Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2554
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
5 มิถุนายน 2554
 
All Blogs
 

อยากกด Like ให้เธอ...มิสบิกินีไทยแลนด์



ได้ชื่อว่าเป็นผู้หญิงที่ใส่ชุดว่ายน้ำสวยที่สุดในประเทศไทยไปแล้วสำหรับ “พี-พัชรวรัมอร สิงห์สมบุญ” Miss Thailand Beach International 2011 ในสายตาของใครหลายคนเธออาจจะไม่ใช่สาวที่สวยที่สุด หุ่นดีที่สุด แต่ด้วยรูปร่างสมสัดส่วน ขายาวเรียวสวย ใบหน้าคมเข้มแบบไทยๆ บวกกับบุคลิกมาดมั่น มีความเป็นตัวของตัวเอง ทำให้เธอดูโดดเด่นไม่แพ้ใคร M-Lite จะพาไปทำความรู้จักกับสาวหน้าไทยหัวใจอินเตอร์คนนี้ แล้วจะพบว่าเธอไม่ได้มีดีแค่หุ่นสวย

ภาพของมิสไทยแลนด์ บีชในชุดบิกินีตัวจิ๋วลายเสือสุดเซ็กซี่ ปล่อยผมยาวสลวย โพสท่าอย่างสดใสร่าเริง ริมสระว่ายน้ำบรรยากาศสวยมองเห็นทิวทัศน์ของตึกโดยรอบ บริเวณเดอะบีช ชั้น 4 โรงแรมมิลเลนเนียม ฮิลตัน กรุงเทพฯ เสน่ห์ของเธอนั้นสะกดทุกสายตาของแขกในโรงแรมที่เดินผ่านไปมา แวบแรกที่ได้พบเธอดูมีมาดนางงาม ด้วยรูปร่างสูงเด่น หน้าเชิ่ด หลังตรง แต่งตัวเป๊ะ แต่เมื่อได้พูดคุยกับเธอเรากลับมองเห็นสาววัยรุ่นคนหนึ่งที่มีความซุกซนใน แววตา บุคลิกร่าเริง คุยเก่ง หัวเราะง่าย และดูเป็นคนง่ายๆ สบายๆ



หลงใหลงานในวงการฯ ตั้งแต่เด็ก

เธอหลงรักงานแสดง และงานในวงการบันเทิงทุกด้านทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลังมาตั้งแต่ช่วงเรียนไฮสคูลที่อเมริกา รวมทั้งสนใจเรื่องแฟชั่น สนใจของสวยๆ งามๆ และเหตุผลหนึ่งที่เธอตัดสินใจประกวดนางงาม เพราะเธอมองว่าเป็นการปูทางในการเข้าสู่วงการบันเทิง เพื่อที่จะได้เรียนรู้ ได้สัมผัสประสบการณ์การทำงานจริงๆ

"ตอนนี้พีเรียนอยู่ปี 3 ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ภาคอินเตอร์ เรียนทีวีโปรดักชัน เป็นเอนเตอร์เทนเมนต์ มีเดีย คือเรียนทุกอย่างที่เกี่ยวกับทีวี ไม่ว่าจะเป็นเอ็มวี ทีวีดราม่า รายการต่างๆ คือทำทุกอย่างค่ะ ตั้งแต่ช่างพันสายไฟ ยันโปรดิวเซอร์ (หัวเราะ)

เวลาอยู่มหาวิทยาลัยพีจะชอบแสดง เคยเล่นหนังให้เพื่อนหลายเรื่อง แล้วก็เคยเป็นมิสหอย คือที่มหาลัยจะมีประกวดมิสอินเตอร์จะเป็นแบบนางงาม กับมิสหอยก็เป็นแบบตลกๆ พีได้เป็นมิสหอย เพราะ เขาจับให้พีไปประกวดมิสหอย ก็ได้ตำแหน่งที่ 2 แล้วก็เป็นเชียร์ลีดเดอร์ของมหา'ลัย แต่ไม่ได้เต้นงาน เพราะพีดร็อปไปเรียนที่เกาหลีซะก่อน"

ความสนใจด้านภาษาของเธอก็ ไม่ธรรมดา ไม่ใช่เรียนแค่เทคคอร์สพื้นฐานสั้นๆ แต่เมื่อพบว่าตนเองชอบและอยากเรียน ประกอบกับครอบครัวเริ่มทำธุรกิจกับชาวเกาหลี เธอตัดสินใจไปเรียนภาษาเกาหลีที่ประเทศของเจ้าของภาษาอย่างจริงจัง โดยไปเรียน และใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นคนเดียวนานถึง 7 เดือน

"สาเหตุที่ตัดสินใจไปเรียน ภาษาเกาหลีเพราะตอนนั้นที่บ้านทำธุรกิจกับชาวเกาหลี พีมองว่าถ้าเรา communicate กับเขา เราก็ต้องเรียนรู้ภาษาของเขา ตอนนั้นพีสนใจอยากเรียนต่อด้านมีเดียที่เกาหลีด้วย แต่ว่าที่นั่นไม่มีภาคภาษาอังกฤษที่เป็นด้านมีเดียเลย ก็เลยเรียนภาษาอย่างเดียว

