"รัก" และ "กำลังใจ" ฉันมีไว้เพื่อแบ่งปัน Blog ของสาวน้อยขี้เหงาและช่างฝัน (Beee Diary & Music)
Group Blog
 
 
มีนาคม 2552
 
14 มีนาคม 2552
 
All Blogs
 
ตำนานเจ้าแม่กวนอิม ตอนที่ ๖ โศลกปริศนาจากหนุ่มลึกลับ และการเริ่มศึกษาพระธรรมของพระธิดาเมี่ยวซ่าน

ตำนานเจ้าแม่กวนอิม

ตอนที่ ๖
โศลกปริศนาจากหนุ่มลึกลับ และการเริ่มศึกษาพระธรรมของพระธิดาเมี่ยวซ่าน




พระนางทิ้งไว้แต่คำตรัสสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้ายต่อพระธิดาสามว่า "ลูกรัก แม่คงมิได้อยู่เห็นเจ้าเติบใหญ่มีครอบครัวที่เป็นสุข แม่เสียใจเหลือเกิน ต่อไปนี้เจ้าจงทำตามพระทัยเสด็จพ่อ อย่ายึดถือความเชื่อของตนอีกเพราะจะทำให้เสด็จพ่อเสียพระทัย" ขาดคำพระนางก็ทรงมีอาการกระตุกและสิ้นพระชนม์ พระธิดาองค์ใหญ่และองค์รองกรรแสงอย่างโศกเศร้า ส่วนพระธิดาเมี่ยวซ่านนั้นเสียพระทัยจนหมดสติลง เหล่านางกำนัลต้องพยาบาลกันอลหม่าน

การจากไปของพระมเหสีอันเป็นที่รักยิ่งของพระสวามี พระธิดาทั้งสาม และเหล่าชาวเมือง ทำให้ทั้งอาณาจักรซิงหลิงตกอยู่ในความโศกเศร้าอย่างเหลือประมาณ โดยเฉพาะพระธิดาเมี่ยวซ่านที่แม้นมีพระชันษาเพียง ๗ ปี แต่กลับต้องสูญเสียพระมารดาที่รักยิ่งไปต่อหน้าพระพักตร์

ฝ่ายพระเจ้าเมี่ยวจวงนั้น เสียพระทัยจนไม่เป็นอันทำสิ่งใด เฝ้าแต่ทอดพระเนตรกระดาษแผ่นหนึ่งที่ทหารนำมาถวาย โดยกล่าวว่ากระดาษแผ่นนี้ ตกอยู่ในที่คุมขังโล้วนาปู้เจี้ยน ภายในกระดาษมีอักษาเขียนเป็นโศลก (โศลก หมายถึง คำขับร้องสรรเสริญ) สี่บรรทัดทิ้งไว้ว่า

"แต่เดิมธรรมอันวิเศษมีหกสาย
ผลที่สุดความดีฉายเหนือยิ่งใหญ่
มองความว่าง ฤา สีหน้ากิเลสไร้
เสาะแสวงแต่เสียงไห้ปริเวทนาการ"

พระเจ้าเมี่ยวจวงหักห้ามความเสียใจ พิจารณาข้อความในโศลกนั้น ๆ จนตีความได้ว่า ธรรมอันวิเศษ หมายถึง เมี่ยว บรรทัดที่สองปรากฏคำว่า ความดี หมายถง ซ่าน ส่วนในบรรทัดที่สามมีคำว่า มอง หมายถึง กวน และต่อมามีคำว่า เสียง หมายถึง อิม รวมความแล้วคือ เมี่ยวซ่านกวนอิม แต่จะแฝงความนัยสื่อถึงสิ่งใดนั้นพระเจ้าเมี่ยวจวงมิอาจรู้ได้เลย

การหายตัวไปของนักโทษโล้วนาปู้เจี้ยนและการสิ้นพระชนม์ของพระมเหสีได้รับการกล่าวขานไปทั่วเมือง บ้างก็ว่าชายลึกลับเป็นพุทธเทวะแปลงมา เพราะแม้นเครื่องจองจำพันธนาการตั้งแต่คอจรดเท้าก็มิอาจกักขังเขาไว้ได้ บ้างก็ว่าพระนางเป้าเต๋อสิ้นเพราะพระเจ้าเมี่ยวจวงสั่งประหารโล้วนาปู้เจี้ยน ใครเลยจะทราบว่าพระเจ้าเมี่ยวจวงเสียพระทัยกับการกระทำที่มิอาจย้อนคืนของพระองค์ยิ่งนัก



