|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | |
|
|
|
|
|
|
|
กระแสการเปลี่ยนแปลง(จบ)
พยายามดำเนินชีวิตแต่ละวันอย่างมั่นคงและสงบ มีความเยือกเย็นอยู่ภายใน เมื่อท่านรู้สึกสงบและเยือกเย็นภายใน ท่านจะสามารถสังเกตเห็นแนวคิดดั้งเดิมซึ่งก่อให้เกิดความยุ่งยากได้เมื่อมันเกิดขึ้น และให้มันสอนท่านเรียนรู้ที่จะเปลี่ยนแปลงเมื่อใดก็ตามที่ท่านเผชิญกับสถานการณ์ที่ยุ่งยาก หยุดเพื่อคิดชั่วครู่ ก่อนที่จะแสดงการกระทำใด ๆ ออกไป ขอให้ท่านสังเกตว่าการกระทำของท่านหรือเปล่า เป็นสาเหตุของความยุ่งยากนั้น ท่านกำลังหาข้อแก้ตัวสำหรับตัวเองหรือเปล่า ถ้าเป็นเช่นนั้น ขอให้ท่านยอมรับเป็นเจ้าของตัวท่านเองก่อน ขณะเดียวกันก็พยายามเปลี่ยนแปลงการตอบสนองในแบบที่ท่านเคยมีเสียใหม่ หากท่านกำลังจะตอบสนองออกไปโดยการใช้อารมณ์อันรุนแรง ขอให้ท่านถอนตัวเองออกมา แล้วพยายามสังเกตอย่างเยือกเย็นในสถานการณ์นั้น พยายามเลือกการตอบสนองที่เป็นประโยชน์ นิสัยดั้งเดิมของเรานั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ และเราสามารถสร้างคุณภาพที่เป็นประโยชน์ให้มากขึ้นกว่าเดิมไปด้วย โอกาสสำหรับการเปลี่ยนแปลงมีอยู่เสมอ โอกาสสำหรับความงอกงามและการพัฒนาตนก็มีอยู่เสมอ ซึ่งจะเกิดจากการเลือกของเราเองทั้งสิ้น สิ่งที่ท่านจะต้องกระทำก็คือการตัดสินใจของท่านเองเท่านั้น
เมื่อเราเปลี่ยนแปลงนิสัยและแนวคิดของเรา เราจะพบว่าปัญหาที่เราเผชิญหน้านั้นสามารถเป็นตัวนำให้เราเกิดความงอกงามได้ อย่างไรก็ตามเนื่องจากความจริงที่ว่า ปัญหาของเราส่วนใหญ่มักจะกดดันและรบกวน เราจึงมีแนวโน้มอย่างธรรมชาติที่พยายามจะหลีกหนีจากมัน เราพยายามแสวงหาวิธีการที่จะหนีออกจากสถานการณ์ที่ยุ่งยากต่าง ๆ แล้วเดินอ้อมอุปสรรคซึ่งเราเผชิญอยู่ไปห่าง ๆ แต่ปัญหาของเราก็เช่นเดียวกับเมฆ แม้ว่ามันจะรบกวนความนิ่งสงบของท้องฟ้าอันแจ่มใส แต่ในขณะเดียวกันมันก็มีความชื้นซึ่งให้ชีวิตและนำความงอกงามให้เกิดขึ้น เมื่อเราเผชิญกับปัญหาที่เราพบอย่างตรงไปตรงมา แล้วค่อย ๆ เดินทวนมันไป เราจะค้นพบวิถีทางใหม่ในการมีชีวิต ความเข้มแข็งและความเชื่อมั่นจะเกิดขึ้นเพื่อเผชิญกับความยุ่งยากในอนาคตได้อีก ชีวิตจะกลายเป็นสิ่งซึ่งมีความหมายและนำไปสู่ความรู้อันใหญ่หลวงและความกระจ่างชัดของความเข้าใจ เราจะพบว่ายิ่งเราเรียนรู้มากขึ้นเท่าไหร่ เราจะงอกงามมากขึ้นเท่านั้น ยิ่งเราพบกับสิ่งซึ่งท้าทายเรามากเท่าไหร่ เราก็จะเข้มแข็งและตระหนักสำนึกในตัวเองมากขึ้น เมื่อเรามีชีวิตอยู่อย่างสอดคล้องกับกระแสแห่งการเปลี่ยนแปลง เราก็จะสร้างสิ่งซึ่งมีค่ามากได้อย่างง่าย ๆ อย่างหนึ่งคือ การมีชีวิตที่แม้
