกกระต่ายป่ายอมกินหญ้า ในขณะที่ลูกสาวพาเพื่อน ๆ มายืนดูอยู่นั้นมันก็กระโดดหนีไปด้วยความรวดเร็ว พ่อจึงสอนว่าหากเปรียบกระต่ายเป็นเหมือนตัวลูก เมื่อถูกลักพาตัว ต้องอดทน พยายามสังเกตหาทางหนีทีไล่ เชื่อฟังคำของแม่ นอนให้อิ่ม กินให้อิ่ม เมื่อสบโอกาสก็ให้หนีออกไปโดยเร็ว


ตอน เมื่อพระผู้เป็นเจ้าทรงลืม
ผู้เขียนต้องการให้ลูกสาวรู้ว่าในโลกใบนี้ คนเรานั้นไม่ได้รับโอกาสอย่างเท่าเทียมกัน บางสังคมเด็กไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือดี ๆ ไม่สุขสบายเช่นลูกสาวของตน ดังนั้นเวลาที่เรารู้สึกรำลึกว่าพระเจ้าช่างมีคุณต่อเรา วิธีตอบแทนที่ดีที่สุดก็คือให้ความช่วยเหลือคนที่พระเจ้าลืมช่วยเหลือ เช่นบริจาคเงินให้พวกเขาอย่างสม่ำเสมอ ประหยัดน้ำกันคนละนิดคนละหน่อย ก็คงจะช่วยให้เด็กยากจนมีโอกาส จนได้เรียนหนังสือเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง


ตอน ความรักไม่มีวันแก่ชรา (บทส่งท้าย)
หลิว ยง เป็นนักเขียนที่มีผลงานเป็นที่ชื่นชมในกลุ่มเด็กผู้หญิงมากมาย ถึงกับขนานนามว่าคุณพ่อหลิว ยง แต่ผู้เขียนกล่าวว่าผมเป็นพ่อธรรมดาคนหนึ่ง พ่อที่รู้จักทำผิดพลาด รู้จักหลงทาง รู้จักแอบเสียน้ำตา เหมือนกับพ่อคนอื่น ๆ ทุกคน และอยากจะบอกกับเยาวชนนักอ่านทุกคนว่า ถ้ารู้สึกว่าพ่อของตนดีกับตนเองไม่พอ หลิว ยง อยากจะบอกว่าอาจเป็นเพราะคุณเป็นฝ่ายผิดเอง ความผิดพลาดไม่ได้อยู่ตรงที่คุณพ่อเขาไม่แสดงออก แต่ผิดพลาดตรงที่คุณไม่ได้ใส่ใจ เพราะความสัมพันธ์ในสายเลือดนั้นไม่มีวันเก่า หรือใหม่ เพราะความรักไม่มีวันแก่ชรา ความรักไม่มีวันหมดอายุ


Create Date : 31 กรกฎาคม 2550
Last Update : 31 กรกฎาคม 2550 19:34:27 น. 24 comments
Counter : 3987 Pageviews.  

 
ทามกานได้ลงคอ เนอะ ลุงเบีย -*-


โดย: LinG LinG 39 IP: 124.120.27.103 วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:26:45 น.  

 


โดย: boatboat วันที่: 31 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:35:26 น.  

 
ไอยไม่ยเข้าจาย


โดย: ฝน IP: 203.113.51.36 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2550 เวลา:20:12:24 น.  

 
^...^ ไม่ขำ 555+


โดย: สังคม IP: 124.121.82.202 วันที่: 28 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:09:16 น.  

 
^.....^ ขำว่ะ ไอ้สังคม ...... 555+


โดย: ธนภัทร IP: 124.121.82.202 วันที่: 28 พฤษภาคม 2551 เวลา:14:10:54 น.  

 
ทีแกล้งกันได้


โดย: หนึ่ง IP: 118.173.17.249 วันที่: 29 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:36:58 น.  

 
รักนะ2009


โดย: หมิว IP: 203.172.198.94 วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:9:28:30 น.  

