|
เปิดบ้านนางงาม..คุยกับ "ไข่มุก-ชุติมา ดุรงค์เดช"
หากเอ่ยถึงผู้หญิงชื่อ ชุติมา ดุรงค์เดช ผู้อ่านหลายท่านคงนึกไม่ออกว่าเธอคนนี้เป็นใครกัน แต่ถ้าเรียกเธอว่า "ไข่มุก" มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส ปี 2009 คงจะพอคุ้นหน้าขึ้นมาบ้าง จนหลังจากเธอได้รางวัลขวัญใจช่างภาพ และชุดแต่งกายประจำชาติยอดเยี่ยมอันดับ 3 จากเวทีนางงามโลกที่ประเทศบาฮามาส ชื่อของเธอดูจะกลายเป็นที่น่าสนใจไม่น้อย โดยเฉพาะความมั่นในแบบฉบับนักเรียนนอก
แต่เบื้องหลังตัวตนที่ดูโดดเด่น และมั่นใจ หากไม่มีครอบครัวคอยให้คำสอน และแนวคิดการใช้ชีวิตที่ดีแล้ว คงยากที่จะทำให้เธอมายืนอยู่ ณ จุด ๆ นี้ได้ โดยไข่มุกในเสื้อ และกระโปรงสีขาว เล่าให้ ทีมงาน Life & Family ฟังว่า เธอเติบโตในครอบครัวคนจีนที่มีคุณพ่อ (ฤทธิ์ชัย) ให้ความสำคัญกับเรื่องระเบียบวินัยมาก โดยเฉพาะการตรงต่อเวลา และการมีเป้าหมายในชีวิต ซึ่งลูกทุกคนจะถูกปลูกฝังให้รู้จักวางแผน และมีแนวทางชีวิตที่ชัดเจน
"เป้าหมายในชีวิต คือสิ่งที่คุณพ่อไข่มุกเน้นย้ำมาก ๆ อย่างตัวมุกเอง คุณพ่อจะถามเสมอ ๆ ว่า เป้าหมายมุกคืออะไร ในวันนี้ และวันข้างหน้าวางแผนอะไรไว้บ้าง ซึ่งการวางแผนนั้นไม่ใช่แค่วันนี้ หรือแค่เดือนสองเดือน แต่จะต้องรู้ว่าอีก 5 ปี 10 ปี หรือ 20 ปี เช่น หลังจากเรียนจบจากอังกฤษ มุกตั้งเป้าว่าจะทำอะไรให้สำเร็จบ้าง ซึ่งคุณพ่อจะให้ลูกทุกคนมีเป้าหมายในชีวิตที่ชัดเจน" ไข่มุกเล่า
ดังนั้น ความมีระเบียบวินัย และความชัดเจนในชีวิต รวมทั้งความมุ่งมั่นบนความไม่ย้อท้อ นับว่าคุณพ่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเธอมาโดยตลอด ทำให้เธอมีความมุ่งมั่น และมีแนวทางเป็นของตัวเองอย่างชัดเจน
เห็นได้จากความมุมานะด้านการเรียนที่หลังจากจบเกรด 8 จากโรงเรียนนานาชาติ ISB ที่ประเทศไทย ตอนอายุ 15 เธอตัดสินใจไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษจนจบปริญาตรีที่มหาวิทยาลัยน็อตติ้ง แฮมด้วยเกียรตินิยมอันดับ 1 ในสาขาวิทยาศาสตร์การอาหาร และสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท ด้านบริหารการจัดการที่ยูนิเวอร์ซิตี้ ออฟ ลอนดอน ปัจจุบันช่วยคุณพ่อบริหารธุรกิจเครื่องกรองน้ำภายใต้บริษัท มาซูม่า (ประเทศไทย) จำกัด
"การ์ดของแม่" แทนความคิดถึง
สำหรับเด็กอายุ 15 ปีที่ต้องบินลัดฟ้าไปเรียนต่อต่างประเทศ ปฏิเสธไม่ได้ว่า ทุกคนต้องมีอาการ Homesick หรือคิดถึงบ้านเป็นเรื่องธรรมดา เช่นเดียวกับไข่มุกที่แรก ๆ ก็รู้สึกเหงา และต้องการไออุ่นของพ่อแม่ แต่ก็ได้แค่คุยกันทางโทรศัพท์ และหมั่นสวดมนต์ นั่งสมาธิเพื่อลดอาการคิดถึงบ้านตามที่คุณแม่แนะนำ
แต่แล้ววันหนึ่งคุณแม่ (เพชรา) ได้เขียนการ์ดอวยพรวันคล้ายวันเกิดส่งมาให้เป็นของขวัญ โดยข้อความในการ์ดถูกคัดลอกมาจากเพลง "เก็บดวงดาว" ของเสถียรธรรมสถาน ที่เขียนไว้อย่างซาบซึ้งใจว่า
"เก็บดวงดาวมาแต่งผม เก็บหมอกลมลงกระออม เก็บแผ่นฟ้าทำผ้าอ้อม เก็บไม้หอมล้อมเปลดี เก็บความรักจากคนทั้งหล้า เก็บเมตตาไว้ที่นี่ เก็บไมตรีที่โลกมี เก็บสิ่งดีไว้ในใจ เก็บทุกสิ่งไว้ให้ลูก แม่สอนปลูกเอาไว้ให้ แม่เก็บฝันถึงวันไกล ยอดดวงใจเป็นคนดี"
นับเป็นการ์ดที่มีความหมายสำหรับเธอมากที่สุดในชีวิต เพราะนอกจากจะทำให้เธอรู้ซึ้งถึงความรักของแม่ที่มีต่อเธอแล้ว ยังสามารถเก็บเอาไว้ดูต่างหน้าเวลาคิดถึงคุณแม่ และคุณพ่อสมัยเรียนอยู่ที่อังกฤษอีกด้วย
กำลังใจจากพ่อแม่ วัคซีนจากธรรมะ
สำหรับการได้เป็นมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สจนได้เข้ามาทำงานในวงการ บันเทิง ไข่มุกบอกว่า ชีวิตมีสีสันขึ้นมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องยอมรับกับข่าวที่ตามมาด้วย ซึ่งก็มีหลาย ๆ กระแสที่ทำให้เธอรู้สึกท้อ และเหนื่อยใจ แต่ด้วยกำลังใจของคนในครอบครัว ทำให้อาการเหล่านี้ค่อย ๆ หายไป
นอกเหนือจากคนในครอบครัวแล้ว เธอยังมีวัคซีนที่ได้จากการปฏิบัติธรรมคอยยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งทำให้เธอรู้จักกับคำว่า "ปล่อยวาง" และยอมรับกับความจริงข้อที่ว่า "คำตำหนิ ติเตียน คำนินทา และคำสรรเสริญ เหล่านี้เป็นธรรมดาของโลก ซึ่งมนุษย์เราไม่สามารถหลีกหนีพ้น"
"หากเรารู้ว่าเราทำอะไร ถ้ามันเป็นความจริงอย่างที่คนอื่นพูด เราจะกลับมาปรับปรุง แต่ถ้ามันไม่จริง เราก็นิ่ง และปล่อยวางเสีย ขืนมัวแต่ไปคิดฟุ้งซ่านก็เท่ากับว่า เรากำลังทำร้ายตัวเองอยู่ ดังนั้นพระพุทธเจ้าสอนให้มนุษย์อยู่กับขณะนี้ เดี๋ยวนี้ อย่างเรากำลังรับประทานอาหาร รู้ว่ารสหนอ ไม่ใช่อร่อยหนอ เพราะมันคือกิเลส และตัณหาที่เกิดจากการปรุงแต่ง" ไข่มุกเผยถึงสิ่งที่ได้รับจากการปฏิบัติธรรมตั้งแต่อายุ 15 ปี
อย่างไรก็ดี การที่เธอใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศเป็นเวลานาน ทำให้สไตล์การใช้ชีวิตของเธอดูเป็นคนกล้า และมั่นใจในแบบฉบับนักเรียนนอก แต่เธอก็ไม่เคยทิ้งความเป็นไทย โดยเฉพาะกิริยามารยาทแบบไทย ๆ นั่นเพราะมีคุณแม่คอยพร่ำสอนอยู่เสมอ
"คุณแม่ไข่มุก เป็นคนที่อบอุ่น ท่านจะบอกรัก และกอดหอมลูกทุกคน ซึ่งมุกเองรู้สึกโชคดีมาก ๆ ที่เกิดมาในครอบครัวที่ไม่ค่อยคาดหวังกับลูก อย่างคุณแม่ไม่ขออะไรลูกมาก ขอแค่ให้ลูกเป็นคนดี ไม่ทำให้ตัวเอง และใครต้องเดือดร้อน ที่สำคัญ ท่านจะพยายามให้ลูกรักษาศีล 5 หมั่นสวดมนต์ และนั่งสมาธิ" ไข่มุกเล่าถึงคุณแม่ที่ดูแลรัก และห่วงใยเธอมาตลอด
ดังนั้น ความสุขของไข่มุกในวันนี้ เธอบอกว่า ไม่จำเป็นต้องออกไปหาความสุขที่ไหน แต่ความสุขเล็ก ๆ เกิดขึ้นได้ในบ้านเรา ไม่ว่าจะอยู่ด้วยกัน รับประทานอาหารพร้อมกัน สิ่งเหล่านี้นับเป็นความสุขง่าย ๆ ที่ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่น และปลอดภัยทุกครั้ง
"คุณพ่อคุณแม่ให้ทุก สิ่งทุกอย่างแก่ลูก หนึ่งเลยให้ชีวิต ตามมาด้วยความคิด และจิตวิญญาณ ดังนั้นมุกจะเปรียบคุณพ่อคุณแม่เป็นแสงเทียนในชีวิตมุกเสมอ ถึงแม้บางสิ่งที่เรามองข้ามไป แต่ท่านจะเก็บรายละเอียด และบอกเราตรง ๆ ว่า สิ่งไหนควรทำ และไม่ควรทำ ที่สำคัญมุกจะระลึกอยู่เสมอ ๆ ว่า ท่านเป็นพระอรหันต์ในบ้านที่มุก และพี่น้องทุกคนเคารพ และกราบไหว้"
และนี่ก็คือ อีกมุมชีวิตของ "ไข่มุก-ชุติมา ดุรงค์เดช" มิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์สคนที่ 10 ของประเทศไทย นางงามครบเครื่องที่มาคู่กับการปฏิบัติธรรม
ที่มา
manager
| Create Date : 21 พฤษภาคม 2554 |
|
0 comments |
| Last Update : 21 พฤษภาคม 2554 11:32:35 น. |
| Counter : 5781 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 63 คน [
