b E E p U e N G
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2549
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
12 กรกฏาคม 2549
 
All Blogs
 
BKK-SYD #2

4-11 July 2006

อิอิ ได้ไฟล์ทกรุงเทพอีกแล้ว ดีใจจริงๆ แต่จะว่าไป ไฟล์ท กรุงเทพ-ซิดนี่ย์ นี้เหนื่อยเอาการเลยทีเดียวนะคะ ความยาวของ pattern นี้ ก็ปาไป 8 วันแล้ว และจาก กรุงเทพ ไป ซิดนี่ย์ ก็ใช้เวลาบิน ประมาณ 9 ช.ม เลยทีเดียว และ Emirates ใช้เครื่อง Boeing 777 บิน ซึ่งไม่มี BCRC หรือ Crew Bunk (ห้องให้ลูกเรือนอนพัก) ไว้ให้เราได้พักเลย ก็ได้แต่นั่งพักตรงที่นั่งผู้ดดยสารธรรมดา ซึ่งจะนอนก็ไม่ได้ (เพราะ purser ส่วนมากมักไม่ให้เรานอนหลับตรงที่นั่งผู้โดยสาร) พวกเราก็ต้องนั่งดูหนังไป

ไฟล์ทนี้เริ่มต้นไฟล์ท ดูไบ-กรุงเทพ ก็มีผู้โดยสารป่วยบนเครื่องแล้วค่ะ เป็นหอบหืดขั้นหนักเอาการอยู่ มีการประกาศเรียกหาคุณหมอบนเครื่องด้วย ซึ่งก็โชคดี มีหมอบินในเครื่องวันนั้นพอดีค่ะ อุปกรณ์ต่างๆนานาก็ขนออกมาหมดค่ะ ผึ้งได้เห็นผู้โดยสารคนนั้นแป๊บเดียว ก็ตอนเดินเอาอุปกรณ์ไปให้ เพราะเค้าย้ายผู้โดยสารไปนอนตรง first class เพราะจะได้มีที่กว้างๆ ไปถึงก็เข้ากำลังยุ่งๆกันอยู่ เลยต้องไปยืนถือถังอ๊อกซิเจนให้สักพัก ถืออยู่ก็ดูว่า เอ๊ะ... เค้ายังไม่ได้เปิดอ๊อกซิเจนนี่นา ไอ้เราก็ตายละ ทำไมไม่เปิด ก็เลยรีบบิดที่เปิดๆให้ผู้โดยสาร พอเปิดได้แป๊บเดียว ผู้ดดยสารทำท่าหายใจไม่ออก ไอ้เราก็ตกใจสิคะ ทำไมเราเปิดออกซิเจนให้แล้วเป็นงี้ ตกใจเลยรีบปิดกลับเหมือนเดิม แล้วค่อยๆเปิดใหม่ ทีนี้เค้าก็ดีขึ้นค่ะ เล่นเอาเราตกใจหมดเลย หลังจากนั้นคุณหมอก็ฉีดยา รักษานู้นนี่ไป แล้วเค้าก็ค่อยยังชั่วขึ้นค่ะ แต่ผู้โดยสารต้องลงที่ กรุงเทพ ไม่ได้รับอณุญาติให้บินต่อไปซิดนี่ย์ค่ะ เพราะเห็นว่าไม่ fit to fly อะค่ะ

ไฟล์ทนี้คนไทยเยอะมากๆๆค่ะ ในจำนวนลูกเรือที่ทำงาน economy class ทั้งหมด มีคนไทย 6 คน อีกคนเป็น ไอแลนด์ และอีกคนเป็น SFS ผู้ชาย (รองจาก purser) ซึ่งเป็นคนเลบานอน ทั้งpattern ที่ไปด้วยกันจะมีหัวหน้าอยู่ 3 คน เป็น purser 1 คน และ SFS อีก 2 คน... purser เป็นคนโมรอคโค (พูดภาษา อาราบิก ได้) ส่วน SFS เป็นผู้ชายทั้งสองคน มาจาก เลบานอนทั้งคู่ด้วยค่ะ... SFS สองคนนี้จะสลับกันทำงาน คนนึงจะคุมที่ Business class ส่วนอีกคนก็จะคุมที่ economy class แล้วเรื่องราวก็เริ่มขึ้น...

ตอนประชุมกันก่อนขึ้นเครื่อง... ถามนู้นนี่มากมายก่ายกองไม่จบไม่สิ้นซักทีนะคะ ( แต่ก็ไม่เป็นไร มันหน้าที่ของเค้า ) พอขึ้นมาบนไฟล์ท purser คงเป็นคงบ้าไมค์ค่ะ ประกาศนู้นนี่อยู่ตลอดเวลา ไอ้ที่สำคัญไม่ค่อยจะบอก อย่างจำนวนผู้โดยสาร หรือ เวลาที่ใช้ในการบิน แต่ที่ไม่เห็นจะต้องบอก ก็ขยันพูดเหลือเกิน ไม่ใช่หน้าที่ๆตัวเองจะต้องพูด ก็พูด อย่าง "cabin crew take your seat for landing" ( หน้าที่ กัปตัน) แถมไม่ค่อยทำงานอีกนะคะ ผู้โดยสารมีปัญหา ไม่มีที่นั่งเพราะ ground staff เปลี่ยนที่นั่งของเค้า ผู้โดยสารเลยเดินมาถาม หนึ่งในลูกเรือคนไทย...พี่คนนี้เลยเดินไปหา purser แต่ purser ไม่ทำอะไรเลย ได้แต่บอกว่า you ก็ไปถาม ground staff เองแล้วกัน ... ไฟล์ทนี้หามาตรฐานอะไรก็ไม่ได้ค่ะ purser บอกว่าลูกเรือที่ไม่ได้อยู่ในช่วงเวลาพัก ห้ามเอา นิตยสารมาอ่าน แต่ผึ้งก็เห็น SFS เอามานั่งอ่าน พอถาม SFS ว่าอ่านได้หรอ เค้าบอกว่าอ่านได้ พอเราบอกว่าแต่ purser ไม่ให้อ่าน SFS ก็เลยบอกว่า พอ purser มาก็ไม่ต้องอ่านสิ

ต่อมา SFS อีกสองคนที่มาจากเลบานอน... ชื่อ Sam กะ Firas ไม่รู้จะเล่ายังไงดีหมด เค้าใช้ไม่ได้เลยอะค่ะ เค้าสองคนทำให้ สถิติในการเจอคนเลบานอนของผึ้งยังคงเป็น perfect score เหมือนเดิม ( ไม่ดีซักคน ) SFS สองคนนี้ไม่ค่อยทำงาน ด่าเป็นอย่างเดียว เค้าคงเห็นว่าลูกเรือไทยเยอะ กลัวพวกเราจะจับกลุมกันประท้วงหรือไงไม่รู้นะคะ แต่เค้าไม่ทำอะไรเลย แถมยังมาทำพูดว่า หยิบของอะไรไปให้จัดเข้าที่เดิม ไม่ใช่ว่าเค้าไม่อยากทำให้นะ แต่บางทีพวกคุณอาจไปเจอ SFS บางคนที่ไม่ยอมทำอะไรเลย แล้วพวกคุณจะทำไง (ก็เค้านั่นแหละ ไม่ทำอะไรเลย) มาว่าๆพวกเราต่างๆนานา แถมไฟล์ทสุดท้าย Firas มาทำงานที่ economy class มาขโมยที่ตัด seal ของผึ้งด้วย (คาร์ทอาหาร หรือ container ต่างๆเวลาโหลดมาใหม่ๆ เค้าจะ seal มา และseal มันแข็งมาก ground staff ที่ออสเตรเลีย เค้าจะมีที่ตัดซีล แล้วเค้าให้ผึ้งมาคราวก่อน) ขนาดผึ้งขอคืนแล้ว Firas มันก็มาเอาไปอีก ทวงคืนก็ไม่ยอมคืน และไฟล์ทสุดท้าย วีดีโอเกี่ยวกับการป้องกันเหตุฉุกเฉินมีปัญหา พวกเราเลยต้องมายืนทำ demo กันเอง... Firas ก็มาเรียกไปด่าอีกว่าพวกคุณห่วยแตกมากเลยนะ ถ้าเป็นอย่างนี้อีก ฉันจะต้องเขียน report ส่งบริษัทแล้ว ว่าเป็นชุดๆ... พวกเราก็รู้ว่าเราไม่ได้ทำได้ดี เพราะปกติเราก็ไม่ต้องมานั่งทำ แต่พูดกันดีๆก็ได้หนิ ไม่ใช่มาว่ากันแบบนี้ แล้วทำสีหน้าไม่ดี แล้วยังชอบพูดคำหยาบภาษาไทยใส่พวกเราอีก (ไม่รู้ใครสอนเค้า)... ตอนขากลับจากซิดนี่ย์ มา กทม ก็เหมือนกัน ทำงานกับ Firas อีก พวกเราทุกคนก็ทำงานเสร็จหมดละ ตามปกติ SFS ก็ต้องรีบแบ่งเวลาพักให้ลูกเรือเป็นสองรอบแล้ว แต่นี่ไม่แบ่งให้ซักที หายตัวไปไหนไม่รู้ มีน้องคนไทยคนนึงเลยเดินไปถาม ปรากฏว่าโดนเค้าด่ามาอีกว่า เรื่องการพัก คุณต้องอดทนรอสิ จะมาถามได้ไง แล้วก็พูดไรอีกไม่รู้ต่างๆนานา น้องคนนั้นเลยซวยไป .....

