|
|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | |
|
|
|
15 กุมภาพันธ์ 2557
|
|
|
|
เรื่องผี กับนิสิตหนุ่มรั้วนนทรี
ต้อนรับวันแรกสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม ด้วยประสบการณ์ชวนขนลุกของชาวนิสิต นักศึกษารั้วมหาวิทยาลัย ก่อนถึงเทศกาล"วันฮาโลวีน" หรือวันปล่อยผีของชาวตะวันตกที่คนไทยหลายคนต่างตื่นตัวและเตรียมพร้อมจัดกิจกรรมแบบผีๆ ตามสไตล์คนไทย ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ และแน่นอนว่า Life On Campus ไม่รอช้า ขออินเทรนติดกระแสวันฮาโลวีนก่อนใคร ด้วยการควงหนุ่มหล่อมาดเท่ห์ รั้วนนทรี อย่าง มาร์ก นายนครินทร์ พันธุมจินดา นิสิตภาควิชานิเทศศาสตร์และสารสนเทศศาสตร์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน มาร่วมแชร์ประสบการณ์เรื่องผีๆ ให้ได้ฟังกัน ถือเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนวันฮาโลวีน ... มาร์ก เริ่มต้นเล่าว่า เรื่องนี้เกิดขึ้นสมัยผมเรียนอยู่ชั้น ป.5 ในปีนั้นครอบครัวตัดสินใจไปเที่ยวพักผ่อนกันที่จังหวัดเพชรบูรณ์ สถานที่ที่เราไปกันเป็นบ้านไร่ขนาดใหญ่ อยู่บนภูเขาขึ้นชื่อของจังหวัด ด้วยการเดินทางที่เป็นไปแบบเรื่อยๆ ทำให้เราเดินทางถึงบ้านไร่แห่งนี้ในช่วงหัวค่ำ และเมื่อจอดรถเสร็จเรียบร้อย บรรดาผู้ใหญ่ก็นั่งตั้งวงสังสรรค์กัน และปล่อยให้เด็กๆอย่างเราที่มีอยู่กัน 5 ชีวิตเล่นกันตามอัธยาศัย ในบรรดาเด็ก 5 คน หากเรียงตามอายุผมจะอยู่ในลำดับที่ 3 และด้วยความตาไวของผมทำให้พวกเราตัดสินใจไปเล่นซุกซนในเส้นทางเดินสำรวจธรรมชาติที่ทางบ้านไร่ปักป้ายบอกไว้ ทางเดินในเส้นทางสำรวจฯแห่งนี้เป็นคันดินที่ยกนูนขึ้นมาจากสองข้างทางที่ค่อยๆลาดชันลงไปเรื่อยๆ และเมื่อเราเดินกันมาได้ไม่กี่อึดใจ หนึ่งในบรรดาพวกเราก็เห็นแสงไฟส่องสว่างไกลๆที่ทางซ้ายมือ ด้วยความเป็นเด็กที่นึกซนไปเรื่อย ทำให้พวกเราผลีผลามเดินเข้าไปในป่าตามหาแสงไฟต้นเหตุ และยิ่งเดินเข้าไปใกล้ แสงไฟก็ยิ่งมืดลงๆ จนกระทั่งพวกเรามาหยุดอยู่ที่หน้ากระต๊อบไม้ไผ่ยกพื้นหลังหนึ่ง กระต๊อบแห่งนี้ปลูกอย่างเรียบง่าย และถูกปล่อยให้หยากไย่ ฝุ่นผง เกาะตามกาลเวลาพี่ชายคนโตตะโกนถามหาเจ้าของบ้าน แต่ก็ไร้วี่แววเสียงตอบรับ ผมจึงถูกเลือกให้ถือวิสาสะเดินขึ้นไปตรวจตรา เมื่อผมขึ้นไปบนตัวบ้าน ความรู้สึกในตอนนั้นกระอักกระอ่วนระคนกับความกลัว แต่ก็ด้วยความเป็นเด็กทำให้ผมตัดสินใจเปิดประตูบ้านและนั่นเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ผมร้องสุดเสียง ทุกคนด้านล่างต่างตกใจกลัวและสาวเท้าเตรียมจะวิ่งหนี แต่เมื่อผมอธิบายว่าผมแค่เจอแมงมุม สัตว์โลกที่ผมแสนชัง ทุกคนในที่นั้นจึงเปลี่ยนใจอยากจะเขกกบาลผมสักทีแทน พี่ชายคนรองในกลุ่ม ณ ขณะนั้นบ้าเล่นเลี้ยงเหรียญบนนิ้วมือมาก วิธีการของมันคือการขยับนิ้วเล็กน้อยเพื่อให้เหรียญกลิ้งไปกลิ้งมาประคองตัวอยู่บนนั้น แต่เหรียญเจ้ากรรมดันตกและกลิ้งหลุนไปตามพื้น ก่อนจะไปนอนแอ้งแม้งยังใต้ถุนกระต๊อบหลังดังกล่าว ผมเข้าใจว่าพี่ผมด้วยความเป็นคนกล้าจึงไม่รีรอที่จะคลานเข้าไปเก็บเหรียญ
| "แต่จังหวะที่พี่ผมเงยหน้าขึ้นมานั้นเอง เลือดจากไหนไม่ทราบก็หยดลงมาตรงกลางหน้าผากเข้าพอดี และทุกคนในบริเวณนั้นจึงพร้อมใจกันวิ่งแบบไม่คิดชีวิต เมื่อผมมาหยุดยืนหน้าปากทางที่เราเข้าไปพลางหอบเหนื่อย ลางสังหรณ์ผมก็รู้สึกแปลกๆ และก็เป็นไปอย่างที่มีความรู้สึก เมื่อน้องสาวคนรองไม่ได้ยืนอยู่ตรงที่เดียวกับผมและคนอื่นๆ" เราสี่คนที่เหลือจึงรีบเดินกึ่งวิ่งเข้าไปยังบริเวณเดิม และก็พบเจ้าตัวปัญหายืนขาแข็งสะอึกสะอื้นอยู่ เธอเล่าให้ฟังว่าเธอก้าวเท้าไม่ออก และร้องเรียกพวกผมไม่ทัน เราทั้งหมดจึงตัดสินใจเดินกลับกันออกไปอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ผมเป็นคนเดินนำขบวน เราเดินกันออกมาเรื่อยๆ และเริ่มรู้สึกว่าน่าจะถึงปากทางได้เสียตั้งนานแล้ว ผมจึงบ่นอุบแสดงอาการไม่พอใจและเหนื่อยอ่อน เวลาคล้อยหลังไม่นานนัก ผมก็เดินทางมาถึงปากทางเข้า ผมดีใจเป็นอย่างมากพลางจะหันหลังกับไปพูดคุยกับเพื่อนร่วมทาง แต่เบื้องหลังของผมพบเจอแต่ความว่างเปล่า ในสมองของผมตอนนั้นตื้อเป็นอย่างมาก และมีความคิดเพียงสองอย่างที่ผุดขึ้นมาในหัว หนึ่งคือจะเดินกลับเข้าไปหา หรือสองจะกลับที่พักและตามให้คนมาช่วย ผมเลือกอย่างหลังจึงรีบวิ่งหน้าตั้งมาจนถึงที่พัก และไม่ทันจะได้อ้าปากตะโกน สิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าคือเพื่อนร่วมทางทั้งหมดของผม ทั้งสี่คนกำลังนั่งรออยู่ที่เสื่อโดยไม่มีท่าทีเหนื่อยอ่อน ผมไม่รอช้า รีบยิงคำถามออกมา แต่คำตอบที่ได้รับกลับทำให้ผมจำฝังใจมาจวบจนปัจจุบัน พวกเขาไม่ได้ออกไปไหนกับผม ทั้งสี่คนหลังจากอาบน้ำเสร็จก็มานั่งเล่นบริเวณนี้ โดยมีผู้ใหญ่ให้การยืนยัน |
Create Date : 15 กุมภาพันธ์ 2557 |
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2557 2:04:14 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1044 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
|
|
MatsuoKung |
|
|
|
|