Beauty and The Book, ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม

มีหนังสือหลายเล่มบอกไว้ว่า เราจะเป็นเหมือนหนังสือที่เราอ่านและคนที่เราคบหาด้วยพูดรวมๆก็อาจจะหมายถึงความว่า สิ่งแวดล้อมที่ใกล้ชิดเรามีผลกับตัวเรามาก ยกตัวอย่างง่ายๆคุณหมอส่วนใหญ่ ก็มาจากครอบครัวที่มีพ่อหรือแม่หรืออาจจะเป็นญาติเป็นหมอมาก่อน แป๋งเองที่เรียนสายวิทยาศาสตร์ก็เพราะคุณพ่อเป็นคุณครูสอน สายวิทย์-คณิต ก็ไม่รู้ว่าชอบไหม? รู้แต่ว่าคุ้นเคยและคิดว่าเรียนได้

สำหรับสาวน้อยคนนี้ก็คงจะเช่นกัน ที่คุณแม่ของเธอเป็นเจ้าของมงกุฎ มาหลายเวทีมีสายสะพายการันตีความงามอยู่เต็มบ้าน  คุณพ่อของเธอยังเป็นเคยเป็นนายแบบถ่ายโฆษณาด้วยพันธุกรรมที่ดีและลงตัวขนาดนี้ไม่ต้องเดาทุกคนก็คงพอจะนึกออกว่า  เธอเกิดมาได้สวยขนาดไหน หุ่นดี  หน้าตาดีขนาดไหน ชีวิตของเธอจึงคลุกคลีอยู่กับเวทีการประกวดนางงาม จนมันทำให้เธอมีฝันว่า วันหนึ่งเธอจะต้องเป็นเป็นผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดในประเทศ ที่ได้ครองตำแหน่ง

“Miss Thailand Universe”  ให้ได้!

วันนี้เธอประสพความสำเร็จในชีวิตไม่เพียงแค่บนเวทีเท่านั้นแต่หลังจากลงเวทีมาแล้วเธอยังสานฝันที่ยิ่งใหญ่ได้ต่อไปอีกเรื่อยๆ เพราะเธอได้เข้าถึงความลับอย่างหนึ่งของชีวิตจากการอ่านหนังสือค่ะ

ก่อนขึ้นเวที

เธอชื่อเล่นว่าน้องกวางค่ะ หลายคนคงคุ้นกับชื่อจริงมากกว่าคือ ฟ้ารุ่ง ยุติธรรม คุณพ่อของเธอชอบฟังเพลงคลาสสิกมากและอยากให้เธอมีความรู้ทางด้านดนตรีเพิ่มเติมจึงส่งไปเรียนเปียโนตอนอายุ 3 – 4 ขวบเรื่อยมาจนเข้ามัธยมและอีกทักษะหนึ่งที่ทั้งคุณพ่อและคุณเห็นว่าสำคัญต่ออนาคตของเธอคือ ทักษะทางด้านภาษาอังกฤษ เธอจึงถูกส่งไปเรียนพิเศษภาษาอังกฤษแทบทุกวัน จึงทำให้เธอมีความรู้พิเศษในทั้งสองด้านนี้ติดตัวมาตั้งแต่เล็กๆ

ด้วยความที่น้องกวางเป็นเด็กหน้าตาน่ารัก หุ่นดี คุณแม่ของเธอชอบจับเธอแต่งตัวประกวดเวทีนางงามในเกือบทุกเทศกาลของจังหวัด ได้รางวัลบ้าง ไม่ได้บ้าง ก็ไม่เป็นไร  เพราะคุณแม่ต้องการให้เธอมีประสบการณ์บนเวทีไว้ก่อน จนกระทั่งเธอเข้าศึกษาในระดับมัธยมศึกษา ด้วยวัย 16 ปี  น้องกวางเข้าประกวดเวทีใหญ่เวทีแรกคือ Miss Teen Thailand  (2003)  ซึ่งครั้งนั้นเป็นประสบการณ์ที่เธอไม่เคยลืมเลย เธอพลาดรางวัลอย่างน่าเสียดาย  ติดอันดับ 12 คนสุดท้าย เธอเล่าให้ฟังถึงสิ่งที่เธอได้เรียนรู้ในการประกวดครั้งนั้นว่า

“ส่วนหนึ่งกวางรู้ว่าพลาดเพราะตอบคำถามได้ไม่ดีเท่าที่ควร มีคำถามหนึ่งที่กรรมการถามว่า มีความสามารถพิเศษอะไร เห็นเขียนว่าเล่นเปียโนได้ ถ้าให้เล่นบนเวทีจะเล่นได้ไหม ? จริงๆแล้วกวางเล่นได้ แต่ด้วยความไม่มั่นใจ บวกกับความ ตื่นเต้น กวางจึงตอบเขาไปประมาณว่า ‘เล่นได้แต่อาจจะไม่ค่อยเก่งเท่าที่ควร’  ทั้งที่ตอนนั้นกวางเป็นคุณครูสอนเปียโนด้วยซ้ำค่ะ  และเขาแค่ถามยังไม่ได้ให้เล่นจริง  กวางก็กลัวไปก่อนแล้ว”

จากความผิดหวังครั้งนี้ เธอได้เรียนรู้ว่า เธอเองขาดความมั่นใจในตัวเอง และประหม่ามากคุณแม่ของเธอผู้ผ่านเวทีมาก่อน รู้ดีว่าน้องกวางต้องการเวทีฝึกให้มากขึ้นจึงส่งน้องกวางเข้าประกวดในเวทีต่างๆทุกครั้งที่มีโอกาสเพื่อให้คุ้นชินกับเวที และการตอบคำถาม

สู่เวทีแห่งฝัน

น้องกวางเข้าศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ มหาวิทยาลับเทคโนโลยีราชงคล ธัญบุรีคณะศิลปศาสตร์ประยุกต์เอกภาษาอังกฤษ ซึ่งทางมหาวิทยาลัยมีจัดประกวด Miss University League เป็นการประกวดหาสาวงามจากทุกมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเพื่อเป็นตัวแทนประชาสัมพันธ์โครงการต่างๆของทางมหาวิทยาลัย  ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านเวทีมาอย่างช่ำชอง ทำให้เวทีนี้เธอชนะขาดลอย ได้ตำแหน่ง Miss University league ปี 2005 มาครอบครอง

เวทีนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักมากขึ้น เธอได้เดินแบบ ถ่ายปก และสัมภาษณ์ลงนิตยสาร ในปีเดียวกันนั้นเองเธอตัดสินใจทำตามความฝันโดยการเข้าประกวด Miss Thailand Universe ด้วยวัยแค่เพียง 19 ปี ซึ่งตอนนั้นเธอกำลังเรียนอยู่ชั้นปีที่ 2 เธอเล่าบรรยากาศให้ฟังว่า

“เวทีนี้คู่แข่งน่ากลัวมากๆค่ะ มีทั้งนางงามที่เขาฝึกมาจากสถาบันดีๆมีชื่อเสียง บ้างก็บินมาจากต่างประเทศเพื่อมาประกวดโดยตรง ทุกคนดูเป็นมืออาชีพมากๆอายุเยอะกว่าและประสบการณ์เยอะกว่ากวางมากๆ”

นั่นน่ะสิค่ะ แป๋งเลยอดถามน้องกวางไม่ได้ว่าแล้วอะไรที่เขาคิดว่ามันทำให้เขาได้เปรียบคนอื่นและทำให้มั่นใจในการประกวดเวทีระดับประเทศครั้งนี้

“กวางเตรียมตัวมาดีพอสมควรค่ะรูปร่างเราได้อยู่แล้วกวางสูง 180 cm. และต้องขอบคุณพ่อ คุณแม่ที่ให้เรียนภาษาอังกฤษมาตลอดและกวางก็เรียนคณะศิลปะศาสตร์เอกภาษาอังกฤษอยู่ด้วยเรื่องภาษาซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของผู้เข้าประกวดเลยไม่มีปัญหาและแถมยังมีความสามารถพิเศษในการเล่นเปียโนได้อีกด้วย แต่ที่สร้างความมั่นใจมากขึ้นคือการมีประสบการณ์มาจากเวทีต่างๆที่ประกวดมา ช่วยได้เยอะมากเลยค่ะ ทำให้กวางไม่กลัว ไม่เกร็ง มีสติและตอบคำถามได้ดี”

