86 ปีแห่งความทรงจำของทันตแพทย์ สม อิศรภักดี เขียนที่....บ้านผ่อดอยใน....ตำบลโป่งแยง...อ.แม่ริม....จ.เชียงใหม่
<<
พฤศจิกายน 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
3 พฤศจิกายน 2552

อาหารการกินยุคก่อน - ทันตแพทย์สม อิศรภักดี









ผมพยายามจะเปรียบเทียบ อาหารทุกวันนี้กับยุคสมัยที่ผมเป็นเด็กแต่ผมไม่รู้จะเปรียบเทียบอย่างไร เพราะสมัยก่อนไม่มีร้านอาหารตามสั่งและ ร้านก๋วยเตี๋ยวเหมือนกับในสมัยนี้ ซึ่งมีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง จากบ้านผมตอนเด็ก ไกลออกไป 1 กิโลเมตร โดยรอบ นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่ามีร้านอาหารคนไทยสมัยนั้น

ถ้าไม่รับราชการก็ทำนา ดังนั้นจึงมีร้านขายอาหารอยู่ทางเยาวราชและมีร้านขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ที่เรียกว่า เหลา ซึ่งคนไทยนิยมไปกินเลี้ยงกันที่นั่น เวลามีงานแต่งงาน อาหารจึงมีแต่อาหารจีน ทางสีลม มีร้านที่เรียกว่า กุ๊กช้อป ขายอาหารฝรั่งและชา กาแฟ ส่วนร้านอาหารไทยผมยังนึกไม่ออกว่ามีขายที่ ไหนบ้าง

ในยุคนั้นการไปนั่งรับประทานอาหารนอกบ้านหรือซื้ออาหารมาจากนอกบ้านมีน้อยมาก เพราะแม่บ้านมักอยู่กับบ้านไม่ได้ไปทำงานที่ไหนจึงดูแลอาหารการกินให้กับครอบครัว การทำกับข้าวต้องใช้ของสด เพราะไม่มีตู้เย็น บางพื้นที่ไม่ต้องพูดถึงตู้เย็น เพราะไม่มีไฟฟ้าอยู่แล้ว ดังนั้นตลาดสดจึงมีความสำคัญยิ่งกว่าร้านอาหาร ตลาดสดมีอยู่ทั่วไปและ ไม่ไกลจากบ้านนัก

สมัยนั้นของกินส่วนใหญ่เป็นอาหารแบบจีน มีมาให้เรากินโดยวิธีหาบเร่ อาหารไทยมีอยู่บ้างและ นำมาขายถึงบ้านโดยวิธีหาบเร่เช่นเดียวกัน ยังไม่มีใครคิดถึงรถเข็นหรือจักรยานพ่วงข้างวิ่งไปขายไปเหมือนในสมัยนี้

ผมขอเล่าเป็นตัวอย่าง มีหาบก๋วยเตี๋ยว 1 หาบ บริเวณที่ผมอยู่ หาบก๋วยเตี๋ยวนั้นหนักมาก มีน้ำต้มสำหรับลวกก๋วยเตี๋ยวและ น้ำซุป พร้อมเตาอยู่อีกข้างหนึ่ง มีอาหารและถ้วย ชามและ มีม้านั่ง เตี้ยๆ อีกหลายตัว หาบจึงหนักมาก ก๋วยเตี๋ยวเจ้านี้จะไปวางที่ปากทางเข้าวัด บรมนิวาส เด็กๆ ชอบไปอุดหนุน ก๋วยเตี๋ยว ชามละ3 สตางค์ จนกระทั่งตอนสงคราม ย้ายไปที่ไหนไม่ทราบ

พวกเราเรียก ก๋วยเตี๋ยวเจ้านี้ว่า ก๋วยเตี๋ยวเจ๊กเอี่ยม ตอนกลางคืนจะมีหาบ ขายเกี๊ยวบะหมี่ เขาจะส่งสัญญาณ บอกล่วงหน้าโดย ใช้ไม้ไผ่ขนาดเหมาะมือ ตีกันเสียงดัง ต๊อกๆ พวกเราเรียกว่า เกี๊ยวต๊อกๆ เมื่อได้ยินและคิดจะซื้อก็มาคอยหน้าบ้านพร้อมถ้วย ชาม เกี๊ยวต๊อกๆ เจ้านี้จะผ่านหน้าบ้าน ประมาณ 3 ทุ่ม หาบหนักเช่นเดียวกับ หาบก๋วยเตี๋ยว นับว่าคนขายมีความเพียรมาก เพราะต้องหาบไป ขายไป

หลังจากที่เขาผ่านบ้านผมไปแล้ว เขาจะไปที่ไหนอีก ผมไม่ทราบ ตอนกลางคืนมี ข้าวต้มปลา ข้าวต้มเป็ด กระเพาะหมู ของทั้งสามอย่างนี้ต้มสุกแล้วและ อยู่ในหม้อ 3 หม้ออยู่ด้านหนึ่งของหาบและอีกด้านหนึ่งของหาบมีข้าวต้มกับน้ำซุปและ หาบผ่านบ้านผมเป็นครั้งคราว ลืมเล่าไปว่า พวกขายของกลางคืนจะใช้ไฟแก๊ส(ใช้แก๊ส ก้อนลักษณะเหมือนก้อนถ่าน เมื่อหยดน้ำลงไปก็จะเกิดแก๊สติดไฟได้ สมัยนี้เขาใช้บ่มผลไม้)

มีอาหารสำหรับกินเล่น คนขายเอาสินค้าใส่ถาดไม้คล้องคอ เดินขาย ที่สำคัญ เขาจะเป่าปี่ให้รู้ว่าเขามาแล้ว ในนั้นมีพวก สมอดอง บ๊วยหวาน บ๊วยเค็ม เกี๊ยบซินตี กับของกินเล่นอื่นๆ จากเมืองจีน เด็กๆ ชอบกิน ผมขอยกตัวอย่างอาหารจีนเพียงเท่านี้ ความจริงยังมีอีกมาก

อาหารที่มาจากอินเดีย คนขายเป็นชาวอินเดีย มีที่ใส่ของ ทำด้วยไม้ มีขาสำหรับตั้งได้ เวลาเดินเขาจะทูนไว้บนหัว ของที่เขาขายเป็นถั่ว ภาชนะใส่อาหารแบ่งเป็นช่องๆ ช่องหนึ่งใส่ถั่วเคลือบน้ำตาล อีกช่องหนึ่งเป็นถั่วทอด สมัยนั้นเรียกว่าถั่วผัดและ มีถั่วขนาดใหญ่กว่าเพื่อน เรียกว่าถั่วมัน คั่วเฉยๆ ไม่ใส่อะไรเลย

อาหารมุสลิมก็มีขาย เราเรียกว่าก๋วยเตี๋ยวแขก สลัดแขกหรือยำแขก ก๋วยเตี๋ยวแขกใช้ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กเป็นหลักและ น้ำซุปคล้ายกับน้ำจิ้มหมู สะเต๊ะ แต่ใสกว่าใส่เนื้อไก่โรยหน้า(เหมือนข้าวซอยเมืองเหนือ แต่เป็นเส้นเล็ก) ส่วนสลัดแขกประกอบด้วย แตงกวา ผักกาดหอม เป็นส่วนใหญ่ มีไข่ ต้มสุกหั่น บางๆ โรยหน้า ราดด้วยน้ำสัด ที่คล้ายๆ กับน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ ที่ผมชอบมากคือเนื้อสะเต๊ะ หน้าตาคล้ายหมูสะเต๊ะแต่เป็นเนื้อ

อาหารของคนไทยมี ขนม ปลากรีมไข่เต่า เป็นของหวาน ขายตอนกลางคืน เขาเรียกว่าขนมปลากรีมไข่เต่ามาแล้วจ้า ที่หาบขายตอนกลางวันมีเมี่ยงคำ และอีกอย่างหนึ่ง ส้มฝัก ส้มฝักทำด้วยปลาน้ำจืด โขลกให้ละเอียดผสมกับข้าวสุกและ กระเทียม (เหมือนการทำแหนม) ห่อด้วยใบตองหนาๆ แล้วใช้ของหนักทับ เวลากิน กินแบบเดียวกับแหนม มีถั่วลิสง ขิง พริกขี้หนู หอมแดง และผักกาดหอม ดังนั้นจะเห็นว่าคนไทยจะหาบอาหารที่ เบากว่าชาติอื่นๆ

อาหารต่างๆ ที่หาบเร่มาขาย ถ้าเทียบกับราคา อาหารในปัจุปันต้อง ถือว่า ถูกกว่ามาก เพราะหาบเร่ ไม่ต้องเสีย ค่าเช่าร้าน น้ำ ไฟ และ ลูกจ้าง ถ้าร้านใหญ่หน่อยจะต้องเสียภาษี มูลค่าเพิ่ม อีก 7 เปอร์เซ็นต์ ผมเองยังอยากได้ บรรยากาศเก่าๆ ที่กล่าวมาแล้ว

-------------------------------



Create Date : 03 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2552 19:40:26 น. 5 comments
Counter : 1925 Pageviews.  

 
Charlie เกิดไม่ทัน แต่อ่านดูแล้วชอบบรรยากาศที่
เจ้าของบล๊อกเล่าไว้ ถ้าบรรยากาศเก่าๆ แบบนี้ยังคงอยู่
ก็ดีนะคะ


โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 3 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:18:30 น.  

 
ยินดีที่รู้จักนะคะ :))

สุข สดชื่น สดใส สุขภาพแข็งแรงนะคะ


โดย: sierra whiskey charlie วันที่: 4 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:08:09 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณโดม ขอบคุณค่ะ ดอยวาวี ถ้าจะเย็นแล้วนะค่ะ เห็นแล้ว น่าไปเที่ยวจังเลยนะค่ะ ถ้ามีโอกาสต้องไปสักครั้งให้ได้



โดย: บ้านผ่อดอยใน วันที่: 4 พฤศจิกายน 2552 เวลา:21:08:17 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ขอลาชาวบล็อกไปเที่ยวหลวงพระบาง
ตั้งแต่วันที่ 6 -11 พย. นี้นะคะ
ฝากบ้านด้วยค่ะ
กลับมาแล้วจะรายงานการไปเที่ยวให้ทราบด้วยภาพค่ะ
อย่าลืมติดตามนะคะ



เชียงใหม่หนาวแล้วใช่ไหมคะ
ป้าแอ๊ดจะมาเที่ยวเชียงใหม่ 5-7 ธค. นี้ค่ะ
ยังไม่ทราบว่าจะพอมีเวลามาเยี่ยมคุณลุงกับพี่ติ๋มทันหรือเปล่านะคะ
แต่จะพยายามค่ะ


โดย: addsiripun วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:35:17 น.  

 
คุณแอ็ด เที่ยวให้สนุกนะค่ะ เคยไปเที่ยวหลวงพระบางเมื่อ3 ปีที่แล้ว แต่ไปเที่ยวนั้นยังเที่ยวไม่หน่ำใจเลยถ้ามีโอกาสคิดว่าจะไปอีกสักครั้ง
มาเชียงใหม่ถ้ามีเวลาก็ ยินดีต้อนรับค่ะ


โดย: p tim (บ้านผ่อดอยใน ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:57:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บ้านผ่อดอยใน
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




[Add บ้านผ่อดอยใน's blog to your web]