86 ปีแห่งความทรงจำของทันตแพทย์ สม อิศรภักดี เขียนที่....บ้านผ่อดอยใน....ตำบลโป่งแยง...อ.แม่ริม....จ.เชียงใหม่
<<
ธันวาคม 2553
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
15 ธันวาคม 2553

ครูเว้งกิ๊ต





ผมเรียนชั้นประถมที่โรงเรียนวัดบรมนิวาส ตอนที่ผมสอบได้ประถม 2 ได้มีเหตุการณ์ที่มีความสำคัญกับการศึกษาเกิดขึ้น กล่าวคือคณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครองจาก ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชเป็นระบอบประชาธิปไตยได้ชูประเด็นหลัก 6 ประการและ ประการหนึ่งในนั้นก็คือระบอบการศึกษา โดยบังคับให้เด็กอายุตั้งแต่ 8-15 ปีต้องเข้าเรียนชั้นประถม 4 ปี ดังนั้นรัฐบาลจะต้องหาที่ให้เรียนโดยไม่เสียค่าเล่าเรียน รัฐบาลต้องสร้างโรงเรียนและครูเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการศึกษาภาคบังคับ โรงเรียนวัดบรมนิวาสมีเฉพาะชั้นประถม จึงเหมาะที่จะใช้เป็นโรงเรียนภาคบังคับ โดยเหตุที่รัฐบาลยืดการเรียนภาคบังคับเป็น 4 ปี แต่สมัยที่ผมเรียนอยู่ชั้นประถมมีแค่ 3 ปี ดังนั้นเมื่อผมสอบผ่านประถม 2 จึงได้ขึ้นไปอยู่ประถม 4 การเรียนภาคบังคับ 4 ปีนี้ ภายหลังอีกนานได้เพิ่มให้เป็น 6 ปี ดังนั้นจึงมีประถม6 แล้วลดชั้นมัธยมออกไปให้เหลือเพียง 6 ปี

โรงเรียน ที่เรียนในภาคบังคับและไม่เสียค่าเล่าเรียกเรียกว่า โรงเรียนประชาบาลถ้าอยู่ในเขตเมืองเรียกว่าโรงเรียนเทศบาล ชาวบ้านในสมัยนั้นมีความรังเกียจ โรงเรียนที่ไม่เสียค่าเล่าเรียน ดังนั้นส่วนมากจึงย้ายไปเรียนที่อื่น ผมย้ายไปเรียนที่โรงเรียนวัดสระเกศ ซึ่งอยู่ไกลบ้านอีกเท่าตัว โรงเรียนที่วัดสระเกศเป็นเรือนไม้ 2 หลัง หลังหนึ่งสำหรับนักเรียนชั้นประถมอีก หลังหนึ่งสำหรับนักเรียนมัธยม ผมเรียนที่นั้นชั้นประถม 4และมัธยม 1 ก็มีผู้ย้ายผมไปอยู่มัธยมหอวัง ผมเข้าใจว่าพี่สาวคงเป็นผู้จัดการให้ไปเรียนที่ใหม่

ที่โรงเรียนวัดสระเกศชั้นป .4 ผมเรียนกับครูผู้ชายชื่อ เว้งกิ้ต ท่านผู้นี้อายุประมาณ 40ปี รูปร่างสูงใหญ่ ท่านรักลูกศิษย์และใจดีเวลานักเรียน ซน ท่านจะให้แบมือหงายขึ้นและตีเบา ๆ ด้วยไม้บรรทัดที่ฝ่ามือ 3 ครั้ง (ครูบางคนตีที่ฝ่ามือแรงและเจ็บมาก) ครูเว้งกิ้ต เคยปากแหว่ง แต่ได้เย็บไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ก็พอสังเกตได้ว่าเคยปากแหว่ง บังเอิญในชั้นนั้น มีลูกศิษย์คนหนึ่งปากแหว่งและยังไม่ได้เย็บ วันหนึ่งลูกศิษย์ที่ปากแหว่งร้องไห้ไปฟ้องครูว่า ไอ้นั้นมันเรียกผมว่าไอ้แหว่ง ครูเว้งกิ้ต ฉุนขาด ร้องออกมาว่าปากแหว่งก็ไม่ได้ไปกินขี้หมาที่ไหน

ที่โรงเรียนมัธยมหอวัง เป็นที่กว้างขวางมาก เข้าใจว่าเคยเป็นวังของเจ้านาย คนใดคนหนึ่ง ตัวตึกเป็นทรงยุโรป เหมือนวังของเจ้านายองค์อื่นๆ เข้าใจว่าสร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 เมื่อเข้าไปในตัวตึก สิ่งแรกคือ ห้องรับแขก ซึ่งเป็นห้องประชุมของนักเรียน จากห้องประชุม ซ้าย ขวา มีห้องหลายห้องใช้เป็นห้องเรียน มีบันไดขึ้นไปชั้น 2 และใช้เป็นห้องเรียนหลายห้อง แปลกที่ผมไม่เคยขึ้นบันไดไปชั้นสองเลย

หลังตึกโรงเรียนมีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ หลังต้นโพธิ์มีสนามเล็กๆ นักเรียนใช้เป็นที่ ชกกัน หลังเลิกเรียน ผมได้ดูรุ่นพี่ เขาชกกัน 2 คู่ ต่างเวลากัน พอชกกันเจ็บตัวพอสมควรแล้ว ก็มีนักเรียนรุ่นพี่ มาแยกและให้จับมือกัน ผมเองก็ได้ขึ้นเวทีนี้กับเพื่อนร่วมชั้น ท้ากันให้ไปชกหลังต้นโพธิ์ตอนเลิกเรียน ผมจดๆ จ้องๆ คู่ชกของผมก็อ้อยอิ่ง ไม่ชกสักที เป็นอย่างนั้นอีกนาน นักเรียนรุ่นพี่บอกให้เลิกกันได้แล้ว ทั้งสองฝ่ายดีใจ เพราะที่ลงมาชกก็เพื่อรักษาหน้าที่ท้ากันไว้แล้ว เหตุการณ์นี้ทำให้ผมไม่เสียสถิติเพราะตั้งแต่เล็กจนป่านนี้ ผมไม่เคยชกกับใครเลย

โรงเรียนมัธยมหอวังกว้างยาวแค่ไหน มันก็เท่ากับความใหญ่โตของสนามกีฬา หรือที่เรียกว่าสนามศุภชลาศัย รัฐบาลสมัยนั้นต้องการให้มีสนามกีฬาแห่งชาติที่ได้มาตรฐานเมื่อหาที่เหมาะสมไม่ได้ จึงเลือกโรงเรียนนี้ เป็นสนามกีฬาแห่งชาติ รัฐบาลได้สร้างโรงเรียนให้ใหม่ติดอยู่กับ จุฬามหาวิทยาลัย ลักษณะตึกเป็นอาคาร 2 ชั้นมีห้องเรียนเรียงกันไป โดยมีเฉลียงติดต่อกันเหมือนกับโรงเรียนในปัจจุบัน โรงเรียนนี้เคยเป็นต้นแบบสร้างไว้ก่อน สงครามโลกครั้งที่ 2 หลายปี ผู้เขียนแบบคือสถาปนิก อิตาเลียน ชื่อมันด์เฟรดดี้ เข้าใจว่ามารับราชการอยู่ในเมืองไทย สถาปนิกมันด์เฟรดดี้ เป็นคนรูปร่าง อ้วนและสูงพูดภาษาไทย ผมบังเอิญได้พบกับท่านที่ คณะทันตแพทย์โดยที่ท่านเขียนแบบให้คณะทันตแพทย์ เหมือนกับตึกโรงเรียนมัธยมหอวัง อย่างไงอย่างงั้น



Create Date : 15 ธันวาคม 2553
Last Update : 19 ธันวาคม 2553 19:47:18 น. 9 comments
Counter : 966 Pageviews.  

 
สวัสดีครับ ท่านสบายดีหรือผมคิดถึงตลอดเวลา จะไปเยี่ยมก็เกรงจะรบกวน


โดย: บุญลือ IP: 223.206.211.150 วันที่: 15 ธันวาคม 2553 เวลา:13:01:14 น.  

 
กราบสวัสดีคุณลุงหมอและสวัสดีคุณติ๋ม
คาดว่าอากาศที่โป่งแยงคงหนาวเหน็บกว่าที่อื่นๆ นะคะ
ขอให้คุณลุงหมอรักษาสุขภาพด้วยค่ะ
ที่บ้านกรุงเทพฯ เป็นหวัดกันนิดหน่อยแล้วค่ะ



วัดสระเกตุ จะใช่วัดสระเกศ ที่มีภูเขาทองหรือเปล่าคะ


โดย: addsiripun วันที่: 18 ธันวาคม 2553 เวลา:14:46:23 น.  

 
สวัสดีค่ะป้าแอ๊ด
ติ๋มได้รับเมล์รูปครั้งที่2 เรียบร้อยแล้วค่ะ
ใช่แล้วค่ะ ติ๋มพิมพ์ผิดค่ะ ขอบคุณค่ะที่บอกค่ะ
เป็นวัดสระเกศ จริงๆด้วยค่ะ


โดย: ติี๋มค่ะ5546 IP: 119.31.80.219 วันที่: 18 ธันวาคม 2553 เวลา:20:57:44 น.  

 

กราบสวัสดีคุณลุง และสวัสดีพี่ติ๋มค่ะ

บนโน้นต้องอากาศเย็นมาก ๆ แล้วแน่เลยใช่ไหมคะ
วันนี้ฟ้าปิดตลอดทั้งวัน
ไปทำงานต้องพกเสื้อแจ๊คเก็ตตัวหนา ๆ ไปด้วยแล้ว
คุณลุงและพี่ติ๋มสบายดีนะคะ


โดย: ฮักน้ำปิง IP: 223.206.105.235 วันที่: 18 ธันวาคม 2553 เวลา:22:38:22 น.  

 
สวัสดีค่ะป้าแอ๊ด แก้ชื่อโรงเรียนแล้วค่ะ ที่ช้าเพราะว่า ไปเที่ยวกรุงเทพฯ(นัดกับเพื่อนไว้นานแล้ว ) เพิ่งจะถึงเชียงใหม่ เมื่อคืน ค่ะ คนเชียงใหม่ไปเที่ยวกรุงเทพ ก็ไปล่องเรือที่แม่น้ำเจ้าพระยา ตอนกลางคืน ดูวิวก็สวยดีค่ะ ไม่มีคนไทยเลยมีแต่คนต่างชาติ

ฮักน้ำปิง สบายดีนะหายไปเลยนะเจ้า บนดอยเย็น แต้ๆ ก่อไฟทุกคืนเจ้า เสื้อไม่เคยเลยที่จะใส่ตัวเดียวต้อง3 ชั้นจ้ะ ถึงจะเอาอยู่ แต่ก็ โอเคนะ


โดย: p tim (บ้านผ่อดอยใน ) วันที่: 19 ธันวาคม 2553 เวลา:20:05:12 น.  

 
นั่นแน่ คุณติ๋มไปล่องเรือกรุงเทพฯ แล้วไม่ยอมบอกกันบ้าง
ไม่งั้นจะนัดทานอาหารกันบ้างนะ

เที่ยวสนุกไหมคะ กรุงเทพฯ ไม่เย็นเหมือนเชียงใหม่นะคะ

คิดถึงเสมอค่ะ



โดย: addsiripun วันที่: 20 ธันวาคม 2553 เวลา:14:38:47 น.  

 


ขอให้คุณลุงหมอ และคุณติ๋ม มีแต่ความสุข สมหวัง ตลอดปีนะคะ


โดย: addsiripun วันที่: 25 ธันวาคม 2553 เวลา:23:56:03 น.  

 
ขอให้คุณแอ๊ดและครอบครัว มีแต่ความสุข มีสุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัย ไข้เจ็บ ตลอดปีและตลอดไป



โดย: สม อิศรภักดี (บ้านผ่อดอยใน ) วันที่: 26 ธันวาคม 2553 เวลา:22:47:05 น.  

 
ขอกราบขอบพระคุณ และมารับพรจากคุณลุงหมอด้วยความดีใจเป็นล้นพ้นเลยค่ะ



โดย: addsiripun วันที่: 27 ธันวาคม 2553 เวลา:17:26:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บ้านผ่อดอยใน
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add บ้านผ่อดอยใน's blog to your web]