ย้อน...'สถานการณ์ชีวิต' 'บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี'กับ'นาทีต่อนาที...หนีม็อบ'
เข้ามาแล้วค่ะ !! เข้ามาแล้วค่ะ !! ...นี่เป็นหนึ่งในประโยคท้าย ๆ ของเสียงที่ได้ยินจากรายการข่าวเช้าของสถานีโทรทัศน์ NBT ก่อนจอจะมืด หลัง ม็อบพันธมิตรฯ บุกเข้าสถานี มีการตัดกระแสไฟฟ้า เป็นเสียงของหนึ่งในพิธีกรรายการข่าวของ NBT ดีกรีนางสาวไทย-ดาราดัง...ที่ชื่อ บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี
บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ปัจจุบันอายุ 32 ย่าง 33 ปี เป็นคนกรุงเทพฯโดยกำเนิด จบปริญญาตรีคณะบริหารธุรกิจ จากเอแบค ปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยวูลองกอง ออสเตรเลีย เธอเข้าประกวดนางสาวไทยปี พ.ศ.2543 และสามารถคว้าตำแหน่งมาครองได้ จากนั้นก็ได้เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นพิธีกรรายการอินไซด์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ทางไอทีวี และได้เล่นละครเรื่อง ต้นรักดอกงิ้ว ทาง ททบ.5
หลังจากนั้นเธอก็มีผลงานด้านละคร ภาพ ยนตร์ ตามมาอีกหลายต่อหลายเรื่อง เคยมีผลงานด้านการเขียนหนังสือที่ทำให้คนในวงการบันเทิง และประชาชนคนทั่วไปได้ฮือฮา คือหนังสือชื่อ ดอก...ปนัดดา ซึ่งเป็นหนังสือแฉเรื่องฉาวของคนวงการบันเทิง จนดารานักแสดงที่ถูกพาดพิงออกมาโต้ตอบกันอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน
กับงานในวงการเธอเคยได้รับรางวัลหลายรางวัล ไม่ว่าจะเป็นพิธีกรยอดเยี่ยมจาก สยช. ปี พ.ศ. 2544, รางวัลพระราชทานเทพทอง ด้านบุคลิกดีเด่นด้านวิทยุและโทรทัศน์ ปี 2545, รางวัลส่งเสริมพระพุทธศาสนา ปี 2548, รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ประเภทพิธีกรยอดเยี่ยม (ร้านชำยามเช้า) ปี 2549
2 เมษายน 2548 บุ๋ม-ปนัดดาเข้าพิธีวิวาห์กับ วีระพงศ์ พิพิธสุขสันต์ หนุ่มนักธุรกิจ หลังคบหาดูใจกันประมาณปีเศษ ถือเป็นงานแต่งระดับงานช้างแห่งปี เฉพาะสินสมรสมูลค่าไม่ต่ำกว่า 15 ล้านบาท แหวนเพชร 3 กะรัต สร้อยเพชร 28 กะรัต ต่อมาก็มีทายาทหนึ่งคนคือ น้องอันดา-ด.ญ.อันดามัน พิพิธสุขสันต์ ตอนนี้วัย 2 ขวบเศษ อย่างไรก็ตาม หลังใช้ชีวิตคู่อยู่ 3 ปี บุ๋มกับวีระพงศ์ก็ประกาศแยกทางกันด้วยชีวิตส่วนตัวที่เข้ากันไม่ได้
ทั้งนี้ ไม่ว่าใครจะมองภาพเธอคนนี้ในมุมไหน-อย่างไร จะยังไงก็ต้องถือว่า บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เธอเป็นอีกหนึ่งสาวเก่งที่ทำงานได้หลายรูปแบบหลายวงการ ซึ่งกับการเป็นพิธีกรข่าว-ผู้ประกาศข่าวของ NBT นั้น ก่อนเกิดเหตุการณ์วันที่ 26 ส.ค.ที่ผ่านมา เธอก็ทำมาได้ระยะหนึ่งแล้ว และกำลังพัฒนาฝีมือขึ้นเรื่อย ๆ
ล่าสุด ณ วัน-เวลานี้ สถานการณ์การชุมนุมกดดันไล่รัฐบาล สมัคร สุนทรเวช เป็นเช่นไรแล้ว...ก็ดังที่ทราบ ๆ กัน อย่างไรก็ตาม ย้อนเวลาไปในช่วงเช้าตรู่ของวันที่ 26 ส.ค. 2551 วันกำหนดแตกหักของม็อบพันธมิตรฯ ณ ช่วงเวลานั้นกับ สถานการณ์ชีวิต ของผู้หญิงคนดังที่ชื่อ บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี คนนี้ เธอเล่าให้ฟังว่า.....
