เดี๋ยวนี้บ้านส่วนใหญ่ก็มี home theatre กันทั้งนั้น เป็นความสุขเล็กๆ ที่สมาชิกในครอบครัวได้แบ่งปันกันในเวลาว่างที่บ้านตอนคืนวันเสาร์ หรือบ่ายๆ วันอาทิตย์  (มีข้อแม้ว่า คุณลูกๆ ไม่ติดเรียนพิเศษ )เรื่อง Home theatre ก็เลยเป็นเรื่องหนึ่งที่ AKANEK สนใจมานาน แต่ก็ยังหาคนที่จะมาให้ความกระจ่างไม่ได้เสียที จังหวะพอดีได้คุยกับคุณธนา แก้วฟ้านภาดล เจ้าของ Digiliving ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านการติดตั้งระบบ Home automation  และเครื่องเสียงที่ใช้ในบ้าน มีเดียรูม หรือโฮมเธียร์เตอร์แบบ custom installation หรือที่คนไทยมักจะเรียกกันว่า แบบบิวท์อิน   วันนี้ก็เลยถือโอกาสพาไปทำความรู้จักกับเจ้าเครื่องเสียงแบบ custom installation กัน

เครื่องเสียงแบบ Custom Installation คืออะไร 

ถ้าพูดถึงเครื่องเสียง หลายคนมักจะนึกถึงการไปเดินซื้อเครื่องเสียงแพงๆ เครื่องเล่นดีๆ ทีวีจอใหญ่ๆ ลำโพงสวยๆ มาตั้งไว้ในห้อง ซับวูฟเฟอร์หุ่นอวบอ้วน เครื่องเล่นบลู-เรย์วางบนชั้นวางทีวีบ้าง มีจอทีวีใหญ่ๆ ติดอยู่บนผนัง สารพัดอุปกรณ์ก็ตั้งโชว์ให้เราเห็นกันจะๆ ในห้องนั่งเล่น  หรือถ้าใครชอบดูหนังเป็นพิเศษแล้วก็มีงบประมาณถึง ก็ต้องทำห้องโฮมเธียร์เตอร์ที่เหมือนโรงหนังขึ้นมาเป็นพิเศษเอาไว้สำหรับดูหนังโดยเฉพาะ

คุณธนาอธิบายให้ฟังว่า ระบบมัลติมีเดียหรือเครื่องเสียงที่เราเห็นๆ กันอยู่ทั่วไปตามบ้านก็จะเป็นอย่างที่บอกไว้ข้างต้น ปัญหาหลักที่จะเจอคือเกะกะ นอกจากจะมีอุปกรณ์วางเต็มไปหมด ยังมีสายไฟที่จะต้องซ่อนอีก  บางบ้านก็จะทำตู้เก็บมันขึ้นมา ซึ่งก็ต้องคำนึงถึงความร้อนของตัวเครื่องอุปกรณ์ ทำให้ต้องเผื่อตู้ใหญ่ขึ้น จะเดินไปเดินมาก็ต้องคอยระวังไม่ให้มือไม้ไปเกี่ยวไปปัดโดนตู้ลำโพง ถ้ามีเด็กเล็กก็ต้องคอยระวังไม่ให้ไปคว้าตู้ลำโพงล้มต่อๆ กันเป็นโดมิโน

ที่สำคัญคือกินเนื้อที่ห้อง (ตอนซื้อมาแรกก็โล่ง สวยดีอยู่หรอก พอซื้อเครื่องเสียง ซื้อทีวี ซื้อนู่น นี่นั้นเข้ามาปุ๊ป กินพื้นห้องไปบางส่วนทันตาเห็น)ทำให้สงสัยว่า ห้องนั่งเล่นสวยๆ ที่เราเห็นในแมกกาซีน ที่มักจะเรียบๆ มีของน้อยชิ้น   เขาไม่ดูหนังฟังเพลงกันบ้านหรือไร 

การติดตั้งเครื่องเสียงและอุปกรณ์มัลติมีเดียแบบ  Custom Installation  จะซ่อนอุปกรณ์ทุกอย่างตั้งแต่ ลำโพง ตัวซัฟวูฟเฟอร์ แอมป์ เครื่องเสียง เครื่องเล่นต่างๆ ไว้ในผนังบ้าง บนฝ้าบ้าง ทำกับข้าวอยู่ในครัวก็ยังมีเสียงเพลงคลอ ดังมาจากลำโพงที่ฝังอยู่บนฝ้าเพดานก็ได้  แล้วยังสามารถเพิ่มฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวก ด้วยระบบ automation เชื่อมต่อกับ Wi-fi ภายในบ้านได้ด้วย นั่งอยู่ที่โซฟาก็แค่หยิบมือถือออกมากดๆ  ไม่ต้องมีรีโมทคอนโทรลนับสิบตัวให้สับสนการใช้งาน

