เก๋งวีออสสีดำบันดาลโทสะชักปืนกราดยิงใส่ม็อบสวนยางสี่แยกคูหาสงขลา เก๋งวีออสสีดำบันดาลโทสะชักปืนกราดยิงใส่ม็อบสวนยางสี่แยกคูหาสงขลา ตร.เจ็บ 1 ชาวบ้าน 2 ขณะขับฝ่า ม็อบรอจังหวะเคลื่อนเข้ากรุง "ธีระ"งัด6มาตรการกล่อมม็อบ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ 16.00 น. วันที่ 10 ม.ค. ขณะที่มีเกษตรกรชาวสวนยางพาราในพื้นที่ภาคใต้กว่า 500 คน รวมตัวกันชุมนุมอยู่ทีสี่แยกคูหา บ้านคูหา อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ได้มีชายขับขี่รถยนต์สีดำหมายเลขทะเบียน กข-9694 สงขลา ใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาดกราดยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมเกษตรกรชาวสวนยาง หลังจากได้ร่วมกันปิดถนนเอเชีย เส้นทางหาดใหญ่-พัทลุง ทั้ง 4 ช่องจราจร เป็นเหตุให้การจราจรเป็นอัมพาต ทั้งนี้เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มวัยรุ่นที่ไม่พอใจกับการชุมนุมจนทำให้มีปัญหาการจราจร จึงใช้อาวุธปืนยิงกราดยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุม สร้างความแตกตื่น โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเหตุให้ ด.ต.สมคิด เกตุนวล ตำรวจจราจร สภ.รัตภูมิ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่บริเวณดังกล่าวถูกสะเก็ดกระสุนเข้าที่โคนขา นอกจากนั้นยังมีผู้ชุมนุมที่อยู่ที่เกิดเหตุ ถูกสะเก็ดกระสุนปืนอีก 2 รายด้วยกัน ทั้งหมดถูกนำตัวส่งไปโรงพยาบาลรัตภูมิ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ในที่เกิดเหตุเก็บปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม.ได้ 2 ปลอก ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ตำรวจรัตภูมิได้ตั้งด่านสกัดเพื่อติดตามไล่ล่าคนร้ายรายนี้แล้ว เก๋งวีออสสีดำบันดาลโทสะชักปืนยิง อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างที่กลุ่มผู้ชุมนุมกำลังเดินข้ามถนนไปยังเวทีปราศรัย ระหว่างนั้นก็ได้มีรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำ ไม่ทราบทะเบียนและจำนวนผู้โดยสารภายในรถ พยายามที่จะขับรถสอดแทรกขึ้นมาด้านหน้าให้ได้ เนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพารา ทำให้การจราจรในขณะนั้นติดขัดอย่างหนัก จึงอาจจะทำให้ผู้โดยสารในรถยนต์เก๋งดังกล่าวโกรธเคือง เพราะต้องเสียเวลาติดอยู่บริเวณนาน เมื่อขับสอดแทรกขึ้นมาอยู่ด้านหน้าได้ และพยายามที่จะขับฝ่ากลุ่มผู้ชุมนุมออกไป กลับถูกทางกลุ่มผู้ชุมนุมโห่ไล่ จึงอาจจะบันดาลโทสะ ชักอาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมทันที เพื่อเปิดทาง ทำให้มีผู้บาดเจ็บดังกล่าว ม็อบรอจังหวะเคลื่อนเข้ากรุง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 10.00 น.กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ สงขลา รวม 500 คน น พร้อมรถบรรทุกน้ำยางกว่า 300 คัน ได้มารวมตัวกันชุมนุมที่บริเวณสี่แยกบ้านคูหา อ.รัตภูมิ จ.สงขลา เพื่อเรียกร้องต่อรัฐบาลให้เร่งแก้ไขปัญหาราคายางที่กำลังตกต่ำ โดยมีกำหนดเคลื่อนขบวนไปสมทบกับกลุ่มเกษตรกรที่เดินทางมาจากจ.สตูล ,จ.พัทลุง เพื่อเคลื่อนขบวนมุ่งหน้าสู่กรุงเทพ บรรยากาศส่วนใหญ่กลุ่มแกนนำชาวสวนยางได้สลับผลัดเปลี่ยนกันขึ้นเวทีปราศรัยกล่าวโจมตีการทำงานของรัฐบาลอย่างดุเดือด โดยเฉพาะประเด็นการกำหนดราคายางต้องไม่ต่ำกว่า 100 บาท ต่อกิโลกรัม เนื่องจากเดิมทีราคายางอยู่ที่ประมาณ 130-180 บาทต่อกิโลกรัม กระทั่งปรับตัวลดลงเหลือแค่ 50 บาทต่อกิโลกรัมตั้งแต่เดือนต.ค.ที่ผ่านมา ทั้งๆที่ความเป็นจริงราคายางในช่วงนี้จะมีราคาสูง เนื่องจากต่างประเทศมีความต้องการซื้อเพื่อเพิ่มกำลังการผลิต นายชยันต์ สังข์ไพฑูรย์ ประธานสภาเกษตรกร จ.