บ้านที่มีความรักและความอบอุ่นคือจินตนาการของคนไทยยามนี้ !
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
26 ธันวาคม 2549
 
All Blogs
 
@@ปรัชญาชีวิตที่เก็บตกได้ระหว่างทาง@@






ความงดงาม


สีสันของดอกไม้
เป็นความงามตามธรรมชาติที่ไม่ได้ปรุงแต่ง
เป็นความงามที่เห็นได้จากภายนอก
และธรรมชาติได้สร้างสรรค์
ให้เกิดขึ้นตามธรรมชาติ

คนเรามีความงดงามอยู่ในตัวอยู่ทุกคน
แต่ส่วนใหญ่กลับมองไม่เห็นมัน
โดยเฉพาะเมื่อมองกลับมาที่ตัวเอง
ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
เคยถามตัวเองบ้างไหม?




คลื่นลมแห่งอุปสรรค


เสียงคลื่นลมทะเลพัดกระทบชายฝั่ง
บางครั้งเสียงดังหนักหน่วง
ตามความแรงของลมที่พัดเข้ามา

ชีวิตคนเราหากเปรียบกับคลื่นลมของทะเล
ที่พัดโหมกระหน่ำสู่ตัวเราเป็นระยะ
หากใจเราไม่นิ่งพอ
การตอบสนองต่อปัญหาต่าง ๆ ก็จะผิดพลาด

เดินไปตามวิถีทาง
ยอมรับความจริง
และกล้าที่จะก้าวไปข้างหน้า



ความสงบแห่งใจ

เคยฟังเสียงของใจตัวเองบ้างไหม
หากเราไม่เข้าข้างตัวเองเกินไป
มีสมดุลในชีวิต
จิตใจสงบนิ่ง
การตัดสินใจของเรา
ในปัญหาสำคัญ ๆ ในชีวิต
ก็จะเดินไปตามวิถีทางของมัน















Create Date : 26 ธันวาคม 2549
Last Update : 31 สิงหาคม 2552 23:07:45 น. 31 comments
Counter : 699 Pageviews.

 
นานมากนะค่ะที่ไม่ได้แวะหา

เนื้อหาดีค่ะ...อ่านแล้วเข้าใจนะ

จะทำได้ไหม..ต้องอยู่ที่ตัวเราค่ะ

ขอให้มีความสุขในวันที่จะสิ้นสุดปี 2549 ค่ะ



โดย: catt.&.cattleya.. IP: 58.9.69.194 วันที่: 26 ธันวาคม 2549 เวลา:14:47:37 น.  

 



ไม่ได้แวะมาเยี่ยมเสียนานเชียวค่ะ คุณคนเดินดินสบายดีมั๊ยคะ

ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: Black Tulip วันที่: 26 ธันวาคม 2549 เวลา:16:51:47 น.  

 



แวะมาเยี่ยมค่ะ มีความสุขมาก ๆ น่ะค่ะ




โดย: icebridy วันที่: 26 ธันวาคม 2549 เวลา:22:21:30 น.  

 




สวัสดีตอนเย็นของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


คำทักทาย ส่งตามblog ว่า คิดถึง
ความคำนึง ซ่อนมาตาม ตัวอักษร
คำคำหนึ่ง ที่เขียนซึ้ง เป็นบทกลอน
คำคำนี้ มีไว้ให้ มอบแด่เธอ


** มีความสุขมากๆๆกับคนที่คุณรักนะจ้า **



โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 27 ธันวาคม 2549 เวลา:0:41:59 น.  

 
จุไม่เคยฟังเสียงหัวใจของตัวเองมานานแล้ว ไม่เคยฟังมันเลย อาจเพราะ ฟังไปก็เท่านั้น เพราะบางสิ่งที่รู้อยู่ คือ ความเป้นไปไม่ได้ค่ะ

ไม่ไดแวะมานาน สบายดีนะคะ


โดย: ju IP: 125.24.155.100 วันที่: 27 ธันวาคม 2549 เวลา:9:40:42 น.  

 



แวะมาส่งการ์ดค่ะ
เจ้าของบล็อคสบายดีนะคะ^^...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 27 ธันวาคม 2549 เวลา:13:03:32 น.  

 
นานแล้วไม่ได้เข้ามาเยี่ยมเยือนค่ะ แต่ยังนึกถึงบทความดีๆที่นี่เสมอ
วันนี้บล็อกสวยมากค่ะ ดอกไม้สวยมากเข้ากับบทความดีๆเช่นเดิม

วันนี้มาส่งความสุขล่วงหน้าค่ะ ^^" สวัสดีปีใหม่นะคะ ขอให้คุณคนเดินดินฯ มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรง การงานก้าวหน้ามั่นคงค่ะ และพบเจอแต่สิ่งดีๆในปีต่อไปและ ปีต่อๆไป




โดย: ตะกร้าหวายสีขาว วันที่: 28 ธันวาคม 2549 เวลา:11:24:00 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
สดชื่น สมหวังตลอดปี และตลอดไปนะจ๊ะ



โดย: immuno วันที่: 28 ธันวาคม 2549 เวลา:17:34:09 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ 2550







โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 30 ธันวาคม 2549 เวลา:5:27:39 น.  

