|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
อย่าปล่อยใจให้สุดโต่ง...
ตอนนี้คุณไม่ต้องจด ไม่ต้องทำอะไร ฟังอย่างเดียว อมรา สาขากร ครูบาอาจารย์ทางธรรม กล่าวขึ้นหลังจากเสร็จสิ้นการสัมภาษณ์ ลองมาฝึกสติ 5 นาที เพื่อจัดการกับความคิด
เธอบอกให้ผู้เขียนตั้งใจฟัง สติทางโลกกับสติทางธรรมไม่เหมือนกัน สติทางโลกเอาไว้ทำงาน ส่วนสติทางธรรม ต้องจำอารมณ์ให้ได้ ทำใจให้เป็นกลาง
"เราอาจตีความคำว่า สติไว้หลายแบบ แต่ไม่ใช่แค่การนั่งสมาธิ" อมรา โยงเข้าสู่บทเรียนแห่งสติ และปฏิเสธว่า ไม่ได้เป็นครูบาอาจารย์ แต่อยากทำสิ่งที่มีความสุขมากกว่าก็คือ การฝึกสติ
เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เธอลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย หันมาทำงานทางธรรมเต็มตัว ปัจจุบันเป็น ประธานมูลนิธิสวนพุทธธรรม อยุธยา และวิทยากรทางธรรมให้โรงเรียน หน่วยงาน และบุคคลต่างๆ ที่ต้องการฝึกสติ
เกิดความรู้สึกเต็มอิ่ม ไม่ได้เบื่อหน่าย เราทำงานรับใช้รัฐมา 20 ปี ก็เลยคิดว่า เราน่าจะทำอะไรที่ใจชอบคือ การฝึกสติ ครอบครัวของเรามีเรือนไทยอยู่อยุธยา เป็นโรงเรียนสอนอภิธรรม สอนกันตั้งแต่สมัยยายจนถึงคุณแม่ เราไปสร้างเพิ่มเติม ตอนนี้ไม่ใช่แค่สถานที่เรียนอภิธรรม แต่เป็นสถานที่ขัดเกลาจิตใจ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ได้จัดตั้งเป็นมูลนิธิ
อมรา เรียนรู้การฝึกสติจากครูบาอาจารย์สายพระป่าหลายท่าน เคยฝึกสติกับหลวงตาเสริม วัดบูรณสิริ จากนั้นถูกส่งไปหาหลวงปู่เทพ ท่านบอกว่า เราฝึกได้แล้ว ไม่ต้องไปฝึกที่อื่น ครูบาอาจารย์ทางธรรมเมื่อ 30 ปีที่แล้ว เธอรู้จักเกือบหมด ได้เรียนรู้การฝึกสติเพื่อออกจากทุกข์
"ถ้าตื่นขึ้นมารู้สึกไม่แจ่มใส เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวหรือขี้เกียจ ก็รับรู้ความรู้สึกด้วยใจเป็นกลาง" อมรา ชี้แนะ และคุยถึงชีวิตตัวเองว่า คนเราต้องรู้จักคำว่าพอ ตอนทำงานก็หาทรัพย์ตามสมควร รู้จักวางแผนชีวิต อย่างเรามีลูกสองคน ก็คิดไว้ว่า ถ้าเราไม่มีสามีจุนเจือ ต้องมีเงินจำนวนแค่ไหนถึงจะอยู่ได้
ไม่ได้เสียดายอาชีพนักกฎหมาย อย่างตอนที่ลาออกก็บอกลูกว่า ถ้าเพื่อนๆ ลูกถามว่า แม่ทำอะไร แล้วต้องตอบว่า ตอนนี้เป็นแม่บ้าน ลูกจะอายไหม ลูกบอกว่า ไม่อาย ส่วนสามี (ผู้พิพากษา) ก็แล้วแต่เรา สนับสนุนทุกอย่าง
เมื่อไม่ต้องทำงานประจำ เธอจึงมีเวลาทำงานที่ตัวเองรัก จัดคอร์สอบรมการฝึกสติที่สวนพุทธธรรม อยุธยา ซึ่งงานส่วนนี้ไม่ได้ค่าตอบแทนใดๆ แต่อยากให้ทุกคนมีโอกาสได้ฝึกสติ ไม่ว่าจะเป็นเด็ก คนหนุ่มสาว คนแก่ และคนเครียด ฯลฯ
แต่ละกลุ่มจะจัดคอร์สไม่เหมือนกัน ต้องจัดให้เหมาะกับกลุ่ม และไม่จำเป็นต้องใช้วิธีการเดียว คนมาเข้าคอร์สสองคืนสามวัน ต้องได้เรียนรู้สติทางธรรม
กลุ่มคนเครียด มักจะกังวลจมอยู่กับเรื่องนั้นๆ เราก็บอกคำสอนพุทธองค์ อย่าหมกมุ่นในรูปรสกลิ่นเสียง พวกเครียดจะวิตกเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ต้องรู้จักสัมมาสติ อย่างคนป่วยเป็นมะเร็ง จะเครียดทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องในอดีต เมื่อป่วยเป็นโรคแล้ว นั่นเป็นเรื่องเก่า กระบวนการของเรามีไว้เพื่อรู้ รู้ด้วยใจเป็นกลาง
ช่วงสองคืนสามวันในคอร์สอบรมการฝึกสติ หากบางคนกลับมาเครียดอีก เขาจะจัดการความรู้สึกอย่างไร อมราบอกว่า เขาจะเจอทางออกของตัวเอง การเรียนรู้เรื่องสัมมาสติเพื่อให้ออกจากความกังวล ถ้าเผลอเมื่อไหร่ก็เกิดขึ้นได้อีก
อย่างกลุ่มคนเครียด เธอไม่ได้เน้นการนั่งสมาธิอย่างเดียว ต้องสอนให้ผ่อนคลายอย่างมีสติ อย่างคนเครียด เวลาอาบน้ำจะรีบให้น้ำผ่านตัว เพื่อให้เสร็จเร็วๆ แต่เธอจะสอนให้เรียนรู้อาการของกายและจิต ต้องอาบน้ำแบบรู้สึกตัว เปิดน้ำเบาๆ ผ่านตัวให้รู้สึกสบาย ทำไปเรื่อยๆ ถูเท้าต้องรู้จักเท้า
เวลาอาบน้ำต้องตามรู้หลายอย่าง ปกติเราจะใช้สบู่ที่เป็นสารเคมี แต่เราจะให้ใช้สบู่ถั่วเขียว เป็นถั่วเขียวบดให้ละเอียด เพราะถั่วเขียวมีคุณสมบัติพิเศษ เมื่อโดนน้ำจะจับตัว มีแป้งและไขมันลื่นๆ ดูดซับกลิ่นและความสกปรก"
กลุ่มคนเครียดจะมีอารมณ์มาก เธอบอกว่า ไม่ยากในการตั้งรับ ต้องตั้งความกรุณาไว้ในใจ กระบวนการฝึกสติในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมใดก็ตาม พวกเขาต้องรู้สึกตัว หากผู้ปฏิบัติรู้สึกรำคาญ ต้องมีความกล้าที่จะมองเข้าไปตรงๆ เรื่องนี้มีเหตุของมันเอง
ส่วนการฝึกสติให้กลุ่มเด็ก เพื่อเสริมบูรณการความรู้ทางพุทธศาสตร์เข้ากับการเรียน บางครั้งร่างกายเจ็บป่วยเพราะสภาพจิตใจ ต้องเชื่อมโยงระหว่างกายและใจ สอนให้ออกจากความเครียด เธอบอกว่า กระบวนการฝึกสติสามารถช่วยได้
"ช่วงสองคืนสามวัน เด็กๆ ได้คลุกคลีกับเรา เด็กก็จะอ่านตัวเองออก ได้รู้สาเหตุของความเบิกบานในการฝึกสติ สาเหตุของความเครียดมาจากการขาดสติ"
ส่วนการปฏิบัติธรรมของคนชรา ยิ่งกลายเป็นเรื่องง่าย บางคนทำขนมไทยเก่ง ก็นำสิ่งใกล้ตัวมาฝึกสติ อมรากล่าวอย่างนิ่มนวลว่า คนเราจะมีตามองเห็นได้หมด แต่จิตใจมักหลับ
แค่รู้เรื่องเดียวคือ สติ
ทุกภารกิจต้องทำด้วยความสุข เธอแนะว่า ต้องรู้จักทำใจเป็นกลาง เพราะใจเราจะสุดโต่งไปสองด้าน ไม่รักก็ชัง เราจะฝึกให้จำได้ว่า ตอนนี้สุดโต่งแล้วนะ ต้องรู้จักสัมมาสติ ไม่เหมือนสติทางโลก อย่างสติทางธรรม ต้องอาศัยการจำความรู้สึกที่เป็นปัจจุบันของเราให้ได้
ในทางธรรม เราไม่ใช้สติไปจัดการคนอื่น ใช้เพื่อจัดการความรู้สึกตัวเองให้เป็นปกติ เราไม่มีหน้าที่จัดการกับใคร ต้องจัดการกายและใจตัวเองก่อน แก้ปัญหาตัวเองให้ได้ก่อน อย่าไปคิดแก้คนอื่นๆ บางคนฉลาดมากรู้ทุกเรื่อง แล้วรู้สึกตัวเองไหม สัมมาสติเป็นการรู้อย่างตรงไปตรงมา หายใจเข้าก็รู้สึก ตามรู้ลมหายใจยาว ก็รู้สึกโล่ง รับรู้ความรู้สึกนั้นๆ "
เธอยกตัวอย่าง การสีฟัน ถ้ารีบๆ กระบวนการจะบีบคั้น แต่ถ้าทำกิจกรรมทุกอย่างอย่างมีสติ จิตใจก็จะผ่อนคลาย งานก็เสร็จ จิตก็เป็นสุข
"คุณรู้ไหม คนดีก็มีทุกข์ ชีวิตคนเรา จึงต้องฝึกสติให้ใจผ่องใส "
เธอกล่าวเสริมว่า เราเองก็นั่งสมาธิเท่าที่ทำได้ ไม่ยึดรูปแบบ ฝึกสติทุกเรื่องในชีวิต แม้กระทั่งการทำกับข้าว ก็ตามรู้ด้วยใจเป็นกลาง
ไม่ต้องบวชก็ฝึกสติได้ ถ้าตั้งใจมากๆ อาจเครียดได้ เราต้องตามรู้ความเครียดด้วยใจเป็นกลาง สติทางโลกไม่ต้องฝึกมีอยู่ตามธรรมชาติ แต่สติทางธรรมต้องฝึก โดยครูที่เข้าใจ เรื่องนี้คิดเองไม่ได้ "
ในสวนพุทธธรรม มีกุศโลบายอย่างหนึ่งก็คือ การเดินอย่างมีสติ ผู้ชราให้เดินในตลาดสักสองกิโล ถ้าเป็นหนุ่มสาวให้เดินกลางทุ่งประมาณ 12 กิโล เพื่อให้รู้อาการเดิน บางคนเกิดความกลัว เราต้องรับรู้ด้วยใจที่เป็นกลาง
ปัจจุบันเธอสานงานทางธรรมต่อจากครอบครัว เปิดคอร์สฝึกสติให้ผู้คนมากมาย โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ทุกวันนี้มีความสุขกับครอบครัว จึงอยากเป็นผู้ให้บ้าง ---------------------
จาก คอลัมน์ กายใจ กรุงเืทพธุรกิจ //www.bangkokbiznews.com/bodyheart/
---------------------
สาธุคุณแม่อมราค่ะ
Create Date : 22 สิงหาคม 2548 |
|
41 comments |
Last Update : 10 มีนาคม 2549 9:38:56 น. |
Counter : 1798 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: doginlaw (doginlaw ) 22 สิงหาคม 2548 13:03:03 น. |
|
|
|
| |
โดย: rebel 22 สิงหาคม 2548 13:38:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: JewNid 22 สิงหาคม 2548 14:01:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: Poynune (แอบแว้บมา!) IP: 203.158.4.155 22 สิงหาคม 2548 14:06:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: เป่าจิน 23 สิงหาคม 2548 8:37:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: yadegari 23 สิงหาคม 2548 17:56:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: Bluejade 23 สิงหาคม 2548 18:41:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป่ามืด 23 สิงหาคม 2548 22:33:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: เป่าจิน 24 สิงหาคม 2548 11:22:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: yadegari 24 สิงหาคม 2548 16:39:59 น. |
|
|
|
| |
โดย: err_or 25 สิงหาคม 2548 12:31:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: เป่าจิน 26 สิงหาคม 2548 11:11:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: หนูชล 26 สิงหาคม 2548 14:01:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: yadegari 26 สิงหาคม 2548 14:36:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: Bluejade 26 สิงหาคม 2548 18:53:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: แม่อบเชย 26 สิงหาคม 2548 19:34:15 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป่ามืด 26 สิงหาคม 2548 22:32:11 น. |
|
|
|
| |
โดย: prncess 27 สิงหาคม 2548 9:16:24 น. |
|
|
|
| |
โดย: ไร้นาม 27 สิงหาคม 2548 17:10:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: เป่าจิน 29 สิงหาคม 2548 7:54:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: เด็กเล็ก 29 สิงหาคม 2548 22:21:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: เป่าจิน 30 สิงหาคม 2548 8:34:02 น. |
|
|
|
|
|
|
|