บ้านที่มีความรักและความอบอุ่นคือจินตนาการของคนไทยยามนี้ !
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
3 กุมภาพันธ์ 2550
 
All Blogs
 
Blog tag กับการสร้างฝันที่เป็นจริง





ในยามที่ชีวิตมีแรงกดดันและเผชิญวิกฤติครั้งร้ายแรง หากคนเราขาดสติปัญญาและไม่ยืนหยัดและเข้มแข็งเพียงพอ ชีวิตก็จะจมอยู่ในปรักนั้นจนดิ้นไม่หลุด

มีแต่เพียงคนจริงเท่านั้น
ที่จะผ่านวิกฤติต่าง ๆ ในชีวิตไปได้
วัยทำงานที่เรียกว่าวัยควาย
เป็นวัยที่ชีวิตต้องเรียนรู้และหาประสบการณ์ใหม่ ๆ
หากปรับตัวไม่ได้ก็ยากที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต

เรื่องราวที่อยากจะเอ่ยถึงสำหรับประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาพอจะเรียบเรียงเป็นเรื่องราวต่าง ๆ ได้ดังนี้

1. ความฝันในวัยเด็ก

เราแทบจะไม่รู้หรอกว่าเราอยากเป็นอะไร จำได้แต่ว่าพ่อชอบปลูกฝังให้เรียนหมอหรือวิศวะ เพราะรายได้ดี และพ่อมักจะชอบบอกว่าสมัยเด็ก ๆ พ่อสอบได้ที่หนึ่ง สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือการตั้งใจเรียนและพยายามเรียนให้ดีที่สุดเท่าที่พ่อแม่จะมีปัญญาส่งเสียให้เรียน จำไดว่าในวัยเด็กเห็นพี่ ๆ ชอบเอาไม้มาแกะสลักเป็นรถและใช้ลากเล่นกันและเห็นพ่อซ่อมรถเองบ่อย ๆ เวลารถเสีย รถบรรทุกที่พ่อภาคภูมิใจมากว่ามันจะนำมาซึ่งการสร้างตัวที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งตัวเราเองก็รู้สึกว่าคงไม่มีความสามารถเพียงพอที่จะซ่อมรถเหล่านี้ได้ แต่เมื่อเวลานั้นมาถึงจริง ๆ ชีวิตก็ต้องอยู่กับสิ่งเหล่านี้ ซึ่งไม่รู้จะเรียกว่ามันเป็นความบังเอิญหรือโชคชะตาพาไป

ฝันในวัยเด็กนั้นก็คงหนักไปทางการเป็นนักปกครองที่ให้ความยุติธรรมแก่ประชาชนและไม่คดโกง เป็นสิ่งที่อาจจะได้รับอิทธิพลจากหนังสือที่อ่านและหนังที่ได้ดูในวัยเด็กเช่นหนังไทยที่เป็นหนังบู๊และนิยายที่เกี่ยวกับการเดินป่าที่ชอบอ่านในนิตรสารบางกอกรายสัปดาห์ในห้วงเวลานั้น

2. กลิ่นไอของชนบทในยุคปี 2510

ยุคนั้นในชนบทถนนยังเป็นถนนสองเลนและมีคลองอยู่ริมถนน ห่างออกไปจากตลาดก็จะเป็นทุ่งนาและป่าเขา เวลาพ่อขับรถออกไปก็มักจะมีอะไรแปลก ๆ มาให้ดู มีอยู่ครั้งหนึ่งจับได้ลิงลมมาตัวหนึ่งและมันก็อยู่กับเราไม่นานแล้วมันก็หนีไป เราจะได้ยินเสียงนกขุนทองหัดออกเสียงคนตั้งแต่เด็ก ๆ รวมทั้งนกแก้วและนกขันด้วย

เวลาฝนตกเราก็จะลงไปเล่นน้ำในคลองที่ติดกับบ้าน และโรงสีที่อยู่ใกล้ ๆก็สามารถเป็นที่เล่นของเด็ก ๆ ได้เหมือนกัน มีคนเอาสังกะสีตัดเป็นแผ่นพอลองนั่งได้นั่งบนแผ่นสังกะสีและปล่อยตัวลงมาจากกองแกลบที่กองอยู่ พวกเรามีวิธีเล่นแปลก ๆ ที่เด็กสมัยนี้คงนึกไม่ออกว่าเล่นไปได้อย่างไร?

3. เหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 กับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป

ช่วงที่เกิดเหตุการณ์เราเองก็ยังไม่ค่อยรู้เรื่องราวอะไรมากมายจำได้แต่เพียงว่าที่โรงเรียนให้นักเรียนเกือบจะทั้งโรงเรียนเข้าไปที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ในวันที่ 13 ตุลา เราไปถึงในตอนสาย ๆ ของวันนั้น เป็นบรรยากาศที่ไม่เคยพบเห็น กลุ่มนักเรียนอาชีวะช่วยกันส่งส้มที่ประชาชนบริจาคแจกให้กับผ้ที่มาชุมนุม ตกบ่ายขบวนเคลื่อนออกจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อไปรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ผู้คนเรือนแสนเบียดเสียดยัดเยียดกันอย่างแน่นขนัด ความรู้สึกของฉันตอนนั้นรู้แต่เพียงว่าประเทศต้องการรัฐธรรมนูญเพื่อใช้เป็นกฏหมายในการปกครองประเทศ นอกนั้นฉันไม่ค่อยรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ มากนัก

ถัดจากนั้นมาอีกสองปี ภายในรั้วโรงเรียนภายหลังจากที่มีการเลือกตั้งในยุคประชาธิปไตยเบ่งบานภายหลังเหตุการณ์ 14 ตุลา 16 กิจกรรมของนักเรียนได้เปิดกว้างมากขึ้น การนำการปกครองตนเองมาใช้โดยจัดให้มีสภานักเรียนและสโมสรทำหน้าที่บริหารและเป็นตัวแทนของนักเรียนทั้งหมดในการประสานกับอาจารย์ฝ่ายปกครอง กิจกรรมค่ายอาสาและการไปสอนหนังสือกับเด็กสลัมเป็นจุดแรกที่เดินเข้าไปสมัครเพราะความสนใจส่วนตัว การไปสอนหนังสือเด็กสลัมในวันหยุดแถบคลองมหานาคในยุคนั้นยังคงอยู่ในความทรงจำ

วิถีชีวิตและวิธีคิดที่เปลี่ยนไป การได้พัฒนาตนเองจากการเข้าไปสัมผัสกิจกรรมต่าง ๆได้ทำให้เข้าใจปัญหาสังคมและประเทศชาติมากขึ้น แต่ความสงสัยต่าง ๆ ก็ยังคงดำรงอยู่และมันเริ่มมาคลี่คลายมากขึ้นเมื่อเกิดวิกฤติศรัทธาในอุดมการณ์ในยุคถัดมาในปี 2526

4. ชีวิตการทำงานและการสร้างตัว

"ภายหลังจากปี 2525 ชีวิตได้เปลี่ยนไปอีกครั้ง ความศรัทธาในอุดมการณ์ต่าง ๆ เกิดความสั่นคลอนอย่างรุนแรง ไม่มีอีกแล้วกับการผลักดันให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในสังคมไทย เราจะเดินไปทางไหน ถามใจตัวเองอยู่อย่างนั้นด้วยความรู้สึกเคว้งคว้างและซึมเศร้าอย่างรุนแรง การเรียนที่ดูจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จมากนักและมันเป็นช่วงเวลาที่ทรมานใจที่สุดกว่าจะออกมาจากรั้วมหาลัยได้

การตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตการทำงานได้เกิดขึ้นอีกหลังจากที่พยายามหางานทำอยู่หลายเดือน จึงตัดสินใจช่วยงานที่บ้านด้วยความเชื่อว่า "หากเราทุ่มเทเพียงพอ เราก็จะสามารถสร้างตัวใหม่ได้" การเรียนรู้งานใหม่เริ่มขึ้นอีกครั้ง มันเป็นการประสานทฤษฎีเข้ากับการปฏิบัติที่ทำให้เรารู้จักและเข้าใจตัวเองมากขึ้น รับรู้ว่าหากคนเรามีความพยายามมากพอเราก็สามารถเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่าง ๆ นั้นได้อย่างไม่ยากนัก

5. เดินหน้าสร้างฝันที่เป็นจริง

ยามเมื่อชีวิตเผชิญปัญหาและอุปสรรค
หากเราไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ
รางวัลต่าง ๆที่ชีวิตจะได้รับ
จะเป็นเครื่องจรรโลงใจและเป็นพลังใจ
ในการต่อสู้ชีวิตต่อไป

หากคนเราไม่กล้าที่จะฝัน
ไฉนเลยชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ได้
ความแตกต่างที่สำคัญของคนเรา
ก็คือการทำให้ความฝันนั้นเป็นความจริง
การทำให้ความฝันนั้นเป็นฝันที่จับต้องได้และท้าทายที่จะไปให้ถึง
กับจูงใจเพียงพอและเอื้อมถึง

ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้
หากเรามีความมุ่งมั่นและไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ

คนรุ่นเก่าได้พิสูจน์มาแล้ว
ด้วยสองมือเปล่าและเสื่อผืนหมอนใบ
จนวันนี้สังคมไทยมีคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตมากมาย
ที่เราได้พบเห็น

ในยามท้อแท้และสิ้นหวังหมดกำลังใจ
จงมองไปข้างหน้า
ใช้สติปัญญาให้เต็มที่
ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
หากจะเกิดอะไรขึ้น
จงยอมรับผลกรรมนั้นเถิด

ชีวิตจะมอบให้ในสิ่งดี ๆ
กับคนที่ให้คืนกับผู้คนรอบข้าง
แม้ลิขิตของสวรรค์
ก็ไม่อาจเปลี่ยนความตั้งใจของเราได้


''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''''















Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2550
Last Update : 31 สิงหาคม 2552 23:03:44 น. 13 comments
Counter : 914 Pageviews.