Custom Installation ต่างจากการติดตั้งเครื่องเสียงทั่วไปอย่างไร

     • งานติดตั้ง รวมทั้งอุปกรณ์ทั้งหมดจะถูกซ่อนในผนัง หรือฝ้าเพดาน ไม่มีสายไฟ สายดาต้า สายอะไรต่อมิอะไรออกมากวนตากวนใจ

     • Custom made  เป็นงานสั่งผลิตทั้งหมด ลำโพงก็สั่งผลิตได้ว่าต้องการเล็กใหญ่แค่ไหนที่จะฝังในผนังได้ ซับวูฟเฟอร์เล็กพอที่จะซ่อนไว้ในตู้บิวท์อินไม่ดูเทอะทะ ช่วยประหยัดพื้นที่ห้องไปในตัว

     • ให้คำปรึกษา คำแนะนำในการออกแบบติดตั้งจากผู้เชี่ยวชาญ ให้กับเจ้าของบ้าน อินทีเรียร์ ผู้รับเหมา ตั้งแต่การเลือกวัสดุกันเสียง ผนังด้านไหนควรใช้วัสดุกันเสียงมากน้อยแค่ไหน  วัสดุที่ทำฝ้า ผนังควรกรุด้วยวัสดุประเภทไหนที่เหมาะกับการรองรับพลังเสียงที่ออกมาจากลำโพงที่ฝังอยู่ในผนังหรือฝ้า จอทีวีขนาดเท่าไหร่ ติดสูง ติดต่ำแค่ไหนถึงจะดูสบายตา

จะทำ home theatre  ต้องเตรียมงบเท่าไหร่

ถ้าแยกค่าใช้จ่ายกันจริงๆ แล้ว การทำ media room, home theatre หรือติดตั้งเครื่องเสียง และ entertainment system ต่างๆ ในบ้าน ค่าจะใช้จ่ายจะแบ่งเป็นสามส่วนใหญ่ๆ คือ

1. ตัวอุปกรณ์ทั้งหมด

อุปกรณ์ที่ว่าก็มีตั้งแต่ จอทีวี โปรเจคเตอร์ ลำโพง sub-woofer, แอมป์ ฯลฯ งบประมาณส่วนนี้จะเกี่ยวข้องกับคุณภาพเสียง ภาพ หน้าตาความสวยงามของอุปกรณ์เป็นหลัก มีหลายระดับราคาให้เลือก ทั้งแบบทั่วไปจนถึงระดับพรีเมียม
ถ้าจะพูดถึงงบรวมๆ เป็นตัวเลขกลมที่เป็นแบบแมนนวลที่ในบ้านเรานิยมกันมาก ทาง Digiliving บอกว่า ค่าอุปกรณ์ทั้งหมดในข้อ 1 ของระบบ custom installationจะอยู่ที่ 250,000บาทขึ้นไป  มีเครื่องเสียง ลำโพง แอมป์ เครื่องเล่น และคำปรึกษาให้กับทั้งทางเจ้าของบ้าน อินทีเรียร์และผู้รับเหมา

ข้อแตกต่าง หลักๆ ในเรื่องของราคาระหว่าง custom installation และ free standing คือ

      - ราคาของอุปกรณ์เครื่องเสียง จะมาลงที่ตัวอุปกรณ์ทั้งหมดเพื่อให้ได้เสียงที่ดีขึ้น  ในขณะที่ในเครื่องเสียงระดับเดียวกันของ freestanding ราคาที่เพิ่มขึ้นมา บางส่วน (ขึ้นอยู่กับว่ายี่ห้ออะไรและรุ่นไหน) จะไปอยู่ที่วัสดุและหน้าตาของตัวอุปกรณ์เองเพราะเนื่องจากเป็นลำโพงลอยตัว ความสวยงามของตัวลำโพงจะบ่งบอกถึงรสนิยมของผู้ซื้อส่วนหนึ่งด้วย

      - ในคุณภาพเดียวกัน อาจจะดูเหมือนว่า custom installation มีราคาสูงกว่า แบบ free stand นั่นเป็นเพราะราคารวมค่าติดตั้งแบบบิวท์อินและค่าที่ปรึกษาให้แล้ว 

2. ค่าอินทีเรียร์

ค่าตกแต่งห้องและเฟอร์นิเจอร์ที่จะเข้าไปอยู่ในห้อง  งบประมาณของตัวนี้จะสูงต่ำ วูบวาบขึ้นลงตาม ความพอใจ ความต้องการของเจ้าของบ้าน จะเป็นห้องเรียบๆ ธรรมดา หรือหรูเลิศ อลังการแค่ไหน theme อะไร ก็แล้วแต่งบประมาณและจินตนาการเจ้าของบ้านเลย

