Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
14 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 

ใช้สติตั้งรับข่าวลบ "เอมี่"แกร่งมีภูมิคุ้มกัน



กลับมาอีกครั้ง สำหรับ "แม่มาแม่มา" สาวไทย-ฮอลแลนด์ วัย 21 ปี "เอมี่"อาเมเรีย จาคอป ในละครเรื่อง "ธิดาวานร ภาค 2" ภาคนี้นอกจากจะมีวลีใหม่ที่ติดปากอย่าง "อุอุ๊ อิอิ๊" แล้ว ดาราสาวยังต้องร่วมงานกับผองสัตว์มากขึ้น

l ใน "ธิดาวานร ภาค 2" เห็นว่านอกจากจะร่วมงานกับลิงแล้ว ยังต้องเล่นกับช้างและเสือด้วย?

เอมี่ - "นอกจากเจ้าบูบู้ ลิงอุรังอุตังที่เจอกันในภาคแรก ภาคนี้เอมี่ต้องเล่นกับช้างและเสือด้วย ก็สนุกดีค่ะ กับบูบู้ไม่ได้เจอกันนาน พอเข้าฉากวันแรกมันเดินมาจับมือ มันจำได้ ดีใจมากค่ะ"

"กับช้างในภาคแรกได้แต่ขี่อย่างเดียว แต่มาภาคนี้ได้สัมผัสมันมากขึ้น รู้สึกว่าเขามีวินัยและอ่อนโยนมาก มีฉากที่ช้างต้องใช้งวงรัดเอมี่ มันก็ค่อยๆ รัด ค่อยๆ ปล่อย ไม่รู้สึกเจ็บเลย"

"ส่วนเสือน่ารักมาก ตอนเล่นกับเสือตัวใหญ่ต้องถ่ายแยกเฟรม เพราะคนเลี้ยงบอกถ้ามันผิด กลิ่นมันจะหงุดหงิด แต่กับลูกเสือนี่สบายมาก เอมี่ชอบมาก ยังถามคนเลี้ยงเลยว่าขายหรือเปล่า ตัวเท่าไหร่ อยากซื้อไปเลี้ยงค่ะ"

l ถึงวันนี้รักและชอบแสดงมากน้อยแค่ไหน?

เอมี่ - "ค่อนข้างชอบแล้วค่ะ จากตอนแรกที่ไม่ชอบเลยเพราะไม่ชอบแอ๊กติ้ง ไม่ชอบอะไรที่ไม่ใช่ตัวเรา ตรงนี้ก็ค่อยๆ ปรับและเรียนรู้ไปเรื่อยๆ ซึ่งเสน่ห์การแสดงอยู่ตรงที่เราต้องเป็นคนอื่นและแสดงออกมาให้คนดูได้เห็น ได้รู้ว่าเราทำได้"

l ถือว่าชีวิตเปลี่ยนไปหรือเปล่าหลังเล่น "ธิดาวานร" ภาคแรก แล้วประสบความสำเร็จ?

เอมี่ - "เปลี่ยนไปเหมือนกัน เพราะคนรู้จักเยอะมาก จากเดิมเป็นเด็กกะโปโล ไปไหนไม่ค่อยมีคนรู้จัก แต่มาตอนนี้มีคนรู้จักและทักเราเยอะขึ้น ทำอะไรก็ต้องระวังตัวมากขึ้นค่ะ"

l ช่วงนี้ชีวิตลงตัวหรือยัง?

เอมี่ - "ก็ถือว่ากำลังไปได้สวยค่ะ ทำงานวงการบันเทิงมา 3 ปีแล้ว ก็ค่อยๆ ปรับตัว ที่ต้องปรับปรุงอาจจะเป็นเรื่องบุคลิกภาพ ซึ่งเอมี่ยังขี้อายอยู่ จุดที่ขาดความมั่นใจมากที่สุดคือเวลาที่เอมี่แสดงจะคิดว่าตัวเองยังแสดงไม่ เก่ง เพราะยังไม่ค่อยกล้าเล่น ก็ต้องปรับไปเรื่อยๆ"

l 3 ปีที่ทำงานคิดว่าตัวเองโตขึ้นเยอะไหม?

