Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
15 กรกฏาคม 2558
 
All Blogs
 
เกาะติดขาอ่อน #MissUniverseThailand2015









โดย...ตุลย์ จตุรภัทร ภาพ... เสกสรร โรจนเมธากุล

ใกล้เข้ามาทุกทีกับการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 ที่จะตัดสินกันในวันที่ 18 ก.ย.นี้แล้ว (ณ ตอนนี้ 40 สาวงาม กำลังทำกิจกรรมกันอยู่ที่ จ.อุบลราชธานี) งานนี้ โพสต์ทูเดย์ เลยขอจัดอันดับ Top 5 ในดวงใจ หลังจากที่ได้ไปเพ่งดูอย่างใกล้ชิดในรอบชุดว่ายน้ำมาแล้ว เอาเป็นว่า ที่จัดอันดับขึ้นมาครั้งนี้ ก็เพื่อจะได้ให้ผู้อ่านลองรับไว้พิจารณา เผื่อถ้ามง (กุฎ) ลงหัวใครในนี้ งานนี้มีเฮ ว่าแล้วก็ลุย

ดูของสวยๆ งามๆ ผ่านไปแล้ว ถึงคราวที่เราจะมาเปิดใจทายาทสาวสวย ผู้อยู่เบื้องหลังและจัดการกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2015 นี้ เธอคือ ออน-ชิชญาสุ์ กรรณสูต
ลูกสาว ชาติเชื้อ กรรณสูต หลานสาว สุรางค์ เปรมปรีดิ์ ผู้ถือสิทธิการจัดการประกวดมาตั้งแต่เวทีนางสาวไทย มาจนเป็นมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส จนมาเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์นั่นเอง

วันนี้เราจะมาเปิดใจผู้หญิงคนนี้กับหลายๆ เรื่องราวกัน

“ก่อนหน้านี้ออนทำงานอยู่ที่ช่อง 7 โดยช่วยงานของคุณแดงในเรื่องของการประกวดมาโดยตลอด จนคุณแดงออกจากช่อง 7 สี สักพักออนก็ลาออกจากช่องมาช่วยงานคุณแดง จนมาทำเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์อย่างเต็มตัวในปีนี้ ในฐานะผู้จัดการกองประกวด พอออนได้ทำเต็มตัว ออนก็พยายามทำให้การประกวดมีความทันสมัยมากขึ้น และทำให้การประกวดมันดีขึ้นเรื่อยๆ”

ชิชญาสุ์ เผยว่า การจัดทำการประกวด ไม่ใช่แค่สักประกวดแล้วก็จบ แต่มันต้องดูองค์รวมทั้งหมด ทั้งสังคม วัฒนธรรม สื่อโซเชียลมีเดีย ที่มีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว รวมทั้งตัวผู้เข้าประกวดที่เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ผู้จัดงานอย่างเธอต้องทำความเข้าใจ และทำให้มันเข้ากับสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปให้ได้เป็นอย่างดี

“ปีนี้ออนเริ่มต้นการจัดงานจากปัญหาที่มันเกิดขึ้นจากปีที่แล้ว ที่ผู้ที่ไ่ด้รับตำแหน่งลาออกจากตำแหน่ง หรือมีการปลดรองอันดับ 2 ออกจากตำแหน่ง ออนก็ได้คุยกับทีมงานว่าปัญหาเกิดจากอะไร เราจะทำยังไงไม่ให้มันเกิดปัญหานั้นขึ้นอีก รวมทั้งเราจะปรับเปลี่ยนอะไรบ้างนอกจากนี้ออนยังได้ไปขอคำแนะนำจากองค์กรมิสยูนิเวิร์สที่นิวยอร์ก เพื่อให้มีแนวทางที่จะทำให้เกิดปัญหาให้น้อยที่สุด สกรีนผู้ที่มาสมัครอย่างเข้มงวดให้มากที่สุด”

ชิชญาสุ์ กล่าวว่า ด่านแรกของการคัดเลือก มาจากการที่เธอและกรรมการไปนั่งพูดคุยกับผู้เข้ามาสมัคร ณ จุดรับสมัคร 4 จุดตามภูมิภาคต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นการพูดคุยเพื่อให้เธอและกรรมการได้รู้ว่าผู้สมัครเป็นอย่างไร รูปร่างหน้าตา ณ เบื้องต้น ความคิดความอ่าน ความมุ่งหวังตั้งใจ เป็นอย่างไร “ออนเชื่อว่าการทำอย่างนี้ มันดีกับทั้งสองฝ่ายนะคะ ถ้าผู้สมัครยังไม่พร้อม หรือยังไม่ใช่ เราก็ขอไม่นำพาเขาไปยังก้าวต่อไป ก็ให้เขาไปเตรียมตัวใหม่ ปีหน้าเราก็กลับมาเจอกันใหม่ นี่ไม่ใช่การตกรอบนะคะ เพราะยังไม่มีการแข่งขัน”

