เปิดมุมมองน้องอ้อนางสาวไทยเตือนสติวัยรุ่น
แม้ว่า เวทีประกวดนางสาวไทยได้ปิดฉากไปร่วมสัปดาห์แล้ว คนไทยทั้งประเทศที่ได้ดูการถ่ายทอดสดจากสถานีวิทยุโทรทัศน์ระบบ ยู เอช เอฟ ทีไอทีวี
คงได้เห็นดาวจรัสแสงคนใหม่ในวงการนางงาม ที่ต้องขอยกให้ผู้หญิงที่สวยที่สุด บนเวทีอันทรงเกียรติแห่งนี้ น้องอ้อ-อังคณา ตรีรัตนาทิพย์ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 จากคณะพาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันนี้เธอได้สวมมงกุฎนางสาวไทยคนที่ 43ไปเรียบร้อยแล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่ายมากนัก เพราะเป็นรู้ดีว่าสาวงามบนเวทีประกวดนาวสาวไทย ค่อนข้างที่จะแตกต่างจากเวทีขาอ่อนอื่นๆ ทั้งเรื่องขบวนการสรรหา สาวงาม-ประวัติ-การทำหน้าที่ รวมทั้งการแต่งกายการประกวด
ตลอดระยะเวลาร่วม 2 เดือนกว่าที่จะได้เพชรเม็ดงามมาทำหน้าที่ทูตวัฒนธรรมให้คนไทย ในการร่วมกิจกรรมต่างๆ ทั้งทางสังคม กีฬาและการท่องเที่ยว ตามที่กองประกวดได้จัดขึ้นมาร่วมภาครัฐและเอกชน ซึ่งต้องยอมรับว่า ปีนี้ค่อนข้างที่คึกคักเป็นพิเศษ
แม้ว่า ระยะแรกอาจเจออุปสรรคขวากหนามอยู่บ้าง แต่กองประกวดต่างพยามที่ให้มีการจัดประกวดนางสาวไทยเกิดขึ้นจนได้ แม้วันที่ประกาศผลรางวัลนั้น เกิดเหตุการณ์ ที่คาดไม่ถึงขึ้นมา เมื่อผู้เข้าประกวดหมายเลข 3 น้องน้ำผึ้ง-ชมพูนุช ลออวรรณากร เกิดอาการเครียด จนไม่สามารถตอบคำถามจากพิธีกรได้ ถึงขั้นเป็นลมต้องหามส่งโรงพยาบาลทันที
ส่วนรองอันดับ 1 ได้แก่หมายเลข 14 น้องมีนา-ภัทรา เทพหัสดิน ณ อยุธยา นักเรียนนอก จากประเทศออสเตรเลีย ส่วนรองอันดับ 2 เป็นของ น้องน้ำผึ้ง-ชมพูนุช ปัจจุบันกำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 3 คณะเทคโนโลยี สารสนเทศ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง
สำหรับน้องอ้อ ได้รับรางวัลมูลค่า 4 ล้านบาท พร้อมมงกุฎเพชร ,รถยนต์มูลค่า 1.5 ล้าน เครื่องประดับเพชร เครื่องสำอาง bsc รวมทั้งเครื่องเล่นดีวีดี และโฮมเธียร์เตอร์
เงินรางวัลที่ได้รับจากตำแหน่งนางามมิตรภาพ ,MISS HEAITHY รวมทั้ง มิสเฟอร์เฟค เธอบอกว่า จะนำเงินส่วนหนึ่ง เพื่อที่นำไปร่วมทำบุญให้กับพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว รวมทั้งองค์กรการกุศลและนำไปใช้เป็นทุนการศึกษาในอนาคต
อีกเรื่องหนึ่งที่ อ้อ อยากฝากต่อสังคมวัยรุ่นยุคใหม่คือ สมัยนี้วัฒนธรรมสังคมตะวันตกได้คืบคลานเข้าสู่เมืองไทย จึงทำให้สังคมวัยรุ่นสมัยใหม่หันไปสนใจ แฟชั่นต่างประเทศ จนบางคนลืมความเป็นไทย ตนจึงมีข้อเสนอแนะนำให้ วัยรุ่น น่ามีจิตสำนึกแบบไทยๆใช้ของไทย กินของไทย เพื่อไม่ให้เงินไหลออกสู่ต่างประเทศ
ประกอบกับยุคนี้เทคโนโลยีสมัยใหม่คืบคลานเข้ามาแบบไม่รู้ตัว จนทำให้สังคมวัยรุ่น สมัยใหม่ไปหลงไหลกับภาพคลิปวีดีโอซึ่งตนมองว่า บางครั้งเป็นเรื่องที่ไม่ดีนัก สร้างความเสื่อมเสียชื่อเสียงให้กับคนอื่นๆและครอบครัวผู้ถูกกระทำ
อยากขอเตือนผู้ที่แอบถ่ายคลิปวีดีโอภาพคนอื่นไปเผยแพร่ออกไปสู่สาธารณชนนั้น บางครั้งลองนึกดูว่า ถ้าหากเป็นญาติพี่น้องของเรา จะเกิดความทุกข์แค่ไหน จึงอยากฝากถึงผู้ถูกกระทำ และเจ้าหน้าที่คอยสอดส่องดูแลสังคมคนกลุ่มนี้ด้วย อย่างน้อยพวกที่ชอบทำงานในมุมมืดนั้น ย่อมเป็นอันตรายต่อสังคมไทยอย่างมาก
ส่วนความฝันที่จะเข้าสู่วงการบันเทิงนั้น น้องอ้อกล่าวตอนท้ายว่า มีความสนใจงานด้านพิธีกร เพราะโดยส่วนตัวแล้ว เป็นคนที่ชอบพูด และมีความรู้รอบตัวมากมายพอที่นำมาใช้ประโยชน์งานพิธีกรได้ไม่ยาก แต่ถ้ามองงานบันเทิงในบ้านเรานั้น มีมุมดีและมุมไม่ดีคละปนกันไป อยู่ที่ว่าเราจะเลือกทางเดินแบบไหนเท่านั้น
Create Date : 02 พฤศจิกายน 2550 |
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2550 18:48:07 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1276 Pageviews. |
|
|
|