Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2556
 
22 พฤษภาคม 2556
 
All Blogs
 
''กรีน'' แถลง''พ่อ-เคลลี่'' จบด้วยดีอนุญาตให้คบกันต่อแม่โฮ! ลูกโดนประณาม...วอนดาราหนุ่มเข้าหามากขึ้น



จากกรณีนักแสดงหนุ่มช่อง 7 ''เคลลี่ ธนพัฒน์'' ยื่นฟ้อง ''นายฉัตรฏรัฐ สิริวัฒน์ธนกุล'' คุณพ่อของแฟนสาว ''กรีน'' อัษฎาพร สิริวัฒน์ธนกุล'' หรือ ''กรีน เอเอฟ 5'' ในข้อหาหมิ่นประมาท ในขณะที่นายฉัตรฏรัฐบอกว่าทั้งหมดเป็นการสื่อสารกันเข้าใจผิด ตนไม่เคยห้ามเคลลี่คบกับลูกสาวตน แค่อยากรอให้กรีนเรียนจบก่อนเท่านั้น โดยทางนางเอกสาวเองก็โดนโจมตีว่าเป็นลูกอกตัญญูบ้าง เด็กใจแตกบ้าง จนกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต โดยล่าสุด ทางเคลลี่ได้ถอนฟ้องนายฉัตรฏรัฐแล้ว พร้อมทั้งกราบขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยันไม่มีเจตนาจะทำให้เป็นเรื่องใหญ่ โดยได้เข้าขอขมาและเคลียร์กับทางคุณพ่อและเข้าใจดี ไม่ติดใจเอาความทั้งสองฝ่าย

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ค. 56 เวลา 11.00 น. นางเอกสาวพร้อมด้วยคุณแม่ ''กนกวรรณ จีระเวทยะนันท์'' ได้ออกเปิดใจแถลงข่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ที่ตึกออฟฟิศทรู แฟนเทเชีย สุขุมวิท 39 โดยกรีนและคุณแม่ได้กล่าวทักทายผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก่อนจะเริ่มเปิดฉากถึงจุดประสงค์ที่ออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนในวันนี้

กรีน : ''อันดับแรกที่กรีนจะพูดตอนนี้ก็คือ ก่อนหน้านี้ที่กรีนไม่ได้ให้สัมภาษณ์พี่ๆ นักข่าวในงานวันก่อน กรีนต้องขอโทษพี่ๆ นักข่าวจริงๆ ณ วันนั้น ด้วยมันมีความผิดพลาดในการสื่อสารค่อนข้างเยอะ ทำให้มีการเข้าใจผิดกันทั้งในตัวพี่นักข่าวและตัวกรีน เอาเป็นว่าวันนั้นกรีนต้องขอโทษที่ทำให้เกิดความวุ่นวาย แต่ ณ วันนี้ที่กรีนมา ก็จะมาพูดในเรื่องข่าวที่เกิดขึ้น ก็จะมีคุณแม่มาด้วย คุณแม่ที่อยู่เคียงข้างกันมาตลอด จะมาบอกว่าเรื่องราวเป็นยังไง ให้ได้กระจ่างกันไปเลย จริงๆ ถ้าจะเล่าทั้งหมดเรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว เป็นเรื่องภายในครอบครัว ก็เป็นไปอย่างตามข่าว แต่เราไม่สามารถที่จะออกมาพูดได้ทั้งหมด เรารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นยังไง แต่วันนี้ทุกคนอยากจะถามอะไรยังไง''

สาเหตุที่ ''เคลลี่'' ได้ฟ้องหมิ่นและถอนฟ้องคุณพ่อของกรีน ตรงนี้เรื่องราวมันเป็นอย่างไร

กรีน : ''เรื่องฟ้อง จริงๆ แล้วเนี่ย ต้องบอกว่าเรื่องมันดำเนินมานานแล้ว เรื่องการสื่อสารที่ไม่เข้าใจกัน แต่ไม่มีข้อสรุปที่แน่นอน แต่สุดท้ายเรื่องมันก็จบลงด้วยดี ต้องขอบคุณที่คุณพ่อให้โอกาสพี่เคลลี่ พี่เคลลี่ก็เข้าใจคุณพ่อ จบลงด้วยดี ไม่มีอะไรติดขัด และบาดหมางข้องใจกันอีก ส่วนเหตุที่ถอนฟ้อง ก็ที่บอกเมื่อกี้ว่ามันเป็นเรื่องของการพูด การเข้าใจ สื่อสารที่ยังไม่ได้ข้อสรุปแน่นอน ก็เลยเป็นเรื่องราวกันมาเรื่อยๆ แต่ตอนนี้จบลงด้วยดีแล้ว แต่กรีนจะไม่ขอย้อนกลับไปพูดนะคะ ว่าเรื่องราวมันเป็นอะไรมากมาย เพราะมันเป็นเรื่องภายในครอบครัวจริงๆ บางอย่างถ้าเจอแล้วคงไม่อยากออกมาพูดทั้งหมด เป็นเรื่องส่วนตัว''

กรีนรู้สึกยังไงกับกระแสสังคมที่ถาโถมเข้ามาหาเรา

กรีน : ''อันดับแรก เราต้องยอมรับให้ได้ เพราะเราอยากที่จะเข้ามาทำงานในวงการ แต่เสียใจไหม ลำบากใจไหม ก็มีค่ะ แต่เราก็ต้องสู้ แต่สิ่งหนึ่งที่ออกมาพูด ก็อยากจะกราบขอโทษคุณพ่อและคุณแม่ กรีนอาจจะทำเรื่องที่ผิดพลาดและไม่เหมาะสม ทำให้มีปัญหาเกิดขึ้น เป็นเรื่องไม่เข้าใจ จนทุกวันนี้ กรีนอาจจะคิดว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบ แต่เราอาจจะไม่รอบคอบในชีวิตของเรา แต่วันนี้เป็นบทเรียนให้กับตัวกรีนแล้ว และเข้าใจกันทุกฝ่ายแล้วค่ะ แล้วกรีนก็รักทุกๆ คน''

คุณพ่อยื่นเงื่อนไขอะไรให้พี่เคลลี่บ้างในการที่จะคบกับกรีน

กรีน : ''ก็คุยกันแล้วค่ะ สำหรับเรื่องข้อตกลงเป็นเรื่องภายในครอบครัว คือข้อตกลงมันต้องมีอยู่แล้วเพื่อให้เรื่องมันกระจ่างชัดเจน แต่เป็นเรื่องที่ในครอบครัวคุยกัน''

มีกระแสว่าเรื่องนี้ส่งผลกระทบทำให้ผู้ใหญ่ช่อง 7 พักงานละคร ''กรีน''

กรีน : ''ไม่จริงค่ะ เอ่อ ถ้าเรื่องพักงานกรีนไม่สามารถพูดได้ ต้องไปถามผู้ใหญ่ทางช่อง 7 ว่าพักหรือไม่พัก ก็ต้องดูอนาคตแล้วกันว่าถ้าพักจริงจะเป็นยังไงต่อไป แต่ตอนนี้ยังไม่มีผู้ใหญ่มาคุยอะไรกับกรีนนะคะ''

ถามคุณแม่บ้างว่า ก่อนหน้าที่มีเรื่องกรีนได้ออกมาจากบ้านมาอยู่หอ แล้วกรีนได้กลับบ้านบ้างไหม

คุณแม่ : ''กลับค่ะ แต่เขาเรียนทางสถาปัตย์ เป็นอินทีเรียร์ เขาต้องทำรายงาน ทำจะจบแล้ว อยู่หอมันใกล้ เดินไปมหาวิทยาลัยได้เลย แต่อยู่บ้านมันออกนอกเมือง ขับรถต้องตื่นเช้า ตื่นเช้ามากขับรถก็ไม่ไหว ไปถ่ายละครด้วย เป็นลักษณะทั่วไปของนักศึกษาที่อยู่หอ เพราะว่าลูกสาวคนกลางก็อยู่เหมือนกัน''

เรื่องนี้กระทบครอบครัวเรามากแค่ไหน

คุณแม่ : ''ก็เยอะเหมือนกัน เห็นลูกโดนด่าก็เสียใจ'' (พอกล่าวมาถึงตรงนี้คุณแม่ก็ร้องไห้ออกมา) ''วันนี้ก็บอกพ่อเขาว่าจะมาแถลง แต่เขาติดภารกิจงานต่างจังหวัดไม่ได้มา เท่าที่ทราบได้มีการเข้าไปคุยและกราบขอขมาในเรื่องที่เข้าใจผิด ทุกอย่างจบลงด้วยดี คุยกันได้''

ตอนนี้คือให้เขากลับมาคบกันได้ใช่ไหม

คุณแม่ : ''ให้คบได้ค่ะ ตรงนี้มันเป็นเรื่องของอนาคตของเด็กสองคน ตอนนี้เราไม่อยากให้คนกลางก็คือลูกสาว ต้องเสียใจไปมากกว่านี้ (คุณแม่กล่าวพร้อมหลั่งน้ำตาออกมา และพูดด้วยเสียงสั่นเครือตลอด) ไม่อยากให้สังคมประณามเขาว่าเขาเป็นเด็กอกตัญญู เขาไม่ใช่นะคะ เขาเป็นเด็กที่รักครอบครัวมาก ถ้าใครเคยติดตามเขามาตั้งแต่เอเอฟ ได้สัมผัสน้องกรีนจะรู้ว่าน้องกรีนเป็นเด็กที่รักครอบครัวมากๆ ค่ะ''

หลังจากที่คุณแม่ร้องไห้ออกมามาก สาวกรีนก็ได้นำทิชชู่มาซับน้ำตาให้คุณแม่ จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ถามต่อไป

คุณแม่ปลอบใจน้องกรีนยังไงบ้างที่น้องโดนวิจารณ์เยอะเลย

คุณแม่ : ''ก็ปลอบให้เขาสู้ บอกว่าต้องอดทน เพราะแม่ก็เคยอดทนมานาน เคยสู้กับชีวิตในวัยเด็กของตัวเอง ปลอบใจเขาทุกอย่างค่ะ''

ตั้งแต่เกิดเรื่องคุณแม่คุยกับเคลลี่บ้างไหม

คุณแม่ : ''ได้คุยบ้างนิดหน่อยค่ะ ไม่ได้คุยมากค่ะ ส่วนใหญ่จะคุยกับลูกมากกว่าค่ะ''

คุณแม่มีการคอมเมนต์เรื่องนี้กับกรีนอย่างไรบ้าง

กรีน : ''กรีนว่าเป็นการพูดกันเข้าใจกันมากกว่า ตอนนี้กรีนเข้าใจแม่ แม่เข้าใจกรีน เราเข้าใจกันทุกฝ่าย ทุกอย่างเลยจบลงด้วยดีค่ะ''

เหตุการณ์นี้ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับเราเลยไหม

กรีน : ''คือทุกเหตุการณ์ให้บทเรียนเราหมด แต่เรื่องนี้ด้วยความที่เราเป็นคนของประชาชน มีข่าว เรารู้ว่าเรื่องจริงเป็นยังไง รู้ตัวว่าอยู่ ณ จุดไหน แต่สิ่งที่คนพูดเราห้ามเขาไม่ได้หรอกค่ะ เอาแค่ว่าครอบครัวเข้าใจกรีน กรีนเข้าใจครอบครัวก็พอแล้ว ไม่ทำให้บุพการีเราเสียใจไปมากกว่านี้ นี่คือบทเรียนที่สอนกรีนมา ทุกคนต้องเคยทำผิดพลาด แต่ถ้าผิดพลาดแล้วไม่รู้จักทำตัวใหม่ก็ไม่ใช่คน ต้องรู้จักที่จะทำตัวใหม่ ให้ดีขึ้น''

รู้สึกยังไงกับคนบางกลุ่ม ที่กลุ่มหนึ่งเชียร์กลุ่มหนึ่งต่อต้านเรา

คุณแม่ : ''จริงๆ เป็นเรื่องธรรมดาของคนอยู่แล้ว ต่างพ่อต่างแม่ แล้วแต่คนจะคิด ขึ้นอยู่กับว่าเราจะรับสภาพตรงนั้นได้ไหม ในเมื่อจะทำงานตรงนี้เราต้องยอมรับในอีกจุดหนึ่งได้ ถ้าวันหนึ่งเราก้าวไป มันเป็นดาบสองคมอยู่แล้ว ไม่อยากจะบอกอะไรพวกเขา ขึ้นอยู่กับสิทธิส่วนบุคคล อย่างน้อยกรีนก็มีพ่อแม่ บางครั้งพูดมันอาจจะแรงเกินไป เราทำดีที่สุดดีกว่า เราห้ามเขาไม่ได้ ก็อย่าไปฟังหรืออ่านมาก มันก็บั่นทอนจิตใจเราเหมือนกัน สิ่งหนึ่งตรงนี้สอนให้เราพลิกวิกฤตเป็นโอกาส สอนให้เราเข้มแข็งมากขึ้น แม่ก็เข้มแข็ง เราไม่เคยมายืนอยู่ ณ จุดนี้ที่มีนักข่าวล้อมรอบขนาดนี้ ทำให้เราเข้มแข็งเนอะแม่เนอะ''

กรีนหันไปยิ้มให้กับแม่ ที่ตอนนี้ความรู้สึกดีขึ้นหลังจากร้องไห้เมื่อสักครู่ ผู้สื่อข่าวจึงได้ซักถามต่อ

วันแรกทำไมถึงตัดสินใจออกมาสัมภาษณ์คู่เคลลี่ ทำให้คนมองว่าเราอยู่ข้างเคลลี่มากกว่า

กรีน : ''มันฉุกละหุกมากค่ะ คือเรื่องเกิดวันศุกร์ แล้วนักข่าวโทร.หากรีนเยอะมาก เราไม่ทันตั้งตัวกับสิ่งที่เกิดขึ้น จนวันเสาร์ด้วยความบังเอิญที่ว่าอะไรหลายๆ อย่างถูกจับมาให้สัมภาษณ์คู่กัน''

คนเลยมองว่าต่อต้านพ่อ

กรีน : ''จริงๆ มันไม่ใช่แบบนั้น เรื่องมันผ่านมาแล้ว เอาเป็นว่า ณ วันนี้มันจบลงด้วยดีแล้ว กรีนคงไม่ขอย้อนไปพูดถึงเรื่องที่มันผ่านมาแล้วนะคะ''

ต่อไปนี้กรีนจะคิดให้มากกว่านี้ไหมเวลาจะทำอะไร

กรีน : ''ใช่ค่ะ ก็ที่บอกว่าเป็นบทเรียน ต้องรอบคอบในชีวิตมากกว่านี้ ทุกคนเคยผิดพลาด ถ้าเราอยากจะโต พอทำงานตรงนี้ต้องโตไปพร้อมกับการทำงานและความคิดของเราด้วย''

ทางคุณพ่อฝากอะไรถึงเคลลี่ไหม

คุณแม่ : ''คุณพ่อโทร.มาเมื่อเช้า เขาบอกว่าไม่ติดใจอะไรแล้ว วันนั้นที่เคลลี่ไปขอขมาเขาก็จบแล้วค่ะ เขาก็คุยกัน ก็เข้าใจ ก็โอเค ขอให้ทำตามเงื่อนไขนิดหน่อย ทำตามที่คุยกันไว้''

