<<
กรกฏาคม 2557
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
23 กรกฏาคม 2557

ผีในโรงแรม

ผมว่า โรงแรม กับ เรื่องเล่าผี ก็เป็นสิ่งที่คู่กันมาช้านาน ผมทำงานโรงแรมมานานพอสมควร ได้ฟังเรื่องผีมาก็เยอะนะครับ แต่มีเรื่องหนึ่งที่ประทับใจมาก....

เรื่องมีอยู่ว่า........ พี่โจทำงานโรงแรมแห่งหนึ่งในภูเก็ต (สงวนชื่อโรงแรม) สมัยที่โรงแรมนั้นพึ่งจะเริ่มเปิด ซึ่งพี่โจทำงานเป็นพนักงานยกกระเป๋าและเนื่องจากโรงแรมยังไม่เปิด สมัยนั้นพนักงานยกกระเป๋าจะต้องเวียนกันเข้ารอบดึก เพื่อเฝ้าโรงแรมเพราะช่วงนั้นได้มีการขนเฟอร์นิเจอร์เข้ามาไว้ในห้องพักแล้ว งานของพวกพี่โจนอกจากทำงานเฝ้าตามจุดต่างๆแล้ว ยังต้องเดินลาดตะเวนไปยังชั้นต่างๆของโรงแรมด้วย โดยโรงแรมนั้นเป็นลักษณะห้องวน (ไม่รู้อธิบายยังไง)

คือ...ถ้าเรายืนตรงล็อบบี้แหงนหน้ามองก็จะเจอกับหลังคาโรงแรมเลย แต่ถ้าเรายืนตรงระเบียงทางเดินห้องพักแต่ละชั้นมองลงมา เราก้อจะเห็นพื้นล๊อบบี้โรงแรม....ห้องพักก็จะมองเห็นอีกฝั่งตรงข้ามเช่นกันเนื่องจากเป็นตัวยู เข้าใจใช่ป่ะ...โอเค ต่อได้ คืนนั้น...พี่....โจ.....ก็....เดิน....ไป....เรื่อย......เรื่อย.....เพื่.....อ (อะไรนะ...น่ากลัวไปเหรอ เล่าธรรมดาก็พอใช่มะ) เอาใหม่ก็ได้

พี่โจเดินลาดตะเวนกับเพื่อนอีกคน พี่โจจะต้องเดินเปิดประตูทุกห้องเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครแอบเสล่ออยู่ในห้องพัก และในแต่ห้องพักก็จะมีเฟอร์นิเจอร์วางกองกันอยู่มุมห้อง พี่โจเดินลาดตะเวนจากข้างล่างขึ้นข้างบน และเพื่อนเดินจากข้างบนลงข้างล่าง กลางคืนตึกก็จะเงียบมาก

เวลาเดินก็จะได้ยินเสียงรองเท้าชัดเจน ปิดประตู เปิดประตูก็ได้ยิน เรียกได้ว่าแทบจะได้ยินเสียงทุกเสียงในตึกกันเลยทีเดียว พี่โจก็เดินเปิดประตูวนไปเรื่อยๆ จนถึงชั้นที่ห้า

พอจะครบชั้นห้า พี่โจก็ได้ยินเสียงคนมาเปิดประตู ห้องที่แกตรวจแล้ว 

แกก็เดินกลับไปดู ไม่มีอะไร จากนั้นแกก็ตรวจต่อ ได้ยินเสียงย้ายเฟอร์นิเจอร์จากห้องที่แกตรวจแล้วคราวนี้ อีกห้องหนึ่งซึ่งอยู่คนละฟาก แกหยุดส่องไฟฉายไปยังที่เกิดเสียงแล้วรอดูเผื่อพบคนแต่ไม่มีอะไร

แกเริ่มทำงานแกต่อ จากนั้นก็ได้ยินคนเปิดและปิดประตูอีกครั้ง แกเข้าใจว่าเป็นเพื่อนแกมาแกล้งแน่นอน จึงส่องไฟดูอีกครั้ง

ปรากฎว่า ไม่มีอะไร ประตูปิดเรียบร้อยดี แกกลับมาทำงานแกต่อเพื่อที่จะได้เสร็จชั้นห้านี้ซะที เสียงปิดประตูดังอีกครั้ง แกแน่ใจว่าต้องเป็นเพื่อนแกแน่นอน

แกจึงสบถเสียงออกไป

"เฮ้ย! เล่นเหี้ยอะไรของมึงน่ะ" 

ทั้งตึก.......เงียบ....... 

