Group Blog
 
<<
มกราคม 2555
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
10 มกราคม 2555
 
All Blogs
 
หนาวนี้ ที่ "น่าน"

เดือนแห่งลมหนาวมาเยือน เป็นเวลาแห่งการสัมผัสความสุขที่จับต้องได้ หลังจากที่ต้องเผชิญสุขและทุกข์มาตลอดปี เป็นเวลาที่ร่างกายและจิตใจต้องได้รับการพักผ่อน



การท่องเที่ยวในครั้งนี้ จึงต้องการสัมผัสธรรมชาติ ท่องเที่ยวแบบสงบๆ และได้กลิ่นอายของวัฒนธรรม แวบหนึ่งของความคิด น่าน ะซิ น่านเป็นเมืองเล็กๆ มีกลิ่นอายอารยธรรมล้านนาตะวันออก มียอดดอยที่ไปสัมผัสความหนาว อยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล การเดินทางค่อนข้างสะดวกสบาย จอดรถแล้วกางเต็นท์นอนได้

การเดินทางในครั้งนี้เริ่มต้นจากกรุงเทพฯช้าๆ ประมาณ 07.30 น. ใช้เส้นสายเอเชีย ผ่านอยุธยา นครสวรรค์ พิษณุโลก แพร่ แล้วเข้าสู่ถนนเส้น 101 ไปสู่เมืองน่าน เพื่อการเตรียมพร้อมเดินทางขึ้นดอยควรเติมน้ำมันให้เต็มและของกินสำหรับคนขับ

คืนแรกของการเดินทาง พักที่ ศูนย์วิจัยต้นน้ำขุนสถาน จ.น่าน โดยเมื่อเดินทางผ่านแพร่ ถนนหมายเลข 101 ผ่าน อ.ร้องกวาง ถึงบ้านห้วยแก๊ต เลี้ยวขวา เข้าถนนหมายเลข 1216 เพื่อไปสู่อุทยานแห่งชาติขุนสถาน มีป้ายบอกตลอดทาง ช่วงเดือนธันวาคม อากาศค่อนข้างหนาว บนดอยอุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศา และมีลมแรงด้วย ดังนั้นควรเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวไปให้พร้อม

ขุนสถาน มีจุดพักค้างแรม 2 จุด หลักๆ คือ ศูนย์วิจัยต้นน้ำขุนสถาน และอุทยานแห่งชาติขุนสถาน แต่มีบ้านพักน้อย ดังนั้น ถ้ามาช่วงเทศกาลสิ่งที่จำเป็นคือ ต้องมีเต็นท์และอุปกรณ์เครื่องนอน ติดรถมาด้วย เพราะทั้งสองที่พักแรมสามารถกางเต็นท์นอนได้

ศูนย์วิจัยต้นน้ำขุนสถาน มีจุดที่น่าสนใจ คือ นางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย ซึ่งสามารถกางเต็นท์นอนใต้ต้นนางพญาเสือโคร่งได้เลย วันที่เรามาพักที่นี้ (24 ธ.ค.) มีดอกนางพญาเสือโคร่งบานบ้างแล้ว ส่วนที่เหลือจะบานเต็มที่ประมาณกลางเดือนมกราคม 2555 ใครยังไม่ได้ไปชม ยังมีโอกาสนะครับ

ส่วนพื้นที่ของศูนย์วิจัยต้นน้ำขุนสถาน มีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น แต่พอมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้ แต่ไม่สามารถเป็นจุดชมวิวสำหรับพระอาทิตย์ขึ้น เพราะพระอาทิตย์ขึ้นหลังเขาของศูนย์วิจัยต้นน้ำขุนสถาน สำหรับอาหารและเครื่องดื่มไม่มีให้บริการ ดังนั้น ต้องเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไปเอง มีห้องน้ำให้บริการ พื้นที่จอดรถค่อนข้างน้อย เพราะไม่ได้เปิดเป็นที่พักแรมแบบเต็มที่

หากขับเลยศูนย์วิจัยต้นน้ำขุนสถานไปอีกประมาณ 10 กิโลเมตร จะพบกับจุดพักแรมของ อุทยานแห่งชาติขุนสถาน ซึ่งเป็นพื้นที่โล่ง สามารถกางเต็นท์ได้จำนวนมาก มองเห็นวิวได้กว้าง เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้ มีร้านค้าสวัสดิการให้บริการ นั่งดื่มชา กาแฟ เครื่องดื่มอุ่นๆ สัมผัสกับไอหนาว ได้บรรยากาศสุขใจมากขึ้น

ในระหว่างการเดินทางไปศูนย์วิจัยต้นน้ำขุนสถานผ่านหมู่บ้านชาวเขา สามารถเลือกซื้อผักผลไม้ท้องถิ่นระหว่างเส้นทางการเดินทาง รวมถึงมีบริการโฮมสเตย์ หรือจุดกางเต็นท์พักแรมด้วย

ในเช้าวันที่สองของการเดินทาง ท่ามกลางลมหนาว อาหารมื้อแรกที่พวกเราได้เตรียมกัน คือ นมอุ่นๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายได้อบอุ่นก่อนออกเดินทางต่อไปยัง อุทยานแห่งชาติศรีน่าน

จากอุทยานแห่งชาติขุนสถาน ขับรถตามเส้นทาง 1216 ไปทาง อ.นาน้อย เมื่อถึง อ.นาน้อย ใช้เส้นทาง 1083 ไปยังอุทยานแห่งชาติศรีน่าน ซึ่งเป็นจุดที่พวกเราจะพักบนดอยต่อในคืนวันที่สอง

ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน มีจุดที่น่าสนใจ ได้แก่ ผาชู้ ผาหัวสิงห์ และดอยเสมอดาว โดย ผาชู้ เป็นภูเขาหินตั้งตระหง่าน มีประวัติเกี่ยวกับรักสามเส้าของชายหนึ่งหญิงสอง มีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นลำน้ำน่าน ซึ่งสามารถพักแรมหรือกางเต็นท์ได้ ถ้าไม่ได้เตรียมเต็นท์มาทางอุทยานพร้อมให้เช่า ที่ผาชู้มีบรรยากาศเงียบสงบ ถ้าอากาศดีๆ จะมีทะเลหมอกให้เห็นในตอนเช้า มีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น ร้านค้าสวัสดิการและห้องน้ำให้บริการ

แต่จุดที่พวกเรานอนพักแรมกัน คือ ดอยเสมอดาว เป็นจุดที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นได้งดงามมาก มีลำน้ำน่านอยู่เบื้องล่าง และใกล้ๆ กับผาหัวสิงห์ เราสามารถเดินขึ้นไปข้างบนผาหัวสิงห์ได้จากจุดนี้

ดอยเสมอดาว มีเต็นท์ของอุทยานให้เช่า มีห้องน้ำให้บริการ หรือสามารถนำเต็นท์มากางเองได้ แต่ไม่มีร้านค้าสวัสดิการ ต้องเตรียมอาหารและเครื่องดื่มขึ้นไปเอง อุทยานแห่งชาติศรีน่านไม่อนุญาตให้ก่อกองไฟ แต่สามารถใช้เตาอังโล่ หรือเตาแก๊สปิคนิคได้ โดยที่อุทยานจะมีเตาอังโล่ พร้อมถ่านให้บริการ ชุดละ 100 บาท

ในคืนเดือนแรม ไร้เมฆ จะสามารถมองเห็นดาวระยิบระยับได้อย่างชัดเจน ลมค่อนข้างแรง ดังนั้นอาจจะต้องเลือกพื้นที่กางเต็นท์ที่หลบกระแสลม วันนี้ ทำบะหมี่ต้มใส่ปลากระป๋อง อาหารร้อนๆ ช่วยให้ร่างกายอบอุ่น ท่ามกลางลมหนาว เต็นท์ที่อยู่ข้างๆ พวกเราเปิดเพลงเบาๆ เคล้าคลอลมหนาว แต่ทางอุทยานฯ ไม่อนุญาตให้เล่นเครื่องดนตรี เพราะเกรงจะรบกวนผู้มาพักค้างคืน

ยามเช้าเดินขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบนดอยเสมอดาว วันนี้ลมค่อนข้างแรง ทำให้ไม่มีทะเลหมอกด้านล่าง แต่สามารถมองเห็นลำน้ำน่าน พระอาทิตย์ดวงกลมโตสีส้ม ค่อยๆ เคลื่อนที่อย่างช้าๆ จากขอบท้องฟ้า นักท่องเที่ยวทุกคนให้ความสนใจถ่ายรูปกันสนุกสนาน ณ เวลานี้เราได้มองเห็นสายตาแห่งความสุขของนักท่องเที่ยว เป็นภาพที่ประทับใจอย่างมาก นับว่าเป็นความสุขที่สามารถจับต้องได้

พวกเราเก็บเต็นท์ เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองน่าน เพื่อท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรมของอารยธรรมล้านนาตะวันออก อากาศยังเย็นสบาย พวกเราเช่าจักรยานพร้อมที่จะตะลุยเมืองน่าน

เมืองน่าน เป็นเมืองเล็กๆ ผู้คนอัธยาศัยดี เป็นมิตร พวกเราแวะรับประทานข้าวซอย ในร้านค้าชุมชน ราคาไม่แพง อีกทั้งวัดภูมินทร์ วัดพระธาตุช้างค้ำ พระธาตุแช่แห้ง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน จะทำให้เราเข้าใจประวัติเมืองน่านได้เป็นอย่างดี

จุดที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวคือ งาช้างดำ ที่เป็นของคู่บ้านคู่เมืองน่าน ในตอนเย็นของวันนี้พวกเราเดินทางไปชมความงามของเมืองน่านยามพระอาทิตย์ตก บนพระธาตุเขาน้อย ที่สามารถมองเห็นเมืองน่านในมุมสูง นับว่าเป็นจุดที่น่าสนใจอีกจุดหนึ่ง

สำหรับที่พักในเมืองน่าน ราคาไม่แพง อย่างเช่น เกสต์เฮ้าส์ ห้องพัดลม ราคาประมาณ 250 บาทต่อคืน เหมือนนอนอยู่บ้าน สะอาด ตอนกลางคืนสามารถเดินดูความงามของเมืองและหาอาหารเย็นรับประทานได้

เช้าวันรุ่งขึ้น ก่อนเดินทางกลับ พวกเราได้ชมความงามของพระอาทิตย์ขึ้นที่พระธาตุเขาน้อย จะได้เห็นพระอาทิตย์กลมๆ ค่อยๆ ขึ้นจากขอบฟ้า และแสงจะจับฉายแสงที่องค์พระพุทธรูป สีทองอร่าม บนยอดพระธาตุเขาน้อย สวยงามประทับใจ และขอพรก่อนเดินทางกลับพร้อมกับความประทับใจเมืองน่าน


เบอร์ติดต่อ : ศูนย์วิจัยต้นน้ำขุนสถาน 08-9965-3218 (แต่ไม่ค่อยมีสัญญาณ) อุทยานแห่งชาติขุนสถาน 08-7173-9549 / 0-5470-1121

...............................................
(ชวนเที่ยว : หนาวนี้ที่ น่าน โดย...เรื่อง//ภาพ : Adamfeelgood )


Create Date : 10 มกราคม 2555
Last Update : 10 มกราคม 2555 20:00:56 น. 1 comments
Counter : 2172 Pageviews.

 


โดย: Kavanich96 วันที่: 11 มกราคม 2555 เวลา:10:17:18 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

bunbaramee
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add bunbaramee's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.