 







สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้คุณจขบและครอบครัวมีแต่ความสุข
โรคภัยไม่มี
มีโชคมีลาภมีเงินมีทอง
รวยๆ เฮงๆ ตลอดปีและก้อตลอดไปค่ะ





โดย: icebridy วันที่: 31 ธันวาคม 2549 เวลา:2:03:51 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ขอให้มีความสุข สมปรารถนาในทุกๆสิ่งนะคะ



โดย: หญ้าหนวดแมว วันที่: 1 มกราคม 2550 เวลา:8:08:48 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะ



โดย: รักดี วันที่: 1 มกราคม 2550 เวลา:9:29:34 น.  

 


สวัสดีปีใหม่ค่ะ ขอให้คุณจขบและครอบครัวมีความสุขมากๆน่ะค่ะ
คิดอะไรขอให้สมปราถนาค่ะ



โดย: icebridy วันที่: 1 มกราคม 2550 เวลา:15:59:04 น.  

 

ขอให้คุณคนฯมีความสุข ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ นะคะ

สวัสดีปีใหม่ 2550 ค่ะ





โดย: ป้ามด วันที่: 1 มกราคม 2550 เวลา:16:23:32 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณคนเดินดินฯ
....


ปีใหม่นี้ขอให้มีความสุขมาก ๆ สุขภาพแข็งแรง


คิดหวังสิ่งใดขอให้สมปรารถนาทุกประการนะคะ


Wishing you a season, filled with beauty

& Joy a New Year bright with happiness

& prosperity.





โดย: Petit Patty วันที่: 1 มกราคม 2550 เวลา:17:06:58 น.  

 



พรใดแสนประเสริฐและสุดเลิศในปีใหม่
ขอสดใสและบรรเจิดเกิดพลัง
เป็นเส้นทางสู่ความฝันดังใจหวัง...
เพิ่มพลังให้มีสุขตลอดปี 2550..
และปีต่อๆๆไปทุกปีนะค่ะ.



โดย: catt.&.cattleya.. (catt.&.cattleya.. ) วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:8:02:16 น.  

 


มีความสุขมาก ๆ นะคะ


โดย: Xenosaga วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:15:11:11 น.  

 



สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ขอให้มีความสุขมากๆ สุขภาพแข็งแรงนะคะ


โดย: Black Tulip วันที่: 2 มกราคม 2550 เวลา:18:32:16 น.  

 

สวัสดีตอนค่ำๆของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า




** มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงเสมอนะจ้า **


โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 3 มกราคม 2550 เวลา:3:59:14 น.  

 

สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระพรปีใหม่ 2550 ความว่า “เจริญพร ท่านสาธุชนทั้งหลาย ปีใหม่พุทธศักราช 2550 ได้เวียนมาถึง เป็นโอกาสที่ท่านทั้งหลายควรได้คิดคำนึงถึงกาลที่ผ่านไปว่า ความดีอะไรที่ได้ทำแล้ว ความดีอะไรที่ยังไม่ได้ทำ ส่วนที่ได้ทำแล้วก็ควรปีติอิ่มใจ ส่วนที่ยังไม่ได้ทำก็ควรรีบเร่งทำให้ครบถ้วนสมบูรณ์ เพื่อความสุขสมบูรณ์ของชีวิต และชาติบ้านเมืองสืบไป เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ ขออำนวยพรให้ท่านทั้งหลาย ปราศจากทุกข์ ภัยโรค และเจริญ อายุ วรรณ สุข พล ทั่วกัน ขออำนวยพร”..

สวัสดีปีใหม่ค่ะ..


โดย: ป่ามืด วันที่: 4 มกราคม 2550 เวลา:1:37:19 น.  

 
รายงานพิเศษ / อิสรีอิน : เรื่อง / //www.octoberzone.com : ภาพ
เบชั่นสุดสัปดาห์ วันศุกร์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2549

เติมเต็มหัวใจให้ดีงามกับ October Zone

ในที่สุด 'October Zone พลังฝันคนรุ่นใหม่' คอนเสิร์ตในรูปแบบ (เพื่อชีวิต) ป๊อป ออร์เคสตรา ที่หลายคนรอคอย ก็ได้ฤกษ์แสดงจริงๆ กันเสียที ในค่ำที่ 13 มกราคม 2550 ที่หอประชุมใหญ่ ม.ธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์) พร้อมด้วยนักดนตรีวัยสดใส บทเพลงที่เรียบเรียงใหม่ และการแสดงละคร อย่างครบครัน

นอกจากบทเพลงที่คัดสรรตั้งแต่ปี พ.ศ.2500 และนำมาเรียบเรียงใหม่ทั้งหมด 25 เพลงแล้ว ระหว่างการแสดงดนตรีทั้ง 5 ช่วงนั้น ยังมีละครสั้น จินตลีลาประกอบเพลงอีกด้วย ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของ อาจารย์วิศิษฎ์ จิตรังสรรค์ และ อาจารย์นพีสี เรเยส

เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีศิลปิน และกวี รับเชิญมาร่วมรายการบนเวทีอีกหลายท่าน

อย่าง ดุษฎี พนมยงค์ จะมาขับร้องบทเพลง 'แสงดาวแห่งศรัทธา' ส่วน จิระนันท์ พิตรปรีชา จะขับขานบทกวี 'ดอกไม้' ส่วน อี๊ด ฟุตบาธ และ โฮปแฟมิลี่ พร้อมใจแสดงฝีมือกันทั้งครอบครัว

ถือเป็นการพบปะกันระหว่างคนสองรุ่น โดยแท้ ทั้ง 'สร้างสรรค์' และ 'สืบสาน'

คอนเสิร์ตนี้มี มูลนิธิสายธารประชาธิปไตย เป็นต้นคิด ด้วยเล็งเห็นความสำคัญบทเพลงเพื่อชีวิต ยุคตั้งแต่ จิตร ภูมิศักดิ์ มาจนกระทั่งยุค 14 ตุลาคม 2516 และ 6 ตุลาคม 2519 ที่มีผลต่อจิตใจทำความดีเพื่อสังคมของคนหนุ่มสาวอย่างต่อเนื่อง

วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล จึงเป็นพลังสำคัญต่อการก่อเกิดคอนเสิร์ตครั้งนี้ อย่างมาก เพราะการแสดงอันแสนมีชีวิตชีวาที่จะเกิดขึ้น มาจากฝีมือของน้องๆ จากสถาบันแห่งนี้ ร่วม 90 ชีวิตเลยทีเดียว

อันที่จริงแล้วไม่ใช่ครั้งแรกที่นักดนตรีวัยสดใส ลูกศิษย์ลูกหาของ ดร.สุกรี เจริญสุข ได้มาข้องเกี่ยวกับบทเพลงแนวนี้ จากคอนเสิร์ตเพลงปฏิวัติทั้งสองครั้ง

แต่สำหรับออคโทเบอร์โซน คราวนี้ พิเศษ และแตกต่างกว่า!! เน้น 'พลังของคนรุ่นใหม่' เป็นสำคัญ

โดยเฉพาะด้านดนตรี จะมีน้องๆ นักดนตรีรุ่นใหม่ มาร่วมบรรเลงครั้งใหญ่ ทั้งประเภทเครื่องสาย เครื่องเป่า เครื่องดนตรีไฟฟ้า รวมกว่า 50 ชีวิต ร่วมด้วยคณะนักร้องประสานเสียง และนักร้องเดี่ยว จากคณะดุริยางคศิลป์สากล และคีตศิลป์สากล

ทั้งนี้ เพื่อให้แนวการแสดงแบบวงดนตรีขนาดใหญ่ในรูปแบบผสมที่เรียกว่า Pop Orchestra ครั้งนี้ ออกมาอย่างเต็มรูปแบบที่สุดนั่นเอง

สำหรับการแสดงครั้งนี้ แบ่ง 5 ช่วง อุ่นเครื่องด้วยผลงานจากพลังฝันของคนหนุ่มสาวที่สมควรเป็นแบบอย่างแก่คนรุ่นใหม่ในวันนี้ ผ่านบทเพลง 'พลังใจ' และ 'แด่หนุ่มสาว'

จากนั้นเป็น 'ความจริงอันขื่นขม' สะท้อนความจริงของสังคม ด้วยบทเพลง ข้าวคอยฝน, คนกับควาย, เปิบข้าว, ฉันคือประชาชน, กระต่ายกับเต่า และแสงดาวแห่งศรัทธา

ช่วงที่ 3 เป็น 'ความระทมที่ยังคง' สะท้อนแนวคิดที่ว่า แม้เวลาจะผ่านไปหลายสิบปีแล้ว แต่ความทุกข์ระทมของประชาชนยังคงอยู่ ด้วย สู่เส้นชัย, ที่นี่ไม่มีครู, เสียงเพรียกจากมาตุภูมิ, รัตติกาล, คนสร้างบ้าน, ความหวัง และคุรุธรรม

ช่วงที่ 4 'พลังฝันอันยืนยง' มี เยาวชนเพื่อชาติ, ทานตะวัน, ดอกไม้, เรียน, เป้าหมายการศึกษา, มหาวิทยาลัย, สดุดีวีรชน และเพื่อใคร สะท้อนจุดมุ่งหมายในชีวิตของเยาวชนคนหนุ่มสาวในวันนี้

และช่วงสุดท้ายสำคัญนัก เพราะนอกจากจะมี 'พลังเพลง' และ 'อยากให้ความรักแก่คนทั้งโลก' ยืนยัน 'ศรัทธาคงมั่นคงนิรันดร์' แล้ว ผู้ชมทั้งหลายจะได้สนุกสนานส่งท้ายก่อนกลับบ้านด้วย จะเป็นอะไรนั้น-ต้องไปติดตามกันเอง

บอกได้อย่างเดียวว่า-ลุงๆ ป้าๆ เตรียมกำลังแข้งขาให้ดีก็แล้ว งานนี้รุ่นสืบสานขอท้า!!

เพราะจากที่ให้ชมและชิมในงานเสวนา 'พลังเพลงเพื่อชีวิต-จิตอาสา' นั้น พบว่า การเรียบเรียงใหม่ครั้งนี้ ใส่ริธึ่มจากอุปกรณ์ดนตรีไฟฟ้า ทำให้หลายเพลงจากอะคูสติกธรรมดา กลายเป็นจังหวะสนุกคึกคักยิ่งนัก ชนิดที่คนฟังแทบนั่งไม่ติดเลยทีเดียว อย่างน้อยสุด ก็มี 'ฮิพฮอพเพื่อชีวิต' ได้บังเกิดขึ้นหนึ่งเพลงแล้ว

ด้านละครสั้นคั่นคอนเสิร์ตก็สำคัญ และเป็นไฮไลต์ครั้งนี้ด้วย มาจากฝีมือของน้องๆ คณะนาฏศิลป์สากล