แกเปิดประตูห้องตรวจ ทำงานแกต่อไป

ทีนี้มีเสียงประตูปิดกระแทกเสียงดังก้องตึกไปหมด แกหันไปยังต้นเสียงทันที!!

ประตูทุกประตูที่แกได้ปิดมานั้นเปิดออก และปิดไล่มาทุกบาน ไล่มาจนห้องสุดท้ายที่แกเพิ่งตรวจไป!!!

freak the shit out!!!!

"แล้วพี่โจทำไงครับพี่" ผมถามด้วยความสงสัย

"กูเหรอ...หึหึหึ ใส่เกียร์หมา วิ่งป่าราบ กลับบ้านเลยว่ะ" พี่โจตอบพร้อมเสยผม

"พี่แม่ง แน่ว่ะ เป็นผมสลบคาที่แน่ๆ"

"วันต่อมา ไข้แดกเลยว่ะ พอหายไข้กูก็กลับไปโรงแรมอีกครั้ง" พี่โจเล่าอดีตให้ฟัง

"โห...พี่ยังกลับไปทำงานอีกเหรอ"

"ปล่าว กูกลับไปลาออก"

ส่วนตัวผมเองก็ไปพานพบมาเช่นกัน ครั้งนั้นผมทำงานที่โรงแรมในเชียงราย

เป็นวันแรกที่มีการเข้ารอบยี่สิบสี่ชั่วโมงเป็นวันแรก และวิชัยได้เข้ารอบดึกเป็นคนแรกของประวัติศาสตร์โรงแรมด้วย

*โรงแรมจะมีสี่รอบโดยประมาณครับ เช้า บ่าย ดึก และควบ เช้าจะเข้าประมาณ 6 โมงเช้าแล้วก็นับไปอีกเก้าชั่วโมง รอบบ่ายจะเข้างานประมาณ 2 โมง และรอบดึกจะเข้าประมาณ 4ทุ่ม จนเช้า ส่วนในวันที่ไม่มีพนักงานหยุดก็จะมีรอบคาบหรือ cover shift ซึ่งแล้วแต่ว่าจะเข้า 11โมงหรือ ห้าโมงเย็น*

วันนั้นยังไม่มีแขกมาพักจริงๆ แต่เป็นการให้พนักงานเริ่มปรับตัวในการเข้ารอบจริงๆ ผมจึงไม่ค่อยมีอะไรทำเท่าไหร่นัก พอสักตีสองหลังจากเข้าเวบสารพัดเวบแล้ว ผมก็เริ่มง่วง

ทำไงดีล่ะ แขกก็ไม่มี นอนดีกว่าวุ้ย.

วิชัยลากเก้าอี้อีกตัวมาพักเท้านอน......

.....

.....

.....

.....

.....

ไม่ไหวว่ะ ตูดคอยไหลอยู่เรื่อย เมื่อยคอด้วย

เอาขามาวางบนโต๊ะทำงาน เอาเสื้อกันหนาวคลุมหน้าแล้วนอน

.....

 .....

 ..

....

ไม่โอ ไม่โอ...หายใจไม่ออก เมื่อยคอ

เดินไปปิดไฟ แต่สวิตซ์ไฟดันเป็นแบบปุ่มเดียวปิดทั้งห้องอีก....

