Italy สักครั้งในชีวิตที่น่าไปเยือน
เมื่อซัก 2 ปีที่แล้ว ผมและเพื่อนรวม 6 คน ได้ไปเที่ยว Italy มาครับ ไปกันแบบ backpack แต่เตรียมตัวกันไปดีหน่อย จองที่พักเรียบร้อย ไม่ถึงกับไปตายเอาดาบหน้าเราเดินทางด้วยสายการบิน qatar air ไป transit ที่ Doha แล้วต่อไปยังสนามบินนานาชาติกรุงโรม(ค่าตั๋วตอนนั้นอยู่ที่ 30,500 ฮับ) ถือว่าคุณภาาพดีเมื่อเทียบกับราคาครับ เบ็ดเสร็จใช้เวลาประมาณ 16 ชั่วโมง แล้วจึงต่อรถไฟราคา 9.5 ยูโร มายัง สถานีรถไฟ Roma termini ครับ ประสบการณ์แรกในการคุยกับคนอิตาลี คือ ผมเจอคนเมาหาเรื่องโดนฟาดหน้าไปที ไม่รู้ทำไงไม่อยากมีเรื่องแต่เริ่มทริปจึง เดินหนีออกมาเราเดินเท้าต่ออีกประมาณ 20 นาที ต่างคนต่างแบกกระเป๋าพะรุงพะรัง หมดแรง และชักเริ่มกลัวๆเพราะเพิ่งเจอหาเรื่องมาสดๆร้อนๆ แถมตอนนั้นก็ดึกแล้วเกือบ 3 ทุ่มได้ เราไปพักที่ Hostel เป็นห้องรวม 10 คน เรานอนรวมกับสาวๆจากต่างแดนอีก 4 คนแรกๆก็ตื่นเต้น แต่ด้วยความง่วงทุกคนจึงไม่คิดจะสนใจเรื่องอื่น แยกย้ายกันเก็บของ อาบน้ำ แล้วมาประชุมกันถึง เช้าวันพรุ่งนี้ แต่คุยได้ไม่นาน ก็ต้องจากลากันไปเพราะผลอยหลับกันไปทีละคนสองคน จึงเป็นการปิดประชุมไปโดยปริยายเช้าวันรุ่งขึ้นเราตื่นมาพร้อมหน้ากันประมาณ 8 โมง อาหารมื้อแรกของผมคือ มาม่าคัพ คิดว่าประหยัดแต่สุดท้ายต้องเสียค่าน้ำร้อนไป 0.8 ยูโร ทำให้จำไว้ว่าไปเมืองนอกคราวหน้าจะพกขดลวดต้มน้ำร้อนไปด้วย จะไม่เสียค่าน้ำร้อนอีกแล้วเช้าวันแรกเราจึงเดินไปยัง roma termini ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเดินทางของเราในช่วง 2-3 วันแรกนี้ ระหว่างทางก็สังเกตุว่า ถนนหนทางในอิตาลีนั้นแคบมากครับ แคบพอๆกับซอยใหญ่ ในบ้านเรา ดังนั้นรถของเขากว่า 90% จึงเป็นแบบนั้ครับในโรมจะมีรถไฟ 2 สายครับ สายสีแดงและสีน้ำเงิน ราคาถ้าเหมาวันจะอยู่ที่ 4 ยูโร และถ้าภายใน 1 ชั่วโมงจะคิด 1 ยูโร ครับ เราใช้รถไฟทั้งวันจึงเลือกแบบเหมาวัน(แต่สุดท้ายก็พลาดครับเพราะไม่รู้เวลาปิดว่าเค้าปิดกันตอน 3 ทุ่ม สุดท้ายก็ต้องนั่รถเมล์อีกต่างหาก) สถานีแรกที่เราลงคือ Colloseum ครับ ไปชมความมหัศจรรย์ของชาวโรมันโบราณ ซึ่งตอนนี้ก็ทรุดโทรมไปมากแล้วครับ เค้าต้องซ่อมแซมกันเยอะแยะ แต่เราก็เข้าไปเพื่อชื่นชมบรรยากาศและความยิ่งใหญ่ที่คนในอดีตสร้างสนามที่จุคนได้ถึง 50,000 คน โดยเสียเงินไป 11 ยูโร เพื่อแลกกับการชื่นชมครั้งนี้ครับเราใช้เวลาครึ่งวันเช้าอยู่ใน colloseum และบริเวณรอบๆ แล้วจึงเดินต่อไปยัง victoria emmanuelle ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานที่ระลึกถึงชัยชนะเมื่ออิตาลีสามารถรวมประเทศได้สำเร็จ ภายนอกใหญ่โตและสวยงามมากครับ ส่วนภายในก็เป็นพิพิธภัณฑ์เราชีพจรลงเท้ากันไปต่อที่ pantheon และแวะตั้งวงอาหารกันที่นี่ครับ กินอยู่แบบไทยจริงๆแม้จะเป็นอาหารอิตาเลียนก็ตามแล้วไปต่อกันที่ น้ำพุเทรวี่ พอไปถึงไม่เหมือนอยู่อิตาลี เลยครับ เพราะ อาแปะ อากง อาม้า มาเต็มไปหมด หายคิดถึงเมืองไทยไปโขเลยในกรุงโรมยังมีน้ำพุสวยงามอีกมากมายเลยครับ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมา เพื่อความคุ้มเราจึงตระเวรดูสถานที่ๆไปมาช่วงเช้าในบรรยากาศกลางคืนอีกครั้งครับ เพื่อความคุ้มค่า แต่ดันมีฝนตกลงมาให้พวกเราหมดแรงไปกันใหญ่ เหล่าเพื่อนผู้หญิงต่างก็บ่นไม่ไหวแล้น จึงต้องกลับที่พักแต่โดยดี
กรา ป๋ม เอม ก้าบบบบบบบบบบบ
มา ปา ติ บัด
พา ระ กิด ก้าบบบบบบบบบ