"เพลงในคอนเสิร์ตนี้ มีเนื้อหาที่น่าสนใจ ที่คนหนุ่มสาวยุคนั้นไม่ได้คำนึงถึงตนเองแต่เพียงอย่างเดียว แต่คิดถึงการทำ 'เพื่อสังคม' ด้วย ซึ่งตอนนี้เป็นสิ่งที่ 'ขาดหาย' ไปในปัจจุบัน ยิ่งเด็กรุ่นหลังพยายามนำเนื้อหาต่างๆ มาใส่ในการแสดง มาเน้นเรื่องละคร หรือผูกเรื่องให้เห็นถึง 'ความไม่เข้าใจกัน' ระหว่างคนสองเจนเนอเรชั่น ในที่สุดก็จบลงด้วยความคิดที่จะสืบสานให้กับสังคมต่อไป"

อาจารย์นพีสี ในฐานะผู้ควบคุมการแสดงละครและกำกับเวที กล่าวถึงเหตุที่จำต้องมีการเติมเต็มละครเข้ามา ซึ่งเขียนบทและแสดงโดยคนรุ่นใหม่ทั้งสิ้น

อย่าง ปั๊ม-เศรษฐสิริ นิรันดร พิธีกรวัยรุ่นที่อาสามาเป็นอีกหนึ่งพลังในการเขียนบทและกำกับละครครั้งนี้ ก็ยอมรับว่า ละครคั่นคอนเสิร์ตดังกล่าวจะส่งผลดีแน่นอน

"ครั้งแรกที่ได้รับโจทย์นี้มา ผมนึกไปถึง กลุ่มวัยรุ่นในสมัย 6 ตุลา ที่มีพลัง มีความฝัน ที่จะทำในสิ่งที่พวกเขาเชื่อมั่น และศรัทธาในอุดมการณ์ ซึ่งแตกต่างจากวัยรุ่นสมัยนี้ที่เติบโตมาท่ามกลางความเจริญของวัตถุ ทำให้ค่อนข้างที่จะติดสบายๆ ชิลๆ ซึ่งตัวผมเองก็ออกจะเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน (หัวเราะ) ผมเลยคิดที่อยากจะทำละครตลกๆ สักเรื่อง ให้คนดูได้ฮาได้หัวเราะ แต่แฝงไปด้วยแง่คิด ที่เป็นการเปรียบเทียบคนสองรุ่น ระหว่างรุ่นอา และหลาน แม้จะอยู่ในยุคสมัยที่ต่าง แต่สิ่งหนึ่งที่ควรมีเหมือนกันก็คือ 'อุดมการณ์' และ 'ความฝัน' ซึ่งผมคิดว่าสองสิ่งนี้ มันทำให้ชีวิตเรามีคุณค่า"

รวมถึง คีตะญา สุตะระ นักศึกษาชั้นปีที่ 3 ที่จะถ่ายทอดบทเพลง 'ดอกไม้' ก็บอกความในใจผ่าน //www.octoberzone.com ว่า บทเพลงในยุคก่อนมีคุณค่ามากเหลือเกิน

"ส่วนตัวแล้วรู้สึกชอบบทเพลงเหล่านี้ เพราะมีความไพเราะในท่วงทำนอง ความหมายที่ลึกซึ้งกินใจ และสะท้อนให้เห็นถึงภาพในอดีต ซึ่งเต็มไปด้วยความฝัน ความหวัง กำลังใจ และอุดมการณ์ ได้เป็นอย่างดี"

ขณะที่ บ่วย-เยาวลักษณ์ เมฆกุลวิโรจน์ สาวสวยเบื้องหลังรายการโทรทัศน์ หนึ่งพลังอาสา ก็พยายามเต็มที่ในการสรรหาเทคนิคใหม่ๆ ทันสมัยมาดึงใจวัยรุ่นแบบสนุกๆ ในรูปแบบ Clip VDO ด้วย

กว่า 'october Zone พลังฝันคนรุ่นใหม่' จะมาถึงว่ายากแล้ว บรรยากาศการพบปะของคนสองรุ่นนั้น ดูจะเกิดขึ้นยากกว่าเสียอีก เพราะคอนเสิร์ตนี้จัดขึ้นเพียงรอบเดียวเท่านั้นเอง

หากเสียดายย้อนหลัง คงทำได้เพียง 'เพลง' จาก 'ซีดี' อย่างเดียว ผู้สนใจติดต่อได้ที่หมายเลข 0-2621-8298-9 บัตร 200 และ 1,000 บาท ส่วนนักศึกษาแค่ 50 บาท (ทุกที่นั่ง-มีซีดีและสูจิบัตรออคโทเบอร์โซน เป็นที่ระลึกอีกต่างหาก)

รับวันเด็กปีนี้ อย่าลืมจูงลูกหลานไปกันแต่เนิ่นๆ เพราะหน้างาน นอกจากมีกิจกรรมดีๆ ที่ส่งเสริมให้เด็กๆ เห็นถึงความดีงามของสังคมแล้ว ยังมีคอนเสิร์ตของวง 'เรียนรู้กู้บ้านเกิด' และ วง 'ดาหลา' จากภาคใต้ ให้ชมฟรีๆ อีกด้วย

แล้ว 'วันเด็กแห่งชาติ' ที่น่าประทับใจ จะเป็นที่อื่นได้อย่างไรกัน!!