พีมองว่าการศึกษาด้านเอน เตอร์เทนเมนต์ มีเดียของประเทศเกาหลีน่าสนใจ รัฐบาลประเทศเขาสนับสนุนมาก ทุกๆ อย่างที่อยู่ในทีวีมันเป็นอะไรที่น่าสนใจจริงๆ เพราะพีเคยไปอยู่ตรงนั้น เคยไป back stage มาแล้ว คือเห็นทุกคนเขาตั้งใจทำงานกันจริงๆ พีเห็นคอนเสิร์ตที่เขาถ่ายกันเล็กๆ เขาใช้กล้องประมาณ 4-5 ตัว คือรัฐบาลเขาสนับสนุนตรงนี้ว่าเป็นธุรกิจของเขา เพื่อดึงคนเข้าประเทศเกาหลี แล้วพีก็เลยอยากไปเรียนตรงนั้น เพราะอยากจะรู้ว่าถ้าเราเอากลับมาทำที่ไทยจะได้อย่างนั้นไหม"



ตอนเด็กถูกล้อว่าเป็น "ข้าวนอกนา"

ย้อนไปตอนเด็ก เธอสารภาพพร้อมกับหัวเราะเขินๆ ว่าเธอไม่มีแววความสวย ไม่ฉายแววการเป็นนางงามเลย เป็นเด็กตัวดำ ผมหยิก เพราะชอบเล่นกีฬากลางแดด แถมยังถูกเพื่อนล้อเป็นประจำว่าเป็นข้าวนอกนา แต่พอโตขึ้นมาเธอเริ่มดูแลตัวเอง แต่งหน้า แต่งตัว และชอบทำกิจกรรม ชอบแสดงออก จึงทำให้เธอมีความมั่นใจมากขึ้น

"ตอนเด็กพีเป็นเด็กที่ไม่มีความมั่นใจเลย เพราะเราไม่สวย ตัวก็ดำ ผมก็หยิก โดนล้อตลอดว่าข้าวนอกนาบ้างล่ะ ดำตับเป็ดบ้างล่ะ (หัวเราะ) ตอนโดนล้อก็เจ็บใจมากที่สุดในโลก แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หลังๆ ก็ชิน คิดว่าเราดำเดี๋ยวก็ขาว เพราะว่าตอนเด็กพีชอบเล่นเจ็ตสกีมาก เล่นกลางแดด เล่นทั้งวัน ผิวก็เลยคล้ำ พอเริ่มโตตอนนั้นเรียนอยู่ที่อเมริกา เด็กที่นู่นจะโตเร็ว พีก็เริ่มรักสวยรักงาม เริ่มแต่งตัว แต่งหน้าอ่อนๆ ต่างจากตอนเด็กมาก"

สาวพีเล่าถึงวีรกรรมซนๆ วัยเด็กว่าเป็นเด็กซนมาก ชอบเล่น ชอบลองอะไรที่ท้าทาย ไม่ค่อยกลัวอะไร “พีมีบ้านอยู่ที่หนองคาย อยู่ริมแม่น้ำโขง เด็กบ้านข้างๆ เขาก็เล่นเจ็ตสกีกัน ตอนนั้นพีประมาณ ป. 6 พี่ชายพี่สาวเขาก็เล่นเจ็ตนั่งกัน พีก็เล่นเจ็ตยืนเลย ขี่ออกไปแม่น้ำโขงคนเดียวเลย เป็นเด็กซนค่ะ แสบๆ แม่เรียกก็ไม่ยอมกลับ"



โตที่ประเทศอเมริกา

ช่วงวัยรุ่นย่างเข้ามัธยม ปลาย เธอตัดสินใจเรียนต่อที่ประเทศอเมริกา เพราะอยากพูดภาษาอังกฤษให้ได้เหมือนเจ้าของภาษา และอยากลองประสบการณ์ใหม่ๆ ซึ่งถือว่าเป็นการตัดสินใจที่ดีเพราะเธอได้ทั้งเรียนภาษา และได้พบประสบการณ์ชีวิตในช่วงไฮสคูล ที่ทั้งสนุก ตื่นเต้น ทำให้เธอเป็นคนที่มีความมั่นใจ กล้าแสดงออก และค้นพบความชอบของตัวเองอย่างทุกวันนี้

"ช่วงอนุบาลถึงประถมพีเรียนที่โรงเรียนอนุบาลของที่บ้าน (อนุบาลเพ็ญสันต์) ตอนมัธยมพีก็เรียนที่โรงเรียนจิตรลดาก่อน พอ จบม. 2 ถึงไปเรียนต่อที่อเมริกา ตั้งแต่เกรด 9 - 12 ที่ไปเรียนต่ออเมริกา เพราะเห็นพี่ชายอยู่ที่นู่น ตอนนั้นอยากเรียนภาษาด้วย คือเรารู้สึกตื่นเต้นนะ มันเป็น cool experience คือมองว่าเรามีโอกาสไปก็น่าจะไป เพราะภาษาอังกฤษมันก็สำคัญ ตอนนั้นอยากรู้ด้วยว่าไปอเมริกาแล้วจะเป็นยังไง ตอนเด็กก็เคยไปแต่อังกฤษ แต่อเมริกาไม่เคยไป

