"เศรษฐกิจพอเพียงก็เลี้ยงตัวได้"
|
|||
จาก วินมอเตอร์ไซด์ ถึง กระเป๋ารถเมล์ วันนั้นเดินผ่านร้านขายเทป ผมเลยซื้อซีดีเพลงของแอ๊ดคาราบาว ชุด หนุ่มบาว สาวปาน ไปฟัง พอฟังแล้วผมชอบตั้งแต่เพลงแรกจนถึงเพลงสุดท้าย ผมว่าพี่แอ๊ดเขาร้องเพลงได้หลากหลาย จะเอาดุดันก็ได้ เอาสนุกก็ได้ เอาปลุกระดมก็ได้ หรือจะให้เศร้าสร้อยน่าสงสาร ผมว่าพี่แอ๊ดเขาก็ร้องได้อารมณ์ทุกเพลง ส่วนพี่ปานน่ะไม่ต้องพูดถึง ขวัญใจของผมเลยละ เพลงที่เป็นชื่อชุด คือเพลงหนุ่มบาว สาวปาน มีเนื้อหาที่สะดุดใจผมบางตอน กรีดยางอยู่ใต้ไม่ปลอดภัย มาขับวินมอเตอร์ไซด์อยู่ใน กทม. ไอ้ไข่นุ้ยลูกทักษิณรูปหล่อ ไม่ชอบเพลงฮาร์ดคอร์ ชอบเพลงคาราบาว แล้วก็อีกตอนหนึ่งร้องว่า หนุ่มสาวสานความสัมพันธ์ ย้ายไปอยู่ด้วยกันอย่างเข้าอกเข้าใจ เปิดเพลงปานฟังด้วยกันตอนบ่าย กลับจากวินมอไซด์ก็เปิดคาราบาว ที่ผมสนใจก็คือคำว่า วินมอเตอร์ไซด์ เพราะคำว่า วิน เราจะหมายถึงสถานที่ที่ผู้ขี่จักรยานยนต์รับจ้างมาจอดคอยผู้โดยสาร เรียกว่าเหมือนจุดจอดรถมอเตอร์ไซด์นั่นแหละ รถที่มาเข้ากระบวนการนี้เราก็เรียกว่า รถวิน ที่นี้การรอรับผู้โดยสารก็ต้องมีระเบียบวินัย จะแย่งผู้โดยสารกันเองไม่ได้ รถที่มาก่อนจะมีโอกาสได้รับผู้โดยสารก่อนเราก็เรียกว่า เข้าวิน ผู้ดูแลคิวรถหรือผู้เก็บค่าธรรมเนียม เราก็เรียกว่า คนคุมวิน หรือ เจ้าพ่อวิน คำว่า วิน มาจากภาษาอังกฤษว่า win ที่แปลว่าชนะ ซึ่งคำนี้เราใช้ในการแข่งขันกีฬา โดยเฉพาะกีฬาแข่งม้าที่คนนิยมกันมานาน ตัวที่ชนะที่หนึ่งเราก็เรียกว่า เข้าวิน ต่อมาคำนี้ก็เลยเพี้ยนไป กลายเป็นสถานที่จอดรถ รถมอเตอร์ไซด์คันไหนมาก่อนก็ เข้าวิน คือจะได้ผู้โดยสารก่อน แถวบ้านผมก็มีวินมอเตอร์ไซด์จอดอยู่ปากซอย ผมกลับบ้านมืดเกือบทุกวัน เลยต้องอาศัยพึ่งพาพี่เซอร์ ซึ่งยังขับรถอยู่จนถึงสี่ทุ่ม พี่เซอร์มีแฟนเป็นกระเป๋ารถเมล์ ชื่อพี่จ๊ะ ผมเคยขึ้นรถเมล์แล้วเจอพี่จ๊ะด้วย เธอก็ดีกับผม พอรู้ว่าผมเป็นเจ้าประจำของพี่เซอร์ พี่จ๊ะเลยไม่เก็บตังค์ ผมก็ปากคันอดถามพี่จ๊ะไม่ได้ว่า ทำไมเขาเรียกว่ากระเป๋ารถเมล์ ทั้ง ๆ ที่ไม่เห็นมีกระเป๋าเลย มีแต่กระบอกตั๋ว น่าจะเรียกว่า