|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | |
|
|
|
|
|
|
|
จำไม อิน เจแปน
ตอนเด็กๆ แม่ชอบเรียกจิ๊งว่าเจ้าหนูจำไมเพราะช่างสงสัย จนโตแล้วถึงจะไม่ได้เป็นเจ้าหนูแล้ว (เพื่อนๆผู้หวังดีทั้งหลายไม่ต้องช่วยจิ๊งตั้งชื่อนะค่ะ ขอบคุณมา ณ ที่นี้) ก็ยังคงช่างสงสัยนู่น สงสัยนี่อยู่ดี หลังจากมาอยู่ที่นี่ได้หนึ่งเดือนนิดๆ ก็มีปัญหาสงสัยมามายที่ไม่รู้จะถามใคร เอาเป็นว่าเอามาแชร์กันแล้วกันนะ
1. ผู้หญิงญี่ปุ่นหนาวเฉพาะส่วนบนเหรอ? ขอไม่ใส่รูปเพราะจะเป็นการล่วงเกินสิทธิส่วนบุคคล ที่สงสัยเพราะว่าตอนมาที่นี่จะเป็นผู้หญิงญี่ปุ่น โดยเฉพาะนักเรียนใส่เสื้อ สเวตเตอร์ เสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ หมวก บางคนมีที่ปิดหูแถมอีกต่างหาก ผ้าพันคอก็ไม่ได้พันแบบบ้านเราพันกัน ที่นี่พันกันจนเห็นหน้าแค่ครึ่งเดียว
แต่ว่าส่วนครึ่งล่าง กลับใส่กระโปรงสั้นมากๆ (แค่คืบได้) แล้วก็ไม่ได้ใส่อะไรปิดขาเลย ส่วนถุงเท้าที่เหมือนจะยาวก็กองๆอยู่แค่แถวข้อเท้า เลยได้แต่สันนิฐานว่า ที่นี่อากาศหนาวลอยอยู่ช่วงบนอย่างเดียวก็เป็นได้
2. ญี่ปุ่น ประเทศที่น่าจะพูดภาษาอังกฤษเก่งกว่าใคร อันนี้เป็นความเห็นของจิ๊งเพราะว่าหลังจากไปศูนย์ชาวต่างชาติมาหลายที่ คนญี่ปุ่นส่วนใหญ่อยากเรียน และชอบเรียนภาษาอังกฤษ อยากมีเพื่อนพูดภาษาอังกฤษ และอีกอย่าง
เป็นเพราะว่าปัญหาการเรียนญี่ปุ่นของจิ๊งไม่ใช่คันจิเหมือนคนอื่นๆ แต่กลับเป็นคาตาคานะ (ตัวเขียนญี่ปุ่นที่ใช้เขียนคำอะไรก็ตามที่มาจากภาษาต่างประเทศ) จิ๊งคิดว่ามันยากกว่าคันจิซะอีก เขียนไม่เคยถูกเลย ตกไปตัวสองตัวประจำ
คนญี่ปุ่นใช้คำภาษาอังกฤษทับศัพท์เยอะมากจนน่าจะเคยชิน ถ้าใครเรียนคงได้เรียนกันมาแล้ว มิรุกุ Milk กอรุฟุ Golf เทบุรุ Table ราจิโอะ Radio แอร์คอน พาโซคอน เอียร์ริ่งกุ ไม่ว่าคำอะไรมักจะใช้คำทับศัทพ์ไปซะหมด วันก่อนจิ๊งดูโทรทัศน์ TV Shopping แบบบ้านเรา เค้าเขียนด้วยคาตาคานะว่า Just 5000 Yen ถ้าเป็นเมืองไทยคงเขียนด้วยภาษาอังกฤษไปแล้ว
ทำให้คิดว่าคนญี่ปุ่นตั้งแต่เล็กๆน่าจะเคยชินกับคำภาษาอังกฤษเป็นอย่างดีอยู่แล้ว ทำให้เดี๋ยวนี้คนที่ภาษาไม่แข็งแรงอย่างจิ๊งไปซื้ออะไรแล้วไม่รู้ว่าภาษาญี่ปุ่นคืออะไรก็จะใช้คำทับศัพท์แทน โดยพยายามออกเสียงให้ฟังดูญี่ปุ่น เชื่อไม๊หละว่ากว่า แปดสิบเปอร์เซนต์ได้ผล วันก่อนไปซื้อโปสการ์ดที่ไปรษณีย์แต่เค้าไม่เข้าใจแต่พอพูดว่า โปส สึ การ์ด โดะ กลับเข้าใจ เฮ้อ
3. การแยกขยะ อันนี้อยากให้ประเทศไทยทำได้มั่งจังคงจะดีไม่น้อย ถึงจะลำบากเราไปนิดแต่ก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ควรทำ
ตั้งแต่มาเรียนวันแรกสิ่งที่อาจารย์พูดตั้งแต่วันปฐมนิเทศน์คือการแยกขยะ เป็นสิ่งจำเป็นอย่างนึงของการใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ โดยแยกเป็นขยะเผาได้ กระดาษ พลาสติก ขวด กระป๋อง โฟม ฯลฯ จิ๊งผู้ไม่ชำนาญทุกวันนี้ยังโดนรูมเมทเรียกไปอยู่เป็นประจำ อันที่อยากจะพูดถึงที่สุดคงเป็นขวดน้ำ
การทิ้งขวดน้ำไม่ใช่ว่าจะทิ้งลงที่ทิ้งขวดพลาสติกแล้วจะจบกัน ที่นี่จะต้องฉีกฉลากทิ้งลงในพลาสติก แกะฝาทิ้งลงในที่ทิ้งฝา และจากนั้นถึงจะนำขวดทิ้งลงในที่ทิ้งขวด
อีกอันที่น่าสนใจคือกล่องนม จิ๊งไม่รู้ว่าคนญี่ปุ่นปกติทำกันรึเปล่า แต่ก่อนจิ๊งจะทิ้งกล่องนมรูมเมทจะให้จิ๊งแกะกล่องออกก่อน แล้วล้างให้สะอาดทิ้งจะทิ้งได้ ส่วนขยะแต่ละอย่างจะมีวันทิ้งไม่ตรงกัน ทำให้มั่นใจได้ว่าขยะที่เราทิ้งไปแล้วนั้นจะไม่ไปรวมกันในรถขยะอีก
ถ้าเมืองไทยทำได้คงดีไม่น้อย แต่ถ้าที่เมืองไทยทำ วันทิ้งขวด และกระป๋อง คงจะมีคนมาเก็บไปขายหมด แน่ๆ ว่าแล้วที่นี่ไม่มีรับซื้อกันบ้างเหรอไงน้า
เอาเป็นว่าจบแค่นี้ก่อน คนเข้ามาเห็นก็คงจะขี้เกียจอ่านกันแล้ว วันนี้เขียนซะยาวแถมมีแต่ตัวหนังสือ ช่วงนี้อาจจะไม่ค่อยได้อัพ จิ๊งกำลังจะมีสอบใหญ่วันศุกร์นี้ คงต้องตั้งใจอ่านหนังสือซะที เจอกันหลังสอบนะค่ะทุกคน
Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2553 |
|
7 comments |
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2553 16:16:34 น. |
Counter : 804 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: คนที่คุณก็รู้ว่าใคร IP: 61.7.190.41 8 กุมภาพันธ์ 2553 17:15:32 น. |
|
|
|
| |
โดย: นางฟ้าจำแลง...ตะแคงเดินดิน (1stUpon ) 8 กุมภาพันธ์ 2553 20:18:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: ChuanSheng IP: 110.164.32.55 11 กุมภาพันธ์ 2553 0:34:00 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไฮดี้ IP: 203.144.144.164 12 กุมภาพันธ์ 2553 14:24:18 น. |
|
|
|
| |
โดย: N@TT IP: 125.25.183.23 12 กุมภาพันธ์ 2553 23:27:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: PURE IP: 203.144.144.164 18 กุมภาพันธ์ 2553 22:30:15 น. |
|
|
|
|
|
|
|
แต่อย่าจำไมแค่ 7 วันนะ
อิอิอิ