Group Blog
 
<<
พฤษภาคม 2553
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
9 พฤษภาคม 2553
 
All Blogs
 
"นิกกี้"เปิดใจ1ปีกับมรสุมร้าย"หนูไม่ได้เลวอย่างที่ใครคิด"



เชื่อว่าหลายคนคงจำได้เมื่อเดือน เม.ย. ปี 2552 มีสาวสวยนางหนึ่งที่มีตำแหน่งนางงามวัยใสขึ้นข่าวใหญ่ให้ฮือฮา กรณีที่มีเหตุวัยรุ่นยิงกันตายที่ผับแห่งหนึ่งที่ จ.เชียงใหม่ ตามเนื้อข่าวรายงานว่า ทะเลาะวิวาทกันเพราะแย่งจีบสาวงามมีดีกรี ซึ่งก็คือเธอคนนี้ "นิกกี้" พานทอง เข็มทอง รองอันดับ 1 มิสทีนไทยแลนด์ 2007


ความวัวไม่ทันหายความควายเข้ามาแทรก เพราะถัดต่อมาไม่กี่อาทิตย์ ปรากฏว่า นิกกี้ก็ตกเป็นข่าวหอบเงินแสนไปติดสนบนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่โรงพักเพื่อช่วยแฟนหนุ่ม ซึ่งถูกจับตัวข้อหาที่มียาเสพติดในครอบครอง และเรื่องนี้ก็เป็นผลให้อนาคตที่กำลังจะไปได้สวยของนิกกี้ดับวูบลงไปทันที แม้บทสรุปจะยังไม่มีใครรู้ว่าเท็จจริงเป็นอย่างไร แต่สังคมก็ไม่อาจจะยอมรับเรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ไล่เลี่ยกันได้ หลายคนบอกเสียดายความสวย


นิกกี้โดนถอดจากการเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าเกี่ยวกับวัยรุ่นและงานแสดงที่กำลังมีแนวโน้มจะแจ้งเกิดให้เธอเป็นดาวสุกใสในวงการบันเทิง ชีวิตเส้นทางในวงการมายาดับวูบลงในทันที แต่ 1 ปีที่ผ่านไป หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้นกับนิกกี้กับข้อหาที่หลายคนตีหน้าตอกฝาลงโลงไปแล้ว แต่ในความเป็นจริงนิกกี้บอกว่า เธอถูกจับไปตรวจฉี่ และเธอก็รอดมาได้ เพราะผลการตรวจนั้นเธอไม่มีสารยาเสพติดฉี่ไม่ม่วง แต่บทสรุปไม่มีใครรู้ข่าวเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้




หนึ่งปีผ่านไปกับสิ่งที่ทำให้เธอยืนเข้มแข็งมาได้ นิกกี้ในวัย 20 วันนี้ บอกว่า กว่าจะทำใจได้ เคยเครียด ร้องไห้อยู่หลายวัน แต่สุดท้ายสิ่งที่ทำให้เธอฉุกคิดขึ้นมาได้เพราะคำพูดของแม่ที่บอกว่า ''ลูกต้องอยู่เพื่อพิสูจน์ตัวเองสิ ว่าเราไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ใครๆ คิด และการหันหน้าไปพึ่งพระธรรม''


''หนูไปเข้าวัดปฏิบัติธรรมมาถึงขึ้นเข้มแข็งมาถึงวันนี้ได้''


นิกกี้บอกผ่านเสียงตามสายในวันหนึ่ง ก่อนที่จะทำให้เราต้องนัดวันที่เธอมานั่งเปิดใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งเธอทำให้รู้ว่า นิกกี้วันนี้เปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้วจริงๆ เว้นแต่ความสวยนั้นยังคงอยู่ไม่เปลี่ยน


- เป็นไงบ้าง ชีวิต 1 ปีที่ผ่านไปกับมรสุมร้าย


''ตอนนี้ดีขึ้นมากจนปกติแล้วค่ะ โชคดีที่หนูหันหน้าเข้าหาธรรมะถึงได้เข้มแข็งมาถึงวันนี้''