กระบอกรถเมล์ มากกว่า พี่จ๊ะหัวเราะในความช่างสงสัยของผม แต่ยังมีน้ำใจบอกว่าผู้ใหญ่ใน ขสมก. เคยเล่าว่า สมัยก่อน ตั๋วรถเมล์มีลักษณะเหมือนแสตมป์ คือมีรอยปรุระหว่างแผ่นให้ฉีกได้ ดังนั้นคนเก็บเงินจึงต้องมีกระเป๋าหนังใบใหญ่คล้องไหล่ไว้ใส่ม้วนตั๋วกับเงินที่เก็บได้ กระเป๋าใบนี้แหละที่ทุกคนเรียกว่า กระเป๋ารถเมล์ ต่อมาคนขึ้นรถเมล์มากขึ้น เลยต้องพัฒนาตั๋วเป็นแบบตั๋วฉีก และทำกระบอกตั๋วสำหรับถือแทนการใช้กระเป๋าคล้องไหล่ เพื่อให้ง่ายกับการเดินซอกแซกเก็บเงินและฉีกตั๋ว แต่คนก็ยังเคยชินเรียกพนักงานที่เก็บเงินบนรถเมล์ว่า กระเป๋ารถเมล์เหมือนเดิม สามทุ่มครึ่งแล้วที่ผมลงจากรถเมล์ และกำลังจะก้าวขาขึ้นคร่อมอานมอเตอร์ไซด์ของพี่เซอร์ที่หน้าปากซอย พอดีพี่จ๊ะลงจากรถเมล์อีกคันหนึ่ง และเดินเข้ามาพอดี พี่เซอร์เลยบอกผมว่า น้องชาย เดินกลับเองนะ พี่จะไปส่งแฟน พอแฟนกระเป๋ารถเมล์มาละก็ วินมอเตอร์ไซด์ก็ลืมผู้โดยสารขาประจำอย่างผมไปเลย ..... ฮา ฮา ฮา ฮา ฮา
อ้าวซอยนี้ มีเซอร์เดียว ในวิน เมื่อยน่องมั๊ยน้อง โดย: yyswim วันที่: 18 พฤษภาคม 2549 เวลา:17:02:56 น.
น่าสงสารเนอะต้องเดินกลับบ้านเลย กลับบ้านดึกๆถึงจาเป้นผู้ชายก็ระวังตัวด้วยนะจ๊ะ คราวหลังหวังว่าเวลาจาขึ้นรถพี่เซอร์ ก็ขอให้พี่เคาไม่เจอแฟนก่อนแล้วกันนะจาได้ไม่ต้องเมื่อยเดิน
โดย: ต่าย IP: 203.118.127.109 วันที่: 18 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:04:39 น.
แหม มาเจอคุณซออู้พอดี น้องเขียนเก่งจัง อ่านแล้วลื่นไหลเห็นภาพตามไปเลย เขียนต่อไปนะ พี่เป็นกำลังใจให้
โดย: Walkerahead IP: 124.121.173.83 วันที่: 11 มิถุนายน 2549 เวลา:13:20:36 น.
|
basbas
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] สนใจเรื่องทั่วไป ใจชอบเล่นกีฬา แต่เรียนไฟฟ้าครับ All Blog
Friends Blog
Link |
||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
อากาศหนาวเหมือนเมอืงนอกเลย
เหงาสุด ขั้วหัวใจ ..
พอวันนี้ผมกลับมาแดดอ่อน ๆๆ เริ่มออก
ถึงกทม ก็ตัดต่อหนังสือ จนเสร็จปิดต้นฉบับแล้วครับ
อีกสี่วัน จะไปอิตาลี่ ฝากไว้ในใจเสมอนะ คับ
โอม สมรัชนะ