บ้านที่มีความรักและความอบอุ่นคือจินตนาการของคนไทยยามนี้ !
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
31 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่ดีขึ้น(4)






เคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาที่ยั่งยืน
ที่เขียนโดย "พระธรรมปิฎก" บ้างไหม?
เป็นหนังสือที่จะพูดถึงการพัฒนาของประเทศมหาอำนาจ
ที่ใช้การพัฒนาที่ไปทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เป็นการพัฒนาที่ระยะยาวก็อาจนำไปสู่การสิ้นชาติและทำลายตัวเอง ปัจจุบันปัญหาภาวะโลกร้อนคือตัวชี้วัดอันหนึ่ง

กลับมาถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่ดีขึ้นของคนเรา
ที่มองว่าควรเริ่มต้นจากการรู้จักตนเองและเข้าใจตนเองอย่างดีพอ

ก่อนที่จะก้าวไปสู่การสร้างตัวที่ประสบความสำเร็จ
และมีความสุขในชีวิตอย่างยั่งยืน


ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องยากที่สุดเรื่องหนึ่งของคนเรา

เราเกิดในสังคมไทยที่เป็นสังคมชาวพุทธ
และมีองค์ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาทางด้านจิตใจ
และจิตวิญญาณอยู่มากมาย
แต่เราก็ยังไม่ได้เอาจุดแข็งเหล่านี้มาใช้อย่างจริงจัง

เคยได้ยินมาว่าเจ้าของธุรกิจบางแห่งสนับสนุนให้พนักงาน
เข้าวัดเมื่อปฏิบัติธรรมและทำสมาธิแบบวิปัสสนากรรมฐาน
และก็ทำให้องค์กรนั้นประสบความสำเร็จมากขึ้น

ในโลกความเป็นจริงสังคมไทยอยู่ในภาวะที่ทำสิ่งเหล่านี้ได้มากน้อยเพียงใด?
เพราะปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามารุมเร้าจะยิ่งทำให้ชีวิตดูหนักมากขึ้น และดูเหมือนปัญหาต่าง ๆ ยังวนเวียนอยู่ในจุดเดิม ๆ

เหมือนชีวิตของคนเราถ้าเรายังไม่หาจุดเปลี่ยนให้กับตัวเองอย่างจริงจัง
ชีวิตของเราก็จะวนเวียนอยู่ในจุดเดิม ๆอยู่นั้นเอง
แล้วก็โดนเข้ากับตัวเองเข้าจนได้

ถามตัวเองอย่างจริงจังสักครั้งเถิดว่า

เรากล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองหรือไม่?
เรายังมีความกลัวอะไรหลงเหลืออยู่อีก?













บล็อก " มหันตภัยโลกร้อน ในอุ้งมือ "มนุษย์" (1) " คลิกที่นี่





Create Date : 31 มีนาคม 2550
Last Update : 30 สิงหาคม 2552 6:42:19 น. 8 comments
Counter : 1045 Pageviews.

 
เศรษฐกิจพอเพียง อีกมุมมอง

โดย วรนุช แสงนิ่มนวล




เศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาทางเศรษฐกิจที่เน้นความพอดี บางคนเรียกว่าปรัชญาเศรษฐกิจแบบมัชฌิมา คือ ยึดทางสายกลาง

การดำรงชีวิตโดยใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงกำกับให้จำอย่างง่ายๆ 3 ประการ คือ

ทุนชีวิต

ยั้งคิด

สมดุล


ทุนชีวิต

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงใช้คำภาษาอังกฤษสำหรับหลักเศรษฐกิจพอเพียงของพระองค์ว่า Sufficiency Economy ซึ่งคำว่า Sufficiency แปลว่า "พอ, พอเพียง"

ดังนั้น การดำเนินการตามหลักทฤษฎีเบื้องต้น คือ ต้องทำให้การดำรงชีวิตมีความพอเพียงเสียก่อน หรือมีทุนชีวิตที่มั่นคงนั่นเอง การมีทุนชีวิตที่พอเพียงสามารถมองได้เป็น 2 แง่ คือ แง่ส่วนตัว และแง่ส่วนรัฐ

การสร้างทุนชีวิตให้พอเพียงในแง่ส่วนตัว คือ การรู้จักขวนขวาย ขยัน ประหยัด จนสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามสภาพ อาชีพของตน

ในกรณีของชาวไร่ชาวนา หรือที่เรียกกันว่ารากแก้วรากหญ้าของประเทศ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานหลักเกษตรทฤษฎีใหม่ให้เป็นหลักเบื้องต้นในการสร้างทุนชีวิต นั่นคือ ให้เกษตรกรแบ่งที่ดินเป็น 4 ส่วน ส่วนหนึ่งเป็นแหล่งน้ำ ส่วนหนึ่งปลูกข้าวไว้บริโภค ส่วนหนึ่งทำเกษตรผสมผสาน คือปลูกพืชเลี้ยงสัตว์ และอีกส่วนหนึ่งเป็นที่อยู่อาศัย เพื่อให้เกษตรกรสามารถพึ่งพาตนเองได้

เหตุที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเน้นความช่วยเหลือไปที่ชาวไร่ชาวนาก่อน เพราะคนกลุ่มนี้เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ และยังมีทุนชีวิตที่ไม่ค่อยพอเพียง ส่วนข้าราชการ พ่อค้า นักธุรกิจ ก็ต้องหาทางสร้างทุนชีวิตอย่างขยันขันแข็ง จนสามารถพึ่งพาตนเองได้เช่นเดียวกัน เพราะถ้าไม่มีทุนชีวิตก็ยากที่จะพัฒนาให้เกิดความมั่นคงไปจนถึงร่ำรวยมั่งมีได้

ในส่วนของรัฐ รัฐก็ต้องสนับสนุนให้ประชาชนมีทุนชีวิตที่ดี โดยการบริการด้านการศึกษา การสาธารณูปโภค นับตั้งแต่เส้นทางและยานพาหนะในการคมนาคม การชลประทาน การไฟฟ้า การประปาอย่างพอเพียง ตลอดจนการให้ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินอย่างเต็มที่อีกด้วย

ยั้งคิด

ความยั้งคิด ถือเป็นหลักเตือนใจพิเศษของผู้ยึดแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชทานแนวคิดว่า ต้องมีความพอประมาณ ความมีเหตุผล และการมีภูมิคุ้มกัน และยังตรัสอีกว่า ผู้ใช้หลักเศรษฐกิจนี้รวยได้ หมายความว่า เมื่อเรามีทุนชีวิตที่มั่นคงช่วยตัวเองได้อย่างพอเพียงแล้ว เมื่อจะต่อยอดทุนเพื่อให้เกิดความร่ำรวยก็สามารถทำได้ แต่ให้ทำด้วยความฉลาดรอบคอบ มีคุณธรรม จริยธรรม มีสติ ไม่โลภ มีเหตุผล ไม่เสี่ยงจนเกินไป เมื่อรวยมากก็ให้รู้จักพอ หรือคืนให้แก่สังคมบ้าง

สำหรับการต่อยอดทุนชีวิตเพื่อให้เกิดกำไรนี้ มีผู้ถกเถียงว่ากู้เงินได้หรือไม่

ความจริงแล้วเราสามารถกู้เงินได้ เพียงแต่ให้รู้จักประมาณความสามารถของตนในการบริหารทุน และความสามารถในการใช้คืน ให้อยู่ในความพอดี และไม่เสี่ยงเกินไป

สำหรับคนที่รวยแล้วก็ควรใช้เงินตามฐานะ เพราะเงินเป็นสิ่งที่ต้องหมุนไปตามหลักเศรษฐศาสตร์ ถ้าทุกคนพากันออมไว้หมดไม่ใช้ไม่ลงทุนเงินก็จะไม่หมุนไปถึงผู้อื่น

การอดออมเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นสร้างทุนชีวิต แต่ถ้าคนรวยมากๆ แล้วไม่ฟุ้งเฟ้อก็มีผลดีในแง่ที่เป็นตัวอย่างแก่ผู้ที่ด้อยโอกาสกว่า เพราะฉะนั้น ผู้ที่มีเงินมากแล้วอยากใช้เงินให้คุ้มค่ากับที่เหน็ดเหนื่อยในการหามา ก็ควรใช้อย่างเงียบๆ อย่าไปสร้างค่านิยมโอเวอร์ ซึ่งไปกระตุ้นกิเลสของคนอื่นที่เขาไม่มีโอกาสเท่า ทำให้มีการใช้เงินเกินตัว การใช้เงินอย่างเงียบๆ ของคนรวยนี้ ก็ถือว่าเป็นความเสียสละอย่างหนึ่งเช่นกัน

การเสียสละของคนรวย สามารถทำได้หลายอย่าง ตัวอย่างเช่น คุณเล็ก วิริยะพันธุ์ ได้นำเงินส่วนใหญ่ไปสนับสนุนงานศิลปะโดยการสร้าเงมืองโบราณ ปราสาทสัจธรรม และพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณ ไว้ให้ลูกหลานไทยได้ชมเพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจในชาติ เป็นต้น

หรืออย่าง บิล เกตส์ มหาเศรษฐกิจอันดับ 1 ของโลก ก็ก่อตั้งมูลนิธิของตนเองเพื่อช่วยเหลือชาวโลก โดยเกษียณจากการทำงานในบริษัทไมโครซอฟท์ของตนเอง แล้วมุ่งทำงานของมูลนิธิเพียงอย่างเดียว เขาเดินทางไปแสดงปาฐกถาในประเทศต่างๆ เพื่อหาทางช่วยเหลือคนยากจน และสนับสนุนคนด้อยโอกาสโดยไม่เลือกประเทศและสีผิวของประชาชน มูลนิธิของเขาบริจาคเงินเพื่อโครงการดังกล่าวปีละนับหมื่นล้านบาทเป็นประจำทุกปี

สมดุล

คือความพอดี หลักเศรษฐกิจพอเพียงจะประเมินความพอดีโดยใช้เหตุผลเป็นตัวชี้วัด ไม่ใช้อารมณ์หรือความรู้สึกเป็นตัวชี้วัด เช่น มีคนเคยถามว่า ถ้าราษฎรที่มีนิสัยขี้เกียจทำมาหากิน และเขาอ้างว่าเขามีความพอเพียงแล้ว เราจะสร้างความเข้าใจความหมายของคำว่าพอเพียงให้แก่เขาได้อย่างไร ในข้อนี้ต้องดูว่าบุคคลดังกล่าวมีคุณภาพชีวิตที่ดีแล้วหรือยัง มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคงไหม มีความเป็นอยู่ถูกสุขอนามัยหรือไม่ มีเงินออมไว้ใช้ยามเจ็บป่วย แก่ชราไหม และได้ให้การศึกษาแก่ลูกหลานอย่างพอเพียงที่เขาจะนำไปใช้ดำรงชีวิตในอนาคตหรือไม่

หลักเศรษฐกิจพอเพียงไม่ปฏิเสธทุนนิยม โดยปกติหลักเศรษฐกิจแบบทุนนิยมจะมุ่งเน้นการลงทุนเพื่อผลกำไรเป็นเงิน แต่หลักเศรษฐกิจแบบพอเพียงจะเน้นผลกำไรเป็นความสุข

ตามที่อาจารย์เกษียร เตชะพีระ ได้เขียนบทความเรื่อง "อีคาวโนมิคส์" ลงในมติชน ฉบับวันศุกร์ที่ 16 กุมภาพันธ์ 2550 มีการกล่าวถึงโมเดลเศรษฐกิจแบบทุนนิยมว่า "คุณมีวัว 2 ตัว คุณขายตัวหนึ่งแล้วเอาเงินไปซื้อกระทิงพ่อพันธุ์ ฝูงวัวของคุณเพิ่มทวีขึ้นและเศรษฐกิจก็เติบโต คุณขายฝูงวัวทิ้งแล้วเลิกทำมาหากิน อาศัยเงินที่ขายวัวได้นั่งกินนอนกินได้สบายใจเฉิบ"

สำหรับหลักเศรษฐกิจพอเพียงก็อาจเปรียบเทียบได้ว่า เมื่อคุณมีวัว 2 ตัว คุณต้องเลี้ยงวัว 2 ตัวให้ดี คุณจะได้ดื่มนมวัวของคุณเอง เมื่อวัวโตเต็มที่ ก็จะผสมพันธุ์กันได้ลูกวัว ซึ่งถ้าคุณเลี้ยงวัวดีอ้วนท้วน ไม่มีโรค วัวก็จะให้ลูกมาก อาจไม่มากเท่ากระทิงของทุนนิยม แต่เจ้าของวัวก็มีความสุขที่ไม่ต้องลงทุนเลี้ยงกระทิงดุ ซึ่งมีความเสี่ยง เพื่อรอคอยผล คือความสุขเมื่อขายฝูงวัวไปแล้ว

หลักเศรษฐกิจพอเพียงจะให้ความสุขตั้งแต่เลี้ยงวัวธรรมดาๆ ให้ดี และมีความสุขตั้งแต่ยังไม่ต้องขายฝูงวัว เป็นความสุขที่ได้เลี้ยงวัวด้วยความรัก ไม่ต้องกังวลในการหมุนเงินมาใช้หนี้ค่าตัววัวกระทิงที่ไปซื้อมาจากต่างประเทศ เจ้าของวัวก็ไม่เสี่ยงต่อการขาดทุน

ดังนั้น หลักเศรษฐกิจพอเพียง จึงมีความแข็งแกร่ง ไม่สุดโต่ง ทั้งยังเป็นรากฐานที่มั่นคงของการพัฒนาแบบยั่งยืน ซึ่งชาวโลกทั้งหลายกำลังมองหาอยู่ในปัจจุบันนี้

..............................................................

เป็นบทความที่ขยายแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ซึ่งหลักทฤษฎีใหม่นี้เป็นสิ่งที่ทำให้เห็นเป็นรูปธรรมในภาคเกษตร ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์กระแสหลักอาจจะครอบคลุมเกี่ยวกับเรื่องของทุน แรงงาน ตลาด รัฐ ซึ่งดูซับซ้อน แต่ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงดูเหมือนจะทวนกระแสทุนนิยมซึ่งเน้นการบริโภคนิยมที่สุดโต่ง และทำให้การประยุกต์หลักเศรษฐศาสตร์เชิงพุทธมีความเป็นไปได้มากขึ้นในสังคมไทย(ซึ่งถูกขยายความโดยพระธรรมปิฎก มีพิมพ์เป็นหนังสือแล้ว) และแนวคิดของชูเมกเกอร์(ผู้เขียนหนังสือ "จิ๋วแต่แจ๋ว-Small is beautiful)ที่เน้นการทำธุรกิจที่มีขนาดเล็กแต่มีความสุขในการทำงาน ให้ความสำคัญของเทคโนโลยี่ที่เหมาะสมสอดคล้องกับสภาพทางสังคมที่เราดำรงชีวิตอยู่


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 31 มีนาคม 2550 เวลา:10:37:18 น.  