ความง่วงมันเริ่มจู่โจมและเรียกร้องความสนองตอบทางร่างกาย 

ตัดสินใจเดินไปล็อกประตู เคลียร์โต๊ะทำงาน ปิดไฟ และขึ้นไปนอนยาวบนโต๊ะทำงานซะเลย ใช้ได้ว่ะ...แค่ไม่กลิ้งตกโต๊ะเป็นใช้ได้

พอสติเริ่มเข้าสู่ภวังค์หลับ ผมได้ยินเสียงคนเปิดประตูชัดเจน (ทั้งๆที่เราเป็นคนล็อกจากข้างในแล้ว) เสียงร้องเท้ากระทบกับพื้นไม้ดังชัดเจน ค่อยๆใกล้เข้ามา

จมูกผมเริ่มได้กลิ่นของผู้มาเยือน มันเป้นกลิ่นของเหงื่อ

เหมือนคนที่พึ่งออกกำลังกายมา ผมขยับตัวไม่ได้ ลืมตาไม่ได้ ได้แต่นอนฟังฝีเท้าของผู้มาเยือน เสียงฝีเท้าค่อยๆเดินวนมาทางหัวผม

เป็นระบบเสียงสเตอริโอ ดอลบี้โปรโลจิก ไฮไฟ รอบทิศทาง เสียงมาหยุดตรงข้างตัวผม

ผมรู้สึกได้เลยครับว่ามีแรงดึงดูดของสิ่งอดีตมีชีวิตอยู่ข้างๆ ในความรู้สึกผม คุณอดีตมนุษย์ชัดเจนมาก

ตอนนั้นเริ่มออกแรงขยับตัวให้ตื่นจากภวังค์ให้ได้

จนเกร็งกล้ามเนื้อเต็มที ผมจึงหลุดจากอาการจูออนนี้ได้

พอลืมตาขึ้นมา ตั้งสติได้เท่านั้นแหละ คุณเอ้ย!!

รีบไปหาไม้กวาดมากวาดออฟฟิศ ถูพื้น พร้อมกับคิดในใจว่า ผิดไปแล้วค้าบ!!!!!

ลูกช้างจะไม่หลับอีกแล้วค้าบ!!!!

รู้หรือไม่: ในกรณีที่มีคนตายในห้องพักในโรงแรม พนักงานไม่สามารถไปแตะต้องอะไรทั้งสิ้น จนกว่าตำรวจและเพทย์จะมาวินิจฉัย

รู้หรือไม่: ในกรณีที่มีคนตายในห้องพักในโรงแรม ห้องๆนั้นจะถูกปิดไม่ให้คนพักเป็นเวลาอย่างน้อยก็หนึ่งถึงสามเดือน (ตามตำราว่ากัน) และห้องนั้นจะต้องเปลี่ยนผ้าม่านใหม่ และทาสีใหม่เลย (ถ้าไปพักที่ไหนแล้วรู้สึกว่าห้องเราใหม่กว่าห้องเพื่อนเราข้างๆ หึหึหึ สันนิษฐานได้เลยครับ.....

รู้หรือไม่: อาจารย์การโรงแรมท่านหนึ่งสอนมาว่า จุดที่ฆาตกรมักจะเอาศพไปหมกซ่อนไว้ ไม่ใช่ในตู้เสื้อผ้าหรือห้องน้ำอย่างในหนังแต่จะเป็น...... ในบ็อกสปริง....บ็อกสปริงคืออะไร?

บ็อกสปริงก็คือ ฐานรองเตียงที่มีล้อเลื่อนๆนั่นแหละครับ เพราะฉนั้นต่อไป นอนโรงแรมไหนก็เสียเวลานิดหน่อย ยกตัวฟูกเตียงออกมาดูนิดนึง ให้แน่ใจว่าเราไม่ได้ถูกหวย มีอะไรหมกอยู่ข้างล่าง




Create Date : 23 กรกฎาคม 2557
Last Update : 23 กรกฎาคม 2557 15:07:54 น. 0 comments
Counter : 1069 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

MatsuoKung
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add MatsuoKung's blog to your web]