กว่าจะถึงวันนี้ ผู้เป็นหนึ่งบนเวที 'นางงาม' "เวทีนางงาม” เป็นความใฝ่ฝันของสาว ๆ หลายคน ที่อยากคว้ามงกุฎมาครอบครองพร้อมเดินอวดโฉมโบกมืออยู่บนเวทีอย่างสง่างาม โดยบรรดาสาวงามแต่ละคนจะต้องประชันโฉมและแสดงความสามารถออกมาให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของเหล่าคณะกรรมการ ซึ่งสาวคนใดจะคว้ามงกุฎไปครองได้นั้น แต่ละเวทีมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น บนเส้นทางสายนี้ จึงไม่ใช่ว่าจะถึงเส้นชัยกันได้ง่าย ๆ !! “เมื่อคิดจะก้าวเข้าสู่ วงการนี้แล้ว การเตรียมตัวเป็นเรื่องสำคัญ พกความงามมาเพียงอย่างเดียวคงคว้ามงกุฎมาครองได้ยาก...” ประณม ถาวรเวช ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลิก ภาพ จอห์น โรเบิร์ต เพาเวอร์ส หนึ่งในทีมงานกองประกวดนางงามผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของสาวงามหลายต่อหลายคน เล่าผ่านประสบการณ์ในฐานะพี่เลี้ยงในกองประกวดถึงการเตรียมความพร้อมเพื่อพิชิตมงกุฎนางงามว่า ก่อนอื่นต้องดูว่าเวทีที่เข้าประกวดนั้นใช้อะไรเป็นเกณฑ์ ในการตัดสินบ้าง โดยส่วนใหญ่แล้วคะแนนจะแบ่งเป็น 3 ส่วน ใหญ่ ๆ คือ เรื่องของ บุคลิกภาพ การพูดจา การตอบคำถาม และความสวยงามของรูปร่างหน้าตา เรื่องของ รูปร่าง หน้าตา มีความสำคัญมากเพราะเป็นสิ่งแรกที่ได้เห็นและส่วนหนึ่งของคะแนนที่ได้มาจากส่วนนี้ ฉะนั้นนางงามรูปร่างต้องฟิตและเฟิร์ม เพราะว่าเวลาที่เดินบนเวทีนึกถึงภาพนางงามแต่งชุดว่ายน้ำแล้วเนื้อไม่แน่น เดินไปน่องแกว่งไป คงเป็นภาพที่ไม่น่ามองนัก นางงามบางคนคิดว่าตนเองอายุยังน้อยคงไม่มีเซลลูไลท์ที่มีลักษณะเป็นรอยตะปุ่มตะปาขรุขระคล้ายผิวเปลือกส้มที่ผิวหนัง ซึ่งบางคนมีจะได้ขจัดตรงนี้ไป รูปร่างที่ฟิตและเฟิร์ม คือ ต้องกล้ามเนื้อแน่น เวลาเดินเนื้อต้องไม่เต้น มีอก มีเอว มีตะโพก เมื่อใส่ ชุดว่ายน้ำจะต้องเห็นสัดส่วนได้อย่างชัดเจน เอวเข้ารูป ต้องเป็นสัดส่วนที่สมดุลกัน ทั้งอก เอว ตะโพกและความสูง นางงามที่ดีจะต้องมีระเบียบในตนเอง คือ ต้องออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายเฟิร์มตลอด และไม่ใช่ว่าพอได้เป็นนางงามแล้วจะหยุดออกกำลังกายแต่ต้องทำตลอดไปเรื่อย ๆ อย่างนางงามในต่างประเทศเมื่อมีการเก็บตัว เขาจะเรียกร้องถามหาว่ามีฟิตเนสหรือไม่ และถึงแม้จะไม่มีฟิตเนสให้เขาก็จะออกมาวิ่ง เดินรอบ ๆ ที่พัก รวมทั้งขณะที่รอฝึกซ้อมการแสดงจะไม่อยู่เฉย จะออกกำลังอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้ร่างกายของเขาเฟิร์ม ในเรื่องการเดิน การตอบคำถาม การฝึกซ้อมต่าง ๆ เมืองไทยเรายังมีน้อย แต่เปอร์เซ็นต์ในการฝึกซ้อมการเตรียมพร้อมทางด้านร่างกายค่อนข้างมีการเตรียมตัวทางด้านนี้มากขึ้น ทุกคนจะออกกำลังกาย เข้าฟิตเนส ไปศูนย์เสริมความงามต่าง ๆ เพื่อทำอย่างไรให้รูปร่างกระชับ สวยงามเร็วที่สุด “สำหรับผู้เข้าประกวดที่ไม่ได้สัดส่วนในเรื่องของรูปร่างและหน้าตา บนเวทีการประกวดของไทยในปัจจุบันอนุญาตให้ทำศัลยกรรมได้ เพราะบนเวทีในต่างประเทศมองเรื่องนี้เป็นเรื่องธรรมดา คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้คุณสวย หุ่นดี ฉะนั้นถามว่าบนเวทีนางงามใครไม่ได้ทำศัลยกรรมบ้างตอบได้เลยว่ามีเปอร์เซ็นต์น้อยมาก เพราะส่วนใหญ่จะทำศัลยกรรมกันทั้งนั้น ยิ่งในบางประเทศทำทั้งตัวเลยก็มี ถ้าเอารูปภาพเก่ามาดูเปรียบเทียบกับหน้าตาในปัจจุบันจะเกิดคำถามขึ้นมาทันที ว่านี้ใช่ คนเดียวกันหรือไม่ เพราะกลายเป็นอีกคนหนึ่งไปเลย” ส่วนเรื่องของ บุคลิกภาพนั้น เป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ ถึงแม้จะมีใบหน้าและเรือนร่างที่สวยงามไม่มีที่ติ แต่มีบุคลิกภาพที่ไม่ดี ไม่รู้จักการวางตัว ท่วงท่าในการเดินไม่สง่างาม ไม่รู้มาร ยาทสังคม ก็อาจจะเสียเปรียบ ผู้เข้าประกวดคนอื่นอย่างน่าเสียดาย จึงต้องมีการฝึกในส่วนนี้ เพื่อให้เป็นคนที่มีบุคลิกภาพที่ดูดี สิ่งแรก คือ การนำเสนอตัวเอง เมื่ออยู่ในที่ชุมชนไม่ว่าที่ใดก็ตาม ความสง่างามในตัวเราสามารถดึงดูดความสนใจคนอื่นได้หรือไม่ ตรงนี้จะเป็นสิ่งที่ดึงความสนใจของกรรมการที่จะมองว่าคนนี้ดูสง่าบนเวทีแล้วยังสามารถพรีเซนต์ตนเองได้เป็นอย่างดีด้วย นั่นหมายถึงว่าจะต้องรู้ในเรื่องของการเดิน มีท่วงท่าการเดินที่สง่าสามารถเดินได้อย่างนางพญา ยิ่งการเดินบนเวทีสมัยนี้ไม่ได้เดินเหมือนกับในสมัยก่อน เพราะจะบวกกับการเดินแบบกลาย ๆ คือ เป็นการผสมผสานระหว่างนางแบบกับ นางงาม ซึ่งเป็นเรื่องที่จะต้องฝึก ในส่วนต่อมาที่จะต้องฝึกฝน คือ เมื่อปรากฏตัวบนเวที ไม่ใช่แค่ภาษา ท่าทางในการเดินเท่านั้น แต่จะมีส่วนของสีหน้าที่แสดงถึงความมั่นใจโดยจะแสดง ออกมาทางสีหน้าและแววตา ฉะนั้น สิ่งที่ต้องฝึกอีกอย่างหนึ่ง คือ เรื่องของแอ๊คติ้งในการแสดง เพื่อให้รู้สึกมั่นใจในตนเองมากขึ้น สามารถดึงคนให้มาสนใจเราได้ รวมทั้ง ดวงตา ที่มองใครก็ตามจะต้องเป็นตาที่เป็นประกาย ไม่ใช่ดวงตาที่อ้างว้าง และ รอยยิ้ม ที่ต้องสร้างความประทับใจในรอยยิ้มให้ได้ เพราะนางงามเมื่อเดินบนเวทีจะต้องยิ้มด้วย ฉะนั้นจะยิ้มอย่างไรให้ดูเป็นธรรมชาติและเป็นตัวเองมากที่สุด สุดท้าย จะอยู่ในส่วนของการ ตอบคำถาม ที่จะต้องฝึกซ้อมกันอย่างที่ต่างประเทศเขาฝึกกัน ซึ่งในเมืองไทยเริ่มมีบ้างแล้ว คือ จะมีคำถามเข้ามาเรื่อย ๆ โดยที่ คำถามเหล่านั้นไม่ได้ต้องการคำตอบที่ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ต้องการดูไหวพริบของผู้เข้าประกวดคนนั้น ณ เวลานั้น ว่าจะตอบอย่างไร โดยจะมีคำถามประมาณ 100 คำถาม ซึ่งเป็นคำถามอะไรก็ได้ มีทั้ง คำถามเชาวน์ คำถามทั่ว ๆ ไป คำถามที่เกี่ยวกับตัวผู้เข้าประกวดเอง เพราะเวลาที่ตอบนั้น ผู้เข้าประกวดจะได้ฝึกการเรียงลำดับความคิด จะพูดออกมาอย่างมีหลักการ ตอบได้ตรงประเด็น เพราะบางคนพูดจา หาจุดไม่เจอ จับประเด็นไม่ได้ ว่า คำถาม ๆ นี้ จริง ๆ แล้วกรรมการต้องการอะไร นี่คือสิ่งที่ต้องฝึก “มองดูแล้วอาจ คิดว่าง่ายตอบคำถามใคร ๆ ก็ตอบได้ แต่ตอบอย่างไรที่ตอบแล้วเรียกว่ามี กึ๋น ตรงนี้สำคัญมาก เป็นการฝึกเพื่อให้เป็นธรรมชาติและอยู่ ในตัวเราจนกระทั่งเกิดความเคยชิน ขึ้นมา โดยให้ความสำคัญในทุก ๆ เรื่องเท่า ๆ กัน อยู่ที่ใจ ตั้งใจฝึกให้ดี ทุกคนสามารถทำได้ ไม่ยากเกินความสามารถอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่มาทำในนาทีสุดท้าย เพราะจะเหนื่อย และอาจไม่ได้รับความสำเร็จอย่างที่ตั้งเป้าเอาไว้” เมื่อรู้ตัวว่าอยากจะประกวดนางงามต้องการเข้าสู่วงการนี้ นอกจากการสร้างระเบียบวินัยให้กับตนเอง ถึงเวลากิน ก็ต้องกิน ถึงเวลานอนก็นอน ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดูแลผิวพรรณและเรือนร่างให้ดีและได้สัดส่วน ประณม แนะเคล็ดลับว่า “พยายามออกสังคมบ่อย ๆ ไปงานโน้น งานนี้ เช่น งานเปิดตัวสินค้า งานเดินแฟชั่นโชว์ ดูคอนเสิร์ต จะได้เห็นรูปแบบต่าง ๆ ของงาน ไปเปิดหูเปิดตา ไปเรียนรู้ จะได้รู้ว่าถ้าเป็นงานแบบนี้จะต้องวางตัวแบบใด แต่งตัวอย่างไรถึงจะเหมาะสมถูกกาลเทศะ ได้เห็นตัวอย่างจากผู้คนที่อยู่ในงาน เป็นการฝึกฝนตนเองจากสถานการณ์จริง เมื่อจะต้องออกงานสังคมหรือเป็นส่วนหนึ่งในงานต่าง ๆ จะได้ไม่เขินหรือไม่รู้ว่าจะทำตัวหรือวางตัวอย่างไร เมื่อแสดงอากัปกิริยาต่าง ๆ จะได้ดูเป็นธรรมชาติ บางคนไม่เคยออกงานเข้าสังคมพอต้องไปจริง ๆ ทำตัวไม่ถูก ประหม่า” สิ่งสำคัญนอกจากการฝึกซ้อมในส่วนต่าง ๆ แล้ว พี่เลี้ยงรุ่นเก๋ายังแนะอีกว่า ต้องทำตัวเองให้เป็นธรรมชาติที่สุด อย่า เสแสร้ง เพราะการเสแสร้งทำได้ไม่นานเดี๋ยวก็หลุด พยายามนำเสนอสิ่งที่เป็นตัวเรา เอาความสวย ความน่ารัก ความสดใสของตนเองที่เป็นธรรมชาติออกมาแสดงให้กรรมการเห็นให้ได้ สาว ๆ รู้อย่างนี้แล้ว เริ่มฟิตตนเองเสียตั้งแต่วันนี้ เมื่อขึ้นไปอยู่บนเวที...จะได้สวยและงามอย่างมีคุณค่า คว้ามงกุฎมาครองได้อย่างเต็มภาคภูมิ. ที่มา dailynews.co.th   Create Date : 18 มีนาคม 2552 2 comments Last Update : 18 มีนาคม 2552 21:46:29 น. Counter : 6107 Pageviews. Share Tweet

พี่น็อตดูแก่จัง   โดย: 1 IP: 222.123.226.55 21 มีนาคม 2552 9:06:55 น.

เว็บMissosology เปิดโหวตอีกรอบแล้วเชิญทุกท่านร่วมโหวต!!! VOTE!! VOTE!! VOTE!! VOTE!! VOTE!! VOTE!! VOTE!! หวังจากเมื่อครั้งก่อนไทยสามารถได้ถึงอันดับ 3 ครั้งนี้ขอเชิญทุกท่านร่วมโหวตตามนี้ //www.missosology.org/2009/mu/hp.php โหวตให้ Miss Thailand, Chutima Durongdej ทราบแล้วกรุณาบอกต่อไปยังเว็บอื่นอย่าง t-pageant, madoo, sanook, kapok, ch7, pantip หรือเว็บไซต์ดังๆของไทย ก่อนจะปิดโหวตในไม่ช้า   โดย: ADAB IP: 125.25.124.168 25 เมษายน 2552 14:24:31 น.