สงขลา ในฐานะผู้ประสานงานเครือข่ายชาวสวนยางภาคใต้ เปิดเผยว่า อยากเรียกร้องต่อรัฐบาลในการเข้ามาแทรกแซงราคายางพาราให้ได้ 120 บาทต่อกิโลกรัม เนื่องจากปัจจุบันเกษตรกรต้องแบกรับต้นทุนการผลิตที่สูงอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ได้มีการยื่นหนังสือถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ แต่ไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ล่าสุดทางผู้ชุมนุมได้รับการแจ้งประสานจากรัฐบาลว่า นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเดินทางมาเจรจากับกลุ่มผู้ชุมชนที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ที่จ.สตูล เกษตรกรชาวสวนยางพารา นำโดย นายชำนาญ เมฆตรง ประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยาง จ.สตูล ได้พาพวกกว่า 100 คน มารวมตัวกันที่บริเวณสามแยกควนกาหลง ถนนยนตรการกำธร อ.ควนกาหลง จ.สตูล โดยมีรถบรรทุกน้ำยาง 40 คัน เพื่อเดินทางไปรวมตัวกันที่สี่แยกคูหา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังกรุงเทพฯ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลดูแลชาวสวนยางให้ราคายางพาราอยู่ที่ 120 บาท ต่อ กิโลกรัม นายชำนาญ เมฆตรง ประธานชุมนุมสหกรณ์ชาวสวนยาง จ.สตูล กล่าวว่า เครือข่ายจังหวัด 14 จังหวัดภาคใต้ได้นัดประท้วง เพื่อให้รัฐบาลมาดูแลชาวสวนยางพารา โดยแบ่งหน้าที่กัน จากนั้นแต่ละจังหวัดจะไปรวมตัวกันที่สุราษฏร์ธานี จากนั้นจะเคลื่อนเข้ากรุงเทพฯเพื่อที่จะเอาน้ำยางนับแสนๆลิตรไปราดหน้าบ้านนายกรัฐมนตรี "เราเรียกร้องที่ 120 บาท/กก. ถ้าไม่ได้ตามที่เรียกร้องก็จะไม่กลับ จะนำน้ำยางนับแสนลิตรไปราดหน้าบ้านนายกฯแน่นอน นายสิทธิพร จริยพงษ์ ประธานสภาเกษตรกร จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า การเรียกร้องของสมาชิกสหกรณ์ยางภาคใต้ เพื่อขอราคายางกิโลกรัมละ 120 บาท นั้นโดยความเห็นส่วนตัวเห็นด้วยกับหลักการเรียกร้องราคายาง เพราะราคายางในตลาดโลกตอนนี้สูง กิโลกรัมละ 140-150 บาท แต่พ่อค้าไทยฉวยโอกาสช่วงน้ำท่วมทำสัญญาผูกพันกับประเทศมาเลเซียในราคากิโลกรัมละ 105 บาท อาจจะด้วยความจำเป็นหรือเหตุผลอื่นก็ตาม เท่ากับประเทศมาเลเซียเป็นพ่อค้าคนกลางที่เอาเปรียบ ดังนั้นพ่อค้ายางไทยจำเป็นต้องซื้อยางจากเกษตรกรชาวสวนยางในราคาถูกกิโลกรัมละ 80 - 90 บาท เพื่อส่งต่อประเทศมาเลเซีย ซึ่งทำให้ไทยเสียโอกาส ดังนั้นการเรียกร้องราคายาง เกษตรกรมีสิทธิที่จะกระทำได้ โดยการเจรจากับรัฐบาลเพื่อให้ไปเจรจาทำการซื้อขายตรงกับตลาดโลกไม่ว่าจะเป็นตลาดจีน หรือ อินเดีย โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางอย่างประเทศมาเลเซีย แต่ที่ไม่เห็นด้วยคือการเคลื่อนไหวด้วยการขนน้ำยางสดไปราดหน้าบ้าน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หรือปิดถนน เนื่องจากจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ใดๆ ในนามของสภาเกษตรกร จ.สุราษฎร์ธานีไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว และได้ชี้แจงกับตัวแทนสหกรณ์ยางภาคใต้ไปแล้ว ว่าไม่เห็นด้วยกับแนวคิดนี้ "ราคายางพาราของไทยตอนนี้เสียเปรียบตลาดโลกมาก ทางที่ดีที่สุดคือรัฐบาลจะต้องเป็นตัวแทนเพื่อซื้อขายโดยตรงกับตลาดโลก เชื่อมั่นว่าราคายางจะต้องสูงกว่านี้ เพราะปัจจุบันนี้ยางในหลาย ๆ ประเทศรวมทั้งประเทศมาเลเซียมีผลผลิตออกน้อยมาก ทำให้ยางไทยเป็นที่ต้องการของตลาดโลกเป็นอย่างมาก" นายสิทธิพร กล่าว "ธีระ"งัด6มาตรการกล่อมม็อบ ต่อมาเวลา 18.00 น. ที่สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง อ.รัตภูมิ จ.