เจ้าแม่กวนอิม ปางประทานพร ยืนประทับนิ่ง เนื้อโลหะสีทอง ประดิษฐานอยู่ ณ โรงพยาบาลเทียนฟ้า ตั้งอยู่ริมถนนเยาวราช เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร


ฝ่ายพระธิดาเมี่ยวซ่านนั้นเล็งเห็นว่าความทุกข์และความตามไม่มีใครหนีพ้นได้ อีกทั้งตนต้องอกตัญญูยิ่งนักเมื่อยังมิได้ตอบแทนคุณพระมารดา ทางเดียวที่เราจะบรรเทากรรมนี้ได้คือสละกายแห่งปุถุชนสู่หนทางแห่งพุทธธรรม จากวันนั้นเป็นต้นมาพระธิดาเมี่ยวซ่านทรงท่องภาวนาพระสูตรบำเพ็ญตน พร้อมกับพระน้านางผู้เป็นน้องสาวแท้ ๆ ของมเหสีเป้าเต๋อและเป็นพี่เลี้ยงของพระธิดาสามอย่างเคร่งครัดเรื่อยมา

ความตั้งมั่นของพระธิดาเมี่ยวซ่าน แม้พระเจ้าเมี่ยวจวงก็มิอาจทัดทานได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะยังทรงเสียพระทัยที่พระมเหสีจากไป และเห็นว่าการท่องบ่นพระสูตรนั้นเป็นเรื่องน่ารำคาญก็จริง แต่ย่อมดีกว่าการออกไปช่วยมดหรือจั่กจั่นจนเจ็บตัวปางตายยิ่งนัก

ทว่าในใจจริงของพระธิดาเมี่ยวซ่านนั้นมุ่งหวังที่จะเข้าเป็นพุทธสาวิกา คือออกบวชเป็นภิกษุณีเพื่อบำเพ็ญธรรมนสำเร็จสมบูรณ์ แล้วจึงจะโปรดบรรดาสรรพสัตว์ให้พ้นจากความทุกข์เข็ญ ชาวโลกจักได้พบความสุขอันแท้จริง



คืนหนึ่ง ขณะพระธิดาเมี่ยวซ่านกำลังบรรทมครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่บนพระที่ พลันก็มีแสงสว่างโพลงเจิดจ้าขึ้นทั่วตำหนัก ตรงกลางแสงนั้นปรากฏร่างของพระพุทธองค์ พระวรกายสีทองเปล่งรัศมีโดยรอบ ประทับยืนอยู่กลางดอกบัว พระธิดาเมี่ยวซ่านรีบทรุดกายลงกราบ และอ้อนวอนให้ทรงชี้แนะทางที่ถูกต้องให้ พระพุทธองค์ตรัสว่า สังขารแลทุกข์ไม่เที่ยง ผู้รู้แจ้งสำเร็จจะทำใจให้เข้มแข็งขจัดทุกข์ได้ที่สุด จะเป็นผู้บริสุทธิ์รู้แจ้งด้วยตนเองเมื่อถึงเวลา พระธิดาถามว่าตนจะสำเร็จเป็นผู้วิเศษเมื่อใด จึงได้รับคำตอบว่า ในไม่ช้านี้ เมื่อเจ้าได้ดอกบัวแห่งเขาซีมี่ซานและแจกันหยกขาวที่มีน้ำสุธาทิพย์โดยมีผู้มอบให้ จงจำไว้ให้ดี ตรัสจบก็ทรงหายวับไปพร้อมแสงจ้าที่ดับวูบลง

นับจากวันนั้น พระธิดาเมี่ยวซ่านยิ่งทรงมุ่งมั่นศึกษาพระธรรมจากพระไตรปิฎก ละวางสิ่งบันเทิงจนหมดสิ้น เพื่ออุทิศเวลาบำเพ็ญภาวนาอย่างจริงจัง จนแตกฉานในพระพุทธธรรม

วันคืนล่วงเลยไปจากพระธิดาน้อยได้เจริญวัยเป็นสาวงามสะพรั่งมีพระชนมายุครบ ๑๖ พรรษา และยังคงฝักไฝ่ในทางธรรมเสมอมา ท่ามกลางความไม่พอพระทัยของพระราชบิดาและความริษยาของพระพี่นางทั้งสอง จะมีก็แต่พระน้านางเพียงองค์เดียวที่คอยดูแลและสนับสนุนให้พระธิดาเมี่ยวซ่านได้ปฏิบัติธรรมอย่างเต็มที่เรื่อยมา

จบตอนที่ ๖
ติดตามต่อตอนที่ ๗ การแต่งงาน และการรับบทลงโทษแรก



หมายเหตุ: หากท่านใดต้องการนำเนื้อหาและภาพจากเวปนี้ไปเผยแผ่ต่อ อนุญาตให้ทำได้ แต่ขอความกรุณาลง credit อ้างอิงที่มาเป็นมารยาทและให้เกียรติกันซักนิดนะคะ เพราะเนื้อหาทั้งหมดใช้เวลาพิมพ์นานมิใช่น้อย อย่าเพียงแค่ก๊อปปี้กันไปโดยไม่คำนึงถึงความพยายามของผู้ทำด้วย

Beee - เจ้าของบทความ



Create Date : 14 มีนาคม 2552
Last Update : 14 กรกฎาคม 2552 14:02:31 น. 3 comments
Counter : 1512 Pageviews.

 

แหล่มจ๊ะน้องบี แวะมาเจิมบอกให้ทราบจ้า


โดย: อุ้มสี วันที่: 14 มีนาคม 2552 เวลา:10:07:17 น.  

 
น่าสนใจค่ะ


โดย: กระจ้อน วันที่: 14 มีนาคม 2552 เวลา:15:50:37 น.  

 
น่าสงสารเวทนาพระธิดาสาม ต้องมาเป็นเด็กกำพร้าในวัยเจ็ดขวบ
แต่พระเจ้าเมี่ยวจวงไม่น่าเสียพระทัยว่าการกระทำของพระองค์จะเป็นการทำผิดต่อพระมเหสี
บุคคลย่อมต้องเกิด แก่ เจ็บ และตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ (นักวิทยาศาสตร์ไม่กล้าเถียง)
แต่การที่บุคคลอื่นป่วยตาย ทำไมถึงเป็นภาระและความผิดของเราด้วยเล่า
เราอยากให้เขาตายหรือ? เราทำให้เขาเจ็บจนตายหรือ? คิดไม่สอดคล้องเลย
พี่มีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง เขานอนเฝ้าแม่ที่ป่วยอยู่ที่บ้าน นอนข้างๆเตียงคนป่วยนี่แหละ
พอตื่นเช้ามา แม่ก็ไม่ตื่น (คือหลับไปนิรันดร) เขาก็โทษตัวว่าไม่น่าเผลอนอนหลับไปเลย
แม่อาจจะร้องเรียกเขาก็ได้ พี่เห็นเข้าร้องไห้อยู่หลายวันเลย ใครปลอบอย่างไรก็ไม่ฟัง