3. ระบบ automation

ตัวควบคุมระบบการทำงานของอุปกรณ์ทั้งหมด หรือที่เรียกว่าระบบ automation ระบบการทำงานอัจฉริยะ มีซอฟแวร์ควบคุมการทำงาน สั่งงานผ่านมือถือ ใช้ง่าย สะดวกสบาย

กดปุ่มเดียว ผ้าม่านเลื่อนปิด จอโปรเจคเตอร์เลื่อนลง ไฟดีมลง เสียงมา ภาพมา  หรือกลัวว่าจะลืมว่าเคย set ไฟให้หรี่ลงแค่ไหน ความดังของเสียงแค่ไหน สามารถอัพเกรดให้เป็นรุ่นควบคุมการทำงานผ่าน  smart phone อย่างไอโฟน หรือ tablet อย่างไอแพด ที่เชื่อมต่อสัญญาณเข้ากับ Wi-Fi  ภายในบ้าน ตัวระบบ automation ลักษณะนี้ เริ่มต้นที่ 200,000 บาทต่อห้อง

คุณภาพเสียง จะดีเหมือนกับเครื่องเสียงแบบ free standing มั๊ย

อันนี้พูดยาก ถ้าพูดแบบกลางๆ ก็ต้องบอกว่า ถ้าจะเน้นการฟังเพลงแบบ audiophile ระดับเทพ ไฮเอนด์สุดๆ กันแล้ว การติดตั้งแบบ freestanding  อาจจะทำได้ดีกว่าแบบ custom installation ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับการกำหนดตำแหน่งวาง การออกแบบห้องโดยรวมทั้งหมดด้วย

เหตผล?  ก็เพราะว่า โฮมเธียเตอร์แบบซ่อนเครื่องเสียงจะมีข้อจำกัดบางอย่าง แต่อย่าเพิ่งฟันธงกันไปว่า เลือกชุดโฮมเธียเตอร์แบบ freestanding  ดีกว่า เพราะถ้าเทียบกับเครื่องเสียงสำหรับมาตรฐานการฟังทั่วๆ ไปแล้ว จนถึงระดับดีมาก  ถ้าออกแบบตำแหน่งดีๆ คำนวนแม่นๆ  จะวางเฟอร์นิเจอร์ยังไงหรือเลือกขนาดลำโพงให้พอดีกับห้อง  โฮมเธียเตอร์แบบ custom installation อาจจะให้คุณภาพเสียงได้น่าประทับใจมากกว่าแบบ freestanding เสียด้วยซ้ำไป

เมื่อไหร่ล่ะ ควรจะใช้แบบ custom installation

ทุกอย่างมีข้อดี แล้วก็ข้อจำกัด  เรามาดูกันว่าข้อดีและข้อจำกัดของการติดตั้งเครื่องเสียงแบบ custom installation

ข้อดี

     • จะได้ห้องที่สวย เนี๊ยบ 

     • ไม่เปลืองเนื้อที่ ไม่เกะกะ

     • Custom made ทุกอย่าง เพื่อให้เสียงเหมาะสมกับขนาดของห้องได้

     • เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ต้องห่วงว่าจะเดินไปชนกับตู้ลำโพงที่วางเรียงรายอยู่กับพื้น

     • เหมาะกับเจ้าของบ้านที่ชอบแนว minimalism

ข้อจำกัด

     • ต้องวางแผนล่วงหน้าตั้งแต่ตอนสร้างบ้าน คือต้องคุยกับสถาปนิก อินทีเรียร์ตั้งแต่เริ่มสร้างบ้าน

     • เจ้าของบ้านไม่สามารถติดตั้งเองได้ เหมือนการติดตั้งแบบ freestand

     • งานออกแบบ-ติดตั้ง ต้องใช้ผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ถึงจะได้คุณภาพเต็มที่กับการลงทุน

     • ไม่ได้อวดลำโพงสวยๆ (แต่ยังอวดเสียงได้)

วันนี้ได้ความรู้เรื่องใหม่ๆ กันอีกแล้ว  ใครที่กำลังสร้างบ้าน หรือทำโฮมเธียร์เตอร์ หรือกำลังคิดๆ อยากทำระบบเสียงในบ้านใหม่  อาจจะลองพิจารณา custom installation เป็นทางเลือกอีกทางหนึ่งในการสร้างความบันเทิงในบ้าน ในครอบครัวกันนะคะ

ขอบคุณคุณธนาจาก digiliving.

ขอบคุณบทความจาก //community.akanek.com/th/node/3493