เมื่อการคัดเลือกผู้สมัครเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ ชิชญาสุ์ เผยว่า ก็ต้องมีการตรวจสอบประวัติจากทะเบียนราษฎร์ และตรวจสอบจากอะไรอีกหลายสิ่งหลายอย่าง รวมทั้งดูการนำเสนอตัวเองออกมาเพื่อให้เกิดความโดดเด่นของตัวผู้สมัครเอง “ออนบอกก่อนเลยว่า ถึงเราจะตรวจสอบประวัติมาเป็นอย่างดี แต่เราก็ไม่ได้รู้จักชีวิตจริงของผู้สมัครได้หมดทุกซอกทุกมุม เราทำดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ เมื่อเราได้ 40 สาวงามมาเป็นผู้เข้าแข่งขันของเราแล้ว ออนเชื่อว่าระยะเวลาที่เราทำงานร่วมกับ 40 สาวงามนั้น มันจะช่วยทำให้เราได้เรียนรู้กันและกันได้มากขึ้น ถ้ามันจะพลาดอย่างปีที่แล้ว ก็ค่อยมาว่ากันใหม่”

สำหรับนิยามของสาวงามตามมุมมองของเธอ โดยเฉพาะสาวงามคนนั้นคือคนที่ได้ขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งสูงสุดของการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ชิชญาสุ์ เผยว่า เธอคงไม่สามารถบอกได้ว่าสาวงามที่เธออยากได้ต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ มันต้องเริ่มต้นจากคนที่มาสมัครก่อนว่าเขาคือใคร เขาเป็นอย่างไร และเมื่อคัดได้ 40 สาวงามแล้ว ก็ต้องไปดูความสวยงามจากตรงจุดนั้น

“ทีนี้เราก็มาดูว่า 40 สาวงามนั้นเขามีความพร้อมมากแค่ไหน มีความตั้งใจว่าอยากมาประกวดจริงๆ มุ่งมั่นตั้งใจเพื่อก้าวไปสู่มิสยูนิเวิร์สจริงๆ ไม่ใช่มาเดินเล่นหาประสบการณ์ เขาต้องมาเพื่อสิ่งนี้ เพราะนี่คือการคัดเลือกสาวงามที่ต้องไปโดดเด่นในต่างประเทศ และทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติ เพราะฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุด ความสวยงามของออนคือ ใจ ความคิดความอ่าน และทัศนคติ ส่วนความสวยของใบหน้าและรูปร่าง มันปรับเปลี่ยนให้ดีขึ้นได้ภายหลังจริงๆ”

เท่าที่เธอได้สัมผัส 40 สาวงามจากการเก็บตัว พูดคุยและทำการเก็บคะแนนมาเรื่อยๆ มาจนถึงวันนี้ ชิชญาสุ์ เผยว่า เธอได้เห็นพัฒนาการของทั้ง 40 สาวงาม และได้เห็นอะไรอีกหลายๆ อย่างที่จะเอามาเป็นส่วนประกอบในการตัดสินใจ “บางคนหน้าตารูปร่างอาจจะไม่ได้โดดเด่น แต่พอได้พูดคุยแล้วกลับพบเจอเสน่ห์ บางคนเรื่องราวชีวิตของเขานั้นน่าสนใจ ทั้งด้านดีและด้านเศร้า เช่น บางคนเป็นหมอ บางคนพ่อแม่พิการ ต้องทำงานหาเลี้ยงพ่อแม่ แต่สิ่งเหล่านี้เป็นแค่องค์ประกอบอย่างหนึ่งของการตัดสินใจแต่ไม่ใช่ทั้งหมด”

แน่นอนว่า การเป็นผู้จัดการกองประกวด ย่อมหลีกหนีไม่พ้นกับบรรดาแฟนนางงาม ที่เหมือนเป็นของคู่กันมาแต่ช้านาน ชิชญาสุ์อยากบอกความในใจถึงบรรดาแฟนนางงามว่า การตัดสินว่าใครจะได้เป็นผู้ที่ครอบครองมงกุฎ มันไม่ได้ตัดสินกันที่แค่บนเวทีในวันสุดท้ายวันเดียว “มันตัดสินผ่านการเก็บคะแนนกันมาตั้งแต่ต้น ทุกวัน ทุกวินาที คือคะแนน เพราะฉะนั้นเรามีที่มาที่ไปของคะแนน ไม่มีใครเป็นเด็กเส้นของใคร หรือไม่มีใครสวยเด่นไปกว่าใคร การตัดสินคือการดูองค์ประกอบโดยรวมทั้งหมด”

