|
|
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | |
|
|
|
3 พฤศจิกายน 2552
|
|
|
|
อาหารการกินยุคก่อน - ทันตแพทย์สม อิศรภักดี
ผมพยายามจะเปรียบเทียบ อาหารทุกวันนี้กับยุคสมัยที่ผมเป็นเด็กแต่ผมไม่รู้จะเปรียบเทียบอย่างไร เพราะสมัยก่อนไม่มีร้านอาหารตามสั่งและ ร้านก๋วยเตี๋ยวเหมือนกับในสมัยนี้ ซึ่งมีอยู่ทั่วไปทุกหนทุกแห่ง จากบ้านผมตอนเด็ก ไกลออกไป 1 กิโลเมตร โดยรอบ นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกว่ามีร้านอาหารคนไทยสมัยนั้น
ถ้าไม่รับราชการก็ทำนา ดังนั้นจึงมีร้านขายอาหารอยู่ทางเยาวราชและมีร้านขนาดเล็กจนถึงขนาดใหญ่ที่เรียกว่า เหลา ซึ่งคนไทยนิยมไปกินเลี้ยงกันที่นั่น เวลามีงานแต่งงาน อาหารจึงมีแต่อาหารจีน ทางสีลม มีร้านที่เรียกว่า กุ๊กช้อป ขายอาหารฝรั่งและชา กาแฟ ส่วนร้านอาหารไทยผมยังนึกไม่ออกว่ามีขายที่ ไหนบ้าง
ในยุคนั้นการไปนั่งรับประทานอาหารนอกบ้านหรือซื้ออาหารมาจากนอกบ้านมีน้อยมาก เพราะแม่บ้านมักอยู่กับบ้านไม่ได้ไปทำงานที่ไหนจึงดูแลอาหารการกินให้กับครอบครัว การทำกับข้าวต้องใช้ของสด เพราะไม่มีตู้เย็น บางพื้นที่ไม่ต้องพูดถึงตู้เย็น เพราะไม่มีไฟฟ้าอยู่แล้ว ดังนั้นตลาดสดจึงมีความสำคัญยิ่งกว่าร้านอาหาร ตลาดสดมีอยู่ทั่วไปและ ไม่ไกลจากบ้านนัก
สมัยนั้นของกินส่วนใหญ่เป็นอาหารแบบจีน มีมาให้เรากินโดยวิธีหาบเร่ อาหารไทยมีอยู่บ้างและ นำมาขายถึงบ้านโดยวิธีหาบเร่เช่นเดียวกัน ยังไม่มีใครคิดถึงรถเข็นหรือจักรยานพ่วงข้างวิ่งไปขายไปเหมือนในสมัยนี้
ผมขอเล่าเป็นตัวอย่าง มีหาบก๋วยเตี๋ยว 1 หาบ บริเวณที่ผมอยู่ หาบก๋วยเตี๋ยวนั้นหนักมาก มีน้ำต้มสำหรับลวกก๋วยเตี๋ยวและ น้ำซุป พร้อมเตาอยู่อีกข้างหนึ่ง มีอาหารและถ้วย ชามและ มีม้านั่ง เตี้ยๆ อีกหลายตัว หาบจึงหนักมาก ก๋วยเตี๋ยวเจ้านี้จะไปวางที่ปากทางเข้าวัด บรมนิวาส เด็กๆ ชอบไปอุดหนุน ก๋วยเตี๋ยว ชามละ3 สตางค์ จนกระทั่งตอนสงคราม ย้ายไปที่ไหนไม่ทราบ พวกเราเรียก ก๋วยเตี๋ยวเจ้านี้ว่า ก๋วยเตี๋ยวเจ๊กเอี่ยม ตอนกลางคืนจะมีหาบ ขายเกี๊ยวบะหมี่ เขาจะส่งสัญญาณ บอกล่วงหน้าโดย ใช้ไม้ไผ่ขนาดเหมาะมือ ตีกันเสียงดัง ต๊อกๆ พวกเราเรียกว่า เกี๊ยวต๊อกๆ เมื่อได้ยินและคิดจะซื้อก็มาคอยหน้าบ้านพร้อมถ้วย ชาม เกี๊ยวต๊อกๆ เจ้านี้จะผ่านหน้าบ้าน ประมาณ 3 ทุ่ม หาบหนักเช่นเดียวกับ หาบก๋วยเตี๋ยว นับว่าคนขายมีความเพียรมาก เพราะต้องหาบไป ขายไป
หลังจากที่เขาผ่านบ้านผมไปแล้ว เขาจะไปที่ไหนอีก ผมไม่ทราบ ตอนกลางคืนมี ข้าวต้มปลา ข้าวต้มเป็ด กระเพาะหมู ของทั้งสามอย่างนี้ต้มสุกแล้วและ อยู่ในหม้อ 3 หม้ออยู่ด้านหนึ่งของหาบและอีกด้านหนึ่งของหาบมีข้าวต้มกับน้ำซุปและ หาบผ่านบ้านผมเป็นครั้งคราว ลืมเล่าไปว่า พวกขายของกลางคืนจะใช้ไฟแก๊ส(ใช้แก๊ส ก้อนลักษณะเหมือนก้อนถ่าน เมื่อหยดน้ำลงไปก็จะเกิดแก๊สติดไฟได้ สมัยนี้เขาใช้บ่มผลไม้)
มีอาหารสำหรับกินเล่น คนขายเอาสินค้าใส่ถาดไม้คล้องคอ เดินขาย ที่สำคัญ เขาจะเป่าปี่ให้รู้ว่าเขามาแล้ว ในนั้นมีพวก สมอดอง บ๊วยหวาน บ๊วยเค็ม เกี๊ยบซินตี กับของกินเล่นอื่นๆ จากเมืองจีน เด็กๆ ชอบกิน ผมขอยกตัวอย่างอาหารจีนเพียงเท่านี้ ความจริงยังมีอีกมาก
อาหารที่มาจากอินเดีย คนขายเป็นชาวอินเดีย มีที่ใส่ของ ทำด้วยไม้ มีขาสำหรับตั้งได้ เวลาเดินเขาจะทูนไว้บนหัว ของที่เขาขายเป็นถั่ว ภาชนะใส่อาหารแบ่งเป็นช่องๆ ช่องหนึ่งใส่ถั่วเคลือบน้ำตาล อีกช่องหนึ่งเป็นถั่วทอด สมัยนั้นเรียกว่าถั่วผัดและ มีถั่วขนาดใหญ่กว่าเพื่อน เรียกว่าถั่วมัน คั่วเฉยๆ ไม่ใส่อะไรเลย
อาหารมุสลิมก็มีขาย เราเรียกว่าก๋วยเตี๋ยวแขก สลัดแขกหรือยำแขก ก๋วยเตี๋ยวแขกใช้ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กเป็นหลักและ น้ำซุปคล้ายกับน้ำจิ้มหมู สะเต๊ะ แต่ใสกว่าใส่เนื้อไก่โรยหน้า(เหมือนข้าวซอยเมืองเหนือ แต่เป็นเส้นเล็ก) ส่วนสลัดแขกประกอบด้วย แตงกวา ผักกาดหอม เป็นส่วนใหญ่ มีไข่ ต้มสุกหั่น บางๆ โรยหน้า ราดด้วยน้ำสัด ที่คล้ายๆ กับน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ ที่ผมชอบมากคือเนื้อสะเต๊ะ หน้าตาคล้ายหมูสะเต๊ะแต่เป็นเนื้อ
อาหารของคนไทยมี ขนม ปลากรีมไข่เต่า เป็นของหวาน ขายตอนกลางคืน เขาเรียกว่าขนมปลากรีมไข่เต่ามาแล้วจ้า ที่หาบขายตอนกลางวันมีเมี่ยงคำ และอีกอย่างหนึ่ง ส้มฝัก ส้มฝักทำด้วยปลาน้ำจืด โขลกให้ละเอียดผสมกับข้าวสุกและ กระเทียม (เหมือนการทำแหนม) ห่อด้วยใบตองหนาๆ แล้วใช้ของหนักทับ เวลากิน กินแบบเดียวกับแหนม มีถั่วลิสง ขิง พริกขี้หนู หอมแดง และผักกาดหอม ดังนั้นจะเห็นว่าคนไทยจะหาบอาหารที่ เบากว่าชาติอื่นๆ
อาหารต่างๆ ที่หาบเร่มาขาย ถ้าเทียบกับราคา อาหารในปัจุปันต้อง ถือว่า ถูกกว่ามาก เพราะหาบเร่ ไม่ต้องเสีย ค่าเช่าร้าน น้ำ ไฟ และ ลูกจ้าง ถ้าร้านใหญ่หน่อยจะต้องเสียภาษี มูลค่าเพิ่ม อีก 7 เปอร์เซ็นต์ ผมเองยังอยากได้ บรรยากาศเก่าๆ ที่กล่าวมาแล้ว
-------------------------------
Create Date : 03 พฤศจิกายน 2552 |
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2552 19:40:26 น. |
|
5 comments
|
Counter : 1925 Pageviews. |
|
|
|
|
โดย: addsiripun วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:35:17 น. |
|
|
|
โดย: p tim (บ้านผ่อดอยใน ) วันที่: 6 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:57:58 น. |
|
|
|
| |
|
|
บ้านผ่อดอยใน |
|
|
|
|
เจ้าของบล๊อกเล่าไว้ ถ้าบรรยากาศเก่าๆ แบบนี้ยังคงอยู่
ก็ดีนะคะ