ตอนนี้คุณแม่อนุญาตให้คบกันในฐานะอะไร

คุณแม่ : (นิ่งไปหนึ่งอึดใจ) ''เป็นเรื่องของอนาคตเขาสองคน น้องกรีนก็โตแล้ว ตอนนี้ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องให้เขาเรียนให้จบมากกว่า เขาก้าวมาอยู่ตรงนี้แล้ว แม่ก็ต้องให้เขาเป็นคนตัดสินใจ อยู่เคียงข้างเขาไป คอยแนะนำ บางเรื่อง บางอย่างที่อาจจะไม่ถูกต้อง แค่นั้นแหละค่ะ''

ความไว้ใจในตัวเคลลี่คุณแม่มีมากแค่ไหน

คุณแม่ : ''ก็ต้องใช้เวลาค่ะ เป็นเครื่องพิสูจน์''

ถามกรีนบ้าง เหตุการณ์ที่เกิดบั่นทอนสัมพันธ์เคลลี่ไหม

กรีน : ''ก็มันมีปัญหา แต่เราก็คุยกันค่ะ ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง เหมือนข่าวนี้ทำให้เข้มแข็งกันทั้งคู่ในคนละแบบ ได้เห็นว่าเขาทำอะไรบ้าง เขาได้เห็นว่าเราทำอะไรบ้าง''

บางคนยังติดใจคำพูดของกรีนที่ว่า ''ครอบครัวกรีนก็รัก แต่กรีนก็เลือกความถูกต้อง'' คำพูดนั้นมีอะไรจะอธิบายหรือเปล่า

กรีน : ''จริงๆ ที่มันเป็นอย่างนั้น ความหมายของกรีนเป็นเรื่องของการสื่อการเข้าใจกัน แต่ไม่สามารถอธิบายได้ตอนนั้น ความหมายคืออยากให้เรื่องจบลงด้วยดีค่ะ''

แม่อยากบอกอะไรเคลลี่ไหม

คุณแม่ : ''ก็...อยากให้เขาเข้าหาครอบครัวอีกนิดนึงแค่นั้นเอง ไม่มีอะไรแล้วค่ะ เพราะว่าจริงๆ แล้วเขาไม่ใช่คนไม่ดีนะคะ เขาเป็นคนดี แต่แค่บางเรื่องเราอาจจะคุยกันน้อยหน่อยเท่านั้นเองค่ะ เห็นเขาดูแลลูกเราก็ดีเหมืนกัน ก็อาจจะมีเงื่อนไขนิดหน่อยไม่ได้เยอะอะไรมาก ก็ต้องเข้าใจว่าครอบครัวเราอาจจะหัวโบราณหน่อย''

แสดงว่าก่อนหน้านี้ เคลลี่ไม่ค่อยเข้าหาครอบครัว

คุณแม่ : ''เขาก็เข้าหาค่ะ แต่อาจจะพูดกันน้อยมากกว่า แล้วบังเอิญพ่อเขาอยู่ต่างจังหวัดส่วนใหญ่ ก็ห่วงลูกสาวค่ะ พูดง่ายๆ คือหวงลูกสาว เรามีลูกผู้หญิง 3 คน แล้วเขาไม่ค่อยได้อยู่บ้าน นานๆ มาที ทำงานต่างจังหวัดตลอดตั้งแต่ลูกเล็กๆ แล้ว เพราะแต่ก่อนเรารับเหมาก่อส้ราง''

กรีน : ''หนูว่าพี่เขาคงรู้แล้วล่ะค่ะว่าต้องทำยังไง''

หลังจบงานแถลงข่าวสองแม่ลูกก็ได้กอดกันและหอมแก้ม เรียกได้ว่าตอนนี้เหตุการณ์ความไม่เข้าใจก็ได้จบอย่างสวยงาม แต่ทั้งเคลลี่และกรีนจะพิสูจน์ความรักแท้และจูงมือกันไปไกลได้แค่ไหนนั้น คงต้องตามลุ้นกันในอนาคตต่อไป


Create Date : 22 พฤษภาคม 2556
Last Update : 22 พฤษภาคม 2556 2:09:31 น. 1 comments
Counter : 1435 Pageviews.

 
Thank you very much


โดย: Kai (nookookai8 ) วันที่: 22 พฤษภาคม 2556 เวลา:15:23:34 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.