เมื่อท่านเกิดความรู้สึกท้อถอยอย่างรุนแรงและต้องการเลิกล้มความตั้งใจ หรือเมื่อท่านเกิดความรู้สึกว่ามันสายไปแล้วในชีวิตสำหรับเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลงใด ๆ โปรดอย่าได้หยุดอยู่ที่ตรงนั้น หากท่านได้ให้กำลังใจแก่ตนเอง ท่านสามารถเสริมสร้างแรงจูงใจในการที่จะใช้ศักยภาพของท่านอย่างสร้างสรรค์แทนที่จะปล่อยให้ตัวเองยึดมั่นอยู่กับแนวคิดแบบเดิม ท่านสามารถจะท้าทายแนวคิดเดิมและสามารถที่จะขจัดมันได้ เมื่อท่านได้กระทำสิ่งนี้ ท่านสามารถจะขยายความสามารถ และจะเพิ่มความอิ่มเอิบให้กับประสบการณ์ของท่านมากกว่าที่ท่านเคยคิดจินตนาการไว้มากมาย แทนที่จะตัดความทะเยอทะยานปรารถนาของท่านให้สั้นลง ท่านสามารถที่จะใช้พลังงานของความรู้สึกอันเป็นโทษ และรวบรวมมันให้เป็นพลังที่จะก่อเกิดความเปลี่ยนแปลงที่ดีงามขึ้นได้
เมื่อเราได้เห็นว่าเราสามารถเลือกให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้แล้ว เราก็สามารถมองไปในอนาคต ซึ่งหมายถึง การตั้งใจที่จะเคลื่อนไปในอนาคตและเติบโตงอกงามได้อย่างรวดเร็วเหมือนกับที่เราเลือกไว้ การมีความเชื่อมั่นที่จะพัฒนาตนเองให้มีความดีงามขึ้นได้ด้วยตัวเอง จะเป็นตัวอย่างที่ดีงามให้กับผู้อื่นซึ่งอยู่รอบ ๆ ตัว และจะเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้อื่นเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีงามเช่นเดียวกัน การเอื้อเฟื้อ การมีส่วนร่วมหรือแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้พบจะเป็นทรัพยากรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอันหนึ่งของมนุษยชาติ
เมื่อเรายินดีกับการเปลี่ยนแปลง เราจะพบว่าจิตใจของเราเป็นแหล่งอันสร้างสรรค์ซึ่งทำให้เกิดความเบิกบานและความเป็นสุข และร่างกายของเราก็จะเต็มไปด้วยพลัง จิตใจและร่างกายจะเป็นพาหนะอันดีเลิศ มันจะเป็นปีกที่สามารถจะทำได้ เราเหินบินขึ้นไปพบกับความงดงามของชีวิต เราจะพบกับความซาบซึ้งใจว่าเราสามารถใช้จิตใจของเราและร่างกายของเราเพื่อก่อให้เกิดความลึกซึ้งในงานและในสัมพันธภาพกับสรรพสิ่งและในชีวิตของเราเอง
พยายามพิจารณาถึงคุณค่าของสิ่งซึ่งทำให้เกิดการพัฒนาเช่น จิตใจอันเปิดกว้างและความยินดีอันอ่อนโยนที่จะเผชิญกับชีวิตอย่างตรงไปตรงมา และความมั่นใจในตนเอง เรามักจะมองชีวิตเหมือนกับมันเป็นศัตรูของเรา แต่หากเราตัดสินใจใหม่เพื่อจะใช้ประโยชน์จากโอกาสต่าง ๆเพื่อเปลี่ยนแปลงตนเองไปในทางที่เป็นประโยชน์มากขึ้น เราจะทำให้ชีวิตของเราอิ่มเอิบและกระปรี้กระเปร่า เราจะพัฒนาความซาบซึ้งใจอย่างแท้จริงในตัวของเราเอง เราจะพัฒนาความรู้สึกดีงามซึ่งจะแผ่ขยายเปล่งประกายอยู่ในการกระทำของเราทั้งหมด เมื่อเราสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ เราสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงซึ่งเกิดขึ้นในตัวเราเองและในผู้อื่นเป็นแรงบันดาลใจอันใหญ่หลวง เมื่อเราให้ความเอื้อเฟื้อซึ่งกันและกันเพื่อก่อให้เกิดความงอกงาม การงานก็จะราบรื่นและหัวใจของเราก็จะเต็มไปด้วยความปิติสุข@@
| | |
| |
แต่ในที่สุด ก็รู้สึกว่า ชีวิตมันง่ายกว่านั้น
ขอเพียงแค่ เรา ไม่ทำความเดือดร้อนให้ใคร สบายใจกว่า
จุจึงใช้ชีวิตง่ายๆ อธิบายง่ายๆ เพราะรายรอบตัวเรามีแต่เรื่องยากๆ