 
แหม สาระดีๆทั้งนั้นเลย ทำให้เราเป็นคนคิดบวกด้วย

แบบนี้ไปที่ไหนๆก็มีความสุขอ่ะ


โดย: tinger IP: 125.26.155.47 วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:13:29:54 น.  

 
เรื่องนี้โคตรไร้สาระเลยไม่ชอบอะไรก็ไม่รู้


โดย: จันทร์จิรา IP: 222.123.209.148 วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:16:06 น.  

 
555+ไม่รู้เรื่องเลย33


โดย: nui IP: 114.128.5.138 วันที่: 15 สิงหาคม 2552 เวลา:11:04:49 น.  

 
55555555555555555555555+


โดย: 255555 IP: 110.164.21.15 วันที่: 21 ตุลาคม 2552 เวลา:15:31:08 น.  

 
ได้สาระมากๆๆเลยค่ะ ขอบคุนมาก


โดย: ผู้อ่าน IP: 117.47.210.231 วันที่: 27 ตุลาคม 2552 เวลา:11:33:53 น.  

 
บันทึกการอ่านเขาทำกันแบบนี้หรอ ?


โดย: - -" IP: 192.168.2.16, 61.7.168.29 วันที่: 31 ตุลาคม 2552 เวลา:17:33:38 น.  

 
ดีมากมากเลยค่ะ


โดย: เจน IP: 125.26.14.91 วันที่: 3 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:45:32 น.  

 
ขอบคุณค่ะ ได้สาระมาก


โดย: apple IP: 58.8.83.193 วันที่: 6 ธันวาคม 2552 เวลา:16:43:39 น.  

 
ก็ดีนะแต่อ่านยากไปหน่อยนะ


โดย: cat IP: 58.9.140.151 วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:14:07:58 น.  

 
ดีมากเลยค่ะ


โดย: app IP: 58.9.140.151 วันที่: 17 มกราคม 2553 เวลา:14:09:23 น.  

 

+5555 คิดสรุปไม่ออกอะ


โดย: mini IP: 222.123.118.198 วันที่: 24 มกราคม 2553 เวลา:14:44:50 น.  

 
ขอบคุณมากๆครับ


โดย: maxlovefirst IP: 110.49.43.55 วันที่: 3 ตุลาคม 2553 เวลา:13:13:31 น.  

 
อ่านแล้วมีกำลังใจขึ้นอีกตั้งเยอะ


โดย: ป้าผิว IP: 182.93.181.203 วันที่: 14 มิถุนายน 2554 เวลา:17:15:03 น.  

 

ขอเเบบสนุกกว่านี้มีป่าว
อยากได้ข้อคิด ที่มาอะ


โดย: ping_mirror@hotmail.com IP: 58.9.30.239 วันที่: 8 สิงหาคม 2554 เวลา:10:58:41 น.  

 
อาไยยะ


โดย: ╭∩╮(︶︿︶)╭∩╮ IP: 180.180.112.13 วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:16:18:05 น.  

 
ขอเบอร์คนที่เป็นผู้หญิงหน่อย


โดย: เด็กหนุ่มสุดหล่อ IP: 110.171.20.218 วันที่: 2 ตุลาคม 2554 เวลา:17:14:14 น.  

 
さいよなら、良いゲームですね


โดย: เคลมี่ IP: 124.122.138.100 วันที่: 2 ธันวาคม 2555 เวลา:14:45:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

beer87
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




บทความแปลล่าสุด

"คุณเล่นบทมนุษย์ต่างดาวเป็นไหม"

ภาพของวานวานได้รับอนุญาต
จากเจ้าของลิขสิทธิ์ถูกต้อง

ปล.
บล้อก ของวานวานภาคไทย


บล้อก ของซานะภาคไทย


งานที่เพิ่งแปลเสร็จ


"สัญญารัก หิมะโปรย"
โดย TOMO














[Add beer87's blog to your web]