มีข้อสังเกตที่ต้อง comment ไว้หน่อยก็คือ
จากตำนานที่นำมาเล่าให้ฟังนี้ ต้องระวังอย่ารีบจดจำไปว่า
ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นพระโพธิสัตว์ เป็นผู้ที่เรียนธรรมโดยปราศจากอาจารย์ได้ง่ายๆ
ในเรืองทางพุทธของไทย เราก็ทราบกันดีว่า เจ้าชายสิทธัตถะยังต้องเรียนสารพัดวิชา
ทั้งวิชาการศึก การปกครอง การบริหารบ้านเมือง ประวัติศาสตร์ วิทยาการ(เทคโนโลยี่ในสมัยนั้น)
การฑูต เกษตรกรรม ศิลปกรรม ฯ ตลอดจนเรื่อง
การทำมาหากินในอาชีพต่างๆของพลเมือง(หลายๆวรรณะ)ของพระราชบิดา
อีกทั้งเมื่อทรงออกบวช ก็ได้เรียนทั้งทฤษฎีและปฏิบัติจากอาจารย์ที่เก่งๆมากมาย
ยังไมสามารถบรรลุอะไรได้เลย ได้แต่มีจิตที่เข้มแข็งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
จนต้องถึงวันเพ็ญเดือน 6 เมื่อพระชันษาได้ 35
อันนี้ไม่ได้มา discradit ตำนานของจีนเขาหรอกนะ (ขี้เกียจเอาเกี๊ยะออกจากซอกฟัน)
จะเห็นว่า เรื่องพุทธประวัติทางสายอินเดียที่เราๆคนไทยส่วนใหญ่ได้เรียนมา จะพบว่า
คนจะเป็นผู้บรรลุธรรม ต้องมีการเกิดมาเทส(test)กับชีวิตของสัตว์และคนตั้ง 8 ชาติภพ
และในภพที่ 9 ก็เจอเรื่อหนักหนาสาหัสเสียเหลือเกิน
จนในภพชาติสุดท้าย ต้องให้เทวทูตทั้ง 4 มาปรากฎกุศลโลบาย
ซึ่งคำว่าทั้ง 4 นี้ประกอบด้วย คนแก่ คนเจ็บ คนตาย และคนสุดท้ายไม่ใช่คนเกิด
อย่างที่หลายคนชอบตอบเวลาเขาถามว่ามีอะไรบ้าง คำตอบที่ถูกคือ "นักบวช"
แถมยังต้่องผ่านการแต่งงาน คือมีพระมเหสี เมื่อมีพรชนมายุ 16 พรรษา
ผ่านการมีพระราชโอรส เมื่อมีพระชนมายุ 29 พรรษา
ผ่านการบวชที่พลิกชีวิตการเป็นอยู่
ต้องไปเรียนวิชากับอาจารย์ในที่ต่างๆมากมาย ถนนหนทางก็ไปมาลำบากยิ่ง
แถมยังต้องบำเพ็ญทุกขกริยา
หาประสบการณ์นานถึง 6 ปี

ตำนานที่บีเอามาฝากนี้เกิดในช่วงปี พ.ศ. อะไรหรือ?
บีว่า ก่อนหรือหลัง พ.ศ. 1 หละ?
พี่ลองอ่านบทความของ Sir Charles Eliot
เขาได้วิจารณ์และอธิบายไว้ว่า "เมี่ยวซ่าน" นั้นเป็นชื่อของเทพเจ้าวีรสตรีของจีนมานานมากๆ
ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องเดียวกันหรือคนละตำนานกับที่บีกำลังเล่าให้ฟังอยู่
แต่ชื่อ ภาษาจีน นั้นมีสิทธิซ้ำกันได้อยู่แล้ว
ส่วนใคร(บ้า)ชอบวิชาการ ก็ลองหาอ่านเพิ่มจาก พระสัทธรรมปุณฑรีกสูตร
ถ้าใจเป็นกลางได้ก่ิอนอ่านอะไรๆ ก็จะเข้าใจอีกมุมมอง จะเห็นอะไรลึกกว่าที่ตัวเองคิดไว้
จะเข้าใจว่าทำไมคนเกือบทั่วโลกรู้จักและเคารพบูชาเจ้าแม่กวนอิม
ซึ่งเป็นตำนานพระโพธิสัตว์สตรี ในยุคที่ผู้ชายเหยียบผู้หญิงไว้ติดดิน โดยเฉพาะปู่ทววดตาทวดของชาวเอเชีย


โดย: zoomzero วันที่: 16 มีนาคม 2552 เวลา:9:48:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Beee_bu
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




"ไม่ได้คิดถึงทุกครั้งที่หลับตา
แต่คิดถึงทุกเวลาที่หายใจ"


ผลิตภัณฑ์เห็ดหลินจือเพื่อสุขภาพ
รายละเอียด
www.taradplaza.com/dxn

www.pantipmarket.com/mall/dxnshop/

www.facebook.com/SozityShop

www.facebook.com/BeeeGadgets

www.Sozity.com
Friends' blogs
[Add Beee_bu's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

สาวๆเอนมาหนุ่มๆเอนไปเทพมังกรอวยชัยเอนมาๆ width=40 height=40 align=middle vspace=2 hspace=2 border=0 title="cilladevi">
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.