- ช่วงที่เกิดเรื่องราวขึ้นหน้า 1 เราเป็นไงบ้างช่วงนั้น


''ช็อกค่ะ ทำอะไรไม่ถูก ตกใจ คือตอนที่เกิดเรื่อง ได้ยินเสียงปืนเปรี้ยง แล้วอะไรก็เร็วมาก เราวิ่งไปหลบ เห็นคนตายต่อหน้า ไม่คิด ไม่เชื่อ เสียใจด้วย แต่กับข่าวที่ออกมาว่า เหตุที่เกิดขึ้นเพราะนิกกี้เป็นต้นเหตุ จริงๆ นิกกี้ไม่ได้รู้เรื่องเกี่ยวข้องอะไรเลยนะ คือรู้จักไปกับเพื่อน แต่ตอนที่เขาคุยกัน นิกกี้ก็อยู่กับเพื่อนผู้หญิง อะไรมันเร็วมาก พอมีข่าวก็ทำอะไรไม่ถูก แม่ก็เป็นห่วง พอกลับมากรุงเทพฯ ไม่ทันไร มีเรื่องหอบเงินไปติดสินบนเจ้าหน้าที่อีก แต่จริงๆ นิกกี้รู้แค่เขาให้เอาเงินไปประกันตัว ไม่ได้คิดว่าเอาไปติดสินบนเจ้าหน้าที่ เพราะในสถานนีตำรวจถ้าทำอะไรที่ผิด ไปติดสินบนแบบนั้น นิกกี้ก็คงไม่ทำหรอก แค่เขาให้ไปช่วย นิกกี้ก็ไปแค่นั้นจริงๆ''




-แต่กับสิ่งที่เกิดขึ้น ข่าวที่ออกมา ก็กระทบต่อชื่อเสียงและงานของเราโดนเบรกหมด


''ใช่ นิกกี้ก็ยอมรับกับสิ่งที่ทางบริษัทจะลงโทษนะ คือสังคมมองไปแล้ว ต้องหยุดทุกอย่าง ก็ไม่เป็นไร แต่พอมองย้อนกลับไปแล้วมันรู้สึกเสียดาย เสียใจมากๆ ที่เรามีโอกาสแล้ว แต่เราทำให้มันหลุดลอยไป เสียดายแบบไม่น่าเลย''


-แล้วทุกวันนี้กับแฟนที่โดนข้อหา ยังติดต่อพูดคุยกันอยู่หรือเปล่า


''ตอนแรกที่เขาติดคุก ก็มีไปเยี่ยมบ้างค่ะ แต่ตอนนี้ไม่แล้ว คือต่างคนต่างมีชีวิต ทางเดินของตัวเอง ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรอีก หลังจากที่เขาออกมาแล้ว ก็ไม่ได้คุยไม่ได้ติดต่ออะไรกันอีก นิกกี้ก็อยู่ดูแลชีวิตตัวเองให้ดีที่สุด อยู่กับแม่ กับเพื่อนไม่กี่คน เรารู้เลยว่า สุดท้ายมีไม่กี่คนที่อยู่เคียงข้างเรา แต่ก่อนเพื่อนตรึม ตอนที่เกิดเรื่องแย่ๆ หายเกือบหมด แต่ก็ดีนะคะ มันทำให้เรารู้ว่า ใครรักและจริงใจกับเราที่สุด ''


-ทำยังไง ถึงประคับประคองชีวิตผ่านวันที่เลวร้ายมาได้


''แม่และกำลังใจจากคนที่รักและหวังดีกับเราอย่างจริงใจ แม่บอกเราไม่ได้เลวร้ายอย่างที่ใครๆ เขาคิด เพราะฉะนั้น นิกกี้ต้องพิสูจน์ตัวเอง และนิกกี้ขอบคุณมากที่มหาวิทยาลัยศรีปทุมเขาให้โอกาส คือพอเกิดเรื่องราวทางมหาวิทยาลัยเขาก็เรียกนิกกี้เข้าไปคุย คือผู้ใหญ่พอท่านทราบเหตุผลที่มาที่ไปก็เข้าใจ ให้โอกาสนิกกี้เรียนต่อ ตอนนี้อยู่ปี 3 คณะศิลปศาสตาสร์ การท่องเที่ยวและการโรงแรม แล้วค่ะ''