 
สวัสดีค่ะ

แวะมาอ่านเรื่องราวดี ๆ ทิวลิปว่าคนที่อยากจะพัฒนาตนเองต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าอยากจะพัฒนาตัวเองเรื่องอะไร ในด้านใด ถ้าสิ่งที่เขาอยากจะพัฒนาตัวเองเป็นไปในด้านรูปลักษณ์ภายนอก ความคิด บุคลิกลักษณะ เขาคงต้องกล้าที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองก่อน แต่ถ้าเขาอยากจะพัฒนาตัวเองในด้านของจิตใจ เพื่อค้นหาความหมายของชีวิตว่าเราเกิดมาทำไม เขาต้องกล้าที่จะค้นหา และเมื่อเขาหาพบเขาจะเปลี่ยนแปลงตัวเองไปโดยปริยายค่ะ แต่เห็นด้วยว่าไม่ว่าเขาอยากจะพัฒนาตัวเองในด้านไหน สิ่งสำคัญที่สุดคือตัวเขาต้องมีแรงบันดาลใจที่อยากจะพัฒนาตัวเองจริง ๆ

เป็นความคิดเห็นส่วนตัวที่อยากจะเอามาร่วมแจมด้วยค่ะ


โดย: ทิวลิปสีน้ำเงิน วันที่: 31 มีนาคม 2550 เวลา:11:10:14 น.  

 
พี่ชาย

ดู ความสุขของ คนในชาติ ต้องดูที่เศราฐกิจ ใช่ไหมคะ
หนูได้แต่หวัง ว่า เราจะลงตัวกันเสียที

ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ จริงๆ นะคะ ...
เราต่อสู้ เรื่องนี้ ไปพร้อมๆ กับ ปัญหาใหม่ ๆ ก้าวเข้ามา
หนูกำลังฟังเพลง แสงดาวแห่งศรัทธา....

เพลงที่ฟังทีไร ใจคอมันฮึกเหิม ...
ดาวยังพรายศรัทธา เย้ยฟ้าดิน
วันนี้ พิมอัพบล๊อกเรื่อง ศรีบูรพา เพราะเป็นวัน ศรีบูรพาค่ะ

ฝันดี ค่ะ


โดย: ประกายดาว วันที่: 31 มีนาคม 2550 เวลา:22:41:36 น.  

 
ขอบคุณมากค่ะ..
เป็นถ้อยคำที่ทำให้อบอุ่นค่ะ
ดีใจเสมอเมื่อเจอคอมเมนต์คุณค่ะ

ถึงนานครั้งที่แวะหา..แต่รับรู้ด้วยหัวใจ
ว่าจริงจากใจของผู้มอบเสมอค่ะ..

ขอให้คุณมีความสุขกับคนที่รักเสมอค่ะ
เราเชื่อว่า..การที่เราจะพบสิ่งดีๆในชีวิต
ขึ้นอยู่กับตัวเราเป็นผู้กำหนดเสมอค่ะ

เมื่อเราอยู่ในความทุกข์หรือสุข..
เราย่อมไม่โทษใครใช่ไหมค่ะ..?????

สุภาพบุรุษ..คนเดินดิน..



โดย: catt.&.cattleya (catt.&.cattleya.. ) วันที่: 31 มีนาคม 2550 เวลา:22:49:53 น.  

 
การพัฒนาทุกสิ่ง เริ่มจากการพัฒนามนุษย์ทั้งสิ้นนะคะ


โดย: rebel วันที่: 31 มีนาคม 2550 เวลา:22:58:05 น.  

 
ยังทำงานอยู่ที่เดิมค่ะ
โยกย้ายแผนกเล็กน้อยค่ะ งานไม่มั่นคงแต่ไปๆ มาๆ ก็ทำมาได้ 2 ปีแล้วค่ะ


โดย: rebel วันที่: 31 มีนาคม 2550 เวลา:23:35:30 น.  

 
วันนี้ท่องไปหลายบล็อกไปอ่านบล็อกของหญิงไทยที่ไปทำงานที่ญีปุ่นแล้วก็อนาถใจจังครับ

ไว้พรุ่งนี้มาคุยกันต่อนะครับ


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 31 มีนาคม 2550 เวลา:23:59:03 น.  

 




สวัสดีตอนดึกๆของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


บรรจงถ่ายทอดความคิดถึง
ผสมด้วยความห่วงใยส่งไปหา
แม้ไม่ได้ส่งไปทุกวันเวลา
แต่ทุกคราเป็นความรู้สึกมาจากใจ


** มีความสุขและสนุกกับวันแรกของการทำงานนะจ้า **



โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 2 เมษายน 2550 เวลา:4:04:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนเดินดินฯ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ปณิธาน

การเดินทางของชีวิตของทุกผู้คน
ทุกคนต่างต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่จะมีสักกี่คนที่จะก้าวไปถึง
เมื่อเราก้าวถึงจุดนั้น
ขออย่าลืมการแบ่งปันและเจือจาน
แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม

เราจะเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน
เพื่อสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่ดีงาม

เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลัง
ได้ใช้ชีวิตของเขา
ตามศักยภาพและความตั้งใจของเขา
ตราบเท่าที่เขาต้องการ







เดินไปสู่ความใฝ่ฝัน


ชีวิตหนึ่งร่วงหล่นไปตามกาลเวลา
คลื่นลูกใหม่ไล่หลังคลื่นลูกเก่า
นั่นคือวัฏจักรของชีวิตที่ดำเนินไป

เยาว์เธอรู้บ้างไหม
ว่าประชาราษฎรนั้นทุกข์ยากเพียงใด
เสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เหลืออยู่
เธอเคยมีความใฝ่ฝันที่แสนงามบ้างไหม

สักวันฉันหวังว่าเธอจะเดินไปตามทางสายนี้
ที่อาจดูเงียบเหงาและโดดเดี่ยว
แต่ภายใต้ฟ้าเดียวกัน
ฉันก็ยังมีความหวัง
ว่าผู้คนในประเทศนี้
จะตื่นขึ้นมา
เพื่อทวงสิทธิ์ของพวกเขา
ที่ถูกย่ำยีมาช้านาน
และฉันหวังว่าเธอจะเดินเคียงคู่ไปกับพวกเขา

เพื่อสานความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นความจริง
สัญญาได้ไหม
สัญญาได้ไหม
เยาว์ที่รักของฉัน


***********



ขอมีเพียงเธอเป็นกำลังใจ




ทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ข้างหน้า
แลเห็นต้นหญ้าโบกไสว
เห็นดอกซากุระบานอยู่เต็มดอย
ความงามที่อยู่ข้างหน้า
เป็นสิ่งที่ฉันจะเก็บมันไว้
ยามที่จิตใจอ่อนล้า...

ชีวิตยามนี้แม้ผ่านมาหลายโมงยาม
แต่จิตใจข้างในยังคงดูหงอยเหงา
หลายครั้งอยากมีเพื่อนคุย
หลายครั้งอยากมีคนปรับทุกข์
และหลายครั้งต้องนั่งร้องไห้คนเดียว

รางวัลสำหรับชีวิตที่ผ่านมา
มันคืออะไรเคยถามตัวเองบ่อย ๆ
ความสำเร็จ...เงินตรา...เกียรติยศชื่อเสียง
มันใช่สิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า
ถึงจุดหนึ่งชีวิตต้องการอะไรอีกมากไปกว่านี้

หลายชีวิตยังคงดิ้นรนต่อสู้
เพื่อปากท้องและครอบครัว
มันเป็นความจริงของชีวิตมนุษย์
ที่ต้องดำรงชีพเพื่อความอยู่รอด
มีทั้งพ่ายแพ้ มีทั้งชนะ
แต่ชีวิตต่างต้องดำเนินไป
ตามวิถีทางของแต่ละคน

ลืมความทุกข์ ลืมความหลังที่เจ็บปวด
มองออกไปข้างหน้า
ค้นให้พบตัวตนของตนเองอีกครั้ง
แล้วกลับไปสู้ใหม่
การเริ่มต้นของชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป
จะต้องดำเนินต่อไป

ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต....




@@@@@@@@@@@




การเดินทางของความรัก

...ฉันเดินไปด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า
สมองได้คิดใคร่ครวญ
ความรักในหลายครั้งที่ผ่านมา
ทำไมจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

ฉันเดินไปด้วยสมองอันปลอดโปร่ง
ความรักทำให้ฉันเข้าใจโลก
และมนุษย์มากขึ้น
และรู้ว่าความแตกต่าง
ระหว่างความรักกับความหลงเป็นอย่างไร?

ฉันเดินไปด้วยดวงตาที่มุ่งมั่น
บทเรียนของรักในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
มันย้ำเตือนอยู่เสมอว่า
อย่ารีบร้อนที่จะรัก
แต่จงปล่อยให้ความสัมพันธ์
ค่อย ๆ พัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เรียนรู้และทำเข้าใจกันให้มากที่สุด

ก่อนที่จะเริ่มบทต่อไปของความรัก...




*******************



จุดไฟแห่งศรัทธาและความมุ่งมั่น

เข้มแข็งกับอ่อนแอ
สับสนหรือมุ่งมั่น
จะยอมแพ้หรือลุกขึ้นท้าทาย
กับชีวตที่เหลืออยู่
ทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ใจเราจะกำหนด

ไม่ใช่เพราะอิสระเสรี
ที่เราต้องการหรอกหรือ?
ที่มันจะนำทางชีวิต
ในห้วงเวลาต่อไป
ให้เราก้าวทะยานไป
สู่วันพรุ่งที่สดใส

มีแต่เพียงคนที่รู้จักตนเองอย่างดีพอเท่านั้น
จะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
เมื่อผ่านการสรุปบทเรียน
จากปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบ
เราก็จะมีความจัดเจนกับชีวิตมากขึ้น
และการเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ
ในอนาคตก็จะเป็นเพียงปัญหาที่เล็กน้อยสำหรับเรา
ในการที่จะก้าวผ่านไป



ด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่นที่มีอยู่ในใจ
ที่จะต้องย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ
หนทางในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
ย่อมอยู่ไม่ไกลห่างอย่างแน่นอน

*********************



ก้าวย่างที่มั่นคง

บนทางเดินแคบ ๆ ที่เหลืออยู่
หากขาดความมั่นใจที่จะก้าวเดินต่อไป
ชีวิตก็คงหยุดนิ่งและรอวันตาย
แม้ทางข้างหน้าจะดูพร่ามัว
และไม่รู้ซึ่งอนาคต
แต่สิ่งที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
คือก้าวย่างไปอย่างมั่นคง
และมองไปข้างหน้าอย่าเหลียวหลัง
เก็บรับบทเรียนในอดีต
เพื่อจะได้ระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาดอีกในอนาคต

"""""""""""""""""""""""""""""""""



ใช้สามัญสำนึกทำงาน

ไม่มีแผนงานที่สวยหรู
ไม่มีปฏิบัติการใดที่สมบูรณ์แบบ
ในยามนี้มีเพียงการทำงานด้วยการทุ่มเท
ลงลึกในรายละเอียดเท่านั้น
จึงจะสามารถคลี่คลายปัญหาของงานลงได้
บางครั้งโจทย์ที่เจออาจยากและซับซ้อน
แต่เมื่อลงไปคลุกคลีอย่างแท้จริง
โจทย์เหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

""""""""""""""""""""""""""""""""



เรียบ ๆ ง่าย ๆ


อย่ามองสิ่งต่าง ๆ ด้วยแว่นสีที่ซับซ้อน
เพราะในโลกนี้มีเพียงสิ่งสามัญที่เรียบง่าย
สำหรับคนที่สงบนิ่งเพียงพอเท่านั้น
จึงจะแก้โจทย์และปัญหาต่าง ๆ
ด้วยกลวิธีที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ
ไม่ซับซ้อนและตรงจุดได้อย่างเพียงพอ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ใจถึงใจ

บนหนทางไปสู่ความสำเร็จ
บนหนทางของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
มีเพียงคนที่เข้าใจในสภาพจิตใจของคนทำงานเท่านั้น
จึงจะสามารถนำทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน








Friends' blogs
[Add คนเดินดินฯ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.