ช่วงเวลาประกาศข่าวของบุ๋ม เริ่มตั้งแต่ 06.00-08.00 น. วันจันทร์-ศุกร์ ความจริงเรื่องที่เกิดขึ้นทางผู้ใหญ่และพี่ ๆ ทีมงานก็ได้เคยบอกบุ๋มกับพี่จิรายุ ให้รู้อยู่ก่อนแล้วว่ากลุ่มพันธมิตรอาจจะมายึด NBT แต่ไม่ทราบว่าเป็นวันไหน เวลาอะไร
อดีตนางสาวไทย-ดาราสาวมั่น-ผู้ประกาศข่าวเลือดใหม่รายนี้ เล่าต่อไปถึงนาทีระทึกที่กลุ่มพันธมิตรฯบุก NBT ว่า... 26 ส.ค. 2551 วันนั้นเธอมาถึงสถานีตอน ประมาณ 04.30 น. เพื่อเตรียมตัวแต่งหน้าทำผม อ่านหนังสือพิมพ์ พอเวลาประมาณ 05.30 น. ก็มีกลุ่มชายฉกรรจ์สวมเสื้อและแจ๊กเกตโทนสีดำใช้ผ้าปิดหน้า ผ้าโพกศีรษะสีเหลืองมีข้อความว่า กู้ชาติ อ้างว่าเป็น นักรบศรีวิชัย บุกเข้ามาที่ห้องที่พักรออยู่
...เขาตะโกนเสียงดังว่า ออกไม่ได้...ออกไม่ได้... ไม่ต้องแต่งตัวแล้ว ไม่มีการออกอากาศแล้ว บุ๋มก็ตกใจมาก รู้สึกงง ๆ แต่พอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น บุ๋มก็เป็นคนดื้อค่ะ จะทำหน้าที่ต่อ เพราะถือว่าเราทำหน้าที่สื่อมวลชน มีความเป็นกลาง เสนอตามข้อเท็จจริง กลุ่มชายฉกรรจ์ที่บุกเข้ามาก็ปิดคอมพิวเตอร์ ปิดไฟ แล้วพากันกระจายไปทั่วทุกชั้น พอดีพี่กุ้ง (สร้อยฟ้า) กับช่างภาพกำลังจะออกไปทำข่าวที่ปทุมฯ เลยได้ถ่ายภาพเหตุการณ์ จึงได้มีภาพอย่างที่ออกมาให้ประชาชนได้เห็น
พอ 06.00 น. บุ๋มก็ยังทำหน้าที่ตามปกติกับพี่จิรายุ รู้ว่าตำรวจได้ควบคุมตัวกลุ่มชายฉกรรจ์ชุดดำไว้แล้ว ก็คิดว่าเหตุการณ์คงจะจบแค่นี้ ไม่น่าจะมีอะไรรุนแรง
แต่ประมาณ 08.00 น. นักข่าวก็ส่งภาพผู้ชุมนุมหน้า NBT กำลังจะพังประตูเข้ามา ทางสถานีก็ตัดเข้าให้รายงานสดไปแบบไม่มีสคริปต์ บุ๋มก็ต้องพากย์สด ๆ เพราะเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า
ช่วงนั้นใกล้จะจบรายการแล้ว บุ๋มรู้สึกกลัวนะ พยายาม ตั้งสติว่าเราจะทำยังไงดี แล้วก็เห็นทีมงานวิ่งหนีออกจากห้องส่ง รวมถึงพี่จิรายุซึ่งตะโกนบอกให้บุ๋มวิ่งตามไปทางหลังตึกที่มีช่องลมเป็นหน้าต่างยาว ๆ ที่ดันออกไปได้ โดยให้ผู้ชายลงไปก่อนเพื่อคอยรับผู้หญิง คือพี่กุ้ง (สร้อยฟ้า) ตามด้วยบุ๋ม และพี่จิรายุ บุ๋มครูดกำแพงตึกบาดเจ็บเล็กน้อย เพราะมันสูงเกือบ 2 เมตร