สงขลา นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรและสหกรณ์ และกลุ่มตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพารา 14 จังหวัดภาคใต้ ได้ร่วมทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันในการแก้ไขปัญหายางพารา โดยมีข้อสรุปร่วมกัน 6 ข้อ ได้แก่ 1.รัฐบาลจะนำเสนอให้คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติพิจารณาจัดสรรวงเงินเพื่อซื้อยางพาราจำนวน 2 แสนตันในราคาที่ชี้นำตลาด โดยมีเป้าหมายจะทำให้ราคายางเพิ่มสูงขึ้นไปสู่เป้าหมาย 120 บาทต่อกิโลกรัม 2.ให้เชิญตัวแทนเครือข่ายเกษตรกรฯ เข้าร่วมการประชุมกับคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติเพื่อกำหนดรูปแบบและวิธีการแปรรูปยางในวันที่ 17 มกราคม 3.ให้นำมติที่ประชุมที่จะเข้าร่วมกับคณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติในวันที่ 17 มกราคม นำเสนอต่อที่ประชุม ครม.เพื่อหารือและให้พิจารณาในวันที่ 24 มกราคม 4.ให้นายกฯ พูดถึงเรื่องการแก้ไขปัญหายางพาราและข้อสรุปในวันนี้ในรายการ ”รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พบประชาชน” ในวันเสาร์ที่ 14 มกราคมนี้ 5.ที่ประชุมต้องการให้คณะกรรมการนโยบายยางธรรมชาติมีมาตรการแก้ไขปัญหาราคายางอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน "ปู"สั่งรมช.เกษตรฯลงใต้ดูแลปัญหาราคายาง นางฐิติมา ฉายแสง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้นายพรศักดิ์ เจริญประเสริฐ รมช.เกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ภาคใต้ เพื่อดูแลปัญหายางพาราให้กับชาวสวนยาง พร้อมขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วย ทำความเข้าใจกับชาวสวนยางเพื่อไม่ให้เกิดการชุมนุม ส.ส.เพื่อไทยจี้รัฐแก้ปัญหาราคายางพารา เมื่อเวลา 17.00น.นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.ของพรรคซึ่งมี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย เป็นประธานในที่ประชุม โดยมี นางสาวยิ่งลักษณ์นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย และ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมประชุมด้วยว่า ที่ประชุมได้สอบถามปัญหาราคายางพาราตกต่ำ ทั้งภาคใต้ ภาคอีสาน และภาคเหนือโดยอยากให้รัฐบาลมีมาตรการแก้ปัญหาอย่างชัดเจน รวมถึงปัญหาราคามันสำปะหลัง และราคาอ้อย ที่ตกต่ำด้วย ทั้งนี้นายกรัฐมนตรี รับปากว่า รัฐบาลมีมาตรการในการดำเนินการแก้ไขอยู่แล้ว ซึ่งจะมีความชัดเจนในสัปดาห์หน้า แต่ ส.ส.ยังมีความเป็นห่วงด้วยว่าเกษตรกร อาจถูกกลุ่มการเมืองยุยงให้ออกมาเคลื่อนไหวก่อม็อบ ซึ่งตัวแทนรัฐบาลได้ชี้แจงว่าได้มีการเตรียมลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามขณะนี้ฝ่ายตรงข้ามยังมีทุน จึงมีการยุยงเพื่อก่อม็อบออกมากดดันเพื่อดิสเครดิตรัฐบาล ดังนั้น ฝ่ายบริหารจะมีการลงพื้นที่เชิงรุกเพื่อรับฟังปัญหาและหาทางแก้ไข คาดว่าจะลงพื้นที่ได้ในสัปดาห์หน้า นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า ส.ส.ยังได้สอบถามถึงโครงการต่างๆของรัฐบาลที่ประชาชนได้สอบถามส.ส.มาด้วย อาทิ โครงการ เอสเอ็มแอล กองทุนหมู่บ้าน กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ โดยตัวแทนรัฐบาลได้ชี้แจงว่าขณะนี้อยู่ระหว่าดำเนินการเนื่องจากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณปี 2555 ล่าช้าและมีปัญหาน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าทุกนโยบายที่รัฐบาลแถลงไว้จะมีการดำเนินการอย่างแน่นอน Create Date : 10 มกราคม 2555 Last Update : 10 มกราคม 2555 19:56:23 น. 0 comments Counter : 323 Pageviews. Share Tweet ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend Comment :   *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet