<<
มิถุนายน 2557
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
19 มิถุนายน 2557

เหตุผลที่ควรดูหนังพร้อมแฟน

เห็นในไทม์ไลน์พูดเรื่องเดียวกันมานานเป็นอาทิตย์แล้วเกี่ยวกับภาพยนตร์ ไม่ “พี่มากฯ” ก็ “คู่กรรม” รู้สึกอึดอัดใจนิดหน่อยเพราะยังไม่ได้ดู ที่จริงแล้วยังไม่เห็นโปสเตอร์ของจริงจากทั้งสองเรื่องนี้เลยมากกว่า เนื่องจากแทบจะไม่ได้โผล่ไปย่างกรายแถวๆ ที่มีโรงฯ เลยอะนะ นับๆ แล้วก็โคตรนานที่ไม่ได้เข้าโรงหนังเลย นี่นั่งนึกอยู่ว่าล่าสุดที่ไปดูมาคือเรื่องอะไร…จำไม่ได้แล้วอะ

ที่จริงก็มีจังหวะที่จะได้ไปดูอยู่บ้างแหละ แต่สุดท้ายก็ไม่มีบุญวาสนาพอ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเวลาเราไม่ตรงกัน เราที่ว่าคือผมกับแฟนนั่นแหละครับ (ที่จริงเธอก็ชวนๆ ไปดู แต่บางวันก็เหนื่อยเกินจะกลับบ้านดึกดื่น ก็เลยอด ไรงี้) ครั้นจะไปดูคนเดียวมันก็รู้สึกว่าเป็นบาปเล็กน้อย ซึ่งที่จริงมันก็ไม่บาปอะไรนี่หว่า แต่ทำไมเราต้องรู้สึก วันนี้ก็เลยมานั่งนึกๆ พบว่า “สาเหตุที่เราต้องไปดูหนังพร้อมแฟน” มันน่าจะมีประมาณนี้ แต่ก่อนอื่นเริ่มจาก ทำไมเราต้องดูหนังก่อนดีกว่า

นอกจากจะเพื่อความบันเทิงส่วนตัวแล้ว การดูหนังนั้นเป็นการเสริมสถานะทางสังคม และสร้างภูมิต้านทานไปด้วยพร้อมๆ กัน ที่ว่าเสริมก็คือ กูจะได้ไม่ตกยุค ใครพูดอะไรก็สนุกด้วยได้ เออออไปด้วยได้ หรือพอเวลามีบทวิจารณ์จากกูรูก็จะได้อ่านและวิเคราะห์ตามไปได้ด้วย คือแค่ยก Quote มาแล้วเติมความเห็นไปนิดหน่อยแม่งก็โคตรเท่แล้วอะ คิดดู กูนี่ทันสมัยแถมยังมีความคิดอีกด้วยนะโว้ย ฯลฯ นอกจากนั้นการไปดูหนังก็ยังเป็นอาวุธเอาไว้แกล้งเพื่อนได้ด้วยนะ แกล้งสปอยล์แม่ง หยอกเย้าให้มันโมโหอย่างบันเทิงเริงใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังเป็นโล่ป้องกันการสปอยล์จากคนอื่นด้วย ประมาณว่าไปเช็กชื่อมาแล้ว มึงไม่มีสิทธิที่จะมารังแกกูแต่อย่างใด วะฮ่าฮ่า อะไรทำนองนั้น

และที่จริงการดูหนังสักเรื่องมันก็โคตรจะง่าย ง่ายกว่าเติมตังค์โทรศัพท์มือถืออีกล่ะมั้ง แต่กระนั้นเราก็ยังต้องรอไปดูกับแฟน เพราะอะไร?​

เพราะเราไม่รู้อนาคตไงครับ ถึงแม้เราจะขอวีซ่าไปดูคนเดียวได้โดยมีสนธิสัญญาว่าห้ามงอนนะเธอ อย่าหาว่าทิ้งนะมึง เราก็ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เผื่อว่าวันดีคืนดีบิ๊กซีนีม่ามันจะเอาฉายตอนที่กำลังอยู่ด้วยกันพอดี มันก็กดดันนะครับ

กดดันที่ 1 : คันปากอยากจะเล่าว่าแม่งสนุกยังไง ไม่สนุกยังไง แถมไม่ว่าทางไหนแม่งก็บัดซบทั้งขึ้นทั้งล่อง ถ้ามันเกิดสนุกขึ้นมา ไปเล่า นอกจากจะโดนตบปากว่าสปอยล์แล้วก็ยังอาจมีสงครามเย็นย่อยๆ เกิดขึ้น “ใช่สิ มึงหนีกูไปดูมานี่ จำได้นะอีห่า ให้กูทำงานงกๆๆ ส่วนมึงไปนั่งตากแอร์รัวๆ สองชั่วโมง สัด” “เออ ก็ตัวเองดูแล้วนี่ งั้นเราเปลี่ยนดีกว่า ขี้เกียจดูแล้ว”​ (อ้าว…) “สนุกมากมะ?” (นั่น…) เป็นต้น

กดดันที่ 2 : ถ้าเกิดหนังแม่งไม่สนุก เราก็อดที่จะด่าไม่ได้พอถึงฉากที่ตรึงใจว่าไอ้ห่าเอ๊ย เสียดายเงิน (แต่กระนั้นส่วนใหญ่ก็ต้องบอกว่ามันไม่ค่อยสนุก เพราะความเสี่ยงที่จะโดนงอนมันน้อยกว่ามาก เนื่องจากเธอจะมัวแต่อยากสมน้ำหน้า ฮ่า​ๆ) และถึงแม้จะไม่ออกอาการอะไร แต่การจะปล่อยปะละเลยนั้นมันก็ผิดมหันต์​ ครั้นจะก้มหน้าเล่นมือถือ เปิดคอมเฟซบุ๊ก แม่งก็ทำไม่ได้ เพราะจะถูกด่าซ้ำซากว่า​​ “โหย นี่ตอนไปดูก็หนีไปดูคนเดียว นี่ยังจะมาปล่อยให้เราดูคนเดียวอีกเหรอ วตฟ.”​ (ปิดคอม)

และถึงแม้การดูหนังจะมีผลดีอย่างที่เล่าไปตอนบนๆ ว่าเสริมสถานะทางสังคม สุดท้ายแล้วถ้าไปดูมาคนเดียว เราก็ไม่สามารถสังสรรค์กับเพื่อนในโลกออนไลน์ได้หรอกครับ ยิ่งกับทอปปิกที่เข้มข้นและต้องใช้การสนทนาอย่างลึกซึ้งแล้วละก็ยิ่งหมดหวัง เพราะถ้าเกิดเธอดันมาอ่านเจอก็อาจเป็นชนวนทำให้เกิดดราม่าได้ในที่สุด ทางที่ดีควรจะไปดูพร้อมๆ กันนี่แหละ

ที่สำคัญที่สุด ไปดูกับแฟนก็เพราะเผื่อว่าเธอจะเลี้ยง เดี๋ยวนี้หนังเรื่องนึงตั๋วแม่งยังกะค่ากระสวยอวกาศ ถ้าสามารถหลอกให้ไปเลี้ยงได้นี่ก็จะประหยัดด้วยแถมยังได้อัพสถานะความคูลความชิกในตัวเองด้วยนะ ยอดคุ้มเลยอะ (สุดท้ายกูก็ไปเลี้ยงข้าวอยู่ดี แพงกว่าด้วย /ทรุด)

บางคนอาจมีทางแก้ปัญหาด้วยการ “ดูสองรอบ” ซึ่งส่วนตัวแล้วผมคิดว่าเป็นทางที่ใช้ได้ไม่ค่อยจริงหรอกครับ ความเสี่ยงมันเยอะเกินไป เกิดแม่งไม่สนุกขึ้นมา ส่วนตัวก็ไม่อยากจะดูซ้ำอยู่แล้ว แถมพอบอกให้เธอไม่ต้องดู แล้วบิ๊กซีนีม่าแม่งเอามาฉายหรือไปนั่งหน้าร้านข้าวมันไก่ที่ติดกับร้านเช่าดีวีดีแล้วแม่งมีโปสเตอร์แปะอยู่ ก็อาจจะมีการพูดคุยถึงหนังเรื่องดังกล่าว และทุกอย่างจะย้อนกลับไปที่ กดดันที่ 2  นั่นเอง ซวยกูอีก แล้วส่วนใหญ่เรา (เอ่อ หรือไม่ก็ผมคนเดียว) ไม่ชอบดูอะไรสองรอบในเวลาติดๆ กัน น้อยครั้งมากที่จะดูหนังซ้ำรอบ เพราะคิดว่ามันแพงเกินไป และส่วนใหญ่มันไม่สนุกสนานอะไรขนาดนั้น ทิ้งมันไว้นานๆ ก่อนแล้วค่อยกลับมาดูอาจจะดีกว่า ดังนั้นทางนี้ไม่ใช่ทางออก

อืม…ก็เป็นเหตุผลที่เราควรไปดูหนังกับแฟนอะเนอะ นั่นแหละ สำหรับผม เพราะเวลาไม่ค่อยตรงกัน (โดยเฉพาะช่วงนี้) ก็เลยทำให้ยังไม่ได้ดูอะไรสักกะเรื่องนึง ทั้งพี่มาก พี่ไม่มาก คู่กรรม คู่แบ ฯลฯ

แต่ไม่เป็นไร ยังไงเราก็ไม่รู้อนาคตอยู่ดี เผื่อว่าวันหนึ่งบิ๊กซีนีม่ามันจะเอามาฉายใหม่ ไว้ค่อยนั่งดูพร้อมกันตอนนั้นหนังอาจจะสนุกกว่าเดิมก็ได้




Create Date : 19 มิถุนายน 2557
Last Update : 19 มิถุนายน 2557 19:15:57 น. 0 comments
Counter : 980 Pageviews.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

MatsuoKung
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




[Add MatsuoKung's blog to your web]