 
พี่ชายที่รัก

รู้สึก ราวกับกำลังอ่านชีวิต พี่
ในความอ่อนโยน ในความอ่อนไหว หรือความเข้มแข็ง
ของชายหนุ่ม หนึ่งคน รวมทั้งเรื่องราวยาวนาน

พิมว่า มันไม่สำคัญว่า เราได้สิ่งใดบ้าง มาตอบแทน การเดินทางยาวไกลในชีวิตหรอก มันสำคัญเพียงว่า ทุกปัจจุบันขณะ
ที่เราได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุด ในเวลานั้น ผ่านไป เป็นอดีต
แล้วปัจจุบัน ก็ เดินทางมา ไม่รู้สิ้นสุด ...เราเปลี่ยน วันคืนที่ล่วงผ่านมาไม่ได้ แต่ ทุกๆวัน พิมว่าพี่ทำดีที่สุดแล้วนะคะ

พี่ไม่ทำร้ายใครด้วยกาย วาจา ใจ
ทำหน้าที่ ต่อ ตัวเอง ต่อ พ่อ แม่ ต่อผู้หญิง ที่พี่รัก
อย่าง น่าชื่นชม

โดยเฉพาะหน้าที่ต่อสังคม ส่วนรวม
พี่มีพลัง มากๆ เสมอมา ....
ไป ฟังเพลง ดาวแดงแห่งภูพานกันค่ะ

ให้เสียงหวานใส ดังก้องหัวใจ

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=twinkling-stars&month=03-2006&date=18&group=5&blog=2

สาธุ ค่ะพี่



โดย: ประกายดาว วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:02:20 น.  

 
คัดจากกรุงเทพธุรกิจ

จับใจ



ฐิตินาถ ณ พัทลุง (thelifecompass@yahoo.com)

เข็มทิศชีวิต (5)


เคยสงสัยบ้างไหมว่า ทำไมคนที่ประสบความสำเร็จ มีความสุขในชีวิตมากๆ ล้วนเคยผ่านประสบการณ์ปัญหาในชีวิตที่ยากลำบาก อย่างน่าอัศจรรย์มาแล้วทั้งนั้น

เวลาที่เรามีปัญหาชีวิต เราจะรู้สึกอึดอัด คับข้อง บีบคั้น จนแทบทนไม่ได้ แต่ความจริงก็คือ ในทุกปัญหามีของขวัญ มีสิ่งดีๆ อยู่ในตัวมันเอง เพราะในความบีบคั้น ขัดข้องช่วยให้สติปัญญาของเราทำงาน หาทางรอดออกจากวิกฤติให้ได้

คนมากมายที่ประสบปัญหาเรื่องการเงิน แล้วกลายมาเป็นเศรษฐีในภายหลัง เพราะปัญหาทำให้มีโอกาสหยุดทบทวนสถานภาพของตัวเอง เงินเข้า เงินออก สิ่งที่มี ช่องทางที่มีโอกาสหาเงินได้

ผู้อ่านท่านหนึ่งเขียนมาถามว่า เพิ่งเสียเงินออมทั้งหมดที่มีของครอบครัว ไปในตลาดหุ้น ภรรยาผิดหวังมาก ขอหย่า ลูกๆ ทุกคนก็โทษพ่อที่ทำให้ครอบครัวลำบาก งานประจำก็มีปัญหา อยากรู้ว่าเวลามีปัญหาพร้อมกันทุกด้านอย่างนี้ ควรแก้ที่ไหนก่อน

คำตอบก็คือ ไม่ว่าปัญหาจะมากมายแค่ไหนก็ตาม ต้องแก้ที่ใจก่อน ใจที่รู้สึกผิด รู้สึกไม่ยอมรับกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น คอยแต่ถามว่าทำไม ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดกับเรา

ความจริงก็คือ มันเกิดขึ้นแล้ว ความเสียดายอดีต ความกลัวอนาคต ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น

เราอาจจะใช้เวลาทบทวน เหตุการณ์ที่เกิด เพื่อเป็นบทเรียน ให้เราเรียนรู้สำหรับอนาคตข้างหน้า แต่หัวใจสำคัญคือปัจจุบันขณะ แต่ละวินาทีต่อไปนี้ ที่เราจะเลือกคิด เลือกทำ

สิ่งสำคัญที่เราต้องรู้ก็คือ ทุกอย่างที่เราทำ พูด คิด มีความรู้สึกบางอย่างบงการอยู่เบื้องหลังทั้งสิ้น

การที่เราฝึกหัดคอยสังเกต ตามดู ตามรู้ ความรู้สึกในใจตัวเอง จะช่วยให้เราค่อยๆ คลี่เปลือกความรู้สึกที่ห่อหุ้มใจเราอยู่ จนเห็นทันความคิดหลักที่บงการอยู่เบื้องหลัง

เราจะได้ไม่พลาด ตัดสินใจเลือกทางเดิน เพียงเพราะความรู้สึกกลัว หลง โกรธ อาย อิจฉา น้อยใจ รำคาญ หรือเสียดาย

ใจที่รู้เนื้อรู้ตัว จะสงบตั้งมั่น เห็นปัญหาเหมือนเป็นปัญหาของคนอื่น วิเคราะห์สถานการณ์ ประเมินทรัพยากรที่มี เลือกยุทธวิธีได้ถูกต้อง

ปัญหาทั้งหลาย ไม่ได้แก้จบได้ภายในวันเดียวอย่างที่เราอยากให้เป็น อย่ารังเกียจ หรือกลัวปัญหาเลย เพราะที่สุดแล้วปัญหาก็เป็นของคู่กับชีวิต เราเลือกไม่ได้ ให้มีแต่สิ่งที่ดีๆ เกิดขึ้นในชีวิตเรา

แต่เราสามารถเลือกที่จะจัดการกับปัญหา ด้วยใจที่เป็นปกติได้ เป็นอิสรภาพที่แท้จริงของมนุษย์ทุกคน

........................................

ผ่านไปอีกหนึ่งสัปดาห์อย่างรวดเร็ว
พร้อม ๆ กับความเปลี่ยนแปลงของชีวิต
ยอมรับชะตากรรม
เป็นฝ่ายกระทำมากขึ้น
และขับเคลื่อนชีวิตต่อไป
ด้วยศรัทธาและความหวัง
ที่จะมีชีวิตอยู่เพื่อบางสิ่งบางอย่าง
ที่เรามีความเชื่อมั่นและศรัทธา


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:14:57:36 น.  

 

แวะมาอ่าน แวะมาเยี่ยม


โดย: รุ้งสีที่แปด วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:15:57:32 น.  

 
แวะมาอ่านด้วยคนค่ะ อ่านแล้วนึกถึงวัยเด็กบ้างจัง กระโดดน้ำคลองเล่นด้วยแหละ


โดย: KungGuenter วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:58:58 น.  

 
ปัญหาทำให้มีโอกาสหยุดทบทวนสถานภาพของตัวเอง
เงินเข้า เงินออก สิ่งที่มี ช่องทางที่มีโอกาสหาเงินได้

.... นั่นซิคะ
บางคนผจญกับวิกฤติแรง ๆ แต่สุดท้าย
เขากลับมาร่ำรวย
แต่ไม่ใช่ด้วยโชคหรอก

เขาทบทวนความล้มเหลว
นำเอาจุดดี จุดด้อยมาใช้สำหรับการทำงาน
ในครั้งต่อ ๆ ไป

ขอบคุณสำหรับข้อเขียนดี ๆ ค่ะ


โดย: โสดในซอย วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:22:06:25 น.  

 




สวัสดีตอนค่ำของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


ถึงจะเป็นเพียงแค่ความคิดถึง
ก็อยากให้ยามที่เธอนั้นอ่อนล้า
ขอเพียงเธอได้รับก็แสนจะสุขใจ
เพราะความรู้สึกมอบให้ด้วยหัวใจ


** มีความสุขกับการทำงานนะจ้า **



โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:3:02:53 น.  

 

แวะมาเยี่ยมค่ะ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปได้จริงอย่างที่ตั้งใจค่ะ


โดย: p_tham วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:3:23:51 น.  

 
หากคนเราไม่กล้าที่จะฝัน
ไฉนเลยชีวิตจะเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งใหม่ได้

++++

ชอบจังค่ะ


โดย: บุษบามินตรา วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:25:28 น.  

 
เรียนรู้ชีวิต เก็บเกี่ยวประสบการณ์ เพื่อสร้างฝันของตัวเอง


เป็นกำลังใจให้นะคะ


โดย: Black Tulip วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:08:45 น.  

 
อ้อ เผลอกดส่งเร็วไปหน่อย

อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างนี้ ทำให้หลายๆคนเป็นไข้หวัดกันหมด

ดื่มน้ำอุ่นๆ พักผ่อนเยอะๆ หายไวๆนะคะ


โดย: Black Tulip วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:21:10:49 น.  

 




สวัสดีตอนค่ำของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


แม้ว่าเวลาผันผ่านนานเพียงใด
แต่หัวใจฉันนั้นมีเธออยู่เสมอ
ถึงตัวห่างไกล แต่ใจยังใกล้เธอ
คิดถึงเสมอ เวลาที่เรานั้นห่างกัน



** มีความสุขในช่วงวันหยุดพักผ่อนนะจ้า **



โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:2:18:28 น.  

 
คัดจากผู้จัดการ

สมเกียรติ” ซัด รธน.ใหม่ติดกับดัก “โครงสร้างมรณะ”- อีสานดัน “รธน.รัฐสวัสดิการ”

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 8 กุมภาพันธ์ 2550 16:01 น.



สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ และคณะ แถลงข่าววิพากษ์การยกร่างรธน.และวิเคราะห์สถานการณ์การเมือง-สังคมในปัจจุบัน วันนี้ (8 ก.พ.)


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- นักวิชาการอีสานวิพากษ์ ยกร่าง รธน.ใหม่ยังเวียนว่ายในกับดักโครงสร้างมรณะอำนาจนิยม ที่หมกมุ่นแต่การจัดสรรอำนาจ และเลือกปฏิรูปเพียงบางเสี้ยว เฉพาะสภานิติบัญญัติ-คณะรัฐมนตรี และองค์กรอิสระ โดยที่ขบวนการยุติธรรมไม่ถูกปฏิรูปอำนาจตุลาการลอยอยู่บนฟ้าไม่ยึดโยงอธิปไตยปวงชน ชี้ มวลชนพื้นฐานไม่ได้ประโยชน์หาก รธน.ไม่มุ่งสู่ “รัฐสวัสดิการ” รากแก้วไม่ถูกพัฒนาวงจรอุบาทว์จะหวนกลับ และ รธน.จะกลายเป็นแค่สิ่งปฏิกูลของระบอบประชาธิปไตยอย่างไม่รู้จบสิ้น เผย เครือข่ายพันธมิตรอีสานประเดิมเปิดเวทีใหญ่ขับเคลื่อน “รธน.รัฐสวัสดิการ” ที่ จ.ชัยภูมิ 10 ก.พ.ก่อนประกาศเคลื่อนพลครั้งใหญ่

วันนี้ (8 ก.พ.) ที่ห้องประชุมชั้น 2 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชชภัฏนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ ประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อดีต 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และ ดร.อดิศร เนาวนนท์ รองคณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา รวมทั้ง ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ผู้ประสานงานภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย และ นายนพสณฑ์ เสฏฐรังสี ประธานเครือข่ายองค์กรชุมชนเมืองชัยภูมิ ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองและสังคมไทยในขณะนี้

นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ กล่าวว่า เหตุการณ์หลังการรัฐประหารและการร่อนเร่พเนจรของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี สังคมไทยยังก้าวไม่พ้นความรุนแรงแบบเงียบที่กำลังสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และรอวันเผชิญหน้า พร้อมประกาศแบ่งฝักแบ่งฝ่ายยืนคนละฝั่งกันชัดเจน ในวันลงประชามติรัฐธรรมนูญ และวันเลือกตั้ง ส.ส.ทั่วประเทศครั้งใหม่ ซึ่งในวันนั้นเราจะทราบความรู้สึก และจุดยืนที่แท้จริงของประชาชน โดยเฉพาะมวลชนพื้นฐานภาคชนบท ซึ่งฝังใจในนโยบายประชานิยมและผู้นำคนเดิม

โดยที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แม้จะเพียรพยายามออกแบบ เพื่อปฏิรูปการเมืองมากแค่ไหน นอกจากจะไม่สามารถแก้ปัญหาพื้นฐานของคนยากจน หรือรากหญ้าได้แล้ว ยังเป็นรัฐธรรมนูญที่ทำให้การประนีประนอม และสมานฉันท์ของคนในชาติ ห่างไกลจากความเป็นจริงอีกด้วย ดังนั้น จึงอาจเรียกได้ว่าเป็น “รัฐธรรมนูญฉบับแบ่งแยก” เพื่อให้คนในชาติแตกออกเป็นเสี่ยงๆ

นายสมเกียรติ กล่าวต่อว่า การยกร่างรัฐธรรมนูญขณะนี้ เรากำลังตกอยู่ในกับดักของระบบอำนาจนิยม โดยมีผู้เชี่ยวชาญทำหน้าที่สนองตอบ ดังนั้น บทบัญญัติส่วนใหญ่จะเน้นไปในเรื่องโครงสร้างอำนาจ การจัดสรรอำนาจ การมีองค์กรต่างๆ ทำหน้าที่แทนประชาชน โดยที่เรื่องของคนจน การจัดสรรทรัพยากรอย่างเป็นธรรม การมุ่งสู่รัฐสวัสดิการโดยใช้กลไกภาษีเป็นเครื่องมือ ทั้งสวัสดิการการศึกษา สวัสดิการสังคม สวัสดิการสุขภาพอนามัย กองทุนประกันสังคมภาคเกษตร การปฏิรูปที่ดิน การจัดการหนี้สินจะหลุดสายตาพวกเขาออกไปเลย

ทั้งนี้ บรรดาผู้เชี่ยวชาญที่ช่ำชอง ในการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับแล้วฉบับเล่า นับแต่ฉบับปี 2517 เป็นต้นมา ต่างหมกมุ่นในเรื่องการจัดสรรอำนาจและจัดตั้งองค์กรเพื่อจัดการนักการเมืองลายครามรุ่นเก่า อันเป็นผลผลิตของคนในชนบท และความไม่ไว้วางใจอำนาจอธิปไตยจากคนรากหญ้า

ฉะนั้น เมื่อเรามุ่งหมายแต่ปรับระบบผู้แทนในสภานิติบัญญัติ คณะรัฐมนตรี และองค์กรอิสระ โดยที่ขบวนการยุติธรรมและอำนาจตุลาการ ซึ่งลอยอยู่บนฟ้าไม่ถูกปฏิรูปเพื่อให้ยึดโยงกับอำนาจอธิปไตยของปวงชนก็ไม่อาจเรียกว่าเป็นการปฏิรูปอย่างถ้วนทั่วได้ ในเมื่อสภาพสังคมวิทยาชนบทไม่เปลี่ยน ประชาธิปไตยแท้จริงก็จะเกิดไม่ได้ จะมีแต่ “ธนาธิปไตย” และ การคอร์รัปชัน ในที่สุดจะก้าวไม่พ้นการรัฐประหารและล้มเลิกรัฐธรรมนูญ

“รัฐธรรมนูญฉบับแล้วฉบับเล่ารวม 17-18 ฉบับ ในรอบ 70 ปี ก็จะกลายเป็นสิ่งปฏิกูลของระบอบประชาธิปไตย เพราะเราต่างมุ่งหมายแต่เรื่องอำนาจเพื่อไปจัดการ ซึ่งเราก็รู้อยู่แล้วว่าอำนาจมันเป็นโครงสร้างมรณะ เป็นโครงสร้างทำลายตัวเอง”นายสมเกียรติ กล่าว

ดังนั้น รัฐธรรมนูญแบบนี้จะทรงพลังที่สุดในการแบ่งแยกสังคมให้แตกเป็นเสี่ยง ๆ และถ้าระบอบทักษิณยังไม่ถูกทำลายไป ในอนาคตอันใกล้ 1-3 ปีนี้ สถานการณ์การเมืองจะไม่ลงตัว ฝ่ายอำนาจรัฐใหม่ยังต้องเผชิญกับการท้าทายจากพลังปฏิกิริยา 3 ส่วน คือ 1.มวลชนรากหญ้าในอุปถัมภ์ของนักการเมืองอำนาจเก่า 2.ทุนบรรษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ และ 3.พลังสื่อยักษ์ไร้พรมแดน ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้จะเป็นปฏิปักษ์โดยตรงกับนโยบาย “ชาตินิยมใหม่” และระบอบ “อำมาตยาธิปไตย” ที่จะถูกตราไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ค่อนข้างมาก

เปิดเวทีใหญ่ขับเคลื่อน “รธน.รัฐสวัสดิการ” ที่ ชัยภูมิ

ทางด้าน ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี ผู้ประสานงานภาคีมวลชนคนโคราชรักประชาธิปไตย และสัมชชาประชาชนอีสาน 19 จังหวัด กล่าวว่า ทางภาคีมวลชนคนโคราชฯ และสมัชชาประชาชนอีสาน 19 จังหวัด จะร่วมกับเครือข่ายองค์กรชุมชนเมืองชัยภูมิ ที่มี นายนพสณฑ์ เสฏฐรังสี เป็นประธานเครือข่ายฯ จัดงานเปิดเวทีวิชาการและปราศัยใหญ่เรื่อง “อนาคตประเทศ ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่” ขึ้น ที่บริเวณศาลาประชาคมจังหวัดชัยภูมิ อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ในวันเสาร์ที่ 10 ก.พ.นี้

โดยจะมีคณะวิทยากรเข้าร่วมปราศรัยบนเวทีจำนวนมาก ประกอบด้วย นายพิภพ ธงไชย, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์, นายการุณ ใสงาม, นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์, ทพ.ศุภผล เอี่ยมเมธาวี, นายสมัคร ชาลีกุล และผู้แทนพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยแห่งสหรัฐอเมริกา เช่น นายอาร์ท บุญมา, นายฉลาด บันลือภพ (ชิคาโก), นางไพลิน คำศิริ(นิวยอร์ก), นายประสงค์ นุรักษ์(ไอโอวา) เป็นต้น

“หลังจากร่วมจัดปราศรัยใหญ่ครั้งนี้แล้ว เครือข่ายสมัชชาประชาชนอีสานและองค์กรพันธมิตร จะมีการเคลื่อนไหวใหญ่ทั้ง 19 จังหวัด เพื่อร่วมเรียกร้องให้การปฏิรูปการเมืองและรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ มุ่งสู่การสร้างรัฐสวัสดิการ เพื่อเอื้อประโยชน์แก่คนส่วนใหญ่ของประเทศที่อยู่ในภาคชนบทอย่างจริงจัง เรียกได้ว่าเป็นขับเคลื่อนของพลังมวลชนครั้งใหญ่ ที่อาจถึงขั้นมีการยกพลเดินทางไกลเข้ากรุงเทพฯ เมื่อถึงเวลาอันเหมาะสม” ทพ.ศุภผล กล่าวในที่สุด


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:12:20:44 น.  

 

สวัสดีค่ะ...

ดูจะseriousกับชีวิตมากนะ...

ปล่อยวางซะบ้าง...

อะไรที่ใช่ของเรา อาจจะไม่ใช่ของเราอีกต่อไป

อยากให้พอใจในสิ่งที่เรามีแต่ก็อยากหวังว่ามันจะอยู่กับเรานาน

ปลงซะบ้าง ทำบุญ-ทำทานซะบ้าง...

นี่เป็นแค่ความคิดเห็นของมนุษย์ตัวเล็กคนหนึ่งนะค่ะ

คนเรามีหลากหลายความคิดเห็น..

หลายครั้งที่ความคิดเห็นของเรา ไม่เหมือนกับของใคร

จนเรียกว่า ผ่าเหล่าผ่ากอ..ก็ไม่เป็นไร

คนเรามีอิสระทางความคิดกันทั้งนั้น...

แต่ก็ขอเป็นกำลังใจ แม้ว่าจะเป็นแค่ส่วนเสี้ยวในชีวิต

ชีวิตยังไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นกันไป...ใช่ไหมค่ะ...

" ขออย่ายอมแพ้..อย่าอ่อนแอแม้จะร้องไห้

จงลุกขึ้นสู้ไป ..จุดหมาย ไม่ไกล เกินจริง "

สู้ๆนะค่ะ


โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2550 เวลา:18:43:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนเดินดินฯ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ปณิธาน

การเดินทางของชีวิตของทุกผู้คน
ทุกคนต่างต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่จะมีสักกี่คนที่จะก้าวไปถึง
เมื่อเราก้าวถึงจุดนั้น
ขออย่าลืมการแบ่งปันและเจือจาน
แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม

เราจะเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน
เพื่อสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่ดีงาม

เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลัง
ได้ใช้ชีวิตของเขา
ตามศักยภาพและความตั้งใจของเขา
ตราบเท่าที่เขาต้องการ







เดินไปสู่ความใฝ่ฝัน


ชีวิตหนึ่งร่วงหล่นไปตามกาลเวลา
คลื่นลูกใหม่ไล่หลังคลื่นลูกเก่า
นั่นคือวัฏจักรของชีวิตที่ดำเนินไป

เยาว์เธอรู้บ้างไหม
ว่าประชาราษฎรนั้นทุกข์ยากเพียงใด
เสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เหลืออยู่
เธอเคยมีความใฝ่ฝันที่แสนงามบ้างไหม

สักวันฉันหวังว่าเธอจะเดินไปตามทางสายนี้
ที่อาจดูเงียบเหงาและโดดเดี่ยว
แต่ภายใต้ฟ้าเดียวกัน
ฉันก็ยังมีความหวัง
ว่าผู้คนในประเทศนี้
จะตื่นขึ้นมา
เพื่อทวงสิทธิ์ของพวกเขา
ที่ถูกย่ำยีมาช้านาน
และฉันหวังว่าเธอจะเดินเคียงคู่ไปกับพวกเขา

เพื่อสานความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นความจริง
สัญญาได้ไหม
สัญญาได้ไหม
เยาว์ที่รักของฉัน


***********



ขอมีเพียงเธอเป็นกำลังใจ




ทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ข้างหน้า
แลเห็นต้นหญ้าโบกไสว
เห็นดอกซากุระบานอยู่เต็มดอย
ความงามที่อยู่ข้างหน้า
เป็นสิ่งที่ฉันจะเก็บมันไว้
ยามที่จิตใจอ่อนล้า...

ชีวิตยามนี้แม้ผ่านมาหลายโมงยาม
แต่จิตใจข้างในยังคงดูหงอยเหงา
หลายครั้งอยากมีเพื่อนคุย
หลายครั้งอยากมีคนปรับทุกข์
และหลายครั้งต้องนั่งร้องไห้คนเดียว

รางวัลสำหรับชีวิตที่ผ่านมา
มันคืออะไรเคยถามตัวเองบ่อย ๆ
ความสำเร็จ...เงินตรา...เกียรติยศชื่อเสียง
มันใช่สิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า
ถึงจุดหนึ่งชีวิตต้องการอะไรอีกมากไปกว่านี้

หลายชีวิตยังคงดิ้นรนต่อสู้
เพื่อปากท้องและครอบครัว
มันเป็นความจริงของชีวิตมนุษย์
ที่ต้องดำรงชีพเพื่อความอยู่รอด
มีทั้งพ่ายแพ้ มีทั้งชนะ
แต่ชีวิตต่างต้องดำเนินไป
ตามวิถีทางของแต่ละคน

ลืมความทุกข์ ลืมความหลังที่เจ็บปวด
มองออกไปข้างหน้า
ค้นให้พบตัวตนของตนเองอีกครั้ง
แล้วกลับไปสู้ใหม่
การเริ่มต้นของชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป
จะต้องดำเนินต่อไป

ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต....