พอถึงพื้นก็เห็นกลุ่มพันธมิตรฯมาถึงมุมตึก ขณะที่เราอยู่ช่วงกลาง ๆ ตึก ก็ไม่รู้จะทำยังไง พอดีมีทหารตะโกนเรียกให้มาทางนี้ มาทางนี้ ทางที่เป็นประตูรั้วเล็ก ๆ ที่ติดกับ วปอ. เป็นทางลอด ก็มีทหารตะโกนอยู่ ยอมรับว่าใจคอไม่ดี พอลอดออกไปได้ ทหารก็ล็อกรั้วทันที ก็รอดูสถานการณ์ครู่หนึ่ง เพราะเป็นห่วงทีมงานที่ติดอยู่ รวมถึงพี่ตวงพร และเลขาส่วนตัวของบุ๋มเองด้วย จากนั้นก็เลาะไปทางมหาวิทยาลัยหอการค้า โดยพี่จิรายุก็แยกไปรายงานข่าวต่อ ส่วนบุ๋มต้องไปงานพิธีกรที่ต่างจังหวัด
ขอบอกว่าได้ประสบการณ์จากเหตุการณ์นี้ ว่าการเมืองไม่มีอะไรแน่นอน... บุ๋ม-ปนัดดาทิ้งท้าย
ทั้งนี้และทั้งนั้น บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เธอเล่าชีวิตระทึกฉากนี้ให้ฟัง มิได้มุ่งหวังให้ร้ายทำลายใคร-ฝ่ายใด และ ณ ที่นี้ก็มิได้มีจุดมุ่งหมายจะสะท้อนว่าใคร-ฝ่ายไหนผิดหรือถูก ใครทำเพื่อชาติหรือเพื่ออะไร ทั้งหมดทั้งมวลเป็นแต่เพียงการนำเสนอ สถานการณ์ชีวิต ช่วงไม่กี่นาทีช่วงหนึ่ง ของผู้หญิงคนหนึ่ง ก็เท่านั้น !?!?!.
ใจรัก-ไม่เข็ด...อยากลุยๆ
ตอนนี้บุ๋มมีประสบการณ์งานผู้ประกาศข่าวมากขึ้น เรียกว่าก็เป็นวิชาชีพที่บุ๋มรัก และใฝ่ฝันอยากทำมานานแล้ว เมื่อมีโอกาสที่ดีบุ๋มก็ทำงานอย่างเต็มที่ แม้ระยะแรก ๆ อาจจะยากไปบ้าง แต่เราเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ชอบเรียนรู้ เป็นงานที่บุ๋มต้องทำการบ้านเยอะมาก ต้องให้เกียรติผู้ชมทางบ้าน ต้องพยายามหาข้อมูลและติดตามข่าวสารบ้านเมืองอยู่ตลอดเวลา เรามาจากศูนย์ มาทำงานกับผู้มีประสบการณ์มา 10 กว่าปี จึงต้องขยันทำการบ้านมากเป็นพิเศษ รวมถึงฝึกฝนและปรับตัวให้ดูเป็นธรรมชาติ ตอนนี้ทุกอย่างก็พอจะอยู่ตัวแล้ว
...เป็นคำบอกเล่าเกี่ยวกับงานในแวดวงสื่อมวลชนของ บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ซึ่งเธอยังบอกด้วยว่า... อยากออกทำงานแบบลุย ๆ คือ อยากออกทำสกู๊ป รายงานพิเศษ รายงานข่าวนอกสถานที่.
ที่มา : เดลินิวส์
| Create Date : 13 กันยายน 2551 |
| Last Update : 13 กันยายน 2551 12:51:21 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 4612 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [
