พระราชดำรัสที่เป็นรากฐานแห่งชีวิต วันที่ 4 ธันวาคม 2550

เย็นวันที่ 4 ธันวาคม 2550 ผมได้มีโอกาสฟังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจากโทรทัศน์ ผมฟังอย่างปลาบปลื้มใจในพระอัจฉริยภาพของพระองค์ ทุกถ้อยคำล้วนแล้วแต่ทรงคุณค่าอย่างหาใดเปรียบมิได้


พระองค์ท่านกล่าวถึงอาการประชวรว่าเป็นเพราะขาไม่สามัคคีกัน ทำให้เดินไม่ได้ แล้วพระองค์ท่านทรงเปรียบกับประเทศชาติว่า “ถ้าไม่สามัคคี ก็บอกแล้วว่า ประเทศจะประสบความหายนะ” เท่ากับว่าพระองค์ท่านตรัสเป็นนัย ๆ ให้พวกเราที่กำลังเขม่นเข่นเคี้ยวทางการเมืองกันอยู่ให้รักและสามัคคีกันนั่นเอง


จากนั้นพระองค์ท่านตรัสถึงภาวะโลกร้อนว่าขณะนี้อากาศเริ่มเย็นลงแล้ว แต่คนยังมีจิตใจที่ร้อนอยู่ คือเดือดร้อน แล้วพระองค์ท่านทรงเปรียบเทียบว่า “น้ำเดือดถึงจะมีประโยชน์ ต้มขายได้ แต่ว่าถ้าเดือดเฉยๆ ไม่มีประโยชน์ ทำให้คนเดือดร้อน สิ้นเปลืองเปล่าๆ” นั่นหมายความว่าคนที่เดือดร้อนอาจทำให้ประเทศลุกเป็นไฟและพาประเทศล่มจมได้ แล้วพระองค์ท่านทรงเปรียบเทียบต่อเหมือนประเทศมีรู น้ำเข้ามาท่วมได้ ต้องสร้างเขื่อน แล้วน้ำก็ท่วมทุ่ง พืชผลทางการเกษตรเสียหาย ท่านทรงเปรียบสำนวน น้ำท่วมทุ่งว่าไม่ดี เป็นคนพูดมาก ฉะนั้นต้องวางแผนแก้ไขปัญหาให้ดี ประเทศจึงจะไปรอดได้


แล้วพระองค์ท่านตรัสถึงการสวมฉลองพระองค์สีต่าง ๆ ทั้งชมพู เขียว เหลือง ทำให้ไม่น่าเบื่อ จิตใจจะดีขึ้น แม้พระชนมายุจะ 80 พรรษา ในวันรุ่งขึ้น แต่พระองค์ท่านยังมีจิตใจแข็งแรง พระองค์ท่านมีพระประสงค์จะเสด็จฯไปดูเรือของกองทัพเรือ แต่ต้องเป็นเรือที่ใช้ไบโอดีเซล เพราะจะประหยัดน้ำมัน แล้วพระองค์ท่านตรัสถึงไบโอดีเซลที่ใช้น้ำมันปาล์มที่ประเทศของเราปลูกเองว่าจะช่วยประหยัดเงินได้มาก เราไม่ควรซื้อของต่างชาติ เขาขายเราแพง แต่ซื้อของของเราราคาถูกมาก เราไม่ควรไปเสียรู้เขา พระองค์ท่านให้พวกเราไปศึกษาเศรษฐกิจพอเพียงให้เข้าใจ “ขอให้ไปศึกษาต่อ ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พอเพียงคืออะไร ไม่ใช่เพียงพอ คือว่า ไม่ได้หมายความว่า ให้ทำกำไรเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง ทำกำไรก็ทำ ถ้าเราทำกำไรได้ดี มันก็ดี แต่ว่าขอให้มันพอเพียง ถ้าท่านเอากำไรหน้าเลือดมากเกินไป มันไม่ใช่พอเพียง” นั่นคือพระองค์ท่านต้องการให้พวกเราทำเอง ใช้เอง และนำไปขายต่างชาติแบบพอได้กำไรบ้าง นับว่าพระองค์ท่านเป็นอัจฉริยะจริงๆ


หลังจากนั้นพระองค์ท่านตรัสถึงเรื่องการซื้อเรือตรวจการณ์ เรือดำน้ำ เครื่องบิน ว่าถ้าจะซื้อควรซื้อที่ทันสมัยและเป็นของดี แม้จะแพงหน่อยแต่จะใช้งานได้ทนทาน ไม่มีปัญหาในการใช้ บางครั้งก็สมควรต้องใช้จ่ายเงินในสิ่งที่จำเป็น “คำว่า พอเพียง ถ้ามีเงินก็ต้องใช้ ไม่ใช่ขี้เหนียว ถ้ามีเงินไม่ต้องขี้เหนียว ซื้อไปเถอะ อะไรก็ตาม เครื่องบิน เรือ รถถัง ซื้อ ถ้ามีเงินเยอะ ก็ถือว่าสนับสนุนให้จ่าย” นี่คือคำตอบที่ประชาชนควรทำความเข้าใจให้ลึกซึ้งในเรื่องของการใช้จ่าย


จากนั้นพระองค์ท่านตรัสเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินว่า “ถ้ามีเงินเยอะก็จ่าย ใช้เงินให้สมกับที่เรามีเงิน ถ้าไม่มีเงินแล้วจ่ายจะอันตราย แต่ถ้ามีเงิน และไม่จ่าย ก็อันตรายเหมือนกัน…”


และอีกประโยคหนึ่งที่พระองค์ท่านตรัสไว้อย่างน่าคิดคือ “คนที่มีเงินก็จ่าย แล้วก็ช่วยคนที่ไม่มีเงิน นี่รู้สึกตัวว่าพูดอะไรที่ถูกต้อง คือ คนที่มีเงินต้องจ่าย คนที่ไม่มีเงินต้องไม่จ่าย...”


ผมฟังพระราชดำรัสของพระองค์ท่านแล้วน้ำตาไหลด้วยความปลาบปลื้มใจ ทุกถ้อยคำทรงคุณค่า เป็นอมตะวาจาที่ผมจะพยายามน้อมนำไปปฏิบัติให้ได้ เพื่อทำให้ชีวิตเป็นสุขตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงที่พระองค์ท่านทรงวางรากฐานชีวิตไว้ให้


“…ทรงนำเศรษฐกิจพอเพียง หล่อเลี้ยงชีวา
เป็นปรัชญา เกริกฟ้า ก้องปฐพี
ไทยทั้งผอง ภูมิใจ ไทยเป็นไทยจนวันนี้
เพราะองค์ภูมิพลที่ คุ้มครองไทย”


ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

Create Date : 05 ธันวาคม 2550 Last Update : 5 ธันวาคม 2550 19:54:27 น. Counter : 1419 Pageviews.		23 comments
Share Tweet