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 4 มกราคม 2550 เวลา:12:04:17 น.  

 
ขอบคุณคุณคนฯ เพื่อนเก่า ที่ส่งกำลังให้ค่ะ


โดย: ป้ามด วันที่: 6 มกราคม 2550 เวลา:17:24:43 น.  

 




สวัสดีตอนเช้าของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


แทนคำพูดที่....ซึ้งซึ้ง
แทนความคิดถึง...สั้นสั้น
แทนความห่วงใย.....ห่างห่าง
แทนความรู้สึกที่มาก ...เกินบรรยาย


** มีความสุขมากๆๆกับคนที่คุณรักนะจ้า **



โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 7 มกราคม 2550 เวลา:17:34:53 น.  

 
พี่ชายที่รัก

สวนกันไปสวนกันมา

คิดถึงค่ะ สุขกายดี คงมั่นทั้งกายทั้งใจหรือเปล่า คะ
หนู เดินสายทำบุญ จั้งใจว่า จะใช้ชีวิตในปีนี้อย่างมีสติค่ะ พี่
เพลงนี้ ในบล๊อกพี่น่ารัก และ มีความหมายที่ทำให้ หัวใจฮึกเหิม
ดีจริงๆ ....

บ้านเมืองน่าเป็นห่วง ผู้คนในบ้านเมืองยิ่งต้องมีสตินะคะ พี่
คิดถึง พี่มากๆ ค่ะ



โดย: ประกายดาว วันที่: 7 มกราคม 2550 เวลา:17:45:52 น.  

 
คัดจากประชาชาติธุรกิจ

ปรับฐานคิดสังคมไทย "โพสต์สุรยุทธ์"...คิดให้ลึก คิดให้ไกล

ในการประชุมประจำปีของเครือข่ายธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อมเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2549 ที่ผ่านมา ท่ามกลางนักธุรกิจจิตอาสาเพื่อสังคมอย่าง นายปรีดา เตียสุวรรณ นายสุทธิชัย เอี่ยมเจริญยิ่ง นายประสาร มฤคพิทักษ์ และ นักธุรกิจเพื่อสังคมรวมกว่า 30 คน นายชัยวัฒน์ ถิรพันธุ์ ได้ไปร่วมสนทนาพิเศษ หัวข้อ "โพสต์ทักษิณ ปรับฐานคิดสังคมไทย" การบรรยายได้มองข้ามชอต "โพสต์ทักษิณ" ไปถึง "โพสต์สุรยุทธ์" เป็นการปลุกกระตุ้นให้เราต้องคิดหนักว่าท่ามกลางความปั่นป่วน และการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทยและสังคมโลก หากคนไทยเราไม่เปลี่ยนวิธีคิด ไม่มีความเป็นผู้นำ

เราจะปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในโลกได้อย่างไร และถ้าเราจะคิดปรับเราจะทำอะไรกันได้บ้าง "ประชาชาติธุรกิจ" มองว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจจึงนำมาสรุปดังนี้

ปรับฐานคิด...คิดให้ไกลให้ยาว

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า ฐานคิดสังคมไทยจากนี้ต้องคิดไปให้ไกลกว่าแค่หลัง "รัฐบาลทักษิณ" ถ้าเราคิดให้ไกล คิดกันใหญ่ และคิดกันให้ลึก สิ่งที่ควรคิดต่อไปคือ "โพสต์สุรยุทธ์ จุลานนท์" "โพสต์ คมช." เราไม่ควรจะมองโลกแบบหลับตา ต้องมองเห็นอย่างที่มันเป็น แล้วถ้าเรามองแบบนี้เราก็ควรมองไปที่โพสต์บุช โพสต์ แบลร์ ด้วย เพราะอีก 2 ปีมาแน่ๆ ถ้ามองอย่างนี้แล้ว ก็จะต้องมองเห็นโลกทั้งโลก

ซึ่งเหตุการณ์เมื่อ 19 ธันวาคม 2549 ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยตัดสินใจทำอะไรไปโดยไม่เห็นความซับซ้อนของเรื่องราวต่างๆ แล้วผลลัพธ์มันก็ออกมาอย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นถ้าเราจะคิดถึงเรื่องโพสต์ทักษิณ ผมคิดว่าต้องมองให้ไกลถึง 10 ปีเลย ก็คงจะต้องเตรียมตัวเตรียมใจเตรียมความคิดของฐานที่จะปรับมันถึงจะได้ประโยชน์และคุ้มค่า

ท่ามกลางสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งในโลกตะวันตก ตะวันออก ในเอเชีย ที่เกิดขึ้น และกำลังจะเกิดขึ้น มีแต่แนวโน้มที่จะก่อให้เกิดความวุ่นวาย และผันผวน จึงเป็นเรื่องที่ท้าทายที่ต้องคิดให้ไกลว่าประเทศไทยจะต้องทำอย่างไรกันบ้าง ซึ่งสิ่งที่ต้องมุ่งเน้นและทบทวนก็คือ เรื่องของความเป็นผู้นำ (leadership) ว่า ในสังคมไทยเรามีผู้ที่มีความเป็นผู้นำอยู่มากน้อยเพียงใด

"ท้ายสุดการเปลี่ยนแปลงมันขึ้นอยู่กับ ผู้นำแต่ไม่ได้หมายความว่าผู้ที่มีอำนาจใหญ่โต เป็นนายกรัฐมนตรีหรือปลัดทั้งหลาย ผมยึดตามกลุ่มที่ทำเรื่อง learning organization เขาจะนิยาม ผู้นำเป็นเรื่องของกลุ่มบุคคลใดก็ตามเขาก็สามารถเป็น ผู้นำได้ถ้าเขาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีที่เกิดขึ้นในสังคมที่ทำให้คนส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์ เราถือว่าคนนี้เป็นผู้นำแล้ว"

"leadership" ในสังคมไทยยังเป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงและท้าทาย อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ทางการเมือง เนื่องจากยังคงมีการจับขั้วการเมืองของกลุ่มคนที่อยู่ในแวดวงการเมืองมาหลายสิบปี สิ่งที่เราดูได้เลยก็คือจะมีแนวโน้มของสัมภเวสีทั้งหลายจะมารวมตัวกันอีกครั้ง ซึ่งเป็นคนที่อยู่ในแวดวงการเมืองมา 30 ปี 20 ปี แต่ก็ไม่เคยมีความคิดที่ใหม่ๆ ขึ้นมาเลย นอกจากการผลัดกันผสมพันธุ์ จนลูกออกมาจำหน้าตากันไม่ได้แล้วว่ามันคืออะไร แล้วก็ยังผสมพันธุ์กันไปเรื่อยๆ ยังผลิตมนุษย์ประหลาดๆ ออกมา เข้ามาเป็นผู้นำทางการเมือง มานำในระดับชาติ ทางมหาวิทยาลัยก็มี ทางเทศบาลก็มี ก็มีสายพันธุ์ชั่วๆ แบบนี้กระจายอยู่ทั่วไปหมด นี้คือความจริงของสังคมไทยในปัจจุบัน"

ความสามารถในการปรับตัว

มูลเหตุแห่งความล่มสลาย

นายชัยวัฒน์ได้กล่าวถึงสาเหตุของการล่มสลายที่ได้มีการพูดถึงในหนังสือ Collapse ของแกเร็จ ไดร์มอน ว่า ความล่มสลาย มีสาเหตุมาจากหลายๆ อย่าง สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ความสามารถในการปรับตัวการตอบสนองต่อสิ่งที่เกิดขึ้นรอบด้าน ถ้าสังคมใดก็ตามขาดตรงนี้ ก็อยู่ยาก ซึ่งทำให้ต้องกลับไปคิดทบทวนว่าสังคมไทยวันนี้มีความสามารถในการตอบสนองจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้มากน้อยแค่ไหน

"ผมอยากบอกว่า ก็มีอยู่ในระดับหนึ่งบางส่วน ในระดับตำบล ในระดับหมู่บ้านมีอยู่ ตรงโน้นบ้างตรงนี้บ้างมีอยู่ แต่กระจัดกระจาย แต่ในระดับชาติ ระดับบนนี้ ผมแทบจะไม่เห็น เพราะฉะนั้นการสร้าง collective intelligent ปัญญาร่วมของสังคม เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้เราสามารถตอบสนองและริเริ่มในสิ่งใหม่ๆ ด้วย"

นายชัยวัฒน์กล่าวว่า การกระตุ้นให้ภาคการเมืองเกิดการเรียนรู้ สิ่งสำคัญลำดับแรกก็คือ ต้องทำให้เกิดกระบวนการ transformational change หรือ systematic change ซึ่งจะเป็นการทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแล้วให้ไปกระทบต่อเขา ส่วนจะกระทบในลักษณะไหน ก็ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เคยเกิดมา เช่น การเดินประท้วง การวิพากษ์วิจารณ์ หรือสร้างเวทีพูดคุย มีความสัมพันธ์ด้านบวก ก็ต้องทำทุกทางเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ให้ได้ อย่างไรก็ตามจากนี้วิธีการเดิมๆ อาจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง โดยผู้ที่อยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลงก็ต้องเปลี่ยนแปลงวิธีคิด วิธีการด้วยrethink-reframe-redefine สู่การเป็นประชาธิปไตยทุกวัน

สำหรับขั้นตอนในการปรับความคิดสู่อนาคต ภายในช่วง 1-2 ปีนี้ สิ่งที่ควรจะต้องทำให้ได้ ก็คือ rethink reframe redefine เรื่องของการเป็นประชาธิปไตย

"ประชาธิปไตยเนี่ยคือไม่ใช่แค่การเลือกตั้ง ไม่ใช่แค่เรื่องของนักการเมือง แต่เขาก็ไม่รู้ว่าคำว่าประชาธิปไตยนั้นจริงๆ มันกินความแค่ไหน ถ้าเราให้การเมืองเป็นเรื่องของการเลือกตั้งของรัฐสภา หรือรัฐธรรมนูญ เรื่องของรัฐบาลกลาง ประชา ธิปไตยก็แคบนิดเดียว แค่เข้าไปกาบัตรก็เสร็จกัน แล้วเราก็คอยตรวจสอบกัน คอยวิพากษ์วิจารณ์กันว่ามันเป็นอย่างนั้นเป็นอย่างนี้ แต่ประชาธิปไตยที่แท้มันต้องเป็น everyday life เป็นประชาธิปไตยที่ทุกคนมีความสุข ทุกคนมีส่วนร่วม"

นอกจากนี้เราควรจะต้องหาทาง redesign กระบวนการเพื่อสร้างให้เกิดความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ให้มาสนทนาการแลกเปลี่ยนกันอย่างมีเหตุมีผล มีปัญญา เพราะปัญหาของประเทศต้องการสมองที่ใหญ่มาแก้ ซึ่งก็ต้องเกิดจากการร่วมคิด ร่วมทำ

"อยากเห็นประชาธิปไตยเกิดขึ้นทุกวันในลักษณะ democracy is everyday life ซึ่งประเทศไทยควรที่จะมี public space เพื่อให้เกิด human interaction เปิดโอกาสให้สาธารณชนมาใช้ชีวิตร่วมกัน มาเจอกัน มาพบปะพูดคุยกัน ก็จะทำให้คุณภาพชีวิตดี ซึ่งสิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญ"


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:12:57:28 น.  

 
สวัสดีปีใหม่ค่ะ (มาช้าไปนิดค่ะ)


โดย: rebel วันที่: 10 มกราคม 2550 เวลา:20:02:19 น.  

 




สวัสดีตอนเที่ยงคืนของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


ไม่ว่าจะอยู่....ที่ไหน
เธอก็อยู่ใกล้....ใกล้ ฉัน
อยู่ในความคิดถึง....ทุกวัน
ไม่ว่าเวลาใหนก็ .....คิดถึงเธอ



** มีความสุขมากๆๆกับคนที่คุณรักนะจ้า **



โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 17 มกราคม 2550 เวลา:6:44:04 น.  

 




สวัสดีตอนค่ำของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


ขอแค่คิดถึง เพียงเสี้ยวหนึ่งของหัวใจ
ขอแค่ความห่วงใย ขยามที่เราต้องห่างไกลกัน
ขอแค่ความห่วงหา ตลอดเวลาอย่าได้แปรผัน
ขอแค่ความผูกพัน มีให้แก่กันเท่านั้นพอ


** มีความสุขและสุขภาพแข็งแรงนะจ้า **



โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:2:36:56 น.  

 

สวัสดีค่ะ...

ชอบทะเลหรือค่ะ...

เสน่ห์ของเขาอยู่ที่ไหนค่ะ...

ประทับใจอะไรกับทะเลบ้างค่ะ...

ไม่ชอบทะเลหมอกบ้างหรือค่ะ?

อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะ


โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:9:59:14 น.  

 
ชีวิตคืออะไร นักปรัชญาตอบข้าที


โดย: คนธรรมดา IP: 58.137.30.254 วันที่: 19 มกราคม 2550 เวลา:22:21:00 น.  

 




สวัสดีตอนค่ำของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


เก็บความห่วงใย....มาฝาก
เก็บมาจากโค้ง.....แห่งฝัน
เก็บมาฝากทุก.....คืนวัน
เพื่อนยืนยันฉัน.....คิดถึงเธอ


** มีความสุขมากๆๆกับคนที่คุณรักนะจ้า **



โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 21 มกราคม 2550 เวลา:2:07:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนเดินดินฯ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ปณิธาน

การเดินทางของชีวิตของทุกผู้คน
ทุกคนต่างต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่จะมีสักกี่คนที่จะก้าวไปถึง
เมื่อเราก้าวถึงจุดนั้น
ขออย่าลืมการแบ่งปันและเจือจาน
แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม

เราจะเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน
เพื่อสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่ดีงาม

เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลัง
ได้ใช้ชีวิตของเขา
ตามศักยภาพและความตั้งใจของเขา
ตราบเท่าที่เขาต้องการ







เดินไปสู่ความใฝ่ฝัน


ชีวิตหนึ่งร่วงหล่นไปตามกาลเวลา
คลื่นลูกใหม่ไล่หลังคลื่นลูกเก่า
นั่นคือวัฏจักรของชีวิตที่ดำเนินไป

เยาว์เธอรู้บ้างไหม
ว่าประชาราษฎรนั้นทุกข์ยากเพียงใด
เสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เหลืออยู่
เธอเคยมีความใฝ่ฝันที่แสนงามบ้างไหม

สักวันฉันหวังว่าเธอจะเดินไปตามทางสายนี้
ที่อาจดูเงียบเหงาและโดดเดี่ยว
แต่ภายใต้ฟ้าเดียวกัน
ฉันก็ยังมีความหวัง
ว่าผู้คนในประเทศนี้
จะตื่นขึ้นมา
เพื่อทวงสิทธิ์ของพวกเขา
ที่ถูกย่ำยีมาช้านาน
และฉันหวังว่าเธอจะเดินเคียงคู่ไปกับพวกเขา

เพื่อสานความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นความจริง
สัญญาได้ไหม
สัญญาได้ไหม
เยาว์ที่รักของฉัน


***********



ขอมีเพียงเธอเป็นกำลังใจ




ทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ข้างหน้า
แลเห็นต้นหญ้าโบกไสว
เห็นดอกซากุระบานอยู่เต็มดอย
ความงามที่อยู่ข้างหน้า
เป็นสิ่งที่ฉันจะเก็บมันไว้
ยามที่จิตใจอ่อนล้า...

