|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
Blog tag กับการสร้างฝันที่เป็นจริง
ในยามที่ชีวิตมีแรงกดดันและเผชิญวิกฤติครั้งร้ายแรง หากคนเราขาดสติปัญญาและไม่ยืนหยัดและเข้มแข็งเพียงพอ ชีวิตก็จะจมอยู่ในปรักนั้นจนดิ้นไม่หลุด
มีแต่เพียงคนจริงเท่านั้น ที่จะผ่านวิกฤติต่าง ๆ ในชีวิตไปได้ วัยทำงานที่เรียกว่าวัยควาย เป็นวัยที่ชีวิตต้องเรียนรู้และหาประสบการณ์ใหม่ ๆ หากปรับตัวไม่ได้ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต
เรื่องราวที่อยากจะเอ่ยถึงสำหรับประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาพอจะเรียบเรียงเป็นเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดังนี้
1. ความฝันในวัยเด็ก
เราแทบจะไม่รู้หรอกว่าเราอยากเป็นอะไร จำได้แต่ว่าพ่อชอบปลูกฝังให้เรียนหมอหรือวิศวะ เพราะรายได้ดี และพ่อมักจะชอบบอกว่าสมัยเด็ก ๆ พ่อสอบได้ที่หนึ่ง สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือการตั้งใจเรียนและพยายามเรียนให้ดีที่สุดเท่าที่พ่อแม่จะมีปัญญาส่งเสียให้เรียน จำไดว่าในวัยเด็กเห็นพี่ ๆ ชอบเอาไม้มาแกะสลักเป็นรถและใช้ลากเล่นกันและเห็นพ่อซ่อมรถเองบ่อย ๆ เวลารถเสีย รถบรรทุกที่พ่อภาคภูมิใจมากว่ามันจะนำมาซึ่งการสร้างตัวที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งตัวเราเองก็รู้สึกว่าคงไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะซ่อมรถเหล่านี้ได้ แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงจริง ๆ ชีวิตก็ต้องอยู่กับสิ่งเหล่านี้ ซึ่งไม่รู้จะเรียกว่ามันเป็นความบังเอิญหรือโชคชะตาพาไป
ฝันในวัยเด็กนั้นก็คงหนักไปทางการเป็นนักปกครองที่ให้ความยุติธรรมแก่ประชาชนและไม่คดโกง เป็นสิ่งที่อาจจะได้รับอิทธิพลจากหนังสือที่อ่านและหนังที่ได้ดูในวัยเด็กเช่นหนังไทยที่เป็นหนังบู๊และนิยายที่เกี่ยวกับการเดินป่าที่ชอบอ่านในนิตรสารบางกอกรายสัปดาห์ในห้วงเวลานั้น
2. กลิ่นไอของชนบทในยุคปี 2510
ยุคนั้นในชนบทถนนยังเป็นถนนสองเลนและมีคลองอยู่ริมถนน ห่างออกไปจากตลาดก็จะเป็นทุ่งนาและป่าเขา เวลาพ่อขับรถออกไปก็มักจะมีอะไรแปลก ๆ มาให้ดู มีอยู่ครั้งหนึ่งจับได้ลิงลมมาตัวหนึ่งและมันก็อยู่กับเราไม่นานแล้วมันก็หนีไป เราจะได้ยินเสียงนกขุนทองหัดออกเสียงคนตั้งแต่เด็ก ๆ รวมทั้งนกแก้วและนกขันด้วย
เวลาฝนตกเราก็จะลงไปเล่นน้ำในคลองที่ติดกับบ้าน และโรงสีที่อยู่ใกล้ ๆก็สามารถเป็นที่เล่นของเด็ก ๆ ได้เหมือนกัน มีคนเอาสังกะสีตัดเป็นแผ่นพอลองนั่งได้นั่งบนแผ่นสังกะสีและปล่อยตัวลงมาจากกองแกลบที่กองอยู่ พวกเรามีวิธีเล่นแปลก ๆ ที่เด็กสมัยนี้คงนึกไม่ออกว่าเล่นไปได้อย่างไร?
3. เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 กับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป
ช่วงที่เกิดเหตุการณ์เราเองก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องราวอะไรมากมายจำได้แต่เพียงว่าที่โรงเรียนให้นักเรียนเกือบจะทั้งโรงเรียนเข้าไปที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในวันที่ 13 ตุลา เราไปถึงในตอนสาย ๆ ของวันนั้น เป็นบรรยากาศที่ไม่เคยพบเห็น กลุ่มนักเรียนอาชีวะช่วยกันส่งส้มที่ประชาชนบริจาคแจกให้กับผ้ที่มาชุมนุม ตกบ่ายขบวนเคลื่อนออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อไปรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผู้คนเรือนแสนเบียดเสียดยัดเยียดกันอย่างแน่นขนัด ความรู้สึกของฉันตอนนั้นรู้แต่เพียงว่าประเทศต้องการรัฐธรรมนูญเพื่อใช้เป็นกฏหมายในการปกครองประเทศ นอกนั้นฉันไม่ค่อยรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ มากนัก
ถัดจากนั้นมาอีกสองปี ภายในรั้วโรงเรียนภายหลังจากที่มีการเลือกตั้งในยุคประชาธิปไตยเบ่งบานภายหลังเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 กิจกรรมของนักเรียนได้เปิดกว้างมากขึ้น การนำการปกครองตนเองมาใช้โดยจัดให้มีสภานักเรียนและสโมสรทำหน้าที่บริหารและเป็นตัวแทนของนักเรียนทั้งหมดในการประสานกับอาจารย์ฝ่ายปกครอง กิจกรรมค่ายอาสาและการไปสอนหนังสือกับเด็กสลัมเป็นจุดแรกที่เดินเข้าไปสมัครเพราะความสนใจส่วนตัว การไปสอนหนังสือเด็กสลัมในวันหยุดแถบคลองมหานาคในยุคนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำ
วิถีชีวิตและวิธีคิดที่เปลี่ยนไป การได้พัฒนาตนเองจากการเข้าไปสัมผัสกิจกรรมต่าง ๆได้ทำให้เข้าใจปัญหาสังคมและประเทศชาติมากขึ้น แต่ความสงสัยต่าง ๆ ก็ยังคงดำรงอยู่และมันเริ่มมาคลี่คลายมากขึ้นเมื่อเกิดวิกฤติศรัทธาในอุดมการณ์ในยุคถัดมาในปี 2526
4. ชีวิตการทำงานและการสร้างตัว
"ภายหลังจากปี 2525 ชีวิตได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง ความศรัทธาในอุดมการณ์ต่าง ๆ เกิดความสั่นคลอนอย่างรุนแรง ไม่มีอีกแล้วกับการผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในสังคมไทย เราจะเดินไปทางไหน ถามใจตัวเองอยู่อย่างนั้นด้วยความรู้สึกเคว้งคว้างและซึมเศร้าอย่างรุนแรง การเรียนที่ดูจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนักและมันเป็นช่วงเวลาที่ทรมานใจที่สุดกว่าจะออกมาจากรั้วมหาลัยได้
การตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตการทำงานได้เกิดขึ้นอีกหลังจากที่พยายามหางานทำอยู่หลายเดือน จึงตัดสินใจช่วยงานที่บ้านด้วยความเชื่อว่า "หากเราทุ่มเทเพียงพอ เราก็จะสามารถสร้างตัวใหม่ได้" การเรียนรู้งานใหม่เริ่มขึ้นอีกครั้ง มันเป็นการประสานทฤษฎีเข้ากับการปฏิบัติที่ทำให้เรารู้จักและเข้าใจตัวเองมากขึ้น รับรู้ว่าหากคนเรามีความพยายามมากพอเราก็สามารถเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่าง ๆ นั้นได้อย่างไม่ยากนัก
5. เดินหน้าสร้างฝันที่เป็นจริง
ยามเมื่อชีวิตเผชิญปัญหาและอุปสรรค หากเราไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ รางวัลต่าง ๆที่ชีวิตจะได้รับ จะเป็นเครื่องจรรโลงใจและเป็นพลังใจ ในการต่อสู้ชีวิตต่อไป
หากคนเราไม่กล้าที่จะฝัน ไฉนเลยชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ได้ ความแตกต่างที่สำคัญของคนเรา ก็คือการทำให้ความฝันนั้นเป็นความจริง การทำให้ความฝันนั้นเป็นฝันที่จับต้องได้และท้าทายที่จะไปให้ถึง กับจูงใจเพียงพอและเอื้อมถึง
ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ หากเรามีความมุ่งมั่นและไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
คนรุ่นเก่าได้พิสูจน์มาแล้ว ด้วยสองมือเปล่าและเสื่อผืนหมอนใบ จนวันนี้สังคมไทยมีคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากมาย ที่เราได้พบเห็น
ในยามท้อแท้และสิ้นหวังหมดกำลังใจ จงมองไปข้างหน้า ใช้สติปัญญาให้เต็มที่ ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด หากจะเกิดอะไรขึ้น จงยอมรับผลกรรมนั้นเถิด
ชีวิตจะมอบให้ในสิ่งดี ๆ กับคนที่ให้คืนกับผู้คนรอบข้าง แม้ลิขิตของสวรรค์ ก็ไม่อาจเปลี่ยนความตั้งใจของเราได้
''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''
| | |
|
Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2550 |
Last Update : 31 สิงหาคม 2552 23:03:44 น. |
|
13 comments
|
Counter : 914 Pageviews. |
|
|
รู้สึก ราวกับกำลังอ่านชีวิต พี่
ในความอ่อนโยน ในความอ่อนไหว หรือความเข้มแข็ง
ของชายหนุ่ม หนึ่งคน รวมทั้งเรื่องราวยาวนาน
พิมว่า มันไม่สำคัญว่า เราได้สิ่งใดบ้าง มาตอบแทน การเดินทางยาวไกลในชีวิตหรอก มันสำคัญเพียงว่า ทุกปัจจุบันขณะ
ที่เราได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ในเวลานั้น ผ่านไป เป็นอดีต
แล้วปัจจุบัน ก็ เดินทางมา ไม่รู้สิ้นสุด ...เราเปลี่ยน วันคืนที่ล่วงผ่านมาไม่ได้ แต่ ทุกๆวัน พิมว่าพี่ทำดีที่สุดแล้วนะคะ
พี่ไม่ทำร้ายใครด้วยกาย วาจา ใจ
ทำหน้าที่ ต่อ ตัวเอง ต่อ พ่อ แม่ ต่อผู้หญิง ที่พี่รัก
อย่าง น่าชื่นชม
โดยเฉพาะหน้าที่ต่อสังคม ส่วนรวม
พี่มีพลัง มากๆ เสมอมา ....
ไป ฟังเพลง ดาวแดงแห่งภูพานกันค่ะ
ให้เสียงหวานใส ดังก้องหัวใจ
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=twinkling-stars&month=03-2006&date=18&group=5&blog=2
สาธุ ค่ะพี่