-ย้อนถาม จำวันที่เกิดเรื่องได้ไหม สภาพตอนนั้นนิกกี้เป็นยังไงบ้าง


''เครียดค่ะ เสียใจ คิดมาก นอนไม่ได้สองสามวัน ร้องไห้จนต้องใช้ยานอนหลับช่วย พยายามทำใจ จนเกือบเดือน มาเจอพี่พี่คนหนึ่ง เขาไปปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์ที่วัดประยูรฯ แถวมีนบุรี เป็นสำนักปฏิบัติธรรม มีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย เขาก็อยากให้นิกกี้ไป แล้วลองตั้งใจปฏิบัติธรรมดู นิกกี้ก็ไปนุ่งขาวหุ่มขาว ครั้งแรก 7 วัน เขาก็สอนนั่งวิปัสสนา, เดินจงกรม, นั่งสมาธิ, ถือศีล 5 ค่ะ จากแต่ก่อนนิกกี้ไม่ใช่คนธรรมะธรรมโมเลย ทีนี้เขาสอนให้เรานั่งกรรมฐาน ทำให้เรามีสมาธิ พอมีสมาธิทำให้เกิดปัญญา ทำให้เรามองเป็นทางออกเหมือนแสงสว่างค่ะ สิ่งที่เราควรปล่อยวาง มันก็ทำใจได้ดีขึ้นมากจริงๆ นะคะ จากนั้นนิกกี้ก็ไปปฏิบัติธรรมเรื่อยๆ สองสามเดือนครั้งไปที ก็ 7-8 วัน นุ่งขาวห่มขาว เหมือนบวชชีเลยค่ะ''






- เรื่องที่เกิดขึ้นสอนเราอย่างไรบ้าง


''มันทำให้เราได้คิดว่า ต่อไปเราจะคิดทำอะไรให้ระวัง รู้จักแยกแยะ อะไรควร อะไรไม่ควรอย่างไร มองทุกสิ่งทุกอย่างกว้าง และโตขึ้น ปรับตัวปรับใจได้ดีขึ้น''


-อนาคตอยากเข้าวงการบันเทิงไหม


''ก็อยากนะ แต่ไม่รู้จะมีโอกาสหรือเปล่า มองวันวานแล้วเสียดายเหมือนกัน แต่ทำไงได้ มันผ่านมาแล้ว ก็คงต้องทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด อย่างน้อยก็ตั้งใจเรียนให้จบ แล้วก็ทำงานที่ฝันไว้ อยากมีธุรกิจเล็กๆ เป็นของตัวเอง ช่วยแม่ได้ นิกกี้ไม่มีพี่น้อง พ่อแม่เสียแล้ว เหลือแต่แม่บุญธรรมที่ดูแลให้ชีวิต โอกาสที่ดีกับนิกกี้จนมาถึงวันนี้ค่ะ''


รอยยิ้มกับคำพูดเธอที่ทิ้งท้ายของนิกกี้ทำให้เรารู้ว่า มรสุมได้ผ่านพัดเธอไปแล้ว และดูเธอเข้มแข็งมากขึ้น พร้อมจะพิสูจน์ตัวเองต่อสู้กับวันใหม่ที่ย่างเข้ามาแต่ละวัน แน่นอนว่า ไม่มีใครแก้ไขอดีตที่ผ่านมาได้ มีแต่จะต้องเดินหน้า และทำอนาคตที่จะย่างเข้ามาให้ดีที่สุด

ที่มา
สยามดารา


Create Date : 09 พฤษภาคม 2553
Last Update : 9 พฤษภาคม 2553 2:46:35 น. 0 comments
Counter : 2712 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.