ชีวิตยามนี้แม้ผ่านมาหลายโมงยาม
แต่จิตใจข้างในยังคงดูหงอยเหงา
หลายครั้งอยากมีเพื่อนคุย
หลายครั้งอยากมีคนปรับทุกข์
และหลายครั้งต้องนั่งร้องไห้คนเดียว

รางวัลสำหรับชีวิตที่ผ่านมา
มันคืออะไรเคยถามตัวเองบ่อย ๆ
ความสำเร็จ...เงินตรา...เกียรติยศชื่อเสียง
มันใช่สิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า
ถึงจุดหนึ่งชีวิตต้องการอะไรอีกมากไปกว่านี้

หลายชีวิตยังคงดิ้นรนต่อสู้
เพื่อปากท้องและครอบครัว
มันเป็นความจริงของชีวิตมนุษย์
ที่ต้องดำรงชีพเพื่อความอยู่รอด
มีทั้งพ่ายแพ้ มีทั้งชนะ
แต่ชีวิตต่างต้องดำเนินไป
ตามวิถีทางของแต่ละคน

ลืมความทุกข์ ลืมความหลังที่เจ็บปวด
มองออกไปข้างหน้า
ค้นให้พบตัวตนของตนเองอีกครั้ง
แล้วกลับไปสู้ใหม่
การเริ่มต้นของชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป
จะต้องดำเนินต่อไป

ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต....




@@@@@@@@@@@




การเดินทางของความรัก

...ฉันเดินไปด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า
สมองได้คิดใคร่ครวญ
ความรักในหลายครั้งที่ผ่านมา
ทำไมจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

ฉันเดินไปด้วยสมองอันปลอดโปร่ง
ความรักทำให้ฉันเข้าใจโลก
และมนุษย์มากขึ้น
และรู้ว่าความแตกต่าง
ระหว่างความรักกับความหลงเป็นอย่างไร?

ฉันเดินไปด้วยดวงตาที่มุ่งมั่น
บทเรียนของรักในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
มันย้ำเตือนอยู่เสมอว่า
อย่ารีบร้อนที่จะรัก
แต่จงปล่อยให้ความสัมพันธ์
ค่อย ๆ พัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เรียนรู้และทำเข้าใจกันให้มากที่สุด

ก่อนที่จะเริ่มบทต่อไปของความรัก...




*******************



จุดไฟแห่งศรัทธาและความมุ่งมั่น

เข้มแข็งกับอ่อนแอ
สับสนหรือมุ่งมั่น
จะยอมแพ้หรือลุกขึ้นท้าทาย
กับชีวตที่เหลืออยู่
ทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ใจเราจะกำหนด

ไม่ใช่เพราะอิสระเสรี
ที่เราต้องการหรอกหรือ?
ที่มันจะนำทางชีวิต
ในห้วงเวลาต่อไป
ให้เราก้าวทะยานไป
สู่วันพรุ่งที่สดใส

มีแต่เพียงคนที่รู้จักตนเองอย่างดีพอเท่านั้น
จะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
เมื่อผ่านการสรุปบทเรียน
จากปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบ
เราก็จะมีความจัดเจนกับชีวิตมากขึ้น
และการเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ
ในอนาคตก็จะเป็นเพียงปัญหาที่เล็กน้อยสำหรับเรา
ในการที่จะก้าวผ่านไป



ด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่นที่มีอยู่ในใจ
ที่จะต้องย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ
หนทางในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
ย่อมอยู่ไม่ไกลห่างอย่างแน่นอน

*********************



ก้าวย่างที่มั่นคง

บนทางเดินแคบ ๆ ที่เหลืออยู่
หากขาดความมั่นใจที่จะก้าวเดินต่อไป
ชีวิตก็คงหยุดนิ่งและรอวันตาย
แม้ทางข้างหน้าจะดูพร่ามัว
และไม่รู้ซึ่งอนาคต
แต่สิ่งที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
คือก้าวย่างไปอย่างมั่นคง
และมองไปข้างหน้าอย่าเหลียวหลัง
เก็บรับบทเรียนในอดีต
เพื่อจะได้ระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาดอีกในอนาคต

"""""""""""""""""""""""""""""""""



ใช้สามัญสำนึกทำงาน

ไม่มีแผนงานที่สวยหรู
ไม่มีปฏิบัติการใดที่สมบูรณ์แบบ
ในยามนี้มีเพียงการทำงานด้วยการทุ่มเท
ลงลึกในรายละเอียดเท่านั้น
จึงจะสามารถคลี่คลายปัญหาของงานลงได้
บางครั้งโจทย์ที่เจออาจยากและซับซ้อน
แต่เมื่อลงไปคลุกคลีอย่างแท้จริง
โจทย์เหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

""""""""""""""""""""""""""""""""



เรียบ ๆ ง่าย ๆ


อย่ามองสิ่งต่าง ๆ ด้วยแว่นสีที่ซับซ้อน
เพราะในโลกนี้มีเพียงสิ่งสามัญที่เรียบง่าย
สำหรับคนที่สงบนิ่งเพียงพอเท่านั้น
จึงจะแก้โจทย์และปัญหาต่าง ๆ
ด้วยกลวิธีที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ
ไม่ซับซ้อนและตรงจุดได้อย่างเพียงพอ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ใจถึงใจ

บนหนทางไปสู่ความสำเร็จ
บนหนทางของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
มีเพียงคนที่เข้าใจในสภาพจิตใจของคนทำงานเท่านั้น
จึงจะสามารถนำทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน








Friends' blogs
[Add คนเดินดินฯ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.