อยู่ที่นู่นพีเป็นนัก กิจกรรมของโรงเรียนเลย เป็นนักเต้นของโรงเรียน แล้วก็เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอล แล้วก็เป็นรองประธานรุ่น ตอนม.ปลาย คุมตั้งแต่อนุบาลถึง ม. 6 เหมือนพีเป็นคนเข้ากับใครก็ได้ อะไรก็ได้ อยู่ไฮสคูลมีเพื่อนเยอะ พีก็เป็นเหมือนเด็กวัยรุ่นทั่วไป ชอบเล่นสนุกสาน เฮฮา ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่

ความสนใจเรื่องของงานในวง การบันเทิงมันเริ่มจากช่วงที่ไปเรียนที่อเมริกา เราได้เห็นรายการ The simple life มันทำให้พีอยากรู้ว่าเรียลิตีโชว์ของเขา มันคือเรียลิตีจริงๆ หรือเปล่า อยากเห็นprocessของเขา อยากรู้ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง ที่เขาบอกเรามันเป็นอย่างที่เราคิดหรือเปล่า"

เธอเล่าความตั้งใจว่าหลัง จากนี้พอเรียนจบก็อยากทำตามความฝันคือได้ลองทำงานในวงการบันเทิงสักระยะ หนึ่ง หลังจากนั้นก็คงกลับไปช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัว



ครอบครัวทำธุรกิจใหญ่ที่ประเทศลาว

นอกจากบุคลิกภายนอกที่ดู มั่นใจแล้ว เธอยังมีความสามารถหลากหลายทั้งร้อง เล่น เต้นรำ แถมประวัติครอบครัวเธอนั้น ขอบอกว่าไม่ธรรมดา เธอเป็นลูกสาวของ “ดร.สิชา สิงห์สมบุญ” กงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐกานา ประจำประเทศไทย และคุณพ่อ “สาโรจน์ สิงห์สมบุญ” กรรมการ ผู้จัดการใหญ่ของธนาคารร่วมพัฒนาในประเทศลาว ครอบครัวเธอมีธุรกิจ และทำการค้าติดต่อกับหลากหลายประเทศทั่วโลก แบบนี้เรียกว่า สวย รวย เก่ง ครบสูตร

ธุรกิจหลักใหญ่ๆ ของครอบครัวสิงห์สมบุญจะอยู่ที่ประเทศลาว เธอเล่าว่าเริ่มจากคุณย่า (คุณหญิงสุวรรณี พัวไพโรจน์ สิงห์สมบุญ) ได้ใบอนุญาตจัดตั้งธนาคารที่ลาว ตั้งแต่ปี 1978 จึงเริ่มต้นทำธุรกิจที่ประเทศลาวมาจากตรงนั้น และกำลังจะทำโปรเจกต์ใหญ่สร้างรีสอร์ต โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ชื่อว่า "นาคราชนคร"

"นอกจากธุรกิจธนาคารร่วม พัฒนาที่ประเทศลาว ก็กำลังจะมีโปรเจกต์ใหญ่เลยสร้างเมืองใหม่ขึ้นมา มีโรงแรม 5 ดาว มี duty free พีไปตั้งแต่ถนนยังไม่ปูเลยค่ะ ไปช่วยงาน ดูงานก่อสร้าง ดูเลย์เอาต์ว่าเป็นยังไง ส่วนคุณแม่ก็จะติดต่อทำการค้ากับหลากหลายชาติ ทั้งกานา เกาหลี อเมริกา อังกฤษ อินโดนีเซีย แล้วก็มีธุรกิจเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์นำเข้าจากประเทศสเปน เพื่อที่จะสั่งทำเฟอร์นิเจอร์ในสไตล์ที่ท่านต้องการมาใช้ในงานรีสอร์ต"



ได้ชื่อ “สาวที่หุ่นสวยที่สุด”

จากเด็กน้อยที่เคยถูกล้อ ว่าเป็นข้าวนอกนา วันนี้เธอกลายเป็นนางงามที่หุ่นสวยที่สุดในประเทศไทย แน่นอนว่ารูปร่างดีมีชัยไปกว่าครึ่ง ส่วนที่เหลือเธอบอกคือความมั่นใจล้วนๆ แม้ว่าเธอจะไม่ใช่คนที่สวยที่สุด หรือหุ่นดีที่สุด แต่เธอก็มีความมั่นใจมาก และมุ่งมั่นที่จะทำสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตัวเธอเอง ครอบครัว และเพื่อประเทศชาติ

"พีทราบข่าวการประกวดจากช่อง Chic Channel เพราะปกติพีชอบดูแฟชั่นอยู่แล้ว พอ เห็นว่ามีการจัดประกวดมิสไทยแลนด์ บีช ก็คิดว่าเวทีนี้น่าลอง สำหรับตัวพีมองว่า การใส่ชุดว่ายน้ำมันก็เหมือนเราใส่ชุดว่ายน้ำไปเที่ยวทะเล ไปว่ายน้ำธรรมดา แต่คนไทยอาจจะมองว่าการใส่ชุดว่ายน้ำมันดูยั่วยวน หรือหวือหวา

บอกตรงๆ ว่าตอนแรกคิดว่าเราไม่น่าจะติด (หัวเราะ) ตอนที่ตัดสินใจประกวดเพราะอยากลอง แล้วก็คิดว่ารูปร่างเราก็ไม่ได้อ้วนน่าเกลียด อย่างน้อยก็ยังมีดีบ้าง เราก็มีความมั่นใจในหุ่นเรา แต่ไม่มั่นใจหน้า"


เคยประกวดมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สปี 2008


ก่อนหน้านี้เธอเคยประกวด มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2008 และได้เข้ารอบ 44 คนสุดท้าย ถึงแม้จะเคยผ่านการประกวดเวทีใหญ่มาก่อน แต่สำหรับเวทีมิสไทยแลนด์ บีช ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเธอ

"พอได้เข้ามาสัมผัสก็ รู้สึกว่าเวทีนี้ไม่ได้แตกต่างจากเวทีอื่นมาก รูปแบบจะคล้ายๆ กัน เพียงแต่ทัศนคติที่คนมองอาจจะไม่เหมือนกัน แต่ความรู้สึกของพีคือ ต่อให้เราขึ้นชื่อว่าเป็น Miss Thailand Beach International ภาพลักษณ์ดูเป็นสาวเซ็กซี่ แต่เวลาที่เราเดินไปไหนมาไหนก็ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวโป๊ หรือต้องทำตัวให้เป็นจุดเด่น เพียงเพราะเราได้ตำแหน่งนี้ พีก็ทำตัวเหมือนปกติทั่วไป เพียงแต่เราต้องวางตัวให้ดีขึ้น ถึงเราจะเคยผ่านเวทีมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สมา แต่เราไม่ได้รู้สึกว่าได้เปรียบกว่าคนอื่นนะ เพราะเวทีนี้ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาประกวดก็เคยผ่านเวทีใหญ่มาทั้งนั้นเลย มีแต่คนสวยๆ หุ่นดีๆ"



เคล็ดลับสร้างความมั่นใจแบบสุดๆ

เมื่ออยู่บนเวทีประกวด เธอดูมาดมั่น ท่วงท่าการเดินดูสง่า หุ่นสวยโดดเด่น พอถามถึงเรื่องเคล็ดลับการสร้างความมั่นใจ สาวพีกลับบอกว่าจริงๆ สร้างความมั่นใจยากมาก เพราะผู้เข้าประกวดแต่ละคนล้วนมีแต่คนสวย หุ่นดี บางทีก็รู้สึกเปรียบเทียบกับคนอื่น สำหรับพีวิธีที่ได้ผลคือใช้วิธีสะกดจิตตัวเอง ว่าตัวเองสวย ตัวเองดีที่สุด ถึงผ่านมาได้

"เวทีนี้ยากเลยล่ะสำหรับ พี เพราะพีเป็นคนที่เดินสบายๆ ไม่ใช่มาดนางแบบ แล้วยิ่งต้องมาใส่ชุดบิกินี ก็ต้องหามุมตัวเอง ต้องห่วงเรื่องท่าทางเดิน จะเดินอย่างไรให้ดูดี ให้ดูไม่อ้วน ไม่ให้ตรงไหนมันเผละออกมา

เรื่องบุคลิกภาพนี่สำคัญที่สุด ก่อน ประกวดก็จะมีสถาบันพัฒนาบุคลิกภาพบาร์บิซอน มาช่วยแนะนำเรื่องบุคลิกภาพ สอนให้เราสังเกตตัวเองว่ามีมุมไหนดี มุมไหนเป็นจุดด้อยของร่างกายก็ให้ดึงส่วนอื่นเข้ามาช่วย คือพัฒนาบุคลิกให้ดูดีมากขึ้น เวลาเดินต้องหลังตึง เดินใช้ส้นเท้าลง สะโพกเราก็จะขยับไปเอง ทำให้ดูมีเคิร์ฟมากขึ้น เวลาโพสท่าถ่ายรูปก็ต้องรู้มุมกล้อง เวลายิ้มก็ต้องห้ามยิ้มมากเกินไป ยิ้มให้พอดีๆ

ก่อนหน้านี้พีเป็นคนเดิน หลังค่อม เพราะว่าเราตัวสูงกว่าเพื่อนตั้งแต่เด็กๆ แล้วก็ติดมาตั้งแต่ตอนเด็กเลย ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่ แต่พอมาอยู่ตรงนี้เราหลังค่อมไม่ได้ไง มันต้องเดินตัวตรง ยืดตัว ต้องดูดีตลอดเวลา ดูสง่า ก็ยากมากค่ะกว่าจะปรับได้



ตอนเดินบนเวทีคิดอย่าง เดียวเลยว่าต้องเดินให้สวยนะ เดินให้สง่านะ ต้องดึงใจกรรมการให้ได้ เดินไปถึงข้างหน้าเวทีเวลาโพส มันต้องสามจุดใช่ไหมคะ จุดแรกพีก็เดินไปมองกวาดกรรมการแล้วก็ยิ้ม เวลาเดินกลับมาพีก็มองสองข้างแล้วคิดในใจว่าส่งแรงใจเชียร์หนูหน่อยเถอะ (หัวเราะ)

เกร็งมาก ยิ้มจนปากสั่น แล้วมันต้องมีความมั่นใจอยู่ในตัวเองด้วย เหมือนเราเป็นหุ่นน่ะ อยู่ตรงนั้น โพสตรงนั้น ยิ้มแบบนั้น วิธี สร้างความมั่นใจ ก่อนขึ้นเวทีพีคิดเลยว่าพีต้องเด่นที่สุด พีต้องทำให้ตัวเองออกมาดูดีที่สุด ไม่ว่าเราจะเป็นยังไงก็ตามแต่ ต่อให้เราเป็นคนหลังค่อม เป็นคนเดินไม่ค่อยสวย แต่พอขึ้นไปอยู่ ณ ตรงนั้นแล้ว ภาพอะไรก็ตามแต่ที่เราเคยดูมา ไม่ว่าจะเป็นการเดินบนแคตวอล์ก แฟชั่นโชว์ต่างๆ มันเข้ามาในหัวพีหมด แล้วพีบอกตัวเองว่าต้องทำให้ได้ คิดว่าตัวเองเดินอยู่แคตวอล์ก แล้วคนอื่นมองอยู่ เพราะฉะนั้นเราต้องมั่นใจให้มากที่สุด

ถ้าไม่สะกดจิตตัวเองมันทำ ไม่ได้จริงๆ นะ มันจะดาวน์ไปเลย คือพีไม่ใช่คนสวยที่สุด ไม่ใช่คนหุ่นดีที่สุด พอมาเจอคนอื่น คนนั้นหน้าสวย คนนี้หุ่นดี คนนี้หน้าอกใหญ่ คนนี้ขาสวย คือเห็นแล้วเราจะรู้สึกดาวน์ คือคิดว่าเรามาอยู่อะไร แต่ก็คิดว่าอย่างน้อยเราก็ยังมีดี อย่างน้อยเราก็ยังมีตัวของเรา

สิ่งสำคัญที่ทำให้ผู้หญิงดูดีพีคิดว่าอยู่ที่ความมั่นใจอันดับแรกเลย คือไม่ว่าจะหน้าสวย หน้าธรรมดา หน้าหมวย หรือหน้าแขก ทุกคนสวยในสไตล์ของตัวเองหมด ถ้าเรามีความมั่นใจในตัวเองก็จะทำให้เรายิ่งสวย เหมือนเราเคยเห็นคน หนึ่ง เขาหน้าตาธรรมดา แต่ทำไมเรามองเขาแล้วไม่เบื่อ ทำไมเราเห็นเขาแล้วเรารู้สึกว่าบุคลิกเขาดีนะ ความมั่นใจในตัวเองมันทำให้เขามีเสน่ห์ เป็นตัวของตัวเอง

ที่พีมาถึงวันนี้ได้พี อยากขอขอบคุณพี่ๆ สื่อมวลชน และกรรมการที่ไว้ใจพี อยากให้คนไทยเปิดใจกว้างให้เวทีนี้ เพราะเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่อเมริกาก็มีการประกวด Miss Bikini International มาตั้งเกือบ 40 ปีแล้ว พีมองว่าการที่เราเป็นตัวแทนคนไทยไปแข่งขันกับคนอีกตั้ง 85 ประเทศ เป็นเรื่องน่ายินดีที่เราเป็นคนไทยได้ไปอยู่ตรงนั้น ยิ่งถ้าได้รางวัล อย่างน้อยมันก็เป็นความภูมิใจให้คนไทย"



ใส่บิกินีให้สวยสำคัญต้องมั่นใจ

ไม่ว่าสาวๆ จะมีรูปร่างแบบไหน อ้วนหรือผอม แต่สาวพีแนะว่าสิ่งสำคัญที่จะทำให้ดูดีอยู่ที่ความมั่นใจ ถ้ามีความมั่นใจใส่ชุดไหนก็ดูสวย และที่เห็นหุ่นเธอฟิตแอนด์เฟิร์มแบบนี้เพราะเธอชอบเล่นกีฬาแบบลุยๆ โดยเฉพาะเวคบอร์ด เจ็ตสกี เป็นตัวช่วยให้หุ่นเธอเฟิร์มได้เร็ว

"คนที่ใส่ชุดว่ายน้ำแล้วดูดี ไม่จำเป็นว่าหุ่นคุณจะต้องผอม ถึงขั้นหุ่นนางแบบก็สามารถใส่ชุดว่ายน้ำให้ออกมาดูดีได้ คือดูแลตัวเองให้ฟิตกับเฟิร์ม พีว่าเนี่ยแหละคือการใส่ชุดว่ายน้ำให้ออกมาสวยแล้ว

กีฬาช่วยให้หุ่นเฟิร์มมาก ปกติพีจะชอบเล่นเวคบอร์ด กับเจ็ตสกี อย่างเวคบอร์ด ไปเล่นครั้งเดียว ก็สามารถนอนเฉยๆ อยู่บ้านได้สองวันแบบไม่ต้องขยับตัว เพราะมันจะปวดหมดเลยทั้งตัว คือเหมือนมันบิ้วกล้ามเนื้อขึ้นน่ะค่ะ พีไม่ชอบเข้าฟิตเนสเลยค่ะ พีมองว่ามันน่าเบื่อ พีชอบออกไปเล่นกีฬาที่มันเป็นแอ็กทีวิตี เป็นสปอร์ต เป็นเอาต์ดอร์มากกว่า แล้วก็จะเน้นกินอาหาร ชอบกินผัก กับผลไม้อยู่แล้ว"

ชุดบิกินีไม่เพียงใส่ว่าย น้ำเพียงอย่างเดียว แฟชั่นชุดบิกินีก็สำคัญ สามารถเปลี่ยนอารมณ์ความรู้สึกยามสวมใส่ ไม่ว่าจะแบบสปอร์ต แบบสาวหวาน หรือสวยเซ็กซี่ ก็เพิ่มความมั่นใจได้ด้วยเหมือนกัน

"พีชอบชุดบิกินีสีสดๆ ชอบเล่นสี สีชมพู เขียว ส้ม แดง เวลาไปทะเล ไปว่ายน้ำพีก็จะใส่ชุดบิกินีเป็นปกติ พีชอบชุดที่ใส่ตอนประกวดมาก อย่างชุดไทย เป็นบิกินีสีสดๆ มีสวมชฎา มีผ้าพลิ้วๆ มันให้เราพรีเซ็นต์ว่าชุดนี้มันต้องดูสง่า แต่ก็มีความขี้เล่นเล็กๆ มีรอยยิ้ม มีความแจ่มใส พอ ใส่ชุดบิกินีลายดอกไม้ มันก็ให้อารมณ์สนุกสนานร่าเริง เหมือนอยู่ที่ฮาวาย เล่นกับเพื่อน แต่พอมาใส่ชุดลายเสือ มันก็อารมณ์เป็นลุคคุณนาย ก็ต้องนิ่ง หยิ่ง แต่ก็คือทำให้คนรักให้ได้ ชุดว่ายน้ำเพชร มันก็มีความหรูหรา เหมือนเจ้าหญิง

กองประกวดนี้ทำชุดสวยมาก ต้องให้เครดิต Streamline อยากได้กลับบ้านเลย ชุดสีขาวสวยมาก พีว่ามันก็เหมือนเราใส่เสื้อผ้า วันนี้เราอารมณ์สปอร์ต ก็ใส่บิกินีแบบสปอร์ต วันนี้เราอยากเซ็กซี่ก็ใส่ลายเสือก็ได้

พอเราใส่ชุดว่ายน้ำ มันยิ่งทำให้เราเห็นข้อเด่น หรือข้อเสียของหุ่นเรา เวลามองกระจกก็ยังไม่เห็นหุ่นเราถี่ถ้วน แต่พอใส่บิกินี เรามองเห็นหุ่นเราชัดขึ้น พียังมองหุ่นตัวเอง ว่าเราไม่ค่อยมีเคิร์ฟนะ แต่พอใส่บิกินีแล้วมันดูมีเอว มีหน้าอกนะ แล้วขาเราดูเรียวยาวขึ้นด้วย มันทำให้เราอยากดูแลหุ่นตัวเองให้ดีขึ้น

ถ้าจะให้บอกว่าเราเซ็กซี่ ตรงไหน ตอบยากว่าพีเซ็กซี่ตรงไหน พีมั่นใจขาตัวเองที่สุดแล้ว เป็นคนมั่นใจว่าขาสวยผู้หญิงเซ็กซี่ในสายตาพี พีจะชอบผู้หญิงหน้าคม หน้าแบบไทยๆ เม็กซิกัน ดูว่าเขาสวยมาก มองว่าหน้าคมดูเซ็กซี่ ด้วยสายตา มันดึงดูด แล้วสีผิวแทนๆ ดูเซ็กซี่พีก็ชอบ"



ความสุขของสาวหลากหลายอารมณ์

แม้ภายนอกจะดูเป็นสาวไฮโซ มีพี่เลี้ยงคอยติดตาม แต่ตัวตนของเธอไม่ได้ดูเป็นลุคคุณหนู แต่เธอดูเป็นสาวสปอร์ต ที่มีบุคลิกร่าเริง เฮฮา ออกแนวลุยๆ สนุกสนานกับการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ แต่อยู่ภายใต้กรอบของครอบครัว

"เป็นคนง่ายๆ สบายๆ เหมือนวัยรุ่นทั่วไป เข้ากับคนง่าย เป็นคนมีหลายอารมณ์นะ ตอนเดินชุดว่ายน้ำพีถึงเข้าใจอารมณ์ของแต่ละชุด เพราะพีมีหลายอารมณ์มาก บางอารมณ์ก็อยากเป็นสาวเปรี้ยว พรุ่งนี้อาจจะอยากเป็นสาวห้าว วันต่อไปขอเป็นสาวหวานดีกว่า บางทีก็เป็นสาวติสท์โลกส่วนตัวสูง