เมื่อเธอมีความพร้อมอยู่บนโอกาสขนาดนี้รางวัล Miss Thailand Universe ปี 2007 จึงตกเป็นของเธออย่างไม่น่าสงสัยค่ะ น้องกวางเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวด Miss Universe ที่แม็กสิโกในปีนั้นเลย

นี่เป็นคลิปตอนเธอประกวดและตอบคำถาม นาทีที่ 2:43

สู่เวทีที่ยิ่งใหญ่ Miss Universe

จากวันที่ได้รับตำแหน่ง Miss Thailand Universe เธอมีเวลาเตรียมตัวสำหรับเวทีโลก แค่ 1 เดือนเท่านั้นเพราะหลังจากนั้นต้องเก็บกระเป๋า เตรียมตัวบินไปเป็นตัวแทนจากประเทศไทยไปที่แม็กสิโกพร้อมกับแบกความหวังของคนทั้งประเทศไปด้วย

เพิ่งได้มีโอกาสรู้เหมือนกันค่ะว่าตัวแทนประเทศที่ต้องไปประกวด Miss Universe ต้องไปคนเดียว ทำทุกอย่างด้วยตัวเองหมด ทำผมเอง แต่งหน้าเองและจะมีการเก็บคะแนนเรื่อยๆในระหว่างการทำกิจกรรมน้องกวางเป็นตัวแทนจากประเทศไทยเข้าแข่งขันกับสาวงามทั่วโลกกว่า 90 คนเธอติดอันดับ 15 คนสุดท้าย ซึ่งถือว่าเป็นสถิติที่ดีมากหลังจากสาวงามล่าสุดจากเมืองไทยได้ตำแหน่งนี้มาครอง

เธอกลับมาเมืองไทย ปฏิบัติภาระกิจตามหน้าที่ รวมทั้งทำงานในวงการบันเทิงด้านต่างๆเช่น ถ่ายหนัง ถ่ายละคร เป็นพิธีกร แต่ไม่น่าเชื่อเธอบอกว่าเธอมีความรู้สึกแปลกๆขึ้นมาอย่างหนึ่งว่า เธอเหมือนหาตัวตนจริงๆของตัวเองไม่เจอ ไม่รู้ว่าชอบอะไร และรู้สึกว่าทำงานได้ไม่เต็มศักยภาพที่เธอควรจะทำได้

หนังสือ.. มีคำตอบ

คุณพ่อของเธอ ซึ่งเป็นแฟนเพลงคลาสิกอยู่แล้วได้แนะนำหนังสือของคุณบัณฑิต อึ้งรังษี คอนดักเตอร์คนไทยคนแรกที่ชนะการประกวดจากเวทีระดับโลกให้เธอ ชื่อหนังสือ ต้องเป็นที่หนึ่งให้ได้ (Conduct your dreams)

“ข้อคิดแรกที่กวางได้จากการอ่านหนังสือคุณบัณฑิตนะคะ ทำให้กวางรู้สึกว่าเราน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ เรา น่าจะมีแนวทางของตัวเองที่สามารถทำอะไรได้เต็มศักยภาพมากกว่านี้ กวางเลยย้อนกลับมาดูความฝันของตัวเองที่อยากเป็น Miss Thailand Universe ซึ่งกวางก็ทำได้แล้วตั้งแต่อายุ 19 ปี สิ่งที่ต้องทำต่อไปก็คือ กวางต้องมีเป้าหมายชีวิตใน step ต่อไป”

ข้อ 4. ใช้หัวใจเลือกอนาคต, Do What You Love and the Money Will Follow (หนังสือ ต้องเป็นที่หนึ่งให้ได้)

เธอพบว่าในงานทุกๆอย่างที่เธอเลือกทำ เธอมีความสุขกับการได้เดินแบบมากที่สุด เธออยากเป็นนางแบบที่ได้รับการยอมรับในระดับอินเตอร์และมีนิตยสารต่างชาติพูดถึง เป็นที่ยอมรับในวงการแฟชั่นชั้นนำ

ข้อ 9. ตั้งเป้าหมายให้ชัดเจน, Goal Setting

เธอตระหนักดีว่าฝันนี้เป็นไปไม่ได้แน่นอนถ้าเธอยังอยู่ที่เมืองไทย  แต่การไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศคนเดียวเป็นเวลานานๆ นั้น เป็นอะไรที่น่ากลัวสำหรับเธอในระดับหนึ่งทีเดียว เธออ่านหนังสืออย่างตั้งใจ รวบรวมความกล้า ก่อนจะตัดสินใจตอบตกลงกับ Agency เดินทางตามหาความฝันที่ฮ่องกงค่ะ

ข้อ 26. พรสวรรค์เรื่องเล็ก ทำงานหนักเรื่องใหญ่, Talent

ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นที่รู้จักที่เมืองไทย มีตำแหน่งการันตี แต่ที่ฮ่องกงเธอต้อง เริ่มต้นใหม่ ทุกอย่างเธอใช้ชีวิตอยู่ในห้องพักแคบๆ เดินถือรูปตัวเองไป casting ตาม studio ต่างๆ แบบไม่มีใครรู้จักใครและไม่มีใครรู้จักเธอ แข่งขันกับนางแบบจากต่างประเทศทั่วโลก ชีวิตไม่แน่นอน  ไม่รู้จะได้งานไหม!

แต่เธอบอกว่าเธอมีแรงฮึดสู้ ! อย่างมากส่วนหนึ่งมาจากหนังสือของคุณบัณฑิตที่เธออ่านประจำเธออยากได้รับการยอมรับและผลตอบแทน จากการทำงานแบบตรงไปตรงมาตามความสามารถได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักและได้แสดงออกถึงศักยภาพที่แท้จริงของตัวเอง

“กวางต้องเดินถือรูปตัวเองไปสมัครตามสตูดิโอต่างๆค่ะ หลายที่มากๆ ร้องเท้าก็กัด ที่พักก็แคบๆนิดเดียวลำบากมากแต่ก็ต้องอดทน ถ้ากลับบ้านมานอนสบายก็ได้นะ แต่มันจะมีความหมายอะไรถ้าเรามีแค่ความฝันแต่ทิ้งมันไปกลางทาง ทิ้งไปเพียงเพราะความลำบากเล็กๆน้อยๆ กวางเลยอดทนค่ะ ไม่ล้มเลิกง่ายๆ Never Give Up! เหมือนที่คุณบัณฑิตบอก”

วันนี้เธอจึงเป็นนางงามที่เป็นตัวแทนจากเมืองไทย เดินแบบเคียงคู่กับนายแบบ นางแบบ ชั้นนำที่ฮ่องกง แหล่งรวมแฟชั่นที่ทันสมัยที่สุดของเอเชีย มีนิตยสารท้องถิ่นชื่อดัง นำเสนอผลงานของเธอหลายฉบับ เป็นที่รู้จักในวงการแฟชั่นที่ฮ่องกง ในชื่อ kwang F  นอกจากนี้ที่เมืองไทยเธอยังมีกิจการโรงเรียนสอนบุคลิกภาพสำหรับผู้ที่ต้องเตรียมตัวประกวดในเวทีต่างๆ ชื่อ เทียร่า ซึ่งเธอรับหน้าที่เป็นครูใหญ่ ดูแลหลักสูตรและสอนเอง และมีบริษัทชื่อว่า Interplay productions เป็นบริษัทรับทำโฆษณา ภาพนิ่ง ด้วยค่ะ

พวกเราดีใจที่ได้เห็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ถึงแม้จะมีความงามเหมือนเป็นเครื่องการันตีความสำเร็จนำหน้าแต่หนังสือก็เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับอนาคตที่ดีกว่าในทุกๆอาชีพ  อ่านหนังสือกันนะคะ

รัก…Book Lover Club (Thailand)

Create Date : 18 พฤษภาคม 2555		1 comments
Last Update : 18 พฤษภาคม 2555 21:00:10 น.
Counter : 3477 Pageviews.
Share Tweet