@@@@@@@@@@@




การเดินทางของความรัก

...ฉันเดินไปด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า
สมองได้คิดใคร่ครวญ
ความรักในหลายครั้งที่ผ่านมา
ทำไมจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

ฉันเดินไปด้วยสมองอันปลอดโปร่ง
ความรักทำให้ฉันเข้าใจโลก
และมนุษย์มากขึ้น
และรู้ว่าความแตกต่าง
ระหว่างความรักกับความหลงเป็นอย่างไร?

ฉันเดินไปด้วยดวงตาที่มุ่งมั่น
บทเรียนของรักในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
มันย้ำเตือนอยู่เสมอว่า
อย่ารีบร้อนที่จะรัก
แต่จงปล่อยให้ความสัมพันธ์
ค่อย ๆ พัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เรียนรู้และทำเข้าใจกันให้มากที่สุด

ก่อนที่จะเริ่มบทต่อไปของความรัก...




*******************



จุดไฟแห่งศรัทธาและความมุ่งมั่น

เข้มแข็งกับอ่อนแอ
สับสนหรือมุ่งมั่น
จะยอมแพ้หรือลุกขึ้นท้าทาย
กับชีวตที่เหลืออยู่
ทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ใจเราจะกำหนด

ไม่ใช่เพราะอิสระเสรี
ที่เราต้องการหรอกหรือ?
ที่มันจะนำทางชีวิต
ในห้วงเวลาต่อไป
ให้เราก้าวทะยานไป
สู่วันพรุ่งที่สดใส

มีแต่เพียงคนที่รู้จักตนเองอย่างดีพอเท่านั้น
จะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
เมื่อผ่านการสรุปบทเรียน
จากปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบ
เราก็จะมีความจัดเจนกับชีวิตมากขึ้น
และการเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ
ในอนาคตก็จะเป็นเพียงปัญหาที่เล็กน้อยสำหรับเรา
ในการที่จะก้าวผ่านไป



ด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่นที่มีอยู่ในใจ
ที่จะต้องย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ
หนทางในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
ย่อมอยู่ไม่ไกลห่างอย่างแน่นอน

*********************



ก้าวย่างที่มั่นคง

บนทางเดินแคบ ๆ ที่เหลืออยู่
หากขาดความมั่นใจที่จะก้าวเดินต่อไป
ชีวิตก็คงหยุดนิ่งและรอวันตาย
แม้ทางข้างหน้าจะดูพร่ามัว
และไม่รู้ซึ่งอนาคต
แต่สิ่งที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
คือก้าวย่างไปอย่างมั่นคง
และมองไปข้างหน้าอย่าเหลียวหลัง
เก็บรับบทเรียนในอดีต
เพื่อจะได้ระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาดอีกในอนาคต

"""""""""""""""""""""""""""""""""



ใช้สามัญสำนึกทำงาน

ไม่มีแผนงานที่สวยหรู
ไม่มีปฏิบัติการใดที่สมบูรณ์แบบ
ในยามนี้มีเพียงการทำงานด้วยการทุ่มเท
ลงลึกในรายละเอียดเท่านั้น
จึงจะสามารถคลี่คลายปัญหาของงานลงได้
บางครั้งโจทย์ที่เจออาจยากและซับซ้อน
แต่เมื่อลงไปคลุกคลีอย่างแท้จริง
โจทย์เหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

""""""""""""""""""""""""""""""""



เรียบ ๆ ง่าย ๆ


อย่ามองสิ่งต่าง ๆ ด้วยแว่นสีที่ซับซ้อน
เพราะในโลกนี้มีเพียงสิ่งสามัญที่เรียบง่าย
สำหรับคนที่สงบนิ่งเพียงพอเท่านั้น
จึงจะแก้โจทย์และปัญหาต่าง ๆ
ด้วยกลวิธีที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ
ไม่ซับซ้อนและตรงจุดได้อย่างเพียงพอ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ใจถึงใจ

บนหนทางไปสู่ความสำเร็จ
บนหนทางของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
มีเพียงคนที่เข้าใจในสภาพจิตใจของคนทำงานเท่านั้น
จึงจะสามารถนำทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน








Friends' blogs
[Add คนเดินดินฯ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.