พีจะบ้าแฟชั่นมาก พีสามารถใช้เงินหมดได้ภายในชั่วโมงเดียว กับเรื่องชอปปิ้ง ชอบมาก เห็นทุกอย่างแล้วชอบ ตอนนี้ชอบเดรสยาว แม็กซี่ ชอบแอ็กเซสเซอรี กำไล ที่คาดผม พีเสียเงินกับเสื้อผ้าเยอะสุด เครื่องสำอางด้วยเยอะมาก เป็นคนชอบของสวยๆ งามๆ รักสวยรักงาม พีเป็นคนชอบใส่ส้นสูงอยู่แล้ว ไม่ชอบใส่ผ้าใบ ก็เป็นคนแต่งตัว



เวลาว่างอยู่กับเพื่อน กินข้าว ดูหนัง ชอปปิ้ง ปกติเหมือนวัยรุ่นทั่วไป ชอบไปเที่ยวเชียงใหม่ หัวหิน ชอบไปทะเลกับภูเขา ชอบรีสอร์ตที่ราชบุรี มันสวย ได้พักผ่อน สบายๆ มีความเป็นส่วนตัว อยู่ในเมืองมากๆ มันก็เบื่อ มีแต่ตึก"
ความสุขของเธอง่ายๆ คือการทำบุญ โดยไม่เกี่ยง ไม่หวังผลตอบแทน แถมยังเป็นคนสวยใจดีนำเงินรางวัล 1 แสนบาทที่ได้รับแบ่งเป็นส่วนๆ บริจาคให้โครงการต่างๆ

"สิ่งที่พีรู้สึกว่าทำแล้ว สบายใจที่สุดก็คือการทำบุญ เวลาพีไม่สบายใจ จะขอคุณแม่ไปทำบุญ ไปวัด ไปปล่อยปลา ไปอยุธยา เพราะรู้สึกว่าทำแล้วสบายใจ ได้ช่วยคนอื่น พีไม่เกี่ยงเลยนะ เห็นเด็กขอทานพีก็ให้เงิน อย่างน้อยเงิน เราก็ทำให้เขาซื้อข้าวได้มื้อนึง

การประกวดนี้ก็ทำบุญให้มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง(ภาฯ)ยามยาก ให้ภาคใต้ พี ตั้งใจไว้แล้วว่าเงินรางวัลที่ได้มาก็จะแบ่งไปทำบุญช่วยภาคใต้กับสึนามิ เงินรางวัลที่ได้มาก็จะแบ่งไปบริจาคเป็นส่วนๆ ค่ะ เพราะพีรู้สึกว่าเราได้ตำแหน่งนี้มา เหมือนเรา Lucky เพราะฉะนั้นเราได้เงินรางวัลมาเราก็อยากแบ่งปันให้คนอื่น

เงินมันก็ได้มายากนะ แต่สิ่งที่เราได้มาก็ไม่ถือว่าได้มาง่าย แต่คือเราได้มาแล้ว มันเป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำให้เรามีงานต่อไป เรื่อยๆ แล้วกับการที่เรานำเงินรางวัลที่ได้มา แบ่งปันไปให้คนอื่น เขาก็ยังต่อยอดไปได้เรื่อยๆ"



สเป็กอาเสี่ย

พอถามเรื่องความรักสาวพี รีบออกตัวว่ายังไม่มีแฟน ยังชอบเที่ยวเล่น สนุกเฮฮากับเพื่อนมากกว่า แต่ถ้าให้เผยสเป็กหนุ่มที่โดนใจ เธอชอบผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ และที่สำคัญไม่ชอบคนผอม ชอบหุ่นแบบอาเสี่ยมากกว่า

"ชอบคนเป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบ สามารถนำทางให้เรารู้สึกว่าเราอยากเป็นผู้ใหญ่ตามเขา ไม่ชอบคนอายุไล่กัน เพราะรู้สึกคบกันเหมือนเป็นเพื่อนกันมากกว่า ไม่ชอบคนโกหก มีอะไรขอให้พูดตรงๆ ดีกว่าแค่นี้แหละ คนที่คุยแล้วใช่มันก็ใช่ แต่ถ้าไม่ใช่เราจะรู้เลยว่าไม่ใช่ นิสัยที่เน้นหลักๆ เลยขอเป็นผู้ใหญ่ อารมณ์เย็น พีเป็นคนไม่มีเสป็ก เวลามีใครเข้ามาก็จะเล่าให้คุณแม่ฟัง แต่พีจะชอบคนอวบๆ นิดนึง"





สอนลูกให้รักตัวเอง รักครอบครัว และรักเพื่อนมนุษย์


ดร.สิชา สิงห์สมบุญ กงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐกานา ประจำประเทศไทย คุณแม่ของพี ผู้บุกเบิกติดต่อการค้าระหว่างไทยกับสาธารณรัฐกานา มานานเกือบ 10 ปี พูดถึงลูกสาวให้ฟังว่า ไม่เคยมองลูกตัวเองสวย หรืออยากให้ประกวดเป็นนางงาม แต่มองว่าอะไรที่เป็นความฝัน ความสุขของลูกก็จะให้ลูกได้ลองทำสิ่งที่ตนเองชอบ ส่วนคุณแม่จะคอยเป็นกำลังคอยเชียร์อยู่ห่างๆ