เอมี่ - "คิดว่าโตขึ้นบ้าง เรื่องความคิดบางอย่างก็คิดได้ แต่บางครั้งไม่ยอมรับความจริงว่าโตแล้ว อย่างเรื่องอายุ ยังคิดว่าเป็นเด็กอยู่ค่ะ"



l พ่อแม่อยู่ภูเก็ต เอมี่อยู่กรุงเทพฯ คนเดียว เกิดปัญหาขึ้นมาปรึกษาใคร?

เอมี่ - "เอมี่ไม่ชอบปรึกษาใคร เวลามีอะไรก็จะเก็บไว้คนเดียวและแก้ไขด้วยตัวเอง ไม่ชอบให้ใครมาเดือดร้อนกับเรา เหมือนลองผิดลองถูก วันนี้เอมี่รู้สึกภูมิใจที่อยู่ได้ด้วยตัวเอง ถึงอยู่ห่างกันก็คุยกับพ่อแม่ทุกวันทางโทรศัพท์ค่ะ"

l เคยร้องไห้เพราะท้อแท้ไหม?

เอมี่ - "มีบ้างค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะไม่ร้อง ส่วนที่เคยร้องไห้ต่อหน้าพี่ๆ นักข่าว เพราะเอมี่เป็นคนที่เซนซิทีฟ ใครมาสะกิดนิดเดียวก็ไปแล้ว พอร้องไห้แล้วก็เกิดเป็นประเด็นใหม่ ซึ่งเราไม่ได้ตั้งใจร้อง มาวันนี้คิดว่าจะไม่ร้องไห้แบบนั้นอีก"

l ตั้งแต่เข้าวงการ ข่าวไหนที่รู้สึกแรง?

เอมี่ - "ข่าวเป็นเอเยนต์ค้ายาเสพติดค่ะ งงว่าต้นตอข่าวมาจากไหน ใครไม่ชอบก็อย่าทำร้ายด้วยวิธีนี้เลย ข่าวออกมาก็รู้สึกเสียใจ ยอมรับว่าข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นทำให้เอมี่ไม่รักและไม่อยากอยู่วงการนี้อีกเลย"

"เอมี่ โชคดีที่มีคนให้กำลังใจตลอดและถือว่ายังโดนน้อย คนอื่นที่โดนหนักกว่ายังอยู่ได้เลย มาวันนี้สบายใจขึ้นและเอมี่ก็เริ่มมีภูมิคุ้มกันตัวเองบ้างแล้ว ตอนนี้ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเราก็พอรับได้บ้าง ถือว่าแข็งแรงขึ้น คนอื่นก็โดนเหมือนเราเขายังอยู่ได้ เพราะฉะนั้นเราก็ต้องอยู่ให้ได้ค่ะ"

คุณพ่อคุณแม่แนะนำอะไรบ้าง?

เอมี่ - "แม่จะเตือนทุกอย่าง ทุกเรื่อง และเตือนทุกวัน ส่วนคุณพ่อจะให้เรียนรู้ด้วยตัวเอง ถ้าเกิดมีปัญหาอะไรก็ค่อยบอก พ่ออยากให้ลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง"

l ถึงวันนี้ประสบความสำเร็จหรือยัง?

เอมี่ - "ถือว่าประสบความสำเร็จแล้วค่ะ จากเด็กผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่ง ได้ประกวดแล้วได้ตำแหน่งมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2006 จากนั้นมาเล่นละครจนเป็นที่รู้จัก ซึ่งมันผิดจากความฝัน ตอนเด็กๆ ที่อยากเป็นนักร้อง แต่มาเป็นนักแสดงก็ถือเป็นอีกแนวหนึ่ง ทำให้ได้ทำอะไรหลายๆ อย่าง ในเมื่อโอกาสมันมาทางการแสดงก็ควรไขว่คว้าเอาไว้ค่ะ"

l วางแผนอนาคตไว้อย่างไร?

เอมี่ - "ยังไม่ได้คิดเลยค่ะ ตอนนี้ยังไม่รู้ชะตาและอนาคตตัวเองเลย ขอทำงานและเรียนรู้ชีวิตไปเรื่อยๆ ไม่คาดหวังกับวันข้างหน้า ไม่อยากคาดหวังเพราะกลัวผิดหวัง ขอค่อยๆ ก้าวไปทีละสเต็ป ช้าๆ แต่มั่นคง อะไรจะดีมันก็ดีเอง ส่วนอะไรจะร้ายมันก็ร้าย และเราต้องตั้งรับกับมันให้ได้อย่างมีสติค่ะ"



มีสติที่ไหน ที่นั่นย่อมมีทางออก

อยู่ลำพังจนชิน

ปีที่ทำงานในวงการบันเทิง นางเอกสาว "เอมี่-อาเมเรีย" บอกว่าช่วยฝึกให้ตัวเองมีความรับผิดชอบมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้เก็บเงินซื้อบ้านได้แล้ว โดยเจ้าตัวเผย

"เป็นบ้านที่เอมี่ซื้อด้วยน้ำพักน้ำแรงโดยร่วมกับคุณแม่ เป็นบ้าน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ราคาประมาณ 4 ล้านกว่าบาท อยู่แถวราม อินทราค่ะ ได้เงินมาก็ซื้อเป็นอสังหาริมทรัพย์เก็บไว้ ได้แค่นี้ก็ภูมิใจมากแล้วค่ะ"

สาเหตุที่ตัดสินใจซื้อบ้าน เอมี่ให้เหตุผล "เพราะตอนนี้อยู่คอนโดฯ และผ่อนไปเรื่อยๆ ก็สู้เอาเงินที่ผ่อนคอนโดฯมาผ่อนบ้านดีกว่า"

"บ้านหลังนี้เป็นความฝันของเอมี่ที่ตั้งใจอยากซื้อบ้านและซื้อรถ โดยรถยนต์มีแล้ว เป็นรถที่ได้จากการประกวดมิสทีนฯ เลยซื้อบ้านดีกว่า ซึ่งบ้านหลังนี้เป็นเงินที่ได้จากการเล่นละคร ธิดาวานร รวมถึงงานโชว์ตัว งานถ่ายแบบต่างๆ ค่ะ"

และเพราะคุณพ่อคุณแม่ต้องอยู่ดูแลกิจการโรงแรม และรีสอร์ตที่ภูเก็ต ทำให้ดาราสาวต้องขึ้นมาอยู่กรุงเทพฯ คนเดียว โดยเธออยู่ตั้งแต่ครั้งที่เล่นละครเรื่อง "ธิดาวานร" ภาคแรกแล้ว

ถามว่าเหงาไหม ดาราสาวว่า "เฉยๆ ค่ะ อยู่คนเดียวจนชินแล้ว ต้องช่วยเหลือตัวเองตลอด ทำอะไรเอง ไปไหนก็ไปคนเดียว ตรงนี้ทำให้เราแกร่งขึ้นค่ะ"

แม้ทางบ้านจะมีฐานะ แต่เมื่อโอกาสมาหาแล้วเอมี่จึงไม่ปล่อยให้หลุดมือ หลังได้ตำแหน่งมิสทีนไทยแลนด์ ปี 2006 แล้ว งานแสดงก็เริ่มมี เข้ามือ

"ถ้าทิ้งมันไปก็ถือว่าเสียโอกาสไปเปล่าๆ พอได้มาแล้วก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ตรงนี้ถือว่าได้เปรียบคนอื่นด้วยซ้ำ ไม่คิดว่าช่วงชีวิตวัยรุ่นจะหายไป อย่างเพื่อนๆ ได้เที่ยวแต่เราเป็นคนไม่ชอบเที่ยวอยู่แล้วค่ะ"

ส่วนเรื่องการเรียนนั้น ดาราสาวก็ไม่ทิ้ง "ตอนนี้เรียนอยู่คณะบริหารธุรกิจ (ม.รังสิต) ค่ะ เพิ่งโอนย้ายจากศิลปศาสตร์มาเรียนคณะนี้ เรียนไปด้วยทำงานไปด้วยเหนื่อยเหมือนกัน แต่ผลการเรียนออกมาก็ใช้ได้ เอมี่อยากเรียนควบคู่กับการทำงานไปด้วยค่ะ"

เรียนด้วยทำงานด้วย ดาราสาวมีต้นแบบมาจากดารารุ่นพี่ "มีรุ่นพี่ๆ หลายคนที่เอมี่เอาเป็นแบบอย่าง อย่างพี่ยุ้ย-จีรนันท์ หรือ พี่เชียร์-ฑิฆัมพร ซึ่งเขาทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วย ตอนนี้เขาเรียนใกล้จบแล้ว มันน่าภูมิใจค่ะ"

อีกไม่นานดาราสาว "เอมี่" ก็จะเรียนจบและได้ภูมิใจเหมือนรุ่นพี่แล้ว



สเป๊กหนุ่มเข้มแบบไทย

"เอมี่ชอบผู้ชายสไตล์พี่ป๋อ(ณัฐวุฒิ สกิดใจ) เข้มๆ ไทยๆ ค่ะ" สาว "เอมี่-อาเมเรีย" เผย เมื่อถูกถามเรื่องสเป๊กหนุ่ม

จากนั้นก็ปฏิเสธข่าวกับหนุ่มๆ ไม่ว่าจะเป็น "เนส"ธนดล นิลนพรัตน์ หรือ "อิ๊กคิว"พีระพล เสนาคุณ โดยแจงเป็นรายๆ ให้ฟัง

"พี่เนสเป็นเหมือนพี่ชาย เป็นคนใต้เหมือนกัน มีปัญหาอะไรก็ปรึกษาพี่เนส กับพี่เนสไม่ถึงขั้นเป็นแฟนค่ะ"

"ส่วนอิ๊กคิวนี่ไม่ใช่เลย รู้จักเขาตั้งแต่เล่นหนังเดอะ กิ๊ก จากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย เขาเห็นเอมี่เหมือนน้องค่ะ"

แล้วกับหนุ่ม "บอย-โชคชัย" (บุญวรเมธี) ที่ว่าขึ้นคอนโดฯ เขาล่ะ ดาราสาวทำหน้าง้ำก่อนอธิบาย "ข่าวกับบอยไม่ใช่ความจริงค่ะ เคยคุยกับบอยนานมากแล้ว แต่ไม่คิดว่าเขาจะเอาเรื่องที่เกิดขึ้น 2 ปีที่แล้วมาพูดใหม่ ทำให้เสียความรู้สึกมาก อยู่ๆ ก็มีข่าวว่าเขาคบกับเรา ทั้งที่เราไม่ได้อะไรกับเขาเลย ไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนแบบนั้น"

ตอนนี้เอมี่โตเป็นสาว เรียนอยู่มหาวิทยาลัย เรื่องหนุ่มๆ ที่เข้ามาจีบนั้น เธอปฏิเสธ "ไม่มีเลยค่ะ ไม่ได้ปิดตัวเองนะคะ ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้เลย ถ้ามีมันก็มี แต่ถ้าไม่มีก็ไม่ได้ดิ้นรนไขว่คว้าค่ะ"

ส่วนสเป๊กเอมี่สำทับอีกครั้งว่า "ต้องคมเข้มเหมือนพี่ป๋อ และต้องเข้าใจตัวเรา เวลามีอะไรก็คุยกันด้วยเหตุผล ส่วนเรื่องนิสัยถึงจะไม่ดี แต่เวลามาคบกันแล้วปรับเข้าหากันคนละครึ่งก็น่าจะได้ค่ะ"

และแน่นอนว่า หนุ่มทุกคนที่เข้ามานั้น ต้องผ่านการสกรีนจากคุณพ่อ คุณแม่

แต่เหนือสิ่งอื่นใดเธอว่า "เอมี่ว่าเรารักใคร คุณพ่อคุณแม่ก็รักด้วยอยู่แล้วค่ะ"




 

Create Date : 14 พฤศจิกายน 2552
0 comments
Last Update : 14 พฤศจิกายน 2552 17:37:42 น.
Counter : 1818 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.