สำหรับกระแสของการประกวด ไม่ว่าจะมาจากตัวแฟนนางงามเอง จากเว็บไซต์หรือแฟนเพจของกลุ่มคนรักนางงามเอง ชิชญาสุ์ เผยว่า กระแสที่เกิดขึ้น เกิดจากความชอบ ความคิด ความรู้สึกของคนคนเดียว หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ผ่านทางคำพูด หรือการตั้งกระทู้ แต่ไม่ได้มีผลอันใดต่อการตัดสิน “บางคนพูด บางคนตั้งกระทู้ บางคนเอาข้อมูลมาให้เราพิจารณา ไม่ใช่เราไม่รับฟัง เราฟัง แต่เราก็ฟังหูไว้หู พิจารณาดูว่ามันเป็นอย่างที่คนเขาพูดกันหรือเปล่า ถ้าจริง ก็รับไว้พิจารณา เพราะออนเชื่อว่าแฟนนางงามทุกคนอยากได้นางงามที่ดี มีคุณภาพ มีประวัติที่ดี เป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม แต่ถ้ามโนไปเอง หรือเป็นการสร้างกระแสเพื่อความสนุกสนานไปเอง ก็ต้องปล่อยให้เลือนหายไปกับสายลม (ยิ้ม) อย่างที่ออนบอกไปว่า ผลการตัดสินมันมาจากการที่ทีมงานและกรรมการได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเขา ได้พูดได้คุยกับเขา ได้พิจารณาหมดทุกสัดส่วนของเขา ให้เห็นการซ้อม ความตั้งใจ การเดิน การยิ้ม ประวัติ ความคิดความอ่าน ความตั้งใจ ความมุ่งมั่น เราดูหมดทุกสิ่งอย่าง”

แน่นอนว่า แฟนนางงามย่อมคาดหวังอยากเห็นสาวไทยก้าวไปสู่การเป็นนางงามจักรวาลหรือมิสยูนิเวิร์สคนที่ 3 ของเมืองไทย (ต่อจาก อาภัสรา หงสกุล และภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก) ชิชญาสุ์ยิ้ม พร้อมเผยจากใจจริงว่า เธอก็คาดหวังไม่แพ้แฟนนางงามเหมือนกัน “ออนเองก็คาดหวังทุกปีแหละ แต่มันก็ไม่ง่ายนะ อย่างไรก็ตามเมื่อเราได้เพชรที่ดีมาแล้ว เราก็ต้องมาเจียระไนเพื่อทำให้สาวไทยของเรามีความพร้อมให้มากที่สุด ที่เหลือก็อยู่ในที่ตัวของสาวไทยของเราเองว่าจะไปต่อสู้ด้วยตัวของเขาเองอย่างไร ที่สำคัญที่สุด ก็ต้องอยู่ที่องค์กรมิสยูนิเวิร์สและกรรมการของที่โน่น ซึ่งเราไม่สามารถคอนโทรลอะไรได้ว่าเขาจะเลือกแบบใด หรืออยากให้ใครได้รับตำแหน่งสูงสุด”

อย่างไรก็แล้วแต่ ชิชญาสุ์เผยว่า เมื่อคนที่ได้รับตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ นอกจากจะเป็นตัวแทนสาวไทยไปประกวดมิสยูนิเวิร์ส ที่เมื่อประกวดเสร็จแล้วไม่ได้ตำแหน่งกลับมา เขาก็ต้องกลับมาทำงานเพื่อสังคม เมื่อหมดวาระตำแหน่ง เขาก็ต้องมีหน้าที่การงาน เป็นนางงามอย่างเดียวไม่ได้ เขาต้องมีอาชีพของเขาเพื่อทำมาหากินเลี้ยงชีพต่อไป

“ออนเชื่อว่าเขาเป็นนางงามอย่างเดียวไม่ได้ เขาก็ต้องไปทำอย่างอื่น อาจจะเป็นดารา นักแสดง นักร้อง พิธีกร ซึ่งตรงนี้ออนเล็งเห็น ดังนั้นปีนี้ 10 คนที่เข้ารอบสุดท้าย รวมทั้งผู้ที่ได้ตำแหน่งพิเศษต่างๆ จะได้รับการเซ็นสัญญาทำงานร่วมกับเรา โดยเราจะมีสัญญานางงาม กับสัญญานักแสดงค่ะ ยิ่งถ้าคนที่ได้รับตำแหน่งสูงสุด เป็นทั้งนางงามและนักแสดงได้ด้วย นั่นยิ่งดีเข้าไปใหญ่ ทั้งตัวนางงามเอง และตัวองค์กรเองด้วย”

ที่มา
posttoday


Create Date : 15 กรกฎาคม 2558
Last Update : 15 กรกฎาคม 2558 22:33:41 น. 0 comments
Counter : 2044 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.