"น้องพีเป็นลูกคนที่ 4 แม่มีลูก 5 คน อายุไล่เลี่ยกัน แม่อยากบอกว่าเลี้ยงลูกสมัยนี้ไม่ใช่ง่ายๆ นะ กระแสสังคมเขาจะทันสมัยมาก สิ่งที่แม่เน้นคือเรื่องการศึกษา และนิสัย ต้องเข้ากับสังคมได้ ต้องอยู่ในสังคมส่วนรวมได้ ครอบครัวมาก่อน แล้วก็เพื่อน แล้วก็ประเทศ แล้วก็เพื่อนร่วมโลก ลูกๆ จะต้องมีคุณสมบัตินี้อยู่ในตัว อีกอย่างที่ปลูกฝังก็คือดนตรี ลูกๆ ทุกคนได้เรียนดนตรี น้องพีก็เรียนเปียโน อยากเรียนภาษาแม่ก็ให้เรียน

แม่จะสอนตลอดว่าเจอเพื่อน ดี ไม่ดีลูกต้องคบให้หมด ถ้าเพื่อนคบแต่คนดี ลูกก็จะไม่รู้ว่าในโลกนี้มีคนไม่ดี ขณะเดียวกันลูกก็ศึกษา แล้วก็เลือกคบ ถ้าลูกดึงเขามาเป็นคนดีได้ ลูกก็ดี ได้บุญ

ในสายตาแม่ น้องพีเป็นคนน่ารัก แต่เขาเป็นคนที่ซน เป็นคนเชื่อมั่นในตัวเอง จะบอกให้เขาเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา เขาก็ฟังนะ แต่เขาจะมีความเชื่อมั่นว่าเขาจะทำอย่างนั้นแหละ ที่บ้านก็จะบอกให้เขาลอง ไม่บอกว่าอย่าทำ

การประกวด แม่มองว่าเป็นเรื่องของสปอร์ต กีฬา ตอนลูกมาบอกว่าจะประกวด แม่ยังบอกลูกเลยว่าลูกไม่ส่องกระจกดูหลายๆ ครั้งหรือจ๊ะ ก่อนที่จะมาประกวด ลูกไม่อายคนเหรอ ด้วยความที่แม่เห็นลูกจนชิน ก็เลยคิดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่เขาก็ไม่เสียเซลฟ์หรอก เขาก็ไปประกวด แม่ก็จะแนะนำว่ามันเป็นกีฬา ลูกไม่ต้องเสียใจว่าจะแพ้หรือชนะ ทุกคนเป็นพี่น้องกันหมด ไม่ว่าใครจะได้ก็ร่วมยินดี สอนให้แฟร์ และมีน้ำใจนักกีฬา ทุกคนในประเทศเป็นพี่น้องกันหมด

พอน้องได้รางวัล แม่ก็ภูมิใจนะ เรารู้สึกว่าลูกเราทำได้เหรอเนี่ย เขาเก่งนะ เรามองว่าเป็นกีฬา ขณะเดียวกันก็กังวล เพราะเขาไม่ได้เป็นน้องพีของครอบครัวอย่างเดียวแล้ว เขาเป็นน้องพีของประชาชน เราเคยอยู่ของเราเงียบๆ สิ่งที่แม่ทำได้ตอนนี้ก็คือดูแลน้อง แล้วเตรียมเขาสู่กีฬาขั้นต่อไป ทุกวันนี้แม่ก็เตือนน้องว่าต้องยอมรับคำติชม ไม่ว่าชมหรือติ ถือว่าเป็นพรสวรรค์ ติเพื่อก่อ เสริมให้เราทำดีขึ้นไป อย่าไปยึดติดกับคำชม เป็นตัวเองมากที่สุด ก็กังวลว่าเราทำได้หรือเปล่า เป็นผู้ใหญ่พอหรือเปล่า เพราะเขายังเป็นวัยรุ่นอยู่"




ประวัติ
ชื่อ-สกุล: พัชรวรัมอร สิงห์สมบุญ
อายุ : 22 ปี
ประวัติการศึกษา : กำลังศึกษาอยู่ชั้นปี 3 ที่ Entertainment Media Mahidol University International College
ความสามารถพิเศษ : เปียโน, ขิม, พูดได้ 4ภาษา ไทย-อังกฤษ-จีน-เกาหลี


ที่มา
M-Lite/ASTV สุดสัปดาห์




 

Create Date : 05 มิถุนายน 2554
1 comments
Last Update : 5 มิถุนายน 2554 12:18:00 น.
Counter : 15044 Pageviews.

 

Fashion is not only about appearance. It is a state of mind. It conveys information about you to the world. Dressing fashionably will make you feel great. Read this fashion advice to make a positive statement about yourself.
Coach Outlet //fraseryachts.com/coach-outlet.asp

 

โดย: Coach Outlet IP: 192.99.14.34 24 ธันวาคม 2557 5:51:13 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add ลูกโป่งลอยฟ้า_ชิงช้าสวรรค์'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.