และเพื่อนก็ส่งรูปมาให้ค่ะ นี่แหละค่ะ หน้าตาของ Firas


ส่วน Sam ก็ใช่ว่าจะดีนะคะ แต่ถ้าเทียบแล้วก็ยังดีกว่า Firas เยอะ... Sam นี่ก็ไม่ค่อยทำงานเหมือนกัน เวลาทำอะไรก็ช้าๆๆๆ แล้วมาบอกว่าพวกเราควรทำให้เร็วกว่านี้ แล้วชอบพูดเหมือนจะดุถูกว่าพวกเราคนไทยไม่เข้าใจภาษาอังกฤษดีเท่าไหร่ ชอบพูดเน้นๆ ช้าๆ ย้ำๆว่าไม่เข้าใจให้ถามได้ ย้ำๆๆๆ อยู่อย่างนั้น......... เฮ้อ เรื่องจิงมีเยอะมากกว่านี้มากมาย จนจำไม่ได้ และไม่รู้จะเล่ายังไงหมด ไม่ชอบเลยจิงๆ ยังไงก็ขอให้อย่ามาเจอกันอีกเล้ยยย.... สาธุ

ไปซิดนี่ย์คราวนี้ออกไปเดินมาหลายที่เหมือนกัน แต่ไม่ได้เดินนาน อีกอย่างลืมเอากล้องออกไปค่ะ อดถ่ายรูปมาฝากเลย มีแค่รูปจากกล้องของคนเพื่อนๆ พี่ๆที่ไปด้วยกันค่ะ เอาไว้ถ้าไปอีกจะถ่ายรูปเมืองซิดนี่ย์มาแปะให้ดูค่ะ คราวนี้เล่าให้ฟังอย่างเดียวแล้วกันนะคะ

ไปถึงซิดนี่ย์หลังจากไฟล์ท Auckland ก็ออกไปกินอาหารเกาหลีกันค่า อร่อยเลยทีเดียว อิอิ


ส่วนนี้บนเครื่องระหว่างจอดรอที่ Auckland ค่า ถ่ายกะแซนวิส สุดแสนไม่อร่อยที่เค้าเอามาให้กินด้วยค่ะ เหอๆ แต่ก้กินนะคะ


สองถนน shopping หลักๆที่ซิดนี่ย์คือ Pitt Street และ George Street โชคดีมากที่ทั้งสองถนนนี้อยู่ใกล้กับโรงแรมที่พักแบบเดินไปได้เลย ค่อนข้างสะดวกมากๆค่ะ ยิ่งตอนนี้หน้าหนาว เดินสบายหน่อย ไม่ร้อนค่ะ แต่ที่แย่ก็คือ ห้างร้านที่นี่ปิดกันเร็วมาก 6โมงทุ่มนึงก็ปิดกันแล้ว ไอ้เราตื่นมาก็บ่ายสามแล้ว เดินได้แป๊บเดียวเองค่ะ ติดกับถนน Pitt Street ก็มีสวนสาธารณะที่มีชื่อของที่นี้ ชื่อว่า Hyde Park ตอนที่ไปห้าง Myer ชื่อดังของ Sydney กำลังลดราคา แต่พูดจิงๆ ก็ไม่เห็นมีอะไรน่าซื้อเลยค่ะ ไม่ได้อะไรกลับมาซักอย่าง ร้านเสื้อผ้าต่างๆ ลดราคาแล้วก็ไม่เห็นว่าจะถูกนะคะ ก็เลยไม่ได้ซื้ออะไรมาอีกเช่นกัน ผึ้งว่ามาชอปปิ้งที่เมืองไทยสนุกกว่ามากมายเลยทีเดียวค่ะ บนถนน Pitt Street มีคนเดินเยอะมากๆค่ะ เค้าทำถนนน่าเดินดีเหมือนกันนะคะ มีเป็นร้านๆ หลายยี่ห้อมากมายค่ะ ห้าง David Jones ก็อยู่แถวนั้นค่ะ คนไทยส่วนมาก (แม้แต่ตัวผึ้งเอง เมื่อก่อนนี้)คิดว่าเค้ามีแต่ครีม แต่ที่นี่เค้าเป็นห้างเลยนะคะ แต่ก็ขายสินค้ายี่ห้ออื่นด้วยเหมือนกันนะคะ เนื่องจากคราวที่แล้วที่มาไม่ได้กินข้าวหน้าเป็ด คราวนี้ผึ้งก็เลยเดินเลยจากถนน George Street ลงไปถึง China Town ใช้เวลาประมาณ 10-15 นาที เพื่อไปกินขาวหน้าเป็ดนะคะ เสียดายกระเพาะใหญ่ไม่พอ จิงๆแล้วอยากกินโจ๊กด้วยอะค่ะ...ไม่เป็นไร รอบหน้าละกันนะโจ๊กนะ ขาเดินกลับ ก็แวะซื้อโดนัท อยู่ใกล้ๆกะโรงแรม ร้าน Krispie Kream อร่อยมากๆค่ะขอบอก แป้งนุ่มมากๆ และก็เลยซื้อกลับมา กทม ให้แม่ และพี่โต้งกินด้วย หลังจากร้านเค้าปิดกันหมด ก็เลยต้องเดินกลับโรงแรมค่ะ กลับมานั่งดูละครเกาหลีต่อ อิอิ

กลับมากรุงเทพ...ก็ต้องไปชอปปิ้งที่แหล่งประจำ ไปมันทุกครั้งที่มา กทม เลยค่ะ อิอิ...หลังการบินไทยนั่นเอง สนุกสนานเฮฮา เสร็จก็ไปกินโออิชิ แล้วกลับบ้าน เตรียมตัวบินกลับดูไบนะคะ ... ยังอยากอยู่ต่อนี่นา

และไฟล์ท กรุงเทพ-ซิดนี่ย์ ก็จบลงอีกรอบค่ะ...ตอนนี้เริ่มจะชอบซิดนี่ย์แล้ว ไม่เหมือนตอนที่อยู่แจลนะคะ คงเพราะตอนนั้นโรงแรมอยู่ไกล เข้าเมืองต้องนั่งรถไฟมาอีก เลยไม่ค่อยชอบมาซิดนี่ย์มั้งคะ แต่ตอนนี้ โรงแรมก็ดี ใกล้ก็ใกล้ เลยเริ่มชอบแล้วหล่ะค่ะ





Create Date : 12 กรกฎาคม 2549
Last Update : 27 ตุลาคม 2549 3:16:11 น. 4 comments
Counter : 371 Pageviews.

 
สู้ๆ ค่ะ


โดย: ปลา IP: 202.12.118.36 วันที่: 19 กรกฎาคม 2549 เวลา:10:30:35 น.  

 
อืม ท่าทางทริปนี้ก็จะเป็นอีกทริปที่ต้องเหนื่อยนะคับ ตามปกติเขาไม่ให้เราคอมเมนท์ SFS กลับบ้างเหรอคับ แต่โดยร่วมดูแล้วท่าทางจะชอบชิดนีย์เค้าให้แล้วอะ แต่ผมว่ามันเหมือนกรุงเทพเลยอะคนเยอะมาก ไม่เหมือนเมล์เบริน์ ที่สงบกว่านะคับ


โดย: juapung IP: 210.86.130.21 วันที่: 19 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:01:05 น.  

 
trip นี้เหนื่อยสุด เยินสุดตั้งแต่ทำมาเลยหล่ะค่ะ เนื่องจาก SFS ผู้เเสนจะ... จิงๆอยากให้เค้ามีให้เรา comment กลับ SFS เหมือนกันเนอะคะ แต่เสียดายไม่มี

ช่ายค่ะ ซิดนี่ย์ผู้คนมากมาย เมลล์เบิร์นเคยไปแว๊บเดียวตอนโดน divert อะค่ะ ต้องไว้ลองได้ไปจิงจังดูท่าจะดีนะคะ ได้ข่าวว่าคนไทยเยอะเหมือนกันนะคะ แต่ที่ซิดนี่ย์เนี่ย เดินไปเดินมาก็ได้เจอคนไทยเต็มไปหมดค่ะ อบอุ่นดีไปอีกแบบนะคะ


โดย: beepueng IP: 213.42.21.81 วันที่: 20 กรกฎาคม 2549 เวลา:4:32:44 น.  

 
แงๆ เค้าอยากได้ไฟลท์ BKK-SYD มั่งอ่า ยังไม่เคยได้เลย ว่าแต่เสื้อกันหนาวของพี่ตัวนี้สวยดีจังค่ะ ไม่เคยเห็นเลย...


โดย: KaE IP: 213.42.21.81 วันที่: 29 กรกฎาคม 2549 เวลา:17:37:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

bee_